ตอนที่ 3 : แก๊งนางฟ้า
"จะไม่คุยกันแล้วค่ะ...จะไม่คุยกันแล้วค่ะ...จะไม่คุยกันแล้วค่ะ"
เสียงของสาวทั้งสี่คนประสานเสียงกันพูดประโยคเดิมรอบอาคารคณะวิศวะ ทั้งสี่คนจับมือและเดินไปพร้อมกันไม่ให้มือหลุดออกจากกันอีกทั้งยังประสานเสียงตามคำสั่งของรุ่นพี่ปีสี่ ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่ให้ความสนใจและหัวเราะขำขัน ยกเว้นแต่คนที่ออกคำสั่งยังคงจ้องมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง และเฉยชาไร้ความรู้สึก
"เล่นเด็กใหม่ตั้งแต่วันแรก สมกับเป็นมึงจริง ๆ ไอ้ดีเซล" โอโซนกระตุกยิ้มมุมปาก
"พวกท้าทายระบบ แค่นี้ยังน้อยไป แค่สั่งสอนเบาะ ๆ" ดีเซลพูดเสียงเรียบนิ่งจ้องมองรุ่นน้องปีหนึ่งไม่วางตา จนทั้งสี่คนเดินกลับเข้ามารวมกับเพื่อนที่นั่งอยู่ สายตาคมกริบจ้องมองป้ายชื่อของทั้งสี่คนเพียงนิดและเงยมามองใบหน้าของทุกคนด้วยสายตาเรียบนิ่ง
"พวกเราทำตามคำสั่งรุ่นพี่แล้วค่ะ" ต้นหลิวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงหอบเหนื่อย ถึงแม้จะเป็นการเดินแต่ก็ใช้พลังทุกส่วน
"นี่แค่น้ำจิ้มนะครับน้อง ถ้าเกิดยังชวนกันคุยอีกคนไม่ใช่แค่นี้" พอร์ชพูดเตือน สายตาคมจ้องมองรุ่นน้องไม่วางตา
"เรากลับไปนั่งได้แล้วใช่ไหมคะ" ชิลินเอ่ยถามสายตาของเธอส่งตรงไปยังคนที่ออกคำสั่งก่อนหน้านี้นั่นคือพี่ดีเซล
"อืม"
เพียงแค่เสียงตอบรับในลำคอทำให้สาว ๆ ทั้งสี่คนเดินกลับไปนั่งที่เดิม
"ทำตัวเด่น ทำตัวให้รุ่นพี่ทำโทษเพราะอยากอ่อยหรือเปล่า"
ชิลินหันมองตามเสียงนินทาที่ดังพอทำให้พวกเธอได้ยิน ดวงตากลมโตจ้องมองเจ้าของคำพูดด้วยสายตาไม่พอใจ
"ก็ยังดีที่มีคนสนใจ ดีกว่าไม่มีใครสนใจแต่อิจฉาไปทั่ว" ชิลินกัดฟันแน่นและพูดแดกดันไปก่อนจะลอยหน้าลอยตาเยาะเย้ย
"เสียเวลากับเรื่องไร้สาระไปมากแล้ว งั้นมาเริ่มพูดคุยและนัดหมายกิจกรรมต่าง ๆ ต่อ หวังว่าจะไม่มีพวกปากเปราะทำให้เสียเวลาอีก" ฟินิกซ์ทำลายความเงียบและส่งหน้าที่พูดแนะนำน้อง ๆ ให้กับปีสามที่จะเป็นฝ่ายจัดการอธิบายในส่วนนี้
เพราะพวกเขาปีสี่จะทำกิจกรรมเป็นหลัก ไม่ชอบอธิบายหลักการ
ช่วงเที่ยง
กว่าจะฟังกิจกรรมและการนัดหมายของรุ่นพี่จบก็กินเวลามาถึงช่วงเที่ยง ทำให้ทุกคนแยกย้ายกันไปกินข้าว รวมถึงกลุ่มของชิลินที่พากันมากินข้าวที่โรงอาหารของคณะวิศวะ
และแน่นอนว่าการเดินมากินข้าวในคณะที่ผู้ชายมากกว่าผู้หญิงย่อมเป็นที่สนใจด้วยที่ทั้งสี่คนหน้าตาดีกันยกแก๊ง จนถูกขนานนามว่า 'แก๊งนางฟ้า'
ชิลินเห็นโต๊ะว่างเลยเดินดุ่ม ๆ พร้อมเพื่อนสาวเพื่อจะไปจองที่ กระเป๋าผ้าของชิลินวางลงเพื่อจองโต๊ะ และเป็นจังหวะเดียวกันที่โต๊ะที่เธอหมายปองถูกคนอีกกลุ่มเข้ามาพร้อมกับดันกระเป๋าเธอออกก่อนจะวางกระเป๋าตัวเองแทนที่
ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่แก๊งผู้หญิงที่ดูโตกว่า ถ้าจำไม่ผิดต้องเป็นแก๊งรุ่นพี่ปีสามที่แจ้งกิจกรรมตอนอยู่ใต้อาคารก่อนหน้านี้ และไม่ต้องคาดเดาก็รู้ว่าสายตาแบบนี้คงไม่พอใจพวกเธอ ไม่ใช่แค่เรื่องโต๊ะกินข้าวแต่คงเป็นเรื่องที่โดนรุ่นพี่ปีสี่ให้ความสนใจ
เหอะ...รู้สึกเหมือนการถูกทำโทษในครั้งนี้จะมีคนเกลียดเพิ่มขึ้นเลยเนอะ
"พี่จองโต๊ะนี้ค่ะน้อง และเป็นโต๊ะประจำพวกพี่"
"ไหนคะ เขียนชื่อไว้เหรอว่าเป็นโต๊ะของพวกพี่"
"มาใหม่ก็ควรรู้มารยาทคนเก่าค่ะ ไม่ใช่ทำเก่ง ปากดี อยากเรียนที่นี่แบบสงบก็ควรหุบปาก" รุ่นพี่ปีสามอีกคนพูดออกมาพร้อมกับสายตาหยามเหยียดอย่างเปิดเผย
ใช่ว่าคนอย่างชิลินจะกลัว มองมามองกลับ เพราะเธอไม่ผิด และไม่มีอะไรบ่งบอกว่ารุ่นพี่จองโต๊ะนี้ อีกอย่างเธอก็วางกระเป๋าก่อน แต่คนไร้มารยาทกลุ่มนี้ดันกระเป๋าเธอออก
"แล้วทำไมคนเก่าคนแก่! ถึงไม่เรียนรู้มารยาทบ้างคะ พวกเราวางกระเป๋าก่อน ถ้าอยากนั่งโต๊ะตัวเองก็ซื้อโต๊ะมาเองค่ะ เขียนชื่อติดไว้ ขึงเชือกไว้เลย แล้วเขียนว่าโต๊ะหมาดุ"
"นี่ มันจะมากไปแล้วนะ พวกฉันเป็นรุ่นพี่เธอนะ"
"แล้วยังไง ถ้ามีรุ่นพี่แบบนี้ก็ไม่เคารพเหมือนกัน" ชิลินต่อปากต่อคำแบบไม่มีความเกรงกลัว ทำให้คนทั้งโรงอาหารเริ่มให้ความสนใจ
"ชั่งเถอะชิลิน โต๊ะอื่นก็ได้ ไม่อยากมีปัญหา"
"ไม่จำเป็นระรินในเมื่อฉันวางกระเป๋าก่อน พวกเราก็ควรได้นั่งโต๊ะนี้" ชิลินหันมาพูดกับเพื่อนสาว ต่อให้จะถูกดึงแขนให้ไปหาโต๊ะอื่นนั่งแต่เธอไม่ยอม
"คันไม้คันมืออยากตบเด็กปีหนึ่งปากดีเหมือนกัน"
"มาดิ ตบมาตบกลับ มีมือมีตีนเหมือนกัน" ชิลินง้างมือจะตบเช่นกัน เพราะคนตรงหน้าง้างมือก่อน
แต่แล้วมีเสียงตะโกนเข้ามาด้วยน้ำเสียงดุดันและน่าเกรงขามทำให้ทุกคนหันไปมอง
"มีเรื่องอะไรกัน!"
ดีเซลและแก๊งเพื่อนเดินเข้ามายืนตรงกลางระหว่างรุ่นน้องทั้งสองปี สายตาคมตวัดมองรุ่นน้องปีสาม และไม่ลืมที่จะหันมองรุ่นน้องปีหนึ่งกลุ่มเดิมที่เพิ่งถูกลงโทษไปก่อนหน้านี้
"กูถามว่ามีเรื่องอะไรกัน" ดีเซลตวาดอีกครั้งด้วยคำหยาบคาย
"รุ่นน้องมาแย่งที่พวกเราค่ะพี่ดีเซล และจ้องหาเรื่องพวกเราก่อน เราแค่บอกดี ๆ ว่าตรงนี้ที่นั่งของพวกพี่ น้องชิลินเลยไม่พอใจและจะตบค่ะ"
"ตอแหล" ชิลินสวนกลับทันควันเต็มปากเต็มคำในคำพูดตัวเอง ไม่แปลกที่คนตรงหน้าจะรู้จักชื่อเธอเพราะป้ายชื่อยังคล้องอยู่ที่คอ แต่คำพูดที่ฟ้องนั้นไม่ใช่เรื่องจริงเลยเหมาะสมกับคำที่เธอด่า
"อีนี่ กล้าด่ากูเหรอ"
"เออจะทำไม พวกเราวางกระเป๋าก่อน มีแต่พวกพี่นั่นแหละที่มาดันกระเป๋าพวกเราออก และทำตัวเป็นผีหวงหลุมศพ ไหนหลักฐานที่บอกว่านี่โต๊ะของตัวเอง"
"ไม่ต้องเขียนชื่อใคร ๆ ก็รู้ว่านี่คือโต๊ะฉัน"
"พอ" ดีเซลห้ามปรามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์จ้องมองทั้งสองคนด้วยสายตาเรียบนิ่ง
"ไปเหอะชิลิน โต๊ะอื่นก็ได้" ต้นหลิวพยายามดึงเพื่อนสาวเพราะไม่อยากมีเรื่อง แค่วันแรกก็ก่อม็อบแล้ว
"ไม่ ฉันจะนั่งตรงนี้ ในเมื่อเรามาถึงโต๊ะนี้ก่อนก็ต้องได้นั่ง"
"หุบปาก" ดีเซลชี้หน้าเด็กสาวอย่างเหลืออด
"ขอโทษรุ่นพี่ซะ แล้วไปหาโต๊ะอื่นนั่ง ที่นี่เรื่องชั้นปีเป็นใหญ่ ต่อให้จะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร พ่อแม่ใหญ่แค่ไหนไม่มีใครสนใจ แต่เคารพกันด้วยชั้นปีที่เรียน" โอโซนบอกกับรุ่นน้องที่เหมือนจะทำกร่างไม่เคารพรุ่นพี่
รุ่นพี่สาวปีสามยิ้มได้ใจ และเชิดหน้าด้วยความมั่น กอดอกรอรับคำขอโทษจากเด็กปากดี
"ไม่"
"อย่ามาขัดคำสั่งพวกฉัน" น้ำเสียงเข้มตวาดใส่และจ้องมองเจ้าของคำพูดตาเขม็งที่ดูไม่สลดและไม่สะทกสะท้านอะไรเลย เพิ่งเคยเจอคนที่ไม่กลัวใครแถมยังกล้าสู้สายตาเขาอีก
"ก็มันจริงนิคะ ทำไมต้องขอโทษ พวกเราไม่ผิด แล้วคนพวกนี้ก็มาหาเรื่องเราก่อน พูดจาไม่ดีใส่พวกเราก่อน จะให้ขอโทษทั้งที่ตัวเองไม่ผิดเหรอคะ"
ฟีนิกซ์ยกยิ้มมุมปากชอบใจกับการต่อปากต่อคำของเด็กปีหนึ่งที่ชื่อชิลิน แต่เป็นเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะกลับมาทำหน้านิ่งเหมือนเดิม