เมรินทร์ได้แต่นั่งก้มหน้าอ่านเอกสารในมือต่ออย่างเงียบๆ เธอเองไม่อยากจะมีเรื่องกับคนตรงหน้าซักเท่าไหร่หรอกนะ
พายุลุกออกจากเก้าอี้ และเดินอ้อมมาด้านหลังที่ร่างบางนั่งอยู่ คนตัวเล็กไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เธอยังคงนั่งก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่อย่างนั้น พายุสังเกตุท่าทีของเมรินทร์ที่ดูเหมือนว่าเธอจะกลัวเขาอยู่ไม่น้อย
ดูเธอจะกลัวเขามากขนาดนั้นเชียวหรือ เขาชอบมองเวลาที่เธอนั่งนิ่งๆ ไม่เถียงเขาแบบนี้แหละ คนแอบมองถึงกับเผลอหลุดยิ้มออกมาที่มุมปากหนาอย่างคนอารมณ์ดี เมรินทร์นั้นสวยหวานจับใจ นี้ขนาดเธอไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอาง เธอยังดึงดูดเขาได้มากขนาดนี้
พายุจึงหันหลังพิงเข้ากับขอบโต๊ะทำงานของตน และจ้องมองใบหน้าหวานของเมรินทร์ อยู่เช่นนั้น
เมื่อเห็นว่าร่างสูงเข้ามาใกล้เธอเช่นนี้ คนที่กำลังนั่งอ่านสัญญาถึงกับตกใจ ฉันไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาใกล้ถึงเพียงนี้ เมรินทร์ลุกขึ้นยืน
!!ปรึก!! ร่างสูงกับเตะเก้าอี้ออกห่างจากโต๊ะ คนชั่งแกล้งหันมายืนซ่อนด้านหลังของคนตัวเล็กเอาไว้ มันเร็วมาก เมรินทร์จึงหันหลังกลับแต่กลับโดนพายุนั้นดักเอาไว้ ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ร่างสูงยิ่งยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันยิ่งกว่าเดิม คนตัวเล็กที่เห็นแบบนั้นถึงกับตาเบิกกว้าง
เมรินทร์จึงถอยหลังจนแผ่นหลังบางชิดกับขอบโต๊ะทำงานของพายุ ส่วนพายุเองก็ยื่นหน้าเข้ามาเช่นเดิม
!! ตึก ตึก !! เสียงใจเต้นรัวๆ ราวกับกลองชุด
ฉันไม่เคยเข้าใกล้ผู้ชายคนไหนมากขนาดนี้ นอกเสียจากบิดาและน้องชายของเธอ พายุยื่นแขนทั้งสองข้างมา ค่อมที่โต๊ะทำงานของตนเอาไว้
" คุณ... " เมรินทร์ ไม่พอใจที่เขาเข้ามาใกล้เธอ มันดูไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย ขั้นจะขยับออกก็ไม่ได้เพราะตอนนี้ พายุเองก็ขยับเอาตัวตามมา เมรินทร์อยากจะออกไปจากตรงนี้เสียให้ได้
พายุ แกล้งยื่นหน้าเข้ามา หมายจะจูบ คนตัวเล็กร่างบางรู้สึกอายจนหน้าแดง คนตัวเล็กได้แต่หายใจหอบถี่ขึ้นมาเรื่อยๆ
ยิ่งเห็นร่างบางกลัวคนขี้แกล้งยิ่งอยากเข้าหาเธอ พายุแบนหน้ามาพูดใกล้ๆแทบจะแนบชิดใบหูของคนตัวเล็ก
เมรินทร์ถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาทันที มันไม่ควรจะเป็นเช่นนี้
" เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ สำหรับข้อตกลงของเรา " คนเจ้าเล่ห์ยังคงถามฉันมาพร้อมกับจ้องใบหน้าหวานอย่างไม่ยอมละสายตา แบบนี้อันตรายชะมัดบ้าจริงเลยผู้ชายคนนี้
เมรินทร์พยายามจะเอาตัวรอดออกจากตรงนี้ให้ได้ แต่ติดตรงร่างสูงนี้แหละที่เอาแขนมาค่อมตัวฉันไว้
" ฉัน...เข้าใจ แล้วคะ " ฉันตอบเขาไม่เต็มเสียง และเผลอสบตากับคนตัวโตที่ตอนนี้ เขาหลุดเผลอยิ้มมาให้กับฉัน นี้ฉันตาฝาดไปหรือเปล่าที่เห็นคนหน้าดู่นั้นยิ้มให้ ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะตั้งแต่ฉันเจอหน้าเขา ฉันเองไม่เคยเห็นเขายิ้มให้เลยซักครั้ง ปกติเห็นชอบทำหน้าเข้มๆ ดู่ๆตามฉบับเจ้าพ่อ
" งั้นวันนี้ คุณไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานของผมในคืนนี้ละกัน " พายุบอกกับคนตัวเล็ก พร้อมกับยอมปล่อยคนตรงหน้าให้เป็นอิสระ จากนั้นรางสูงก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม
" คืนนี้เลยเหรอ" ร่างบางถามเขามาอย่างตาโต คืองานอะไรกัน ทำไมเธอต้องทำคืนนี้ด้วย เมรินทร์ถึงกับคิดหนัก
" ใช่...คืนนี้ เราจะเริ่มงานกัน หรือคุณมีปัญหาอะไร หรือเปล่า "
" เปล่าฉัน... ไม่มีปัญหา..."
" ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ แค่นี้แหละ คุณกลับไปได้แล้ว ถึงเวลาเดี๋ยวผมจะให้แม่บ้านไปเรียกคุณละกัน " เมื่อเสร็จธุระเมรินทร์ก็กลับเข้ามาที่ห้องพักของตน
ร่างบางถึงกับคิดหนัก เขาจะให้เธอทำงานอะไรกันแน่ หรือเขาจะเอาเธอไปเป็นนางบำเรอขัดดอกเหมือนในละคร ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เธอต้องแย่แน่ๆ คนคิดมากเริ่มกระวนกระวาย ใจเต้นตุบตับ ตุบตับ ขึ้นมา จนทำอะไรไม่ถูก
เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เรื่องแบบนี้ ใครเขาจะพร้อมกัน แค่คิดฉันก็ขนลุกแล้ว ถึงฉันจะเคยมีแฟนมาบ้างแล้วก็เถอะ แต่มากสุดก็แค่จับมือกันแค่นั้นเอง ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่าซะหน่อย
" ฉันจะทำยังไง ดี คิดๆ สิยัยเมย์ แกต้องเอาตัวรอดจากนายพายุนั้นให้ได้ " ร่างบางเอาแต่นั่งคิดหาวิธีที่จะเอาตัวรอดจากเจ้าหนี้ใจร้าย กลัวเหลือเกิน กลัวเขาจะทำมิดีมิร้ายกับฉันนะสิ
เมรินทร์นั่งคิดอยู่คนเดียวหลาย ชั่วโมง
" ก๊อก ก๊อก "
เมรินทร์เปิดประตูออกมา ก็เจอกับแม่บ้านคนที่ยกอาหารมาให้กับเธอเมื่อช่วงบ่าย คนตรงหน้ายิ้มให้กับเธออย่างเป็นมิตร
" นายให้ดิฉันมาตามคุณเมรินทร์ ไปพบได้ค่ะ " ฉันเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้พึ่งจะ สี่โมงเย็นเอง เขานัดฉันคืนนี้ไม่ใช่เหรอ แล้วอยู่ๆ ทำไมถึงเรียกฉันไปพบตอนนี้ละ ฉันยังไม่พร้อมหรอกนะ
เมรินทร์ถึงกับทำหน้าไม่ถูก เธอไม่อยากไปเจอกับเจ้าหนี้หนุ่ม
" นายให้เวลาคุณ 10 นาที อย่าช้านะคะ เดี๋ยวดิฉันพลอยซวยไปด้วย " เหมียวย้ำกับเมรินทร์มาอีกครั้ง
" คะ "
" นายให้คุณไปรอที่ลานจอดรถ " เหมียวบอกกับเมรินทร์เสร็จ จากนั้นก็เดินออกไปปล่อยให้คนตัวเล็กสงสัยเข้าไปใหญ่ ทำไมเธอต้องไปรอเขาที่นั้นเขาจะพาเธอไปไหนกันแน่ หรือจะเอาเธอไปขัดดอกให้กับคนอื่น ยิ่งคิดแบบนั้นคนตัวเล็กก็ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่
!! เฮ้ย.... !! เมรินทร์ได้แต่ถอนหายใจออกมา เธอไม่รู้จะทำยังไงต่อดี เธอไม่อยากอยู่ที่นี้แล้วสิ
ร่างบางเลือกที่จะเดินมาตรงลานจอดรถตามที่แม่บ้านบอก ก็เจอกับพายุใส่แว่นสีชายืนพิงรถแลมโบร์กินี สายตาคมเพ่งเล็งจ้องมองคนตัวเล็กอย่างไม่วางตา คนถูกจ้องได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ยอมขยับตัว
