พาฝันร้องไห้โฮเมื่อรู้อาการของเพื่อน โนอาร์มองคนตัวเล็ก เขากอดเธอเอาไว้อย่างปลอบประโลมทั้งที่ตนเองก็น้ำตาคลอเบ้าและเจ็บปวดที่หัวใจมากกว่าเธอหลายเท่า
“พี่ก็เสียใจที่น้องสาวสุดที่รักของพี่ยังไม่ฟื้นขึ้นมา” น้ำเสียงของโนอาร์เย็นเยือก เขาก้มมองคนในอ้อมกอดด้วยแววตาเรียบนิ่ง
“ฝันอย่าเพิ่งคิดอะไรเลยนะ นอนพักก่อน” โนอาร์เช็ดน้ำตาบนใบหน้าของพาฝัน ก่อนจะประคองเธอให้นอนลง
“พี่เชื่อว่านาราต้องฟื้นและพาฝันต้องหาย” ชายหนุ่มคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน ทุกคำพูดและการกระทำที่ชายหนุ่มแสดงออกมาทำให้พาฝันรู้สึกดีขึ้นทั้งที่ในใจก็ยังกังวล หากแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอรับการรักษาจากแพทย์อย่างเดียว
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
พาฝันได้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักต่อที่บ้าน เธอได้รับการดูแลจากโนอาร์เป็นอย่างดี เขาดูแลเธอสลับกับนารา ทำให้เขาเองก็อ่อนเพลียอยู่มาก
โนอาร์มาส่งพาฝันที่บ้านด้วยตนเองและให้บอดีการ์ดคนสนิทคอยอยู่ที่โรงพยาบาล หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการของนาราจะได้ส่งข่าวให้เขารู้ในทันที
ชายหนุ่มเดินเข้ามาในบ้านแล้วกวาดตามองบ้านเช่าของพาฝัน บ้านค่อนข้างเล็ก แต่เธออยู่คนเดียวก็ถือว่าขนาดกำลังดี
พาฝันเดินไปเอาน้ำในตู้เย็นมาให้ ชายหนุ่มรับแล้วคลี่ยิ้ม ตลอดเวลาที่เขาดูแลเธอทำให้เธอหลงใหลไปกับแววตาและรอยยิ้มของเขา หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นหัวใจมาก หากไม่มีเขาอยู่ตอนนี้ เธอคงใช้ชีวิตได้ยากลำบากน่าดู
‘พี่โนอาร์ดูเพลีย ๆ ไปพักผ่อนที่บ้านก่อนไหมคะ ฝันอยู่ได้ค่ะ’ หญิงสาวเขียนใส่กระดาษแผ่นเล็กให้ โนอาร์อ่านแล้วยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะสวมกอดเอวคอดของเธอ
“ไม่กลับครับ พี่อยากอยู่กับฝันมากกว่า ถ้าจะให้พี่พัก พี่ขอนอนพักที่นี่นะครับ” แววตาของเขากรุ้มกริ่ม พาฝันยิ้มเขินแล้วเอากระดาษมาเขียนต่อ
‘ถ้างั้นนอนพักที่เตียงของฝันก่อนก็ได้ค่ะ’ เธอเป็นห่วง เพราะหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาโนอาร์ไม่ค่อยได้พักผ่อน
โนอาร์พยักหน้า พาฝันเลยพาเขาไปที่ห้องนอนของตนเอง ชายหนุ่มดึงแขนเรียวให้ล้มลงมาบนเตียงเล็ก พาฝันเบิกตาโตด้วยความตกใจ หัวใจของเธอก็พลันเต้นแรง
“พี่ไม่อยากพักซะแล้วสิ” สายตาของเขาสะท้อนประกายความปรารถนา พาฝันพูดไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทางต่อต้าน มือของเธอไม่ได้ผลักเขาออกเลย
