อีคอน -10 โดนขู่

1440 Words
ร่างบางหันมองตามเสียงโทรศัพท์ ซึ่งสั่นอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง สมองสั่งการให้รับรู้ทันทีว่านั้นเป็นข้อความที่ไม่ปรารถนาดีกับความรู้สึกของเธอนัก ต้องเป็นเขา ใจเต้นระทึกเมื่อสัญชาตญาณกระซิบบอกแบบนั้น ใบหน้าสวยชาวาบไปทั้งหน้า ทันทีที่เห็นข้อความภาษาอังกฤษ ' อย่าลืมเรื่องที่เราคุยกัน ' เมื่อคืนหล่อนเมา ด้วยความไว้ใจ และคิดว่าอาทิตย์คงไม่ต่างถึงได้ปล่อยเธอมากับเขาอย่างง่ายดาย ไม่มีใครคิดจะเป็นอย่างนี้ แต่จำได้ว่าพ่อเคยเล่าเกี่ยวกับบทสนทนาระหว่างพวกเขา ในวันแรกที่ได้เจอกัน “มันบอกว่าเพื่อนของมันเป็นแฟนคลับลูก เลยบอกให้มันมาสมัคร แต่พ่อว่ามันก็คงเป็นด้วยไม่อย่างนั้นคงไม่ทุ่มเทขนาดนี้” “เมว่าเขาโชคดีต่างหาก ที่ชนะทุกคนได้” “คิดอย่างนั้นหรือ.. แต่พ่อว่าไม่ พละกำลังขนาดนี้ ร่างกายจะต้องถูกใช้งานหนักอย่างสม่ำเสมอ เอาเถอะ.. มันปกป้องลูกได้ แค่นั้นก็คงพอแล้ว อย่าไปอยากรู้อะไรเยอะเลย ดูหน้าตาท่าทางซื่อๆ คงไม่มีอะไรมาก” ร่างบางถึงกับลอบกลืนน้ำลายลงคอก้อนใหญ่ ประโยคนั้นพร้อมเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเสมือนเป็นไม้หน้าสามมาตีท้ายทอยกันอย่างแรง หล่อนรู้สึกหนักอึ้งลามมาถึงบ่า “บ้าชะมัด” เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นบนหน้าผากทุยมนสวยลับกับจมูกปากไหลเยิ้มลงมาเกาะข้างอยู่ตรงปลายโด่งรั้นราวกับน้ำค้างแม่คะนิ้ง หล่อนตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่ได้คายไม่ออก รู้สึกถึงแรงกดดันอย่างหนัก สัญชาตญาณที่พยายามจะบอกให้รู้ ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาและอันตรายต่อเธอกับครอบครัว ความกลัวนั้นสั่งให้หล่อนเลือกพูดความจริงกับผู้เป็นพ่อ แต่พอนึกถึงแม่เลี้ยงกับท่าทางดูแคลนหากรู้ว่าหล่อนเมาจนปล่อยเนื้อปล่อยตัวตกเป็นเหยื่อของเขา จึงเงียบกริบ ละทิ้งความคิดนั้นไปก่อน ครืด... เฮือก!!!!! โทรศัพท์แทบหลุดมือ เมื่ออยู่ๆหน้าจอกะพริบขึ้นมาพร้อมเบอร์โทรแปลกหน้า แต่พอจะเดารู้ว่าเป็นเบอร์ของใคร “อะไรอีก” ( ผัวโทรมาทั้งที รับโทรศัพท์ให้มันน่าฟังหน่อยไม่ได้หรือไง ) “แกไม่ใช่ผัวฉัน” (งั้นหรือ..อยากให้พิสูจน์ไหม คืนนี้อีกคืนเป็นไง) “อย่ามายุ่งกับฉันนะ!” หล่อนกดเสียงต่ำ มือข้างถือโทรศัพท์สั่นเทา อีกมือเหงื่อชุ่มจนต้องกุมมันไว้ (สายไปแล้วล่ะ ผมจะยุ่งกับคุณจนกว่าผมจะพอใจ ) “นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่” (ถ้ากับคุณก็คงแค่ร่างกายล่ะมั้ง แต่กับคนอื่นไม่แน่ว่าจะเป็นชีวิต) “อะไรนะ!” อีคอนข่มเสียงต่ำ ทำหญิงสาวนิ่งเงียบไม่กล้าเถียงต่อ อีกอย่างหล่อนอยู่ในห้องนอนที่เก็บเสียงแต่ใช่ว่าจะปลอดภัย หากหล่อนตะโกน แล้วมีใครเอาหูเข้ามาแนบกับประตูเพื่อแอบฟัง หรือเดินผ่าน ก็คงได้ยินจนหมด “นายจะทำอะไรพ่อฉัน” (ทำไมถึงคิดว่าเป็นพ่อคุณ พ่อคุณทำอะไรไม่ดีเอาไว้อย่างนั้นรึ) อีคอนยิ้มเยาะ ในจังหวะสาวสวยเงียบไป (ว่าไง พ่อของคุณทำอะไรไว้) แกล้งถามซ้ำ เพื่อทรมานให้หล่อนอึดอัดเล่น สาวเจ้าอ้ำอึ้งทันทีที่รู้ว่าตนกำลังถูกต้อน “ไม่มี” ตอบเขากลับไปด้วยเสียงที่ห้วน ขมวดคิ้วยุ่งเหยิงอย่างไม่พอใจ (ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกังวลไปหรอก ถ้าพ่อคุณเป็นคนดี ผมก็แค่เป็นโจร แค่นั้นเอง) อีคอนบอกเสียงเรียบ ส่วนเธอเงียบไม่กล้าสานต่อ สมองวกกลับไปนึกถึงบทสนทนาระหว่างหล่อนกับเขาอัตโนมัติ ‘คุณไม่ทำอย่างที่ผมต้องการน่ะ คุณจะโง่ ‘ ‘นี่!!’ ‘หรือคุณอยากโง่ ก็แล้วแต่คุณเลย’ เขาโบกมือขึ้นปัดความรำคาญ น้ำเสียงห้วน ‘ส่วนผมก็แค่ปล่อยคลิปนี้ออกไป’ ‘อะ อะไรนะ’ ‘คุณคงไม่อยากมีสามีเป็นคนจรจัดหรอกนะ..ใช่ไหม ถ้าหากวันหนึ่งผมจะทำให้คุณ ได้จดทะเบียนกับผมขึ้นมา’ ‘ไม่มีทาง!’ 'ไม่มีทางอะไร ขนาดในตัวคุณผมยังเข้าไปแล้ว’ ‘นี่หยุดนะ อย่ามาพูดจารุ่มร่ามกับฉันนะ ฉันไม่ชอบ’ ‘แล้วคิดว่าผมชอบนักรึไง ตอนนี้ก็ข่มอารมณ์เต็มที หรือคุณอยากจะลองแบบเมื่อกี้อีกที เฮอะ สร่างเมาแล้วด้วย เอาไหม เผื่อจะติดใจ ผมอาจไม่ต้องวางแผนอะไรมากมายให้มันปวดหัว’ คราวนี้สาวเจ้าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ไม่มีคำถกเถียงใดๆต่อ ก่อนจะเบือนหน้าออกไปทางอื่น ไม่อยากมองหน้าเขา อีคอนเห็นเช่นนั้นรู้สึกเห็นใจไม่น้อย แต่เพื่อเป้าหมายจำเป็นต้องทำ ‘ฟังนะแม่นางแบบ ก่อนหน้านี้ที่เรามีเพศสัมพันธ์กัน โดยที่ผมไม่ได้ใส่ถุง และคุณเองก็ไม่ได้กินยาคุมกำเนิดไม่ได้ป้องกัน ถ้าเกิดผมขังคุณไว้ซัก...สองวัน คุณคิดว่า....’ ‘ ไม่! ไม่นะ ฉันไม่อยากท้องกับคนอย่างแก’ ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น สาวเจ้าก็หันขวับกลับมา ลืมแล้วหมดสิ้นกับความกังวลใจ เธอไม่อยากให้ทุกอย่างมันแย่ไปมากกว่านี้ จึงรับคำออกไป จำยอมทำตามอย่างที่เขาต้องการ น้ำตาก้อนใหญ่ไหลลงมาอาบสองแก้ม หลังเมเบลนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าระหว่างอยู่กับเขาในรถ ความเจ็บปวดปนกลัว ที่เขาขู่หล่อนไว้ ทำให้หล่อนเป็นทุกข์ นี่หล่อนควรจะทำยังไงดี ???? (คิดเยอะจังคุณหนู ผมยืนรอคำตอบจากคุณนานเกินไปแล้ว ) “ฉะ ฉัน...งั้นฉันขอถามอะไรนายหน่อย” (เอาสิ ถามมา) “ฉันอยากจะรู้ว่า ทำไมนายถึงอยากจะเข้าไปในนั้น ในห้องทำงานของคุณพ่อ ทั้งๆที่ข้างนอกมีของมีค่าให้โจรอย่างนายเอาไปมากมาย” อีคอนได้ยินคำถามนี้ถึงกับแค่นหัวเราะ เลี่ยงสงสารต่อความไร้เดียงสากับความอ่อนต่อโลกของเมเบลไม่ได้ (ก็เพราะว่าในห้องนั้น มันมีของที่สำคัญและมีค่ากว่านะสิ ไม่น่าถามเลยนะคุณหนู) “แล้วฉันไปเกี่ยว....” (คุณเกี่ยวแน่นอนเมเบล คุณนี่แหละจะเป็นสะพานให้ผมข้ามไป) เที่ยงวันนั้น ในห้องทำงานกว้างใหญ่ อีคอนคาดคะเนไม่ผิด ว่ามันต้องอยู่ชั้นใต้ดิน หลังจากเมเบลโทรมาบอกเรื่องเส้นทาง ช่วงเวลาที่เหมาะต่อการปฏิบัติการ และรหัสเข้าออกของห้อง เขาก็ไม่รอช้าที่จะลงมือทันที เขาเลือกที่จะไม่เปิดไฟ แต่ใช้ไฟฉายแทน พยายามอย่างมากต่อการเคลื่อนไหว ให้มันเชื่องช้าและเบาหวิวที่สุดกังวลว่าหากใจร้อนและรีบมากจนเกินไป จะพลาดไปโดนระบบเลเซอร์ทำงาน กลายเป็นเสียงสัญญาณกันขโมย อีคอนชี้ไฟฉายไปทั่วห้อง พร้อมกับกวาดตามองไปด้วย เวลาที่มีจำกัดบังคับให้เขามองหาแต่มุมที่สำคัญ สิ่งของที่น่าจะเป็น เขาต้องการแค่เอกสารสำคัญบางอย่าง ที่ชี้แนะให้รู้ว่าตัวเองคือใคร ซึ่งมั่นใจในที่แห่งนี้มันต้องมีแน่นอน ครั้งหนึ่งบ้านหลังนี้เคยเป็นของเขา เขาเชื่ออเล็กไม่มีทางปล่อยให้หลักฐานพวกนี้หลุดออกไปได้ เพราะขนาดข่าวการตายของพ่อแม่เขา ยังถูกเขียนให้เป็นอุบัติเหตุเลย ไม่นานสายตาคมกริบเหลือบไปเห็นบางอย่างตรงมุมอับของห้อง ตรงชั้นเหล็กที่มันทั้งเก่ากึกและขึ้นสนิม แถมยังมีกุญแจพร้อมโซ่ขนาดใหญ่คล้องเอาไว้อย่างแน่นหนาด้วย เขาใช้ปากคาบไฟฉาย ขณะใช้ลวดที่นำติดตัวมาไขแม่กุญแจหวังคลายสลัก เมื่อทุกอย่างง่ายดายเหมือนปอกกล้วย ลิ้นชักอันบนสุดก็ถูกดึงออกมาด้วยมือของเขา เขาเลือกที่จะหยิบแฟ้มใกล้มือและสะดวกที่สุด มองฝุ่นหนาเตอะนั้นด้วยท่าทางสบายไม่ใช่ปัญหา ใช้ฝ่ามือลูบมันออก ก่อนจะเปิดดูเนื้อหาข้างใน พบรูปถ่ายมากมายภายในนั้น แน่นอนนี่ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมายืนดู ในนั้นมีเอกสารอีกมากมายที่เขาคงจะหอบไปไม่หมด จำเป็นจะต้องเลือกแค่เอกสารที่คิดว่าสำคัญจริงๆ คงต้องคาดคะเนจากหน้าปกและเนื้อคร่าวๆแค่เปิดอ่านผ่านตาเห็น แต่แล้ว... ติ๊ด! ....เสียงเปิดประตู.... “บ้าจริง!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD