ตอนที่ 5 : บังคับให้พูดเอง…ช่วยไม่ได้
ติ้ด ติ้ด ติ้ดดดด...
เสียงนาฬิกาปลุกดังกังวานไปทั่วห้อง ปลุกให้หญิงสาวตัวเล็กรู้สึกตัวตื่นสำหรับเช้าวันใหม่ที่ต้องไปมหา'ลัย สายตาที่สะลึมสะลือมองหาโทรศัพท์คู่ใจก่อนจะกดปิดเสียงเพื่อให้ภายในห้องกลับมาอยู่ในความสงบอีกครั้ง และดันตัวเองลุกขึ้นนั่งด้วยสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้ามีรอยยับจากการนอนทับ ร่างกายยังไม่ตื่นเต็มที่ โอนเอนไปมาและสัปหงกอยู่หลายครั้ง
ชิลินสะบัดหัวไปมาทำให้ผมยาวสลวยปลิวไปตามการเคลื่อนไหว และใช้มือเรียวเล็กทั้งสองข้างตบแก้มตัวเองเบา ๆ เพื่อให้ตัวเองตื่น
ร่างเล็กลุกไปเข้าห้องน้ำด้วยสภาพงัวเงียยังคงสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ต่อให้ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ก็หลับเป็นตายเพราะเมื่อวานเหนื่อยมาก
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป...
มือเรียวเล็กกดลิฟต์และยืนรอเพื่อให้ลิฟต์มาหยุดที่ชั้นของเธอ หลังจากจัดการตัวเองเสร็จก็รีบออกจากห้องทันที ด้วยที่ต้องรอรถสองแถวไปมหา'ลัยจำเป็นต้องเผื่อเวลาไว้พอสมควร และก็ไม่ลืมที่จะหยิบกางเกงวอร์มและเสื้อยืดสีดำตามคำสั่งของรุ่นพี่ใส่กระเป๋าไปด้วย
ดวงตากลมโตมองตัวเลขของลิฟต์ที่นับถอยหลังจากชั้นบนสุดสู่ชั้นล่างสุด และไม่นานลิฟต์ก็เคลื่อนมาหยุดที่ชั้นของเธอ ทำให้ประตูลิฟต์เปิดออกเพื่อให้เธอเดินเข้าไป แต่แล้วก็ต้องชะงักไปเมื่อเจอคนที่คุ้นตา ถึงแม้จะเจอเขาเมื่อวานแต่เจอกันบ่อยเหมือนรู้จักกันมาเป็นปี
ติ๊ง...
สายตาคมกริบจ้องมองคนที่ยืนอยู่นอกลิฟต์ ไม่คิดว่าจะเป็นรุ่นน้องคณะตัวเอง
"จะเข้าหรือไม่เข้า ยืนบื้ออยู่ได้"
"เข้าค่ะ" น้ำเสียงที่แดกดันดึงสติให้เธอเดินเข้าลิฟต์ และไม่จำเป็นต้องกดเลขเพราะพี่ดีเซลกดไว้ตั้งแต่แรกแล้วความรู้สึกแตกต่างจากเมื่อเย็นวานนี้ เพราะตอนนี้ไม่มีผู้หญิงคนนั้นอยู่เคียงข้างรุ่นพี่ ทำให้ในลิฟต์มีเพียงเราสองคน ได้แต่ภาวนาให้มีคนกดลิฟต์เพื่อเข้ามาให้คลายความอึดอัด เพราะตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองจากทางด้านหลังตลอดเวลา
ดีเซลใช้สายตาสำรวจรุ่นน้องปีหนึ่งตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนจะพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"หวังว่าจะหุบปากเรื่องของฉัน"
"คะ? ว่าอะไรนะคะชิลินไม่ทันได้ฟัง" ด้วยที่อยู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาทำให้เหมือนได้ยินเสียงแว่วเข้ามาจนต้องเอี้ยวหน้าไปหาคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
"รู้อะไร เห็นอะไร ปิดปาก อุดให้สนิท และเธอควรรู้ไว้ว่าฉันไม่ใช่คนใจดี"
ชิลินมองใบหน้าคมคายของรุ่นพี่ปีสี่อยู่ชั่ววินาทีก่อนจะหันกลับมา
"คนเขาเห็นกันหมด"
ติ๊ง
ทันทีที่ชิลินพูดจบประตูลิฟต์ก็เปิดทันทีเมื่อมาถึงชั้นล่างสุดของคอนโด ไม่ต้องรอให้ใครตัดริบบิ้นชิลินรีบสาวเท้าเดินออกมาอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่หันไปมองคนด้านหลังอีก
"ก่อนจะมาสั่งคนอื่น ทำตัวเองให้ดีก่อนเถอะ เดินเข้าคอนโดมาด้วยกันขนาดนั้นคนอื่นก็ต้องเห็นอยู่แล้ว มุ่งเป้ามาที่ชิลินคนเดียวได้ยังไงกัน"
ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยอาการหงุดหงิดตั้งแต่เช้า ทำไมการเจอพี่ดีเซลต้องเป็นช่วงเช้าที่กำลังอารมณ์ดีตลอด เมื่อวานก็เจอเขาแถมยังโดนด่า วันนี้ก็โดนออกคำสั่งและถูกเพ่งเล็ง ทั้งที่เขานั่นแหละทำตัวเอง
"ก็แค่มีแฟนคนเดียวมันยากหรือไง รักเดียวใจเดียวสิคะจะได้ไม่ต้องระแวง" ชิลินพึมพำคนเดียวแดกดันรุ่นพี่ระหว่างที่ยืนรอรถสองแถวที่จะมาจอดบริเวณป้ายรถประจำทางใกล้กับคอนโด
มหา'ลัย
ใต้อาคารเรียนคณะวิศวะ
นักศึกษาปีหนึ่งทุกคนถูกสั่งให้เปลี่ยนเสื้อผ้าและมานั่งรอกันจุดเดิมเหมือนเมื่อวานนี้ และต้องคล้องป้ายชื่อเล่นไว้ห้ามหายและห้ามลืมเอามา ทุกคนมานั่งกันเป็นระเบียบเพื่อรอคำสั่งจากรุ่นพี่
"คุยอะไรกัน" เสียงคำรามดุดันดังลั่นจนทำให้พื้นที่โดยรอบเงียบสนิท
แก๊งรุ่นพี่ปีสี่นำทีมโดยพี่ดีเซลเดินมาอยู่ด้านหน้าของรุ่นน้องและจ้องมองทุกคนด้วยแววตาเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยรังสีอำมหิตจนไม่มีใครกล้าสู้สายตา
"กูถามว่าคุยอะไรกัน"
"....." ทุกคนนิ่งเงียบไม่มีใครกล้าตอบ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่อยากโดนทำโทษ
"ที่แบบนี้ล่ะไม่แหกปากพูด พอกูถามกลับเงียบ" ดีเซลตวาดเสียงดังกังวาน สายตาคมกริบปรายตามองทุกคนแบบไม่ลดละ และมาหยุดอยู่ที่รุ่นน้องผมสีน้ำตาลคาราเมลที่จ้องมองมาไม่ได้หลบหน้าเหมือนคนอื่น
"มีอะไรจะพูดไหม"
ชิลินรับรู้ถึงสายตาที่จับจ้องและคิ้วหนาเลิกขึ้นหนึ่งข้างเป็นเชิงคำถามที่กวนตีนมากกว่า ทำให้เธอยอมก้มหน้าก้มตาเหมือนคนอื่น ก็บอกแล้วว่าเธอไม่ได้กลัวกับแค่น้ำเสียงแค่นี้ เคยเห็นมากกว่านี้มาแล้วจากครอบครัวตัวเอง
"ทำไมพี่ดีเซลเพ่งเล็งแต่แก"
"ฉันสวยมั้ง" ชิลินตอบกลับแบบกระซิบกระซาบ
"แต่ดูสายตาพี่ดีเซลไม่ได้ชื่นชมหรือจีบแกเลยนะ เหมือนจะฆ่าแกมากกว่า" ต้นหลิวแซวเพื่อนต่อ
ชิลินมองตาขวางใส่เพื่อนแบบเล่น ๆ เหมือนเพื่อนกำลังบอกกลาย ๆ ว่าเธอไม่ได้สวยจนพี่ดีเซลอยากจีบ แต่เธอก็ไม่ต้องการให้รุ่นพี่คนนั้นจีบเธออยู่แล้ว เจอกันแค่สองวันก็รู้สึกขยาดไม่อยากรู้จักเลยสักนิด
...ใครได้พี่ดีเซลเป็นพี่รหัสคงซวยตลอดทั้งเทอม
"ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าต้องมีพี่รหัส แต่ถ้าจะให้บอกว่าใครเป็นพี่รหัสคงไม่สนุก ทุกคนต้องตามหาพี่รหัสเอาเองจากการสอบถามหรือจากการกระทำจากรุ่นพี่บางคนที่ดูแลเราเป็นพิเศษ คนคนนั้นอาจจะเป็นพี่รหัสของเราก็ได้ แล้ววันสุดท้ายของการรับน้องค่อยออกมาบอกว่าใครคือพี่รหัส ใครตอบถูกก็โชคดีไป แต่ถ้าใครตอบผิด...ก็อยู่ที่ว่าพี่รหัสตัวเองจะทำโทษยังไง"
เสียงของรุ่นพี่ที่เป็นตัวแทนบอกกล่าวน้อง ๆ ปีหนึ่ง
"ไม่มีทางเป็นอีตาพี่ดีเซลแน่ รายนั้นไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย เรื่องดูแลเป็นพิเศษตัดทิ้งไปได้เลย" ชิลินก้มหน้าพึมพำแต่พูดให้เพื่อนอีกสามคนได้ยิน
ทุกคนพากันหัวเราะคิกคักเบา ๆ ดูเหมือนชิลินกับพี่ดีเซลจะไม่ชอบขี้หน้ากันมาก ๆ ถึงขั้นไม่อยากสนิทกันแม้แต่นิดเดียว
"พี่เขาไปทำอะไรให้แก"
"วันแรกก็เกือบขับรถชนฉัน จงใจชัด ๆ แถมวันนี้ก็...ช่างเหอะ ไม่อยากพูดถึง"
ทุกคนต่างรอฟังแต่พอชิลินตัดบทเสียดื้อ ๆ ก็พากันกลอกตามองบนและอารมณ์เสียที่อุตส่าห์ตั้งใจฟัง
"ชิลินคุยอะไร" เสียงเข้มตวาดเสียงดังลั่นแทรกการพูดของคนที่กำลังพูดอยู่หน้าแถว สายตาคมกริบจ้องมองรุ่นน้องไม่วางตา
ฟีนิกซ์ยกยิ้มมุมปากที่เห็นเพื่อนจ้องจับผิดแต่เด็กคนนี้ แต่มันก็สมควรดูจะก๋ากั่นไม่เบา
"ซวยแล้วชิลิน ชื่อแกพี่เขาคงจำได้แม่น" พราวสะกิดเพื่อน
"....." ชิลินไม่ได้ตอบแต่ก้มหน้าก้มตาเหมือนคนกลัว ทำเหมือนสลดกับน้ำเสียงที่ดุดันนั้น
"กูถามว่าคุยอะไร!"
ทุกคนสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงที่เน้นหนักกว่าเดิม นั่นแปลว่าคนที่ถามต้องการคำตอบมากกว่าการเงียบ ทำให้ชิลินเงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับรุ่นพี่ทุกคนก่อนจะจดจ้องมองพี่ดีเซล
"ลุกขึ้นและบอกว่าคุยอะไร" พอร์ชพูดเสริมด้วยน้ำเสียงดุดันเช่นกัน ไม่มีใครเล่นเพราะต้องการให้รุ่นน้องหวาดกลัว
ชิลินยอมลุกขึ้นทำให้ยืนอยู่ท่ามกลางสายตาของทุกคน เธอเม้มปากเข้าหากันแน่นและจ้องมองสายตาของพี่ปีสี่ที่มองตรงมาที่เธอกันหมด
"เงียบทำไม ไม่พูดออกมาวะ!" ดีเซลเริ่มโมโหที่รุ่นน้องยืนนิ่งแถมไม่ยอมพูด
"ถ้าพี่อยากรู้ก็ได้ค่ะชิลินจะพูดให้ฟัง เมื่อวานพวกเราเจอพี่ดีเซลที่ตลาดกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่พอชิลินกลับไปที่คอนโดดันเจอผู้หญิงอีกคนหนึ่งไม่ใช่คนเดิม"
"หึ" โอโซนเผลอหัวเราะออกมา
"ฉันสั่งให้เธอหุบปากไม่ใช่เหรอ" ดีเซลเดินตรงมาที่ชิลินและพูดด้วยน้ำเสียงโมโห
"ก็พี่บังคับให้ชิลินพูดเองนิ่ ตอนแรกชิลินจะไม่พูดแต่พี่นั่นแหละอยากรู้" ดวงตากลมโตมองพี่ดีเซลตาแป๋วแบบเด็กน้อยไร้เดียงสา แต่ลึก ๆ สะใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะโกหกว่าพูดเรื่องนี้ก็เถอะ
พราว ระริน และต้นหลิวมองหน้ากันเลิ่กลั่กเพราะชิลินไม่ได้คุยเรื่องนี้ แต่ยังทำนิ่งก้มหน้าก้มตา และที่แปลกใจคือชิลินกับพี่ดีเซลอยู่คอนโดเดียวกัน
"แสบใช่เล่น...ชิลินชื่อนี้ไอ้ดีเซลคงจำฝังใจ" ฟีนิกซ์ส่ายหัวเบา ๆ แต่เผลอยิ้มออกมาเมื่อเด็กสาวปีหนึ่งทำให้ดีเซลเสียอาการจนเลือดขึ้นหน้า
"นั่งลง" ดีเซลตวาดเสียงดังลั่นเพราะไม่รู้จะทำยังไงต่อก่อนจะเดินไปที่กลุ่มเพื่อน เขาเป็นคนสั่งให้เธอห้ามบอกใครเรื่องเมื่อวานและเขาก็เป็นคนบังคับให้เธอพูดเอง แต่เธอไม่ควรปากสว่างพูดกับเพื่อน เดี๋ยวจะเอาคืนให้สาสม...ชิลิน
"ขอบคุณค่ะ"