โนอาร์สบตากับดวงตากลมโตแล้วโน้มใบหน้าลงแนบริมฝีปากเข้าที่กลีบปากนุ่ม เธอหลับตาพริ้ม รับรสจูบที่แสนอบอุ่นจากเขา หญิงสาวเคลิบเคลิ้มไปกับคนตัวโต ทั้งคู่จูบกันเนิ่นนานเท่าไรก็ไม่รู้ แต่เธอรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่แทบไม่เหลือเสื้อผ้าอยู่บนตัว
หญิงสาวรู้สึกเขินอายที่มีเพียงบราเซียร์และแพนตี้ตัวจิ๋วที่ปิดอยู่ หัวใจของเธอเต้นกระหน่ำจนแทบเด้งออกมาเต้นด้านนอก สายตามองไปที่โนอาร์ซึ่งกำลังถอดเสื้อผ้าของตนเองอยู่
โนอาร์หันมายิ้มที่มุมปากก่อนที่เขาจะซุกใบหน้าเข้าที่ลำคอขาว พรมจูบไปทั่วทั้งลำคอแล้วลงมาขบเม้มที่เนินอกอิ่ม เขาสอดมือที่ด้านหลังแล้วปลดตะขอบราเซียร์ออกอย่างช่ำชอง
พาฝันปล่อยตัวไปตามความต้องการของตนเอง ร่างบางสะดุ้งเมื่อลิ้นร้อนตวัดเลียที่ยอดอกแสนหวาน กัดริมฝีปากก็ไม่มีเสียงครางเล็ดลอดออกมา
คนตัวสูงขบดูดเม็ดปทุมถันอย่างมูมมาม มือหนาขยำเต้าเต่งตึงอย่างมันมือ เขาดูดเลียจนอกอวบทั้งสองข้างเต็มไปด้วยน้ำลายเปรอะเปื้อน
โนอาร์จับขาเรียวอ้าออกกว้าง เขาสอดนิ้วยาวเข้าไปในร่องรักที่ฉ่ำแฉะ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มแล้วมองใบหน้าสวยที่แดงระเรื่อ
“แฉะซะแล้ว” เขาแซวจนพาฝันเขินหนัก จะห้ามไม่ให้เขาพูด แต่เธอเองก็พูดไม่ได้
โนอาร์สวมถุงยางอนามัยเข้าที่ท่อนเอ็นแข็งขืน พาฝันมองความเป็นชายแล้วลอบกลืนน้ำลาย เธอคอยมองตลอดจนเขาสอดแท่งร้อนเข้ามาในช่องทางคับแคบ หญิงสาวใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ เธอพยายามจะดันเขาออก ทว่าเขากลับดันสะโพกจนแก่นกายเข้ามาลึกสุดลำ
เขาขยับสะโพกอย่างถี่รัวโดยที่ไม่สนใจเลยว่าคนใต้ร่างจะรู้สึกอย่างไร เธอทั้งเจ็บแสบและจุกในท้องน้อยมาก แต่เขาก็ไม่คิดออมแรง เธอทรมานมาก กว่าความซ่านเสียวจะเข้ามาในกระแสความรู้สึก
คนตัวสูงครางเสียงกระเส่า เขากระแทกไม่หยุดยั้งจนใกล้เสร็จเต็มที โนอาร์จึงเร่งสะโพกกระแทกกระทั้นแก่นกายให้ถี่ขึ้นจนปล่อยน้ำรักออกมา
โนอาร์มองคราบเลือดที่เปรอะอยู่บนฟูก แวบหนึ่งเขารู้สึกผิดที่พรากพรหมจรรย์ของเธอไป แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา แววตาของเขากลับแข็งกร้าวจนน่ากลัว
โนอาร์แต่งตัวให้ตนเองโดยที่ไม่ได้สนใจคนที่นอนอยู่บนเตียง กระทั่งเขาแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ตวัดสายตามาที่ร่างเล็ก
“ลุกไปแต่งตัว” น้ำเสียงเย็นชาของโนอาร์ทำให้พาฝันย่นคิ้วเข้าหากัน แต่เธอถามอะไรไม่ได้ ในห้องก็ไม่มีกระดาษและปากกาให้เขียน
“ไปแต่งตัวสวย ๆ จะพาออกไปข้างนอก”
พาฝันพยักหน้าแล้วคลี่ยิ้มหวาน ก่อนที่เธอจะเข้าไปอาบน้ำแล้วแต่งตัวด้วยชุดใหม่เป็นเดรสสีหวาน ปล่อยผมยาวสลวยแต่งหน้าอ่อน ๆ เธอหันไปพยักหน้าให้เขาเพื่อสื่อว่าพร้อมแล้ว
“ไม่ต้องเอาไปหรอก” โนอาร์เอ่ยขึ้นมา พาฝันชะงักเพราะกำลังจะสะพายกระเป๋าพอดี
“ไม่ต้องเอาไป ไม่ต้องใช้อะไร” เขาเอ่ย พาฝันเลยวางกระเป๋าไว้ที่เดิมเพราะไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้เธอเป็นของเขาทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะที่ผ่านมาเขาดีกับเธอมาก
หญิงสาวเดินตามคนตัวสูงออกมาที่รถ เขายกยิ้มที่มุมปากให้เธอก่อนจะดันประตูรถปิดให้ พาฝันรู้สึกว่ารอยยิ้มของเขาแปลกไป ไม่รู้สึกอ่อนโยนอย่างที่ผ่านมา เธอสั่นหัวไล่ความคิด เขายิ้มแปลกอะไรกัน เธอต่างหากที่คิดไปเอง เพราะว่าพอขึ้นรถมา โนอาร์ก็ส่งกล่องแฮมเบอร์เกอร์ที่เขาวางไว้เบาะหลังมาให้พร้อมกับน้ำอีก 1 ขวด ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหน ถึงได้ให้เธอกินอะไรรองท้อง
“พี่ไม่หิว นี่พี่ก็ซื้อไว้ให้ฝันนั่นแหละ ตอนแรกจะเอาลงไปด้วยแล้วลืม” โนอาร์ตอบเพราะพาฝันชี้ไปที่เขา เธอน่าจะถามว่าแล้วของเขาล่ะ
พาฝันยิ้มแล้วกินแฮมเบอร์เกอร์อย่างเอร็ดอร่อยจนหมด เธอมองสองข้างทางอย่างเพลิดเพลินจนกระทั่งรถเลี้ยวเข้ามาในซอยหนึ่ง พอเข้ามาแล้วมีซอยเยอะ โนอาร์ขับไปตามทางเรื่อย ๆ พาฝันก็ยิ่งแปลกใจ เพราะเธอรู้สึกว่ามันน่ากลัวเข้าไปทุกที
หญิงสาวหันไปมองหน้าโนอาร์ด้วยสายตาที่มีคำถาม แต่โนอาร์ไม่สนใจ เขามองตรงไปข้างหน้าด้วยแววตาเรียบนิ่งและไม่พูดอะไรออกมา กระทั่งรถมาจอดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง
‘บ้านร้างนี่ พามาทำไม’ พาฝันพยายามถาม ทว่าเสียงของเธอไม่ดังออกมาเลย แววตาของเธอสั่นระริกด้วยความกลัว
บ้านร้างหลังนี้เป็นที่ที่โนอาร์เอาไว้ขังตัวลูกน้องที่ทำผิด บรรยากาศรอบ ๆ เงียบสงัด ไม่มีใครเข้ามาในนี้อย่างแน่นอน เขาจับพาฝันขึ้นพาดบ่า พาเธอเข้ามาในบ้านที่มีฝุ่นและหยากไย่เต็มไปหมด
พาฝันหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความกลัว เขาพาเธอมาที่นี่ทำไม หญิงสาวพยายามดึงแขนตนเองออกแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเขาจับไว้แน่นจนเธอรู้สึกเจ็บ เธอเลยเกาะขอบประตูไว้ แต่ก็สู้แรงของผู้ชายร่างกำยำไม่ได้