ตอนที่ 46 – สายจากเมืองไทย
เสียงสั่นครืดเบา ๆ ดังขึ้นบนโต๊ะหัวเตียง
ท่ามกลางความเงียบของห้องพักในโรงแรม
คนินที่เพิ่งเอนหลังได้ไม่นานสะดุ้งเล็กน้อย
ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น
แสงหน้าจอโทรศัพท์ของพายณรีย์
กระพริบขึ้นกลางความมืด —
“Tine” ชื่อที่ปรากฏเด่นชัดบนหน้าจอ
แต่สิ่งที่น่าคิดยิ่งกว่าคือ
นี่มันตีสองกว่าแล้ว... ที่เมืองไทย
เสียงสั่นยังคงดังต่อเนื่องไม่หยุด
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์
จากกระเป๋าถือของพายณรีย์อย่างระมัดระวัง
เธอยังคงหลับสนิท
ใบหน้าแดงระเรื่อจากไข้ที่เพิ่งลดลง
>“ถ้าไม่รับ… เขาคงโทรทั้งคืนแน่”
คนินพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนกดรับสาย
>“ฮัลโหลครับ ผมคนินเอง ...
...ต้องขอโทษที่รับสาย
โดยไม่ได้ขออนุญาต..
เจ้าของโทรศัพท์ก่อนนะครับ”
ปลายสายเงียบไปเพียงวินาทีเดียว
แต่ทันทีหลังจากนั้น
เสียงของไทน์ก็ดังขึ้นด้วยโทนร้อนรน
จนแทบกลั้นหายใจ
>“คุณคนินเหรอ!? พี่พายอยู่ไหน.?
ทำไมคุณถึงเป็นคนรับสาย!..?
แล้วตอนนี้พี่ผมอยู่ที่ไหน!”
เสียงนั้นแข็งกร้าว แฝงด้วยความห่วงปนโกรธ
คนินเม้มปากแน่น
เขามองไปที่พายณรีย์ซึ่งยังคงหลับสนิท
เสียงหายใจเบาเป็นจังหวะ
ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียง
ที่พยายามคงความสุภาพที่สุด
>“คุณพายณรีย์ไม่สบายครับ..
มีไข้สูงตั้งแต่เมื่อวาน ตอนนี้เธอกำลังพักผ่อนอยู่
ผมเพียงแค่ช่วยดูแลอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้มีเจตนาอื่น”
>“แล้ว-พี่พายเป็นยังไงบ้าง?..
..คุณแตะต้องพี่ผมไหม?!”
เสียงของไทน์ดังขึ้นทันที
จนคนินต้องยกโทรศัพท์ออกห่างจากหูเล็กน้อย
>“คุณไปอยู่ห้องเดียวกับพี่ผมได้ยังไง!
ผมถามว่า—”
คนินหลับตา สูดลมหายใจลึก
แล้วเอ่ยเสียงเรียบแต่หนักแน่น
>“ถ้าคุณไม่ฟังคำอธิบายผม
ผมคงต้องขออนุญาตวางสาย”
>"ผมเข้าใจว่าคุณเป็นห่วง
แต่เธอต้องการพักผ่อนนะครับ
และตอนนี้เธอไม่มีแรงจะพูดอะไรได้”
อีกฝั่งของสายเงียบไปเพียงครู่เดียว
ก่อนที่เสียงไทน์จะดังขึ้นอีกครั้ง
แต่คราวนี้แผ่วลง ราวกับกลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่
>“ถ้าพี่ตื่น… บอกพี่พายให้โทรกลับผมทีนะครับ”
>“ครับ..ได้ครับ”
คนินตอบสั้น ๆ น้ำเสียงราบเรียบ
ก่อนจะกดวางสายอย่างนุ่มนวล
เขาวางโทรศัพท์กลับลงข้างเตียง
แล้วนั่งนิ่งไปครู่หนึ่ง
แววตาเต็มไปด้วยความครุ่นคิด —
เขาเข้าใจดีว่าไทน์ “หวง” พายขนาดไหน
แต่ความรู้สึกบางอย่างในหัวใจ
กลับเต้นแรงขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
-“ถึงเขาจะไม่อยากให้ผมเข้าใกล้…
แต่ผมก็ถอยไม่ได้อีกแล้ว”
คนินเอื้อมมือไปจัดผ้าห่มให้หญิงสาวอีกครั้ง
ปลายนิ้วสัมผัสผิวอุ่นของเธอเบา ๆ
ก่อนจะผละออก
เขานั่งพิงเก้าอี้ข้างเตียง
ดวงตายังคงมองเธอไม่ละ
หิมะนอกหน้าต่างยังตกพร่างพราว
ในความเงียบนั้น เสียงหัวใจของคนหนึ่งเต้น
ประสานกับลมหายใจของอีกคน —
เงียบงันแต่ชัดเจน
คืนนี้เป็นคืนที่ “คนิน” รู้แน่ชัดว่า
ความผูกพันของเขากับพายณรีย์
ได้ก้าวข้ามเส้นของคำว่า “เพื่อนร่วมงาน”
ไปไกลแล้ว…
___
ตอนที่ 47 — สายจากอดีต
เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง
ในห้องที่มีเพียงแสงจันทร์ลอดผ่านม่านขาว
คนินที่เผลองีบหลับพิงเก้าอี้อยู่ข้างเตียง
ค่อย ๆ ขยับตัวควานหาต้นเสียงโดยไม่ลืมตา
นิ้วเขาแตะหน้าจอและกดรับอย่างอัตโนมัติ
เสียงงัวเงียหลุดออกมาพร้อมลมหายใจแผ่ว
>“ถ้าคุณยังโทรมากวนอยู่แบบนี้
ผมคงต้องปิดเครื่องสักพักแล้วนะครับ…”
เขาคิดว่าเป็น “ไทน์” เหมือนเดิม —
น้องชายที่ดูจะไม่ยอมวางใจแม้แต่วินาทีเดียว
แต่ทันทีที่เสียงอีกฝั่งดังขึ้น…
>“เอ่อ ผมขอโทษครับ ...
รู้ว่ารบกวนตอนดึก…
แต่ไม่คิดว่าพายณรีย์จะไม่รับสายเอง”
น้ำเสียงนั้นนุ่ม สุภาพ
แต่แฝงแววความคุ้นเคยจนหัวใจคนินสะดุด
เขาลืมตาขึ้นมาทันที มองหน้าจอที่สว่างขึ้น
— ตัวอักษรที่ปรากฏอยู่ชัดเจน
“Narita.”
คนินชะงัก!!
ชื่อที่เมื่อวานเขาเห็นพายณรีย์แทบหลบตา
ชื่อที่ทำให้แววตาเธอเต็มไปด้วยความลังเล
และเศร้าในเวลาเดียวกัน
ในเสี้ยววินาทีนั้น
ความง่วงงุนทั้งหมดมลายหาย
เขาปรับน้ำเสียงให้ราบเรียบ
แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยแรงสะเทือน
>“คุณนาริตะเหรอครับ..?”
>“ใช่ครับ ผมเอง… แล้วคุณเป็นใคร ..?
ทำไมถึงรับสายพายได้?”
คนินเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะตอบเสียงหนักแน่น
>“ผมคนิน เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอ ..
ตอนนี้คุณพายณรีย์ไม่สบาย ..และพักผ่อนอยู่
ขอความกรุณาคุณ ..
ติดต่อเฉพาะเรื่องงานเท่านั้นครับ”
>“เธอไม่สบายเหรอ…”
เสียงของนาริตะแผ่วลงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยต่อ
> “เออ..ครับ..ผมแค่อยากโทรมาคุยกับเธอ”
>“ตอนนี้เธอต้องการพัก ไม่ใช่เวลาทำงาน
และไม่ใช่เวลาที่เธอ...
อยากคุยกับใครบางคนจากอดีต”
คนินตอบเรียบ ๆ
น้ำเสียงนิ่งจนแทบเย็นชา
แต่ทุกถ้อยคำมีแรงกดอารมณ์ชัดเจน
ปลายสายเงียบไป —
มีเพียงเสียงหายใจของทั้งคู่
ที่แผ่วสลับกันในความเงียบ
จนในที่สุด นาริตะก็พูดเพียงสั้น ๆ
>“งั้น..ผม..ฝากดูแลเธอด้วยก็แล้วกัน”
>“ผมกำลังทำอยู่ครับ”
คำตอบนั้นหลุดจากปากโดยไม่ต้องคิด
เมื่อสายตัดไป
ความเงียบกลับเข้ามาครอบห้องอีกครั้ง
คนินมองโทรศัพท์ในมือ
ก่อนวางมันลงข้างเตียงเบา ๆ
สายตาเขาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของหญิงสาว
ที่ยังหลับสนิทอยู่บนเตียง
ผมกำลังทำอยู่…
คำพูดเมื่อครู่ยังสะท้อนอยู่ในหัว —
มันไม่ใช่คำตอบแบบ “เพื่อนร่วมงาน”
อีกต่อไปแล้ว
เขายกผ้าห่มขึ้นคลุมให้เธออีกครั้ง
ก่อนจะนั่งพิงเก้าอี้ เงยหน้ามองเพดาน
แล้วหลับตาแน่น —
พยายามกลั้นไม่ให้ความรู้สึกในใจ
มันชัดเจนเกินไปกว่านี้
คืนนี้ “คนิน” รู้แน่แล้วว่า
ความห่วงใยที่เขามีต่อพายณรีย์ ไม่ใช่แค่หน้าที่…
แต่มันคือ “ความรัก”
ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างช้า ๆ
และไม่อาจห้ามได้อีกต่อไป