2

1511 Words
“ใครกันครับ” “น้ำอิงจ้ะ ขานั้นเขาทำอาหารอร่อย แม่เขาก็ทำอาหารอร่อย เป็นเด็กใฝ่รู้ใฝ่เรียนมากๆ เลยนะ ไม่เคยทำตัวไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ไปเรียนก็ทำโน่นทำนี่ทั้งวัน เด็กๆ เดี๋ยวนี้เที่ยวเตร่ผลาญเงินพ่อแม่ไปวันๆ แต่น้ำอิงไม่ใช่เลย” “อย่างนั้นเหรอครับ” “จ้ะ” ท่านรับคำ ก่อนจะอมยิ้มแล้วรับประทานอาหารต่อ สิงหลนั่งคุยกับมารดาอยู่ครู่หนึ่งหลังมื้ออาหารเย็น ก่อนที่จะแยกย้ายกันขึ้นห้องนอน เขายังไม่ง่วงและนอนไม่หลับเลยเปิดม่านออก เดินมาตรงระเบียงห้องเพื่อรับลม สายตาคมกล้าเหลือบลงไปเห็นร่างคุ้นเคยของใครคนหนึ่งที่กำลังยืนมองพระจันทร์อยู่เบื้องล่าง สิงหลยอมรับว่าคืนนี้พระจันทร์สวย เขาเงยหน้ามองพระจันทร์ไม่ต่างจากเธอ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยได้มองพระจันทร์แบบนี้เพราะชีวิตทุกคืนของเขามีอะไรให้ทำมากกว่าการยืนทอดอารมณ์    มองพระจันทร์ด้วยจิตใจสงบเช่นนี้ ชายหนุ่มละสายตาจากพระจันทร์ลงมามองเด็กสาวอีกครั้ง เขาเห็นเพียงซีกหน้าหวานละมุนของเธอที่กระทบกับแสงพระจันทร์บนท้องฟ้าที่กำลังสาดส่องลงมา ทำให้ใบหน้าของเธอดูนุ่มนวลน่าปรารถนาอย่างไม่น่าเชื่อ สิงหลหมุนร่างจากระเบียงก้าวเดินลงไปด้านล่าง เขามาหยุดยืนอยู่ทางด้านหลังของเด็กสาว เธอหมุนกายทำท่าจะเดินกลับห้อง ก็ชนเข้ากับร่างสูงของเขาเข้าอย่างจัง “อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” “ยังไม่นอนอีกเหรอ” “คืนนี้อากาศร้อน เลยออกมาเดินรับลมน่ะค่ะ” เธอถอยหนี พยายาม  พาตัวเองออกมาจากอ้อมแขนแกร่ง แต่ดูเหมือนเขาจะรัดเธอแน่นขึ้น “จะรีบไปไหนล่ะ ยืนมองพระจันทร์กับฉันก่อนสิ” เขาขยับใบหน้าเข้า  ไปหา “คือว่าหนูง่วงแล้วค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ อุ๊ย!” ยิ่งเธอปฏิเสธ ร่างสูงแข็งแรงกลับยิ่งรัดรึงร่างน้อยของเธอแนบแน่นขึ้นไปอีก “เดี๋ยวก่อนสิ เจอหน้าฉันแล้วจะหนีหน้าเข้าห้องเลยเหรอ” “เปล่านะคะ หนูกำลังจะเข้าห้องอยู่พอดีเลยค่ะ” “ก็บอกว่ายืนมองพระจันทร์เป็นเพื่อนกันก่อน” “ได้ค่ะๆ แต่คุณสิงปล่อยหนูก่อนสิคะ” ท่าทีหวาดกลัวเนื้อตัวสั่นเทา  ของเธอ ทำให้เขาต้องยอมปล่อยแต่โดยดี พอเขาปล่อย เธอก็เขยิบหนีห่างจากเขาเสียหลายก้าว แต่ต้องอุทานเมื่อเขาดึงมือไปกุมเอาไว้ “อุ๊ย! คุณสิงปล่อยนะคะ” “ปล่อยได้ไง เดี๋ยวเธอก็หนีอีก” “ไม่หนีแล้วค่ะ” เธอพยายามดึงมือหนี “แน่ใจนะ” “ค่ะ ว้าย! คุณสิง” เธออุทานเมื่อเขากระตุกทีเดียว ร่างของเธอก็ไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง ในขณะที่เขาทิ้งตัวลงนั่งบนม้าหินอ่อนตรงซุ้ม           ไม้ดอกไม้ประดับลับตาคนทางเบื้องหลัง “ตรงนี้มิดชิดไม่มีใครเห็นหรอก” “หมายความว่ายังไงคะ” “ก็ที่เล่นตัวเพราะกลัวคนเห็นใช่ไหม นี่ไง นั่งกอดกันตรงนี้ไม่เห็นแล้ว” “ไม่ใช่นะคะ” เธอปฏิเสธเป็นพัลวัน ดันอกกว้างของเขาเอาไว้ แต่เขากอดรัดแนบแน่นไม่ยอมปล่อย “อะไรที่ว่าไม่ใช่” “หนูไม่ได้อยากให้คุณกอดในที่ลับตาคนแบบนี้ อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยค่ะ” “ยายเด็กปากดี หาว่าฉันหลงตัวเองอย่างนั้นเหรอ” เขาถึงกับกะพริบตาปริบๆ เธอเป็นเพียงเด็กในบ้านของเขา กล้าดียังไงมาปฏิเสธเขาแบบนี้ ยิ่งเธอปฏิเสธ เขายิ่งอยากเอาชนะ “หนูไม่ได้ตั้งใจจะว่าคุณหลงตัวเองนะคะ” เธอปฏิเสธ พยายามดัน    อกกว้างของเขาเอาไว้ “คนอย่างเธอกล้ามากนะ ที่ปฏิเสธคนอย่างฉัน” เขาบีบคางสวยของเธอเอาไว้ มองจ้องตาเธอ น้ำอิงหลบวูบ จิกมือกับคอเสื้อของเขาด้วยอาการ       ตกประหม่า “อื้อ...” เธอตาโตจิกมือกับเสื้อของเขาหนักหน่วงขึ้น เมื่อเขากอบกุม แก้มนุ่มของเธอเอาไว้แล้วบดจูบอย่างดุเดือด เขาถอยใบหน้าหนีเมื่อเธอทำท่าจะงับลิ้นของเขา คนรู้ทันบดจูบลงไป อีกครั้ง สอดแทรกลิ้นเข้าไปพัวพันในโพรงปากนุ่ม เธอดิ้นเร่าๆ บนตักแกร่ง หอบหายใจสะท้าน ครางออกมาเมื่อโดนบดจูบจนแทบหายใจหายคอไม่ทัน “คุณสิง อื้อ... หนูหายใจไม่ทันแล้วนะคะ” เธอพูดเสียงหอบๆ “อยากดื้อทำไม” คนอยากเอาชนะกอดรัดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย “เดี๋ยวใครมาเห็นเข้านะคะ” เธอรัวกำปั้นใส่เขา แต่โดนรวบมือเอาไว้ “เห็นแล้วทำไม” เขามองสบตาเธอ “คุณสิงไม่น่าถามเลยนะคะ หญิงชายมานั่งกอดกันแบบนี้มันไม่สมควร” “ไม่สมควรยังไง ไหนตอบมาซิ คุยกับฉัน มองหน้าฉันด้วย สบตาฉันด้วย” เขาขยับใบหน้าเข้าไปหาเพื่อจ้องตาเธอ แต่เธอไม่กล้ามองสบตาเขา    เอาแต่หลบท่าเดียว “คุณสิงจะแกล้งหนูไปถึงไหนคะ” ดิ้นหนียังไงก็ไม่พ้น แถมสะโพกของเธอยังสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งตรงหว่างขาที่อยู่กลางกายของเขาอีก         นั่นทำให้เธอรู้สึกขัดเขิน แก้มร้อนผ่าวหน้าแดงอย่างปัจจุบันทันด่วน “สัญญากับฉันก่อนว่าต่อไปนี้จะไม่หลบหน้าฉันเวลาเจอกัน แล้วฉันจะไม่ทำอะไร” เขาขยับใบหน้าเข้าไปหา คนบอกว่าไม่ทำอะไรกลับขยำก้นของเธอเข้าเต็มๆ “อุ๊ย!” น้ำอิงอุทาน ปัดมือเขาออกเป็นพัลวัน อยู่ในอ้อมแขนของเขา แบบนี้เธอมีแต่จะเสียเปรียบเท่านั้น “ว่าไงล่ะ” เขาถามย้ำ เธอกัดปากก่อนจะพยักหน้าให้เขา “ดีมาก” เขาครางอย่างถูกใจ เป็นจังหวะที่เขากำลังเผลอและคลาย  อ้อมแขนออก เธอตัดสินใจกัดแขนเขาเต็มแรง ก่อนจะตะเกียกตะกายลงจากตักแกร่ง สิงหลคว้าเอาไว้ได้แค่อากาศ เมื่อเธอผลักเขาสุดแรงและรีบวิ่งหนีไป เขาเลื่อนมือไปลูบแขนตัวเองเบาๆ มองเธอวิ่งหายไปจนสุดตา “แสบนักนะ คิดหรือว่าจะหนีพ้น” วันนี้เขาจะยอมปล่อยเธอไปก่อน     แต่เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอรอดพ้นไปอีกตลอดชีวิตแน่นอน สิงหลเดินขึ้นห้องด้วยรอยยิ้ม ค่ำคืนนี้เขารู้สึกดีอย่างประหลาด แม้จะโดนกัดจนจมเขี้ยว แต่เขาไม่ได้โกรธเธอเลย กลับคาดโทษเธอเอาไว้ในใจ      เจอกันครั้งหน้า เขานี่แหละจะกัดเธอคืนให้ครางเสียงหลงเลย ผ้าม่านของห้องนอนอีกด้านของบ้านหลังใหญ่โดนปิดลง คนที่ยืนมองอยู่นานแล้วละสายตาออกห่าง ก่อนจะกลับไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงหนานุ่มของตัวเองอย่างใช้ความคิด เพราะนอนไม่หลับเลยไปยืนรับลมที่ระเบียง ทำให้ได้เห็นเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น ก่อนที่รอยยิ้มบางอย่างจะผุดขึ้นมาบนใบหน้าของคนแอบมองโดย     ไม่ตั้งใจ อากาศยามเช้าช่างสดชื่น ทำให้สิงหลตื่นนอนเร็วกว่าปกติ       เขาลุกมาวิ่งออกกำลังกายในสวนเพื่อชมนกชมไม้ มองไม้ดอก          ไม้ประดับมากมายรอบๆ บ้าน เท้าแกร่งหยุดกึกเมื่อเห็นสาวน้อยที่กัดเขาจนจมเขี้ยวเมื่อค่ำคืนที่    ผ่านมากำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ “ไม่ไปเรียนเหรอ” คำถามของเขาทำให้เธอหันขวับไปมอง เกือบทำ    บัวรดน้ำตกพื้น เธอถอยหนีไปหลายก้าว เมื่อเขาขยับเข้ามาหา “กลัวฉันขนาดนั้นเชียวหรือ” “คุณสิงมีอะไรคะ” “ถามว่าไม่ไปเรียนเหรอ” “ช่วงนี้ปิดเทอมค่ะ หนูเลยไม่ไปเรียน อีกอย่างวันนี้เป็นวันเสาร์ค่ะ” ท้ายประโยคคล้ายเธอจะบอกเขาว่าวันหยุดใครเขาไปเรียนกันเล่า สิงหลถึงกับกระแอมแก้เก้อ เพราะเขาลืมไปว่าวันนี้เขาเองก็ไม่ได้ไปทำงานเหมือนกัน เพิ่งมานึกออกว่าช่วงนี้เป็นเดือนปิดเทอม และการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยนั้นก็ปิดเทอมหลายเดือน “หนูขอตัวก่อนนะคะ” เธอรีบเอ่ยขอตัว “เดี๋ยวก่อนสิ ทำอะไรลงไปจะไม่รับผิดชอบหรือไง” เขาเดินมาขวางทางเธอเอาไว้ “หนูทำอะไรคะ” “เมื่อคืนเธอกัดฉันเสียจมเขี้ยว จำไม่ได้หรือไง” เขาเปิดเสื้อให้เธอดู    น้ำอิงเห็นเข้าก็ตกใจไม่น้อย “หนูขอโทษค่ะ” “ทำฉันขนาดนี้จะรับผิดชอบยังไง” “หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ ก็คุณลวนลามหนูก่อน” เธอแอบเถียงเล็กๆ สิงหลยกยิ้มที่มุมปาก 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD