บทที่ 2 ปรับตัวกับชีวิตใหม่

1487 Words
“เฮ้อ” เสียงถอนหายใจอย่างแรงด้วยความเหนื่อยใจ “คุณหนู สำรับมาแล้วเจ้าค่ะ” เสียงเรียกของเหม่ยอิงดังขึ้น พอเดินมาที่โต๊ะเล็กๆ เพื่อตั้งสำรับ ก็ต้องตกใจเพราะภาพที่คือ ‘รำหมูรึป่าว’ แล้วก็มีผักดองเล็กๆ วางอยู่ แค่นี้มันจะไปอิ่มอะไร “ทำไมมีแค่นี้ ไหนกับข้าว” “ปกติเรือนพวกเรามีแค่นี้เจ้าค่ะ” “ไหนถ้วยของเจ้าละ รีบไปตักมากินด้วยกันสิ” “เดี๋ยวเหม่ยอิงไปกินที่ครัวเจ้าค่ะ” “ไปตักมา แล้วมาทานด้วยกัน ใช่ว่าที่เรือนนี้จะมีกับข้าวที่ไหน นอกจากผักดองถ้วยเล็กๆ นี้หรอกมั้ง” วันรุ่งขึ้น เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส ไอทีคนนี้ก็เดินออกจากห้องก็ต้องตกใจอีกรอบ เพราะลืมไปแล้วว่าตัวเองได้ย้อนอดีตมาอยู่ที่แห่งใหม่ ร่างใหม่ที่ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วต้องไดเอทกี่ปีถึงจะได้หุ่นเช่นนี้ เพราะเงาเบื้องหน้า เป็นที่ประจักษ์จริงๆ แต่ว่าหญ้าที่อยู่เบื้องหน้าที่บดบังความงามของสะพานโคมไฟจริงๆ ไม่ได้การละ ต้องหาอุปกรณ์มาช่วยถอนแล้วจริงๆ แล้วทำไม ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ถึงจะไม่ใช่ฮูหยินเอก แต่ฮูหยินรองก็ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ถึงจะไม่โปรดปรานแค่ไหนก็เถอะ ด้านหน้าจวน ผู้คนในเรือนช่วยกันทำงานอย่างขะมักเขม้น ตั้งแต่ยามเหม่า โดยที่มีฮูหยินเอกเป็นผู้ชี้นิ้วควบคุมงาน คนในจวนไม่มีใครมีเวลาแอบอู้เลย รถม้าของพ่อบ้านก็เข้ามาในจวน ที่ควรเดินทางกลับมาตั้งแต่เมื่อวานยามโหย่ว แต่ก็เพิ่งมาถึง เนื่องจากรถม้าเกิดตกลงบ่อโคลน แล้วไม่สามารถดึงขึ้นมาได้ กว่าจะมีคนผ่านมาช่วยก็เกือบยามอิ๋นแล้ว เมื่อลงจากรถม้า ก็ต้องตกใจกับสภาพเรือนที่ไม่อยู่เพียงคืนเดียว กลับกลายเป็นสถานที่รื่นเริงไปแล้ว “ฮูหยินเอก เกิดอะไรขึ้นขอรับ เหตุใดจวนถึงเป็นเช่นนี้” “กลับมาแล้วเหรอพ่อบ้าน บังเอิญว่าข้าได้ยินว่าท่านพี่จะกลับมาจากการค้า ข้าก็อยากที่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับ” “ข้าว่าฮูหยินเอกคงเข้าใจอะไรผิดไปแล้วนะขอรับ คุณชายหยางไม่ชอบงานรื่นเริง ถ้าคุณชายมาเห็นเช่นนี้คงจะโกรธมากนะขอรับ ฮูหยินเอกยังพอมีเวลาเก็บกวาด และที่สำคัญค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในเรือนนี้ที่ทำโดยพลการ ข้าขอหักเงินจากเบี้ยหวัดนะขอรับ” ‘หน็อย!! จะงกไปถึงไหน รอให้ท่านพี่กลับมาก่อนเถอะ ข้าจะโกยสมบัติมาเป็นของข้าให้หมด’ เอินลู่ผิงขบคิดอย่างโมโห “พ่อบ้านกลับมาเหนื่อยๆ รีบกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ แล้วข้าจะจัดการพวกนี้ให้เรียบร้อย” หลังจากที่พ่อบ้านหันหลังกลับ เพื่อจะไปที่เรือนของตน กลับมีสาวใช้คนหนึ่งเรียกเอาไว้ “พ่อบ้านเจ้าค่ะ ท่านกลับมาเสียที ข้ารอท่านตั้งหลายชั่วยาม” “เจ้ามีอะไร” “เมื่อวานยามเว่ย ฮูหยินรองตกน้ำ ข้าจะมาแจ้งพ่อบ้านให้ตามหมอ แต่ว่า...พ่อบ้าน” “แล้วเหตุใด ไม่เจอข้าไม่ไปเรียนฮูหยินเอก ให้คนไปตามหมอ นี่มันยามใดแล้วฮูหยินรองจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ตอนนี้” “เมื่อวานฮูหยินเอกสั่งให้จัดงานเลี้ยง จึงไม่มีใครไปตามหมอมาเจ้าค่ะ “งั้นเจ้าก็รีบไปแจ้งคนให้ตามหมอมา แล้วมุ่งหน้าไปที่เรือนฮูหยินรอง ข้าจะไปดูก่อน” “เจ้าค่ะ” ไอทีที่เห็นหญ้าเป็นไม่ได้ต้องรีบกำจัดมันให้สิ้นซาก เนื่องจากที่มองไม่เห็นอุปกรณ์ที่สามารถถอนหญ้า ก็เลยใช้มือ ก้มแล้วดึง หลายๆ รอบ จนทำให้เวียนหัวไปเลย ด้วยร่างนี้เป็นร่างดรุณีน้อยที่ไม่เคยผ่านการทำงานมาก่อน ทำให้หน้ามืดคลายจะเป็นลม โชคดีที่เหม่ยอิงมาเห็นแล้วเข้ามารับร่างไว้ได้พอดี “คุณหนู คุณหนู เป็นอะไรไปเจ้าค่ะ” “เหม่ย...” สติของไอทีก็ดับวูบไปเลย เป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่พ่อบ้านมาถึงพอดี แล้วก็ช่วยกันพยุงร่างของไอทีเข้าไปในเรือน อีกหนึ่งเค่อ สาวใช้ก็ได้พาหมอมาถึงพอดี จึงให้ตรวจได้ทันท่วงที พอหมอตรวจเสร็จ สีหน้าของหมอไม่สู้ดีนัก คิ้วขมวดกันเป็นปม “ข้าไม่รู้ว่าฮูหยินรองป่วยเป็นอะไร อาการแบบนี้ข้าไม่เคยพบมาก่อน ร่างกายหายใจ แต่เหมือนไม่มีวิญญาณอยู่ในร่าง” “มันจะเป็นไปได้อย่างไรหมอ อาการแปลกประหลาดเช่นนี้” พ่อบ้านมีสีหน้าที่ตกใจ “ข้าถึงบอกว่าข้าไม่เคยเจออาการแบบนี้ แต่ว่าภายในหนึ่งชั่วยามนี้ให้เจ้าเช็ดตัวฮูหยินรองทุกหนึ่งเค่อ แล้วถ้าหากว่าครบหนึ่งชั่วยามแล้ว ฮูหยินรองไม่ฟื้นให้เจ้าทำใจไว้” “ไม่นะ คุณหนู” จิตใจของเหม่ยอิงดำดิ่งอีกครั้ง “เจ้ารีบไปทำตามที่หมอบอก อย่าได้ชักช้า” พอได้ยินเช่นนั้น เหม่ยอิงก็กุลีกุจอไปจัดการตามที่หมอสั่ง ทางด้านไอทีได้ลืมตาขึ้น มองไปทางไหนกลับเป็นสีขาว จึงลุกขึ้นกลับเห็นผู้ชายใส่ชุดไทยโบราณเต็มยศยืนอยู่ปลายเท้า “เจ้าฟื้นแล้วรึ” ไอทีได้ยินเช่นนั้น เหมือนสติที่หลุดลอยกลับเข้าร่าง พร้อมไหว้ทำความเคารพ “เจ้าค่ะ เกิดอะไรขึ้นกับหนู” “เจ้าได้ตายจากโลกหนึ่งแล้ว แต่แท้จริงแล้วเจ้ายังไม่ถึงคาด เพราะเกิดความผิดพลาดของระบบ ทำให้ส่งเจ้ายังอีกโลกหนึ่งในร่างของอันเฟยเทียนฮูหยินรองผู้น่าสงสารที่” “น่าสงสารจริงค่ะ” “เจ้าไม่โวยวายหรอกหรือ ที่ดวงยังไม่ถึงคาด กลับต้องจากโลกที่เคยอยู่อาศัยไปยังอีกโลก” “โวยวายแล้วมันได้อะไรขึ้นมา คงมีของวิเศษ เพื่อช่วยเหลือตัวเองในต่างถิ่นบ้างนะคะ” “มีนะมี ข้าก็เตรียมการมาเผื่อเจ้าโวยวาย มีการต่อรอง ตามระบบมีของสมนาคุณให้ตามความผิดพลาดไว้อยู่แล้ว แต่เจ้าไม่ได้โวยวายก็จะได้พิเศษหน่อย” “อะไรหรือค่ะ ที่ว่าพิเศษหน่อย” “ถุงวิเศษเอาไว้เก็บของ” อื้อ นี่ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องปกติรึเปล่าค่ะ มันต้องมีอะไรที่พิเศษกว่านี้สิ” “รู้ดีนัก ข้ายังพูดไม่จบ ตอนแรกถ้าเจ้าโวยวายจะไม่มีฟังก์ชันนี้หรอก ฟังก์ชันที่ว่า ถ้าเกิดมีคนรู้หรือขโมยถุงวิเศษนี้ไป มันก็จะกลายเป็นถุงธรรมดา ยกเว้นคู่แท้ของเจ้าจะใช้ได้เช่นกัน” “อูย...ย ถูกใจมากเลย แล้วเอาอะไรใส่ไปด้วยได้ไหม เพราะร่างเดิมอดยากเหลือเกิน หนูคงได้ตายก่อน” ไอทีมองถุงวิเศษตาเป็นประกาย แล้วสบตาอ้อนวอน “เจ้านึกอะไรได้ก็เอาติดตัวไปด้วยแล้วกัน เจ้ามีอะไรจะฝากถึงครอบครัวเอาไว้ไหม” “ข้าไปซ่อนทรัพย์สินเอาไว้ ช่วยไปบอกพ่อกับแม่หนูที ซ่อนเอาไว้ตรง...บลาๆ” “ได้ แล้วข้าจะช่วยบอกให้ แต่ตอนนี้เจ้ารีบเข้าร่างเถอะ ไม่งั้นเจ้าจะไม่ได้ตายไปจริงๆ” “แล้วทำไมไม่รีบบอก ยังไงก็ขอบคุณมากค