ดั่งหนูเดินไปติดกับดัก

1960 Words
เช้าวันต่อมา ขนมรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาช่วยผู้เป็นแม่ขายข้าวแกงเหมือนเช่นทุกวันเพื่อจะได้กลบเกลื่อนเรื่องที่เธอกลับบ้านผิดเวลาเมื่อวานนี้ การที่เธอเอาตัวไปอยู่ในเหตุการณ์กราดยิงกันเช่นนั้นเธอเลือกที่จะไม่เล่าให้ใครฟัง เพราะเธอไม่ต้องการให้คนที่บ้านต้องมาเป็นห่วง "วันนี้กินอะไรดีคะพี่เทิด" หญิงสาวเอ่ยทักลูกค้าจ้าวประจำที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อตัวเอง ไม่ใช่ว่าเธอลามปามหรอกเพียงแต่เธอรู้ว่าอีกฝ่ายก็ชอบให้เรียกแบบนี้ "แหม….ขนมเอาใจพี่แต่เช้าแบบนี้จะเอาทิปกี่บาทดีจ๊ะ" ลุงวัยกลางคนพูดแซวเด็กสาวอย่างคนรู้ทัน "หมดกระเป๋าเลยได้มั้ยคะ” เธอแกล้งแหย่ลูกค้าหนุ่มคนดังกล่าวต่อ เธอมักจะชอบพูดเล่นแบบนี้กับลูกค้าเป็นประจำเพราะมันทำให้มีคนมาอุดหนุนข้าวแกงของวัลภาทุกวันซึ่งมันจะเป็นการดีหากความขี้เล่นของเธอจะช่วยให้ร้านให้ดีขึ้น "ให้มันน้อยๆหน่อยลูก" วัลภาวางฝ่ามือลงไปที่ศีรษะลูกด้วยความรู้สึกหมั่นไส้กับกลยุทธิ์การเรียกลูกค้าที่ทำอยู่เป็นประจำ แต่ถึงจะอย่างนั้นวัลภาก็รู้ดีว่าลูกสาวคนนี้เป็นเด็กดีและไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง "โห แม่อ่ะ หนูเจ็บนะ" เธอทำท่าค้อนแม่ตัวเองก่อนจะรีบตักกับข้าวเสริฟให้ลูกค้าคนต่อไป "อ้าว พี่เอ็กส์หนูก็นึกว่าจะไม่มา" เธอยิ้มทักทายลูกค้าคนใหม่อย่างเป็นมิตร "ไม่มาได้ไงก็หัวใจอยู่ตรงนี้" ชายหนุ่มรุ่นพี่คนนี้มักจะขยันหยอดมุขจีบเธอทุกวัน ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าอีกฝ่ายได้ได้มีใจเสน่ห์หาแต่เขาก็พร้อมจะรอเพราะเขาชอบเธอด้วยใจจริง "แหวะ…เลี่ยนไป๊!" เธอทำท่าอาเจียนก่อนจะตักเมนูโปรดให้พี่ชายคนสนิท ชายหนุ่มมาอุดหนุนร้านข้าวแกงของวัลภาบ่อยจนเธอจำเมนูโปรดของอีกฝ่ายได้ "ทำไมอ่ะ นี่พี่นั่งคิดนอนคิดมาทั้งคืนเลยนะ ไม่ผ่านเหรอ" หนุ่มหน้าเข้มทำตาปริบๆเพื่อขอให้เธอเห็นใจกับมุขเสี่ยวของตนเอง "ผ่าน...ผ่านร้านหนูไปเลยได้มั้ยพี่ ฮ่าๆๆ" หญิงสาวแค่แกล้งเย้าแหย่อีกฝ่ายไปอย่างงั้น เขาสองคนรู้จักกันมานานจนรู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่โกรธเคืองกับเรื่องแค่นี้ "เชอะ!" ชายหนุ่มทำทีเป็นงอนแล้วเดินถือจานข้าวไปนั่งลงที่โต๊ะตัวประจำส่วนเธอปลดผ้ากันเปื้อนออกจากเอวคอดเพื่อจะเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัย "อ้าว! พ่อ...ทำไมวันนี้กลับเร็วจัง" เมื่อเห็นเจนภพกลับเข้าบ้านเวลานี้ เธอจึงเอ่ยถามผู้เป็นพ่อด้วยความแปลกใจ เวลานี้พ่อควรทำงานอยู่นินา "ไม่มีอะไรหรอกแกไปเรียนเถอะ" เจนภพหันมาตอบลูกสาวก่อนจะเดินไปหาภรรยาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ" พูดจบเจนภพก็เดินเข้าไปในบ้าน วัลภามองตามแผ่นหลังสามีอย่างครุ่นคิด ทำไมวันนี้พ่อขนมดูแปลกๆ มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง "เมื่อวานโทรหาทำไมไม่รับจ๊ะ" เสียงของไข่หวานเพื่อนสนิททักขึ้นตอนที่เธอหย่อนก้นลงนั่งเก้าอี้ "โทษทียุ่งนิดหน่อย" แน่นอนว่าเธอจะไม่เล่าฝันร้ายของเธอให้ใครฟัง ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทก็เถอะ เธอไม่อยากจะนึกถึงนักเลงอันธพาลพวกนั้นให้ฝันร้ายกลับเข้ามาอีกครั้ง "เอ่อ...คือเมื่อวานตอนกลับบ้าน กุเห็นพ่อมึงด้วยน่ะ" เธออดแปลกใจไม่ได้ว่าเพื่อนเธอไปทำอะไรแถวนั้น "แล้วไง" เธอยังคงนั่งก้มหน้าทำงานส่งอาจารย์ต่อเพราะการที่เพื่อนจะเจอพ่อนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร "แต่ว่ากุเจอแถวบ้านกุนะ สองสามครั้งแล้วด้วย" ความจริงไข่หวานไม่ได้อยากจะก้าวก่ายเรื่องครอบครัวของคนอื่นแต่เธอก็อดสงสัยไม่ได้และเธอก็เป็นห่วงเพื่อนของเธอด้วยเพราะภาพที่เธอเห็นดูว่าจะไม่ชอบมาพากลเท่าไหร่ เธอเงยหน้าขึ้นจากงานตรงหน้าทันที เวลานั้นพ่อต้องอยู่ที่ทำงานสิ ทำไมถึงไปโผล่แถวบ้านมันได้ล่ะ แถมยังไกลที่ทำงานอีกด้วย "จริงเหรอ" เธอเอ่ยถามเพื่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ ไข่หวานพยักหน้าให้เพื่อเป็นการยืนยันคำตอบ ทำไมล่ะ? ปกติพ่อไม่ใช่คนเกเรงานซะหน่อยหรือพ่อจะไปทำธุระนะ? คำถามเหล่านี้ทำให้เธออดสงสัยไม่ได้แต่เธอเองจะยังไม่ถามผู้เป็นพ่อหรือเล่าให้ผู้เป็นแม่ฟัง เธอเลือกที่จะไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง วันต่อมาหลังเลิกเรียน ขนมให้ไข่หวานพามายังสถานที่ที่คาดว่าอาจจะนายเจนภพผู้เป็นพ่ออีกครั้ง ทั้งสองคนจึงแอบมาดักรอที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง เพราะไข่หวานเล่าว่าทุกครั้งจะเจอที่ร้านแห่งนี้ ไม่นาน....เธอก็เจอพ่อของเธอจริงๆ แต่เขากลับไม่ได้มาคนเดียว เจนภพมากับผู้หญิงแต่งตัวดูดีคนหนึ่งอายุราวๆสี่สิบกว่าแต่เธอผิวพรรณดีและสง่า เสื้อผ้าเครื่องประดับล้วนแล้วแต่ดูราคาแพง ที่สำคัญภาพที่ทำให้เธอถึงกับน้ำตาคลอออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ก็คือการที่เธอเห็นพ่อตัวเองกำลังหอมแก้มผู้หญิงคนนั้น ไม่จริง...! ทำไมล่ะ? มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ย? พ่อไม่ได้นอกใจแม่ใช่มั้ย คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า... หลายวันต่อมาหลังจากขนมเห็นพฤติกรรมของเจนภพวันนั้นเธอเลือกที่จะยังไม่บอกให้วัลภารู้เพราะเกรงว่าถ้าพูดอะไรไปตอนนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทำไมพ่อต้องนอกใจแม่ด้วยนะ ไข่หวานเห็นเพื่อนรักไม่สบายใจมาหลายวัน เธอเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่เป็นต้นเหตุทำให้เพื่อนต้องเป็นทุกข์ กุไม่น่าเล่าให้มึงฟังเลยขนม ไข่หวานเข้าไปโอบไหล่เพื่อนเพื่อเป็นการปลอบโยน " ขอบใจนะ แต่กุโอเค " เธอฝืนยิ้มเพื่อให้เพื่อนสบายใจ แต่ตอนนี้รอยยิ้มบนใบหน้ามันคงจะดูเจื่อนๆไม่เหมือนกับทุกครั้งหรอก " ไปเที่ยวกันมั้ยวะ เผื่อจะได้สบายใจขึ้นไง " คำชวนของไข่หวานทำให้ขนมปังเงยหน้าขึ้นมามองแบบชั่งใจก่อนจะตอบตกลงในที่สุด ตกเย็น..ขนมตัดสินใจโกหกวัลภาว่าวันนี้หลังเลิกเรียนเธอจะไปทำรายงานบ้านเพื่อนสนิทอย่างไข่หวานทำเสร็จก็จะนอนค้างที่นั่นเลย วัลภาเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรจึงอนุญาตอย่างว่าง่าย ตอนนี้สองสาวมาถึงผับแห่งนึงที่ไข่หวานได้นัดแนะกับพี่ชายของเธอเอาไว้ก่อนแล้ว " นี่ขนมเพื่อนหวานเอง " ไข่หวานพาเพื่อนมาแนะนำให้พี่ชายรู้จัก อคิณยืนมองเพื่อนของน้องสาวอย่างนึกถูกชะตา " เข้าไปข้างในก่อนสิ " อคิณเอ่ยชวนก่อนจะนำพาร่างเล็กในชุดเดรสสั้น รัดรูปที่ตอนนี้ใบหน้าที่เคยสะอาดใสถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ปากเล็กได้รูปแต่งเติมด้วยสีแดงสดเข้าไป แก้มเนียนใสสองข้างถูกปัดเป็นสีชมพูระเรื่อนวลเนียนแม้ในแสงไฟสลัว วันนี้เธอกับไข่หวานดูสวยจนผิดหูผิดตา... พอเดินเข้ามาด้านในผับทั้งคู่ก็ตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ทันที แม้ว่าพวกเธอจะเป็นเพียงเด็กสาวมัธยมปลายแต่ทรวดทรงองเอวกลับได้รูปตามสัดส่วนอีกทั้งขนาดหน้าอกหน้าใจก็ดูจะโตเกินอายุจริง "มีแต่คนมองว่ะ" ไข่หวานกระซิบขนมปังเบาๆอย่างคนได้ใจ "ก็พวกเราสวยนินา!" ขนมปังหันไปตอบเพื่อนแบบทีเล่นทีจริง สองสาวพากันหัวเราะคิกคักออกมาให้กับความบ้ายอของตัวเอง ก็นานๆทีพวกเธอจะได้แต่งตัวสวยๆแบบนี้ " ดื่มอะไรดี " อคิณที่ตอนนี้พาสองสองมานั่งยังโซฟาตัวประจำเอ่ยถามน้องสาวตัวแสบแต่สายตาเขากลับมองไปยังอีกคนที่นั่งข้างๆ ตอนนี้เธอกำลังให้ความสนใจกับแสงสีแบบไฟสลัว เธอไม่เคยมาเที่ยวแบบนี้มาก่อน อะไรๆมันเลยดูน่าตื่นเต้นไปหมด " พี่คิณดื่มอะไรหวานก็ดื่มแบบนั้นแหละ " ไข่หวานตอบอคิณในทันที เพราะเธอเคยดื่มแอลกอฮอล์อยู่บ้างในยามที่บ้านเธอมีงานเลี้ยงภายในครอบครัว " แล้วเพื่อนเราจะดื่มได้เหรอ " อคิณถามย้ำเพราะคิดว่าอีกคนไม่น่าจะดื่มของมึนเมาเป็น " ได้ค่ะ " ยังไม่ทันที่ไข่หวานจะได้พูดอะไร เจ้าตัวก็ให้คำตอบเสียก่อน อคิณจัดแจงชงเครื่องดื่มให้สองสาวแต่เขาก็เพียงแค่ชงบางๆเท่านั้น "ชน.!" เสียงแก้วกระทบกันครั้งแล้วครั้งเล่า แอลกอฮอล์ที่ถูกกลืนลงคอในปริมาณที่ไม่น้อย มันได้สร้างความสนุกอย่างอัตโนมัติ " หวาน ขนม นี่เสี่ยจอมพลเจ้าของผับ " อคิณสะกิดสาวสองให้รู้จักกับเสี่ยใหญ่ คืนนี้เขาเพียงแต่เข้ามาดูความเรียบร้อยเหมือนเช่นทุกวัน " หวัดดีค่าาา " เสียงยานคล้ายคนเมาขานรับอคิณในทันที สองมือเล็กยกขึ้นไหว้อย่างรู้งาน " อ้อ! คนที่เปย์ให้พวกเราก็คือเสี่ยคนนี้เองเหรออค่าาา "ตอนนี้เธอเริ่มจะนั่งตัวไม่ตรง แก้มสีแดงที่เกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ยื่นเข้าไปใกล้ๆ " เห็นเรียกเสี่ยๆก็นึกว่าแก่หัวหงอก! ดูๆไปก็ไม่แก่เท่าไหร่เลยนิลุง! " เธอส่งยิ้มให้คนที่คุยด้วย แต่ดูก็รู้ว่าตอนนี้เจ้าตัวเริ่มจะไม่มีสติ จอมพลเขาเพียงแต่มองเท่านั้น หึ...! อิเด็กนี่เมาแล้วปากดีซะด้วย! " โทษทีนะครับเสี่ย น้องผมมันไม่ค่อยได้ดื่ม เลยคออ่อนไปหน่อย อย่าถือสาเลยนะครับ " อคิณก้มหัวให้จอมพลเสี่ยเจ้าของผับอย่างนึกเกรง " ช่างเถอะ กุไม่ถือสามันหรอก! " จอมพลตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ น่าสนใจดีนิ! จอมพลนั่งกระดกไวน์ราคาแพงอย่างใจเย็น สายตาจ้องมองไปยังเด็กสาวเป็นระยะ เขาลอบสังเกตทุกอิริยาบทของเธอ " มึงเมาแล้ว มึงรู้ตัวมั้ย? " จอมพลถามขนมปัง ขณะที่เธอกำลังพยุงตัวเองออกมาจากห้องน้ำของผับ เมื่อกี้เธอพึ่งจะไปอ้วกมา " ค่ะ หนูคงเมาแล้วจริงๆ " เธอพยักยอมรับอย่างว่าง่ายเพราะตอนนี้ก็เหมือนว่าเธอเริ่มจะยืนเองไม่ไหวแต่ก็ยังพยายามบังคับร่างกายให้เดินต่ออย่างยากลำบาก แต่แล้วเธอก็ถูกใครบางคนดึงเข้าไปซบกับหน้าอกแข็งแรง มือหนากอดรัดร่างบางไว้อย่างนึกเจ้าเล่ห์! "ปะ...ปล่อยหนู! " เธอรีบดันตัวเองออกจากการถูกเกาะกุม เมื่อเห็นว่าเจ้าของมือหนาไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ แต่คนอย่างจอมพลมีเหรอที่เขาจะสนใจการปฏิเสธแค่นี้ เขาไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆหรอก " ไปต่อกับกุมั้ย! กุจะทำให้มึงมีความสุขเอง! "
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD