เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมา มือเล็กของพาฝันควานหาแล้วกดปิด ก่อนที่ร่างเล็กจะลุกขึ้นนั่งโดยที่ดวงตายังปิดอยู่ ริมฝีปากบางอ้ากว้างหาวอยู่หลายรอบ ท้องฟ้ายังไม่มีแสงสว่างของวันใหม่ พาฝันก็ต้องรีบตื่น
หญิงสาวเดินสะลึมสะลือเข้าไปที่ห้องน้ำ น้ำจากก๊อกที่เธอเอามือรองมาลูบใบหน้าช่วยให้เธอลืมตาได้มากขึ้น หลุดจากความอยากนอน พาฝันส่องกระจกมองตนเอง
“สู้ !” เธอให้กำลังใจตนเองทั้งที่ยังอยากล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม แต่ก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้เธอไม่สามารถนอนต่อได้
พาฝันอาบน้ำแล้วขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่าคู่ใจออกมาที่ตลาดในตอนเช้ามืด เป็นเวลาที่พ่อค้าแม่ค้ามาจับจ่ายซื้อของเข้าร้าน พาฝันเองก็เป็นหนึ่งในแม่ค้า… เธอทำขนมไทยขาย ต้องมาซื้อวัตถุดิบเพื่อไปทำขนม
เมนูขนมในวันนี้ที่เธอรับออร์เดอร์มาก็คือขนมตะโก้ มีทั้งเผือกและสาคู เธอจะเปลี่ยนเมนูขนมไปเรื่อย ๆ ลูกค้าจะได้ไม่เบื่อ และเปิดรับเป็นบางวัน เพราะตอนนี้เธอยังเรียนปริญญาตรีอยู่ด้วย
“พาฝัน ป้าสั่งด้วยทันไหม” แม่ค้าร่างท้วมเอ่ยถาม เธอลืมสั่งเอาไว้ก่อน มานึกขึ้นได้เอาตอนที่พาฝันปิดรับออร์เดอร์ไปแล้ว
“ทันสิป้า เอาเผือกหรือสาคูล่ะ” เธอยังไม่ได้ลงมือทำ ยังสั่งเพิ่มได้ แต่ในเฟซบุ๊กที่เธอโพสต์รับออร์เดอร์ปิดลงไปเมื่อเย็นวาน
“เอามาอย่างละกล่องเลย”
“โอเคจ้ะ เดี๋ยวเอาไปส่งให้ที่บ้านนะจ๊ะ” บ้านแม่ค้าอยู่แถวนี้ พาฝันเคยไปส่งขนมให้อยู่บ่อย ๆ เธอไม่ได้มาส่งที่ตลาดเพราะกว่าจะทำเสร็จ แม่ค้าก็กลับเข้าบ้านไปแล้ว
“จ้า ป้าจ่ายไว้ก่อนเลย ไม่ต้องทอนนะ” แม่ค้ามองพาฝันด้วยความเอ็นดู เพราะเธอเป็นเด็กสาวที่สู้ชีวิต ทั้งเรียน ทั้งทำขนมขาย ตอนเช้าไปเรียน ตอนเย็นไปขายขนมที่ตลาดนัด พอเป็นวันหยุดหรือวันที่มีเรียนบ่ายเธอก็จะรับออร์เดอร์แล้วทำส่งก่อนเข้าเรียน เธอแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย
“ขอบคุณมากค่ะป้า” พาฝันยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อมแล้วคลี่ยิ้มด้วยความดีใจที่ป้าให้เงินเพิ่ม
หญิงสาวเดินไปร้านขายวัตถุดิบที่ซื้ออยู่เป็นประจำ เธอสั่งของอย่างชำนาญและครบถ้วนทุกอย่าง แล้วจึงกลับมาที่บ้านเช่าหลังเล็กของตนเอง
พาฝันเป็นเด็กต่างจังหวัด บ้านของเธอฐานะยากจน แต่โชคดีที่เธอได้ทุนมาเรียนปริญญาตรีที่กรุงเทพฯ ตอนที่เธอยังอยู่ต่างจังหวัดและรู้ว่าตนเองได้ทุน เธอก็ขายขนมอยู่ที่นั่นจนเก็บเงินเป็นค่าเช่าบ้านได้
บ้านเช่าที่เธอเลือกราคาถูกที่สุดในละแวกนี้เพราะอยู่ในซอยลึกและหลังเล็ก เธอต้องการเช่าบ้านมากกว่าหอพักเพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำขนมขาย หากอยู่หอก็คงจะทำได้ลำบากหน่อยเพราะเนื้อที่ที่จำกัด
หญิงสาวรีบกินโจ๊กที่ซื้อมาจากตลาดแล้วลงมือทำขนมอย่างชำนาญ มารดาของเธอฝึกให้ทำมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอเอามาเป็นหนทางหาเงินได้ รสชาติขนมของเธอไม่เป็นรองใคร ทำให้ตีตลาดได้ไวทีเดียว
Rrr พาฝันมองหน้าจอโทรศัพท์ เมื่อเห็นว่าแม่โทร.มา เธอก็เช็ดมือแล้วรีบรับสาย
“ฮัลโหล”
(ทำขนมอยู่หรือเปล่าลูก) แม่ของเธอถามเพราะรู้ว่าวันนี้ลูกมีเรียนบ่าย พาฝันน่าจะรับออร์เดอร์ขนมอยู่
“ใช่ค่ะ หนูกำลังหั่นเผือกเลย”
(วันนี้ทำเมนูอะไรเหรอ)
“ทำตะโก้เผือกกับตะโก้สาคูค่ะ”
(เหนื่อยหรือเปล่า ถ้าเหนื่อยก็พักบ้างนะลูก พ่อกับแม่จะโอนเงินให้ใช้) น้ำเสียงของแม่เจือความห่วงใย เธออยากให้ลูกได้พักบ้าง ตั้งแต่พาฝันมาเรียนที่นี่ พ่อแม่ของเธอก็ทำงานหนักขึ้นเพื่อหาเงินมาส่งเสียเพิ่ม แต่พาฝันก็ไม่รับเงินเลย เธอให้พ่อแม่เอาเงินเก็บไว้ใช้ ทว่าทั้งพ่อและแม่ก็ไม่ได้เอาออกมาใช้อยู่ดี
“เหนื่อยค่ะ แต่หนูทำไหว หนูชินแล้ว นี่หนูก็ซื้อเตาอบมาใหม่ค่ะ อยากลองทำเบเกอรีดูบ้าง” พาฝันหันไปมองเตาอบที่เพิ่งสั่งมา เครื่องไม่ใหญ่มาก พอทำเบเกอรีได้ เธออยากเอามาฝึกทำเผื่อเป็นอีกอาชีพของเธอ
(เก่งมากเลยลูก) แม่ชมเปาะที่ลูกสาวรู้จักทำงานเก็บเงินและเห็นคุณค่าของเงินที่หามา
“ไว้เรียนจบหนูจะเอาไปทำขนมปังให้แม่กับพ่อกินนะคะ” น้ำเสียงของพาฝันสดใส เธอใกล้จะเรียนจบแล้ว พอกลับไปอยู่บ้านก็จะทำเบเกอรีขายสลับกับขนมไทย นี่คือสิ่งที่เธอตั้งใจไว้
(จ้ะลูก ทำต่อเถอะ สู้ ๆ) แม่ให้กำลังใจก่อนจะวางสาย
พอได้กำลังใจจากแม่ พาฝันก็ยิ้มไม่หุบ เธอมีเรี่ยวแรงที่จะทำขนมมากขึ้น
พาฝันทำขนมตะโก้อยู่นานจนเสร็จครบถ้วน เธอแพ็กลงกล่องแล้วเอาไปส่งให้ลูกค้าโดยการขี่มอเตอร์ไซค์ไป หญิงสาวคอยดูเวลาเพราะกลัวว่าจะไม่ทันไปเรียน
“มีเรียนต่อใช่ไหมหนูพาฝัน” ลูกค้าวัยกลางคนเอ่ยถามเพราะเห็นท่าทางเป็นกังวลของแม่ค้าขายขนม
“ใช่ค่ะ เหลือส่งอีก 3 ที่ หนูรีบไปส่งก่อนนะคะ” พาฝันยกมือไหว้ลูกค้า
“ขี่ดี ๆ นะหนู”
“ค่ะป้า” พาฝันรับปาก ทว่าเธอกลับรีบซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปส่งให้ลูกค้าจนครบทุกคน
หญิงสาวกลับมาอาบน้ำแล้วแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา ก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาที่มหาวิทยาลัยด้วยความรวดเร็ว เธอถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจที่มาทันเวลาและยังมีเวลาเหลือพอที่จะได้กินข้าวมื้อเที่ยงก่อนขึ้นเรียน
พาฝันเดินไปหาเพื่อนสนิททั้งสองคนที่มานั่งรออยู่บริเวณหน้าตึกคณะ เธอรู้จักนาราและใบปอตั้งแต่วันแรกที่มาเรียนที่นี่ วันแรกของการเข้ามาเรียน เธอเดินหาห้องจนชนกับนาราเข้า ถึงได้รู้ว่าเรียนคณะและสาขาเดียวกัน สองสาวจึงพากันมาหาห้องเรียน ครั้นพอเข้าไปเจอใบปอนั่งอยู่คนเดียว ถึงได้เข้าไปทำความรู้จักและรวมกลุ่มกัน
สามสาวค่อนข้างต่างกันมาก นาราเป็นคุณหนูฐานะร่ำรวย ใบปอฐานะปานกลาง ไม่ได้รวยเท่านาราแต่ก็ไม่ถือว่าลำบาก แต่พาฝันฐานะไม่ค่อยดี ซึ่งเพื่อน ๆ ของเธอไม่ได้รังเกียจ โดยเฉพาะนาราที่แม้จะเป็นคุณหนู แต่ก็รักเพื่อนมากและพยายามจะยื่นมือมาช่วยเหลือ แต่พาฝันก็ไม่เคยรับไว้
“กินอะไรมาหรือยัง” นาราเอ่ยถาม
“ยังเลย พวกแกกินหรือยัง”
“กินแล้ว แต่เดี๋ยวเข้าไปที่โรงอาหารเป็นเพื่อน” นาราคลี่ยิ้ม ส่วนใบปอสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่ได้พูดอะไร
“ไปด้วยกันไหมปอ” นาราหันไปถามเพื่อนอีกคน
“ไปสิ” ใบปอตอบกลับ สีหน้าของเธอเหมือนไม่ค่อยอยากไปมากกว่า แต่ที่ต้องไปก็เพราะว่าไม่อยากนั่งเหงาอยู่คนเดียว
“ฉันไปกินคนเดียวได้นะ พวกแกนั่งอยู่นี่แหละ ฉันกินไม่นานหรอก” พาฝันเห็นสีหน้าของใบปอเลยเอ่ยขึ้นมา
“ไม่เอา จะไปด้วย” นารายืนกราน เธอลุกขึ้นมากอดแขนพาฝันไว้แน่น
สามสาวรีบเดินเข้าไปสั่งข้าวมากิน นาราก็ซื้อชาไข่มุกมานั่งกินไปพลาง ๆ
“ดูอะไรอยู่เหรอ” นาราถามใบปอที่กำลังดูคลิปในโทรศัพท์มือถืออยู่
“ดูคลิปนางแบบ” น้ำเสียงของใบปอเศร้าลง นาราและพาฝันจึงหันมองหน้ากันด้วยความสงสัย
“แกเป็นอะไรหรือเปล่า” พาฝันเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ฉันแคสต์งานไม่ผ่าน ก็เลยเซ็ง ๆ” ใบปอฝืนยิ้มออกมา พาฝันเลยเข้าใจว่าที่เพื่อนสีหน้าเรียบนิ่งก็เพราะผิดหวังในเรื่องงานนี่เอง
“ไม่เป็นไรแก ค่อยหาใหม่” นาราคลี่ยิ้มให้กำลังใจ
“อืม ฉันจะต้องเป็นนางแบบให้ได้ !” อาชีพนางแบบเป็นความใฝ่ฝันของใบปอ เธอพยายามแคสต์งานถ่ายแบบและฝึกเดินแบบมาหลายต่อหลายงาน แต่ก็ยังไม่ผ่าน
“แกทั้งสวยและหุ่นดีมาก เก่งด้วย ยังไงแกก็ต้องได้เป็นนางแบบแน่ ๆ” พาฝันเอ่ยให้กำลังใจ
“ขอบใจนะ แกรีบกินเลย เดี๋ยวไม่ทัน”
พาฝันลืมตัวว่าจะต้องขึ้นเรียน เธอมัวแต่สนใจเพื่อนจนไม่ได้กินข้าวเลย หญิงสาวรีบตักข้าวกินอย่างรวดเร็ว แล้วพากันขึ้นเรียนทันที