" ขึ้นรถ ผมเสียเวลามากแล้ว " พายุเอ่ยบอกกับเธอมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย ทั้งที่เขาย้ำกับเหมียวไปแล้ว แต่เมรินทร์ก็มาช้าทำเขาเสียเวลาไปตั้ง 5 นาที
เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างบางจึงรีบเปิดประตูขึ้นรถของเขาทันที เพราะดูท่าทีตอนนี้เหมือนเขาจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ช้ากว่านี้อาจจะซวยไปได้
พายุขับรถออกมาด้วยความเร็ว ส่วนคนตัวเล็กเอาแต่นั่งนิ่งๆ มาตลอดทาง เขาเองก็เหลือบมองเธอเป็นระยะ ๆ
แลมโบร์กินีคันหรูวิ่งมาจอดที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในใจกลางกรุง พอเขาขับเข้ามาจอดก็มีพนักงานรับกุญแจและเปิดประตูให้กับทั้งสอง
นี้เขาถึงขั้นพาฉันมาเข้าโรงแรมเลยเหรอ ยังไงก็เถอะ ฉันยังไม่พร้อม และฉันก็ไม่มีวันพร้อมด้วยเรื่องแบบนี้ใครเขาพร้อมกัน ฉันอยากจะหนีออกไปจากตรงนี้เสียจริงๆ แต่ก็ทำได้เพียงแค่เดินตามเขาไปเงียบๆ ร่างสูงเดินมาหยุดที่ห้อง D012
" นี้คียการ์ดของคุณ " พายุยื่นมันให้กับฉันมา แต่ก็รับมันมาอย่างสงสัย
" เอ่อ... แล้วคุณพาฉันมาที่โรงแรมนี้ทำไม เหรอ" เมรินทร์เอ่ยถามเขามา ที่ไม่ยอมบอกอะไรกับฉันเลยซักนิด
" ไม่ต้องถามมากหรอก ไปถึงงาน เดี๋ยวคุณก็รู้เองแหละ " พูดจบพายุก็เดินเข้าห้องของตนไป ปล่อยให้ร่างบางได้แต่สงสัยอยู่คนเดียว แต่ก็ยังรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยเขาและฉันก็อยู่กันคนละห้อง
ร่างบางใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้ามา ไม่นานก็มีคนเคาะประตูห้องของฉัน
เมรินทร์เปิดประตูก็ต้องสงสัยอีกครั้ง เพราะคนที่ยืนอยู่หน้าห้องของฉันไม่ใช่เจ้าหนี้หนุ่ม แต่เป็นสาวประเภทสองถึงสองคนที่ยืนส่งยิ้นหวานมาให้
" เออ คุณน้องเมรินทร์ใช่ไหมคะ " สาวประเภทสองคนที่หนึ่งทักฉันมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
" ใช่ค่ะ " ฉันตอบกลับและพยักหน้าให้กับพวกเขาทั้งสอง
" พวกเราเข้าไปได้เลยไหมคะ ตอนนี้เราสองคนเสียเวลามากแล้วค่ะ คุณน้องขา มาคะ เร็วๆ เลย เดี๋ยวช้ากว่านี้พี่สองคนจะโดนคุณพายุเล่นงานเอานะคะ " ลิลลี่สาวประเภทสองบอกกับร่างบางมา เมรินทร์ถึงกับทำหน้างงงวย สองคนนี้คือใครแล้วมาที่ห้องของเธอทำไมกัน นี้เธองงไปหมดแล้วนะ
ทั้งสองไม่รอให้คนตัวเล็กอนุญาต เขาเดินเข้าห้องพักของเมรินทร์ทันที
" เดี๋ยว ค่ะ คือ ยังไง คะเนี้ย ฉันงง ไปหมดแล้ว นะคะ " เมรินทร์บอกกับสองสาวอย่างสงสัยที่จู่ๆ ก็เดินเข้าห้องเธอมาหน้าตาเฉย
" อ้าว นี้คุณน้องยังไม่รู้อีกเหรอคะ พวกพี่ก็จะมาเนรมิต ให้คุณน้องดูสวยที่สุดในงานค่ำคืนนี้ไงละคะ "
" งานอะไรเหรอ ทำไมต้องเนรมิตเมย์ ด้วยละคะ " เมรินทร์ถามอย่างสงสัย แล้วไหนจะชุดที่พวกเขาสองคนหิ้วมาอีก
" คืออย่างนี้ค่ะ ก็คุณพายุให้พวกพี่สองคนมาแต่งตัวให้คุณน้อง เพื่อจะไปงานวันเกิดเสี่ยกวาง ในคืนนี้ไงคะ มาค่ะ ลองชุดกันก่อนเลยคะ เรามีเวลาแค่ ชม. เดียวนะคะ " นี้เขาจะพาเธอไปงานวันเกิด งั้นเหรอ หึ ! ไม่เห็นจะบอกกันซักคำ
ผ่านไปเพียง 45 นาที เท่านั้น ที่ลิลลี่ และ เจ้ ปอ ช่างแต่งหน้าทั้งสองก็เนรมิตใบหน้าหวานๆ ของเมรินทร์ให้ออกมายังกะเจ้าหญิง ทั้งสองคนเอ่ยชมคนตัวเล็กไม่ขาดปาก
" รับรอง คุณพายุเห็นเป็นต้องตะลึงในความสวยของคุณน้องมากแน่ๆ เลยค่ะ "
" แล้วนี้ คบกันนานหรือยังคะ ปกติพี่ไม่ค่อยเห็นคุณพายุพาผู้หญิงที่ไหนออกงานแบบนี้เลยนะคะ "
" เออ เราไม่ได้เป็นอะไรกันหรอกค่ะ แค่... " เธอจะบอกยังไงดีละ
" ก๊อก ก๊อก "
นั้นไง พูดถึงก็มาปั๊บเลยนะคะ เมรินทร์ถึงกับขอบคุณ ที่เขามาได้ทันเวลาพอดี เพราะเธอเองก็ไม่รู้จะตอบทั้งสองยังไง เพราะเธอเป็นแค่ลูกหนี้ของเขาเนี้ยสิ
!! เชิญ คะ !! เจ้ปอเป็นคนเปิดประตูให้กับเขา
เมรินทร์เหลือบมองคนที่เข้ามาใหม่ พายุอยู่ในชุดสูดสีดำที่เดินเข้ามาร่างสูงถึงกับตะลึงในความสวยของคนตรงหน้า ผิวขาวอมชมพูตัดกับชุดเกาะอกปาดไหล่สีครีม พอมันไปอยู่บนตัวของเมรินทร์ เธอสวยหวานน่ามองยิ่งนัก ปกติเธอก็สวยน่ารักอยู่แล้ว ยิ่งแต่งแต้มเครื่องสำอางแบบนี้เธอยิ่งสวยเข้าไปใหญ่ พายุได้แต่จ้องมองใบหน้าหวาน ไม่ยอมละสายตาไปไหน จนคนถูกมองถึงกับรู้สึกประหม่า ขึ้นมาทันที ก็เขาเล่นจ้องเธอมาซะขนาดนี้
!! อะแฮ่ม !! เสียงของลิลลี่ ทำให้พายุได้สติ
" เป็นไงคะ สวยถูกใจไหมคะ" เจ้ปอเอ่ยถามร่างสูง
" ก็งั้นๆ แหละครับ " พายุตอบอย่างไม่เต็มเสียง
" สวยขนาดนี้ งั้นๆ เองเหรอคะ พี่น้อยใจเลยนะคะตอบแบบนี้ อุตส่าห์แต่งสวยให้สุดฝีมือของพี่เลยนะคะ จริงไหมยัยลิลลี่ " ปอยังคงแกล้งถามเพื่อนสาวมา
" ลิลลี่ว่าไม่งั้นๆ นะคะ น้องเมย์นิสวยมากเลยละค่ะ สวยจนลิลลี่แอบอิจฉา นะคะ"
" ครับ ถ้าพวกพี่สองคน ชมว่าเธอสวย ก็สวย... ครับ " เขาเน้นคำว่าสวยไปที่เมรินทร์ เพื่อเป็นการยืนยันให้เธอนั้นรู้ว่าเขานั้นพูดจริง คนตัวเล็กถึงกับทำหน้าไม่ถูกที่เขาเอ่ยคำว่าสวยออกมาจากปากหนักๆ ของเขา