อ้อนขออาแปะ(อยากแต่งงานเร็วๆ)

1679 Words
รถสปอร์ทคันหรูขับเข้ามาจอดหน้าบ้านสไตล์จีนโมเดิร์นทันสมัยหลังใหญ่...บ้านของเหอผิงและภูริพัฒน์อยู่ติดกัน...ตัวบ้านสองหลังออกแบบคล้ายคลึงกันมากและข้างกำแพงยังมีประตูที่สามารถเชื่อมไปหากันได้โดยง่ายสิ่งเหล่านี้บ่งบอกว่าทั้งสองครอบครัวสนิทกันมากแค่ไหน... "เฮีย? ผิงลงไม่ไหว" การแสดงละครยอดเยี่ยมต้องยกให้เหอผิงที่หนึ่ง ตอนขึ้นรถเขาก็ต้องอุ้ม ตอนลงเขาก็ต้องอุ้มเธอลงเช่นกัน "อืม.. รอแป๊บนึง" ภูริพัฒน์ปลดสายรัดเข็มขัดฝั่งคนขับและลงจากรถด้วยสีหน้าเรียบเฉย...ร่างสูงเดินอ้อมไปอีกฝั่ง.. "แล้วมือเจ็บด้วยหรือไง" เขาพูดประชดเมื่อเห็นว่าเธอยังไม่ปลดสายเข็มขัด "เจ็บค่ะ ก็ตอนที่เฮียกระชากผิงลง ผิงก็เลยเจ็บข้อมือ แล้วผิงก็" "พอๆ" ภูริพัฒน์ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้เธอพูดต่อ ผู้หญิงอะไรเล่นได้ทุกบทบาท เขารู้ว่าเธอแกล้งเจ็บ ร่างสูงของชายหนุ่มโน้มตัวลงไปปลดสายรัดเข็มขัดให้เธอ ดูเผินๆก็เหมือนเป็นการโน้มตัวลงไปกอดจูบแต่ความจริงไม่ใช่ จุ๊บ!! เหอผิงอดไม่ไหวเธอกดจุ๊บลงที่แก้มเฮียภู จะบอกว่าเธอชอบทำแบบนี้กับเฮียภูตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนเด็กเธอชอบจุ๊บแก้มเฮียภูซ้ายขวาพอโตมาก็โดนดุ แต่เธอไม่กลัวหรอก... "ผิง เฮียบอกหลายครั้งแล้วใช่ไหม ว่าอย่าทำแบบนี้อีก" คนถูกขโมยหอมแก้มพูดขึ้นเสียงเข้ม รอยลิปสติกสีแดงจางๆติดอยู่ข้างแก้มของเขา... "ผิงเปล่านะก็เฮียขยับหน้าก็มาใกล้ผิงเอง" เหอผิงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ในใจนี่ฉีกยิ้มจนจะถึงใบหู... "ว้ายย" เหอผิงตกใจที่อยู่ๆเขาก็อุ้มเธอออกมาจากรถไม่บอกไม่กล่าว "เบาๆสิคะเฮีย ผิงเจ็บอยู่นะ" สองแขนเล็กกอดคอเฮียภูไว้แน่นเพราะกลัวตก.... ร่างสูงของภูริพัฒน์ก้าวเดินด้วยความมั่นคง ราวกับว่าหญิงสาวที่เขาอุ้มอยู่นั้นตัวเบาหวิว เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านเขาก็กดกริ่งเรียกให้คนในบ้านออกมาเปิดประตูให้ เพียงไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก " อ้าวเฮียภู เจ๊พิ้ง ทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้" น้องชายเหอผิงเอ่ยทักหลังจากที่เห็นสภาพพี่สาวกับเฮียภู "ตอนไปเหมือนนางฟ้าทำไมตอนกลับมาเหมือนตกจากถังขยะล่ะ" " นี่เฟยหยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ" เหอผิงดุน้องชายในขณะที่เธอยังอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม เขาวางเธอลงยังโซฟานุ่มในห้องโถงรับแขก อย่างไม่เบามือนัก.. "โอ๊ยย เฮีย" " เฟยเอียฝากดูผิงต่อด้วยนะ" พูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นเตรียมเดินออกไป "แล้วเฮียจะไปไหน" เหอผิงเอ่ยพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะทิ้งเธอไปอีกแล้ว ภูริพัฒน์หันมองเธอเพียงครู่เดียวร่างสูงก็เดินออกจากบ้านไป... "อ้าวเจ๊เล่าเลยเรื่องทั้งหมด มันเป็นยังไง ทำไมเจ๊ถึงอยู่ในสภาพนี้" เฟยกำลังสงสัยและอยากรู้อยากเห็น "ไม่เล่า แล้วก็ไม่ต้องมาอยากรู้เลย" ร่างบางลุกขึ้นเดินสะบัดตูดขึ้นบ้านไป โดยไม่ได้หันมองน้องชายเลยสักนิด "อ้าวเจ๊เดินเองได้เเล้วหรอ" ยิ่งเห็นท่าทางของพี่สาว เฟยยิ่งงงหนัก ยกมือขึ้นเกาหัว แคร๊กๆ ภายในห้องนอนสีแดง ตกแต่งฉบับสาวหมวย เหอผิงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เธอเองก็ไม่อยากให้ใครมาเห็นเธอในสภาพนี้ ยิ่งน้องชายของเธอได้เห็นเธอในสภาพนี้แล้วเธอก็ปวดหัวมีหวังเฟยมั่นคงล้อเธอไปอีกนาน... มือบางกดโทรออก หาใครบางคน ในตอนนี้เธออยากรู้ว่าเฮียภูออกไปไหนและไปหาใคร "ฮัลโหล หลิวช่วยหมวยด้วย" หลิวเจียเป็นคนงานเก่าของเตี่ย มีความสามารถในเรื่องของการสืบ ถึงจะไม่ได้ทำงานให้เตี่ยแล้วแต่ก็สามารถเรียกใช้งานได้ตลอด เหอผิงจึงเล่าถึงเรื่องที่จะให้หลิวเจียวสืบในวันนี้ "ได้ครับ เดี๋ยวผมจะรีบจัดการให้ครับ" หลิวเจียรู้จักภูริพัฒน์มานานพอสมควร ถึงจะไม่ได้ทำงานให้ เสี่ยเฉินแล้วแต่ก็ยังไปมาหาตลอด... "คอยดูเถอะ ผิงจะต้องรู้ให้ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร จะไม่มีใครได้หัวใจเฮีย นอกจากผิงคนเดียว" ก็เธอรักของเธอมานาน เธอควรได้รักกับพระเอก...นั่นก็คือเฮียภู... ............................. สามวันต่อมา เหอผิงไปหาภูริพัฒน์ที่บ้านเหมือนเคย หลายวันแล้วที่เธอมาทีไรก็ไม่เคยเจอเขาเลยสักครั้ง หงุดหงิดก็หงุดหงิดเพราะสายที่ให้ไปสืบเรื่องของเขาก็ยังไม่รายงานมาสักที... " อาแปะ อาแปะต้องช่วยหมวยนะคะ" เหอผิงเดินเข้าไปออดอ้อน อาแปะไฉ ที่เปรียบเสมือนพ่อคนที่สอง อาแปะไฉเป็นเพื่อนสนิทกับเตี่ยเฉินพ่อของเหอผิง ทั้งสองครอบครัวจึงสนิทกันมากราวกับพี่น้องแท้ๆ แต่ที่เหอผิงต้องเรียกอาแปะก็เพราะว่า เตี่ยเฉินอายุน้อยกว่าแปะไฉสองปี เหอผิงจึงต้องเรียกอาแปะที่แปลว่าลุง ใจจริงก็อยากเรียกอาเตี่ยแหละแต่รอก่อน รอให้เธอได้แต่งงานกับ เฮียภูก่อน... "แล้วจะให้อาแปะช่วยอะไรละลูก" เตี่ยไฉเอ็นดูเหอผิงหนักมากเพราะอยากมีลูกสาวทั้งบ้านนี้มีแต่ลูกชาย...ถ้าได้อาหมวยมาเป็นลูกสะใภ้ก็ครบสมบูรณ์ตามแบบที่เตี่ยไฉหวังไว้ "ก็เรื่องเฮียภูไงคะ อาแปะลืมไปแล้วหรอว่าอาแปะจะช่วยหมวย ฮือๆ.. หมวยเสียใจอาแปะลืม" มารยาสามร้อยเล่มมาเต็ม มีเท่าไหร่เหอผิงจัดเต็ม "ไม่ๆแปะไม่ได้ลืมลูก แปะจำได้แล้วอาหมวยอยากให้แปะช่วยอะไรบอกแปะได้เลย" มืออวบร่างท้วมลูบศีรษะว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยความเอ็นดู "อาแปะก็แค่เร่งงานแต่งงานเฮียกับหมวยให้เร็วขึ้นก็เท่านั้นเอง อาแปะทำได้ไหมคะ" " แต่ อาแปะว่าฤกษ์เดิมมันก็ใกล้เข้ามาเลี้ยวน่า อาหมวยรออีกนิดเดียวก็ได้แต่งเลี้ยว" เรื่องนี้เตี่ยไฉกับเตี่ยเฉินคิดวางแผนมาดีแล้ว ต้องหลังจากอาหมวยเรียนจบและอายุครบ21ปีเต็มเท่านั้นถึงจะแต่งได้ ลูกสาวใคร ใครก็รัก เตี่ยเฉินเองก็ไม่ยอมต้องให้อาหมวยเรียนจบก่อนเท่านั้น... " อาแปะไม่รักหมวยแล้ว" เห็นทีเลื่อนงานแต่งจะยาก แปะไฉกับเตี่ยเฉินขอยากพอๆกันเลย แต่ยังไงแปะไฉก็ใจดีกว่าเตี่ยเธอเยอะเลย รักแปะไฉผู้ใจดี "รักอาแปะรัก อาหมวยมากๆ" เตี่ยไฉเองก็ทุกข์ใจอยากทำตามที่อาหมวยขอ แต่ก็ทำไม่ได้ "อ้าว ผิงวันนี้ไม่ไปเรียน?" เฮียหวังน้องชายเฮียภูเดินลงมาจากชั้นบน ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าเป็นภาพประจำบ้านไปแล้ว หมวยเล็กหรือเหอผิงมักจะมาออดอ้อนเตี่ยเขาทุกวัน "ผิงจะเรียนจบแล้วนะเฮียหวัง ถึงไม่ไปเรียนผิงก็จบได้" เธอก็แค่ฝากให้เพื่อนสนิทส่งงานให้ง่ายนิดเดียว อะไรยากหน่อยก็จ้างทำเอาไม่เห็นจะต้องเหนื่อยทำเองเพราะเธออยากได้แค่ใบปริญญา..มาแต่งงานกับเฮียภูก็เท่านั้น แต่ความจริงแล้วเหอผิงเป็นเด็กฉลาดไม่ต้องเรียนก็ฉลาดแล้ว... " ขี้โม้ ไม่ไปเรียนแล้วจะจบได้ยังไง ยิ่งปีสุดท้ายแล้วยิ่งต้องเข้าเรียนรู้ไหม ไหนทำวิจัยจบหรือยังลองเล่าให้เฮียฟังซิ" ธนัตถ์กิตติ์บ่นยาวเพราะเป็นห่วงน้องสาวถึงจะไม่ใช่แท้ๆแต่เขาก็รักเหมือนน้องแท้ๆ "ผิงไม่ได้โม้ ผิงเก่งไม่ต้องทำอะไรก็จบได้ ทีเมื่อก่อนเฮียหวังก็ไม่เห็นจะตั้งใจเรียนเลยเฮียยังจบได้" " เอ๊ะ! หมวยเล็ก เดี๋ยวนี้เถียงเฮีย" ถ้าเขาโกรธเขาก็มักจะเรียกเหอผิงว่าหมวยเล็ก "พอๆ พอกันทั้งสองคน แล้วนี่อาภูไปไหนละ เตี่ยไม่เห็นตั้งแต่เมื่อวาน" "เฮียภูไม่กลับบ้านมาสองวันแล้วเตี่ย ไม่รู้ไปหาสาว เห๊ยย ติดงานอยู่หรือเปล่า" ปกติธนัตถ์กิตติ์ก็มักจะพูดเล่นกับเตี่ยไฉแต่ลืมไปว่าวันนี้มีหมวยเล็กอยู่ด้วยเดี๋ยวจะเข้าใจผิดสร้างปัญหาให้เฮียภูอีก " อ้าว เลี้ยวทำไมเตี่ยไม่รู้ " เตี่ยไฉเองก็หงุดหงิดที่ลูกชายไม่ได้ดั่งใจ " ผิงมานี่ซิ" ธนัตถ์กิตติ์เรียกให้เหอผิงเดินมาหา " คะ? เฮียหวังมีอะไร" เหอผิงเดินมาด้วยความงุนงง เธอไม่ไว้ใจเฮียหวังสักเท่าไหร่ จะบอกว่าหนุ่มๆบ้านนี้แสบทั้งบ้านเลย ตอนเด็กก็ชอบแกล้งเธอ "อยากรู้ไหม ว่าเฮียภูไปไหน" "อยากรู้ อยากรู้ค่ะ" เหอผิงตาโตด้วยความอยากรู้ดีใจสุดๆ "ไปเอาวิจัยจบมาแลก แล้วเฮียจะบอก" พูดจบร่างสูงก็เดินถือแล็บทอบไปนั่งลงที่โต๊ะทำงาน... "ชิ ผิงไม่อยากรู้แล้วก็ได้" เหอผิงเองก็เดินสะบัดกลับบ้านไปด้วความหงุดหงิดด วิจัยจบอะไรเธอไม่มีหรอก ที่จะจบมาได้ก็เพราะมีเพื่อนช่วยต่างหากละ ส่วนอีกคนที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานได้แต่อมยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา... หมวยเล็กจอมขี้เกียจ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD