2

1518 Words
“คุยกันจริงๆ แสดงว่าเคยเจอกันแล้ว” “ก็ไม่เชิงหรอกครับ ผมกับเธอคลาดกันทุกที เธอเอาอาหารไปให้สุนัขจรจัดน่ะครับ” “อย่าบอกนะว่าเป็นสาวน้อยคนนั้น” ติยากรรู้จักสาวน้อยนิรนามที่ตฤณเล่าให้ฟังบ่อยๆ ดี “ครับ” “โลกกลมจัง” “เธอหายไปนานหลายปีเลยครับ เพิ่งรู้ว่าไปเรียนหมอมา จบสัตวแพทย์มาทำงานที่โรงพยาบาลของพี่ชายครับ” “ชอบเขาก็จีบเขาสิ เราน่ะอายุสามสิบแล้วนะปีนี้ น่าจะมีครอบครัวได้แล้ว” เขากับพี่สาวอายุห่างกันถึงสิบปี พี่สาวเคยแต่งงานมีครอบครัวแล้วแต่สามีโดนรถชนตายหลายปีแล้ว พี่สาวของเขาไม่มีลูกเต้าและด้วยความที่รักสามีมาก จึงไม่ยอมแต่งงานใหม่หรือคบกับใครอีก เธอคิดว่าจะครองตัวเป็นโสดไปตลอดชีวิตเพราะรักใครไม่ได้อีกแล้ว “ผมไม่รู้ว่าเธอมีแฟนหรือยังครับ ที่สำคัญก็คือไม่รู้ว่าเธอจะชอบผมหรือเปล่าน่ะครับ” “ลองจีบดูก่อน ชอบไม่ชอบอีกเรื่องหนึ่งจ้ะ ถ้าเขายังไม่มีแฟนนะ” ติยากรเชียร์น้องชายเต็มที่ “ก็ว่าจะจีบนี่แหละครับ” คนเป็นน้องถึงกับยกมือขึ้นลูบท้ายทอยไปมาเพราะเขินอยู่มาก “อย่าบอกนะว่ามาเป็นลูกมือทำขนมกับพี่และช่วยจัดดอกไม้เพราะเขา” “ก็... ครับ” คนเป็นน้องตอบแล้วเขินหนักกว่าเก่า ติยากรถึงกับตาโต อ้าปากค้างเพราะไม่เคยเห็นน้องชายสนใจผู้หญิงที่ไหน วันๆ เอาแต่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ช่วยเธอส่งดอกไม้ ส่งขนมและรับซ่อมคอมพิวเตอร์ ไม่เคยเห็นคิดจะจีบใคร ตฤณไม่เจ้าชู้ ผู้หญิงสวยๆ มาทอดสะพานให้ก็ไม่เคยเล่นด้วยหากไม่ได้รักชอบจริงๆ น้องชายก็ไม่อยากทำให้ใครต้องเสียใจ เธอรู้จักนิสัยน้องชายดีว่าเป็นคนเช่นไร ตฤณเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ขี้อาย สะอาดเรียบร้อยและพูดเพราะ เธอยังเคยคิดเลยว่าหากผู้หญิงคนไหนได้ตฤณไปเป็นแฟน คงโชคดีมากแน่ๆ เพราะน้องชายของเธอเป็นคนอ่อนโยนและใส่ใจกับคนอื่นเสมอ “วันหลังชวนเขามาเที่ยวที่บ้านบ้างสิ พี่อยากเจอ” ติยากรบอกน้องชาย “ผมขอตัวเอาอาหารไปให้พวกเด็กๆ ก่อนนะครับ” นอกจากตฤณจะนำอาหารไปให้สุนัขจรจัดข้างถนนแล้ว เขายังเก็บสุนัขและแมวมาเลี้ยงอีกด้วย สองพี่น้องได้จ้างคนมาดูแลพิเศษ โดยเลือกคนที่ใจบุญรักสัตว์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะได้ดูแลสัตว์เหล่านั้นด้วยความรักอย่างจริงใจ “จ้ะ” ติยากรรับคำ มองน้องชายด้วยรอยยิ้ม “เด็กๆ หิวไหมครับ มากินอาหารกันเร็ว” มีสุนัขจรจัดหรือแมวหลายชีวิตที่ตฤณไม่ได้พากลับไปที่บ้านพักด้วยเพราะพวกมันเลือกที่จะอยู่ที่นี่ พากลับไปก็หนีออกมา อาจเพราะโดนเจ้าของทิ้งเอาไว้ตรงนั้นเลยคิดว่าสักวันเจ้าของคงกลับมารับ “ขนมอร่อยมากๆ เลยนะคะ” เสียงหวานใสของใครบางคนทำให้ตฤณหันไปมอง เขายิ้มกว้างในทันทีที่เจอกับปิ่นแก้ว สัตวแพทย์สาวที่ยิ้มหวาน จับจิตจับใจ “ขอบคุณครับ” ตฤณกล่าวขอบคุณด้วยความเขินเล็กน้อย “คุณสองทำเองกับมือเลยเหรอคะ” ระหว่างถามเธอก็หยิบอาหารที่  หอบหิ้วมาด้วยเทใส่จานสังกะสีเก่าๆ ให้สุนัขและแมวแถวนั้น พวกมัน   เหมือนจำเธอได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนเธอเคยมาที่นี่ สัตว์พวกนี้มีสัญชาตญาณที่ดี ใครเคยช่วยเอาไว้ เคยเลี้ยง เคยเป็นเจ้าของแม้จะจากกันไปนานนับสิบปีมันก็ยังจำได้ดี พวกมันยังเฝ้าคิดถึงเจ้าของอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก “ครับ สูตรของพี่สาวผมน่ะครับ” ตฤณตอบขณะมองหญิงสาวด้วยสายตาอ่อนโยน “ปิ่นชอบผู้ชายทำอาหารเก่งจังเลยค่ะ เพราะปิ่นทำอาหารไม่เก่ง” เธอเงยหน้ามอง ตฤณหน้าแดงเล็กน้อย เสไปลูบศีรษะเจ้าสุนัขสีขาว  ขนปุยที่กำลังกินอาหารด้วยความหิว “คุณสองอายุเท่าไหร่คะ น่าจะแก่กว่าปิ่นหลายปี” “สามสิบแล้วครับ” “ปิ่นเพิ่งยี่สิบสี่เองค่ะ งั้นปิ่นเรียกคุณว่าพี่ได้ไหมคะ” เธอเอ่ยถามแล้ว อมยิ้ม “ได้ครับ” ตฤณตอบรับด้วยหัวใจเต้นแรง การเพิ่มระดับความสัมพันธ์กับคนตรงหน้าให้มากยิ่งขึ้นทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อย “เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ปิ่นจะไปเรียนต่อ ปิ่นเคยเห็นพี่สองเอาอาหารมาให้หมาแมวพวกนี้บ่อยๆ นะคะ แต่มาทีไรปิ่นก็เห็นหลังพี่ไวๆ ทุกที เลยไม่มีโอกาสได้คุยกัน” เป็นประโยคชวนคุยที่ทำให้ตฤณแปลกใจไม่น้อย อาจเพราะเขาเองต่างหากที่เป็นฝ่ายอยากพูดคุยกับเธอ แต่เธอก็เดินทางกลับพอดีกับ    ที่เขามาถึง “พี่ก็เคยเห็นน้องปิ่นนะครับ เห็นแค่หลังไวๆ เหมือนกัน ไม่เคยได้คุยกันจะๆ สักที” “แสดงว่าเราคลาดกันตลอด” เธอลูบเจ้าเหมียวที่มาคลอแข้งคลอขา “เจ้าตัวนี้ชื่อเจ้าปุยครับ พี่เคยพามันกลับไปเลี้ยง แต่มันหนีกลับมาอยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่าเจ้าของพามันมาทิ้งหรือว่ามันพลัดหลงมาเอง ที่สุดท้ายที่มัน พลัดพรากจากเจ้าของเป็นที่นี่ มันเลยหนีกลับมานอนรอเจ้าอยู่ที่นี่ทุกวัน” ตฤณเล่าเรื่องสุนัขสีขาวขนปุยให้เธอฟัง “น่าสงสารมันจังเลยนะคะ มันคงรอคอยให้เจ้าของมารับ” “มันแสนรู้ครับ” “ไม่ได้มาที่นี่หลายปี สุนัขกับแมวที่นี่เพิ่มจำนวนขึ้นหลายตัวเลยนะคะ” “ครับ พี่เอายาถ่ายพยาธิ ยากลาก และยาเห็บหมัดมาให้มันทุกเดือน” “อ้อ... ว่าทำไมมันดูสะอาดจัง มันดูรักพี่สองมากเลยนะคะ” “รู้ได้ยังไงครับว่ามันรักพี่” “ตอนที่พี่สองลงจากรถ พวกมันรีบวิ่งกระดิกหางมาหาด้วยท่าทีกระโดดโลดเต้นยกขาหน้าเข้ามาหาพี่สองไงคะ” “น้องปิ่นเห็นด้วยเหรอครับ แสดงว่ามานานแล้วเหรอครับ” เขาไม่ได้สังเกต “มาหลังพี่สองนิดหน่อยค่ะ เลยทันเห็นว่าพวกมันดีใจแค่ไหนที่ได้เจอ   พี่สอง” “ที่บ้านมีอีกหลายตัวเลยนะครับ ไปเยี่ยมพวกมันกันไหม” ตฤณเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยหัวใจเต้นระทึก เธอยิ้มหวานให้เขา ก่อนจะพยักหน้ารับและขับรถตามเขาไป บ้านพักหลังเล็กๆ ของสุนัขและแมวจรจัดสะอาดสะอ้านมีคนดูแลที่รักสัตว์ “น่ารักทั้งนั้นเลยนะคะ” “พี่จัดการทำหมันพวกมันทุกตัวแล้วครับ” “ดีจังเลยค่ะ ค่าใช้จ่ายคงสูงนะคะ” “ถ้ายาทั่วไปหรือพวกวัคซีนพี่ซื้อมาฉีดให้พวกมันเองครับ แต่ถ้าทำหมันก็พาไปที่ปศุสัตว์ครับ ซึ่งราคาประหยัดกว่า” “มีอะไรที่ปิ่นพอช่วยได้ ปิ่นยินดีนะคะ” “แค่น้องปิ่นรักพวกมัน มาช่วยดูแลแบบนี้มันก็ดีใจแล้วครับ” ตฤณมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนโยน เขาอยากมีคนรักที่รักสัตว์เหมือนกันเพราะผู้หญิงบางคนอาจจะคิดว่าเป็นภาระและรังเกียจหรือรำคาญเอาได้ เขาเลยไม่เคยคิดจะจีบใครจริงจังหากคิดว่านิสัยเข้ากันไม่ได้ “ปิ่นยินดีค่ะ เอ่อ... ร้านพี่สองอยู่ตรงไหนคะ ปิ่นอยากไปอุดหนุนขนมของพี่สองน่ะค่ะ” “อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ครับ เดินไปสักหนึ่งร้อยเมตรก็ถึงแล้วครับ” เขาพาเธอเดินไปยังร้านขายดอกไม้และร้านขนมที่แยกกันคนละส่วนครึ่งต่อครึ่ง “นี่พี่สาวของพี่ครับชื่อพี่หนึ่ง นี่ปิ่นแก้วครับพี่หนึ่ง” แค่ได้ยินชื่อติยากรก็ยิ้มกว้างทันที ปิ่นแก้วยกมือไหว้ติยากรอย่างอ่อนน้อม “ได้เจอตัวจริงสักที ได้ยินแต่สองเล่าให้ฟัง” ประโยคของติยากรทำให้ปิ่นแก้วแปลกใจไม่น้อย “เล่าเรื่องปิ่นเหรอคะ” “ใช่จ้ะ ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน” “พี่หนึ่งครับ” ตฤณเรียกพี่สาวอย่างเขินๆ “ยังไงเหรอคะ” ปิ่นแก้วถามอย่างสงสัย “สองบอกว่ามีสาวน้อยน่ารักใจบุญเอาอาหารไปให้พวกหมาแมวจรจัดแต่ไม่เคยได้คุยกันสักครั้ง สุดท้ายก็ได้เจอกันคุยกันจนได้” ปิ่นแก้วได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มเขินขึ้นมาในทันที ตฤณนั้นเดินไปหลังร้านรินน้ำมาเสิร์ฟให้หญิงสาวแก้เขิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD