‘บ้าจริง’
อีคอนสบถในใจ หลังได้ยินเสียงประตูห้องลับเปิด หันซ้ายหันขวาหาที่ซ่อน แต่คนตัวใหญ่การจะหลบในซอกระหว่างเสากับตู้ก็คงไม่ได้ เขากัดฟันทำสิ่งที่เสี่ยงต่อชีวิตแค่เสี้ยววินาที โดยการกระโดดขึ้นไปเกาะคานเหล็กที่ยื่นออกมาจากโครงหลังคาเพียงนิดเดียว
ซึ่งตรงนี้ความแข็งแรงของมันมีมากน้อยแค่ไหน เขาเองก็ไม่รู้...
ระดับจากคานห่างพื้นไม่สูงมากนัก แต่ด้วยความมืดที่มากจนต้องพึ่งไฟฉาย จึงช่วยให้เขาปลอดภัยได้มากกว่าปกติ
“ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลยนี่หว่า ไหนลูกพี่บอกว่าได้กลิ่นแปลกๆไงวะ”
ชายหนุ่มภาวนาอย่างยิ่งอย่าให้เหงื่อเม็ดใหญ่ที่กำลังผุดออกมาจากหน้าผากร่วงลงไป เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ได้ถูกสอยร่วงลงมาไม่เป็นท่าแน่
วินาทีนี้บุคคลที่ถูกเขาคาดโทษคงหนีไม่พ้นคนให้ข้อมูล
“ลูกพี่เมาหรือเปล่าวะ ใครมันจะบ้าเข้ามา เข้ามาได้ก็เทพแล้ว สัญญาณกันขโมยเยอะขนาดนี้”
“กูก็ว่างั้น เฮ้ย ไปเถอะ!”
บทสนทนาของคนสองคน สร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นการทำงานระบบเผาผลาญของอีคอนให้ลุ้นระทึกไม่น้อย นี่ถ้าเขาไม่แข็งแรง ไม่ได้ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ มีหวังเวลานานขนาดนี้ กล้ามเนื้อหัวไหล่ได้ฉีกขาดเป็นแน่
ไม่รู้พวกมันโง่หรือว่าเซ่อ ถึงไม่สังเกตเห็นโซ่ตรวนที่หลุดออกไป ไหนจะลิ้นชักที่ถูกเปิดคาเอาไว้อีก
อีคอนรอจนกระทั่งพวกมันไปลาลับ เดินหายออกไปจากห้อง พร้อมปิดประตูกลับมาอย่างเดิมจึงจะกระโดดลงมาเหยียบพื้นอีกครั้ง
“พระเจ้าต้องเข้าข้างกันอย่างนี้สิวะ ถึงจะนับถือกันได้”
เขายกแขนปาดเหงื่อสีหน้าเหยเก พร้อมพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะขบกรามพึมพำถึงใครบางคนทีหลัง
“ยัยคุณหนูตัวแสบ”
ฮัดเช่ย!!
“ลูกป่วยงั้นรึ”
“เปล่าค่ะคุณพ่อ อยู่ดีๆก็คันจมูกขึ้นมา”
“นั่นแหละอาการแรกเริ่มของคนกำลังจะเป็นหวัด”
สาวเจ้าทำหน้าเหยเก ขณะนั่งทานข้าวอยู่กับผู้เป็นพ่อในร้านอาหารประจำ มันไม่ได้ง่ายเลยสำหรับหล่อน หากย้อนเวลากลับไปนึกถึงตอนที่เดินเข้าไปอ้อนอาเล็ก ซึ่งนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องรับแขก
‘คุณพ่อขา...’
‘หืม ว่าไง ยัยตัวดี ทำผิดอะไรมา ทำไมไม่มารายงานพ่อ’
‘มารายงานแล้วนี่ไงคะ...’
หล่อนถือวิสาสะตอนอเล็กกำลังยุ่งเหยิงอยู่กับเอกสารกองโตบนโต๊ะ ย่องเข้าไปโอบรอบคอทางด้านหลัง สลับหอมแก้มซ้ายแก้มขวาไม่เหลือพื้นที่ให้เขาได้ตำหนิ ยามจะอ้าปากว่าก็ยิ้มหวานปานน้ำผึ้งใส่ ทำใจดีสู้เสือทั้งที่ใจกลัวแทบแย่
‘วันนี้มาแปลก จะขออะไรอีกล่ะ ‘
อเล็กละสายตาจากสิ่งที่ทำหันมองเธอ
‘ก็...’ ยิ้มตาหยี หวังอีกฝ่ายใจอ่อน แล้วจึงจะบอกในสิ่งที่ตนต้องการออกไป โดยไม่คิดจะอ้อมค้อมให้เสียเวลา ‘อยากจะควงคุณพ่อไปทานข้าวสักมื้อน่ะค่ะ ‘
‘หืม..’
‘นะคะ คุณพ่อ อย่าปฏิเสธเลย มื้อนี้เมเบลเป็นเจ้ามือเอง ถือว่าไถ่โทษที่เหลวไหลเมื่อคืนนี้ไงคะ’
‘แต่ว่า...’
‘ถ้าคุณพ่อไม่มีประชุม หรือ นัดพบคนสำคัญที่ไหน ช่วงแรกๆ แบบนี้ เมเบลขอเวลาจากคุณพ่อได้ไหมคะ...’
เธอทำหน้าอ้อนให้ดูน่าสงสารที่สุด เป็นเช่นนี้มีหรือคนเป็นพ่อที่รักลูกสาวปานแก้วตาดวงใจ ห่วงใยอย่างกับไข่ในหินอย่างอเล็กจะปฏิเสธลง อเล็กพยักในจังหวะเมเบลกำลังรอลุ้น
‘อืม..ได้ ได้สิ’
‘เย้!!! คุณพ่อใจดีที่สุดเลยค่ะ ‘
‘เลี้ยงข้าวพ่อมื้อเดียว แต่พ่อต้องรูดบัตรให้ลูกอีกแล้วใช่มั้ย ???’
‘หือ ทำไมคุณพ่อรู้?’
‘แหนะ เห็นไหม’
หล่อนยิ้มแป้น
‘รักนะคะคุณพ่อ อีกครึ่งชั่วโมงหนูมาตามนะคะ’
หลังเดินมาจากห้องทำงานใหญ่ ที่ไม่ได้ปกปิดอะไรอย่างห้องลับใต้ดิน เมื่อหล่อนแน่ใจแล้วว่าอเล็กอยู่ในห้องนั้น และไม่มีทางลุกออกไปไหนต่อแน่ เพราะต้องเคลียร์งานเตรียมจะไปตามนัดกับหล่อน จึงใช้โอกาสนี้ปลีกตัวมายังชั้นล่างทันที และไม่วายที่จะสอดส่องให้รอบคอบเสียก่อน ว่าวีนัสไม่ได้อยู่แถวนั้น บวกกับตอนนั้นมันเช้าซะจนทางโล่งจึงเดินได้สะดวก
‘สวัสดีครับคุณหนู มาทำอะไรแถวนี้หรือคับ’
‘คุณพ่อวานให้ฉันมาเอาของน่ะ ในนั้น’
เล่นละครตบตาหน้านิ่งหลังเดินมาถึงที่หมาย พร้อมชี้นิ้วไปตรงห้องลับนั่น
‘ของอะไรหรือครับ? ‘
‘นี่ฉันต้องรายงานนายก่อนงั้นรึไง...’
‘เอ่อ...’
‘เปิดประตูสิ..’
‘แต่ว่า คุณหนูครับ ในนั้น...’
‘ก็ได้ งั้นฉันจะกลับไปบอกคุณพ่อ ว่านายสั่งให้ท่านมาเอาเอง’
เมื่อเห็นว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด หล่อนเลยต้องใช้แผนสำรอง ทำท่าจะเดินออกไปจริง
‘ก็ได้ครับคุณหนู เดี๋ยวผมเปิดให้’
‘ก็..แค่นี้...ไม่เห็นยากตรงไหน’
เธอขึงตาใส่ ก่อนจะเพ่งเล็งไปยังนิ้วมือใหญ่ ที่กดรหัสประตูตรงแป้นคีบอร์ด เพื่อจดจำมันเอาไว้ จนกระทั่งประตูเปิด
‘เชิญครับคุณหนู’
‘ขอบใจจ๊ะ สุดหล่อ....’
ทำทีเข้าไปหาของ แล้วถึงจะออกมาในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อจะส่งข้อความไปยังอีคอน
ก่อนจะหาทางตอบคำถามให้อเล็ก ถึงสาเหตุที่บอดี้การ์ดของหล่อนไม่ได้ตามมาด้วย เป็นขั้นตอนถัดไป ประมาณว่า....
‘ เมเบล ไม่อยากให้คนนอกมาทำลายบรรยากาศของเราสองคนน่ะค่ะ ให้เขาลาหยุดสักวันเถอะนะคะ ‘
“บ่ายนี้ คุณพ่อมีงานด่วนที่ไหนหรือเปล่าคะ”
“มีนัดคุยงานกับลุงนิรันดร์”
“ลุงนิรันดร์ เอ๋...?? คุณพ่อของพี่อาทิตย์”
“ใช่”
“คิดไว้แล้วเชียว พี่อาทิตย์ต้องมาฟ้องคุณพ่อ ไม่งั้นคงไม่นิ่งเฉย รอเมเบลเข้าไปง้อแบบนี้”
“พี่เขาก็ทำถูกต้องแล้วนี่”
อเล็กหัวเราะร่วน มองลูกสาวตัวดีทำหน้ามุ่ยแล้วนึกขัน
“งั้นพาเมเบลไปด้วยได้ไหมคะ เมเบลยังไม่อยากกลับบ้านเลย รู้สึกเบื่อๆยังไงไม่รู้”
หล่อนโกหก อันที่จริงไม่อยากจะเจออีคอนต่างหาก
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”
หล่อนร้องขอ คนตรงหน้ายักไหล่ พลางอนุญาตทันที ทำไมวันนี้ทุกอย่างมันดูเหมือนโชคเข้าข้างอีกฝ่ายไปซะหมดก็ไม่รู้
“พี่อาทิตย์ ตอนเด็กๆ อ่อนแอจะตายไปนะคะคุณพ่อ ไม่น่าเชื่อว่าโตขึ้น จะมาเป็นตำรวจได้”
“หืม....จำได้ด้วยหรือ ว่าแต่เรื่องอะไรไปแซวพี่เขา เด็กคนนี้นี่”
คฤหาสน์หรูไม่ต่างกันเลยกับเมเบล รถคันหรูดำทมิฬวิ่งเข้าจอดเทียบเจ้าของบ้าน ก่อนจะมีการ์ดมากมายออกมารับอเล็กและหล่อน เมเบลเดินเข้าไปอย่างนวยนาด สายตาก็สาดสังเกตไปด้วย ตรงจุดไหนเปลี่ยนไปบ้าง และจุดไหนยังเหมือนเดิมตั้งแต่เธอยังเด็ก
ความสนิทสนมของเมเบลกับผู้กองอาทิตย์ใช่ว่าจะเพิ่งเกิดขึ้น แต่มันมีมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ เลยไม่แปลกที่หล่อนจะถูกตีตราจองหมายหมั้นให้อีกฝ่ายตั้งแต่กำเนิด
“สวัสดีค่ะ คุณลุง”
“หืม... ยัยเมเบลของลุงรึนี่ ให้ตายสิ สวยขึ้นเป็นกองอย่างพี่อาทิตย์เขาบอกจริงๆด้วย”
ทันทีที่เห็นหญิงสาวเจ้าของบ้านก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ยิ้มกว้างอวดฟันเรียงสวย บ่งบอกให้รู้ถึงการดูแลตัวเองอย่างดีทั้งที่อายุเยอะมากแล้ว
“ขอบคุณค่ะคุณลุง คุณลุงสบายดีนะคะ”
“ลุงสบายดี หลานล่ะ อยู่ที่โน่นคงจะเหงามากเลยสิใช่ไหม”
“ค่ะ คิดถึงคุณพ่อมาก ก็เลยกลับมาอยู่ที่นี่ถาวร”
“ดีๆ มาครับคุณอเล็ก เมเบลเชิญนั่ง”
หล่อนยิ้มกว้างมาตั้งแต่ในรถ บัดนี้ก็ยังยิ้มไม่หยุด จนรู้สึกเมื่อยปาก แต่พอจะพักสักหน่อยกลับต้องฉีกยิ้มมากกว่าเดิม เมื่อเห็นใครคนหนึ่งเดินลงมาจากบันไดขณะเงยหน้าขึ้นไปมอง
“อ้าว น้องเมเบลมาด้วยเหรอครับเนี่ย”
“สวัสดีค่ะพี่อาทิตย์” เธอยกมือไหว้
“มาได้แบบนี้ แสดงว่าหายแฮงค์แล้วใช่ไหมครับ...”
“พี่อาทิตย์อ่ะ ถามแบบนี้เมเบลก็เขินแย่สิคะ”
เขายิ้มกว้างปนขำ ก่อนจะหันไปทำความเคารพผู้ใหญ่ทั้งสอง แต่ไม่ทันนั่งก็ถูกใช้งานเสียแล้ว
“อาทิตย์มาพอดีเลย พาน้องไปเดินเล่นสิไป”
“ได้ครับ เชิญครับน้องเมเบล ที่สวนหลังบ้านมีดอกไม้ที่น้องเมเบลน่าจะชอบด้วยนะ ไปดูกันเถอะ”
เมื่อรู้ว่าการทำแบบนี้ของผู้ใหญ่เป็นเพราะพวกเขาจะคุยเรื่องที่สำคัญที่เธอไม่ควรรู้จึงพยักหน้า เดินตามอาทิตย์ออกไปอย่างว่าง่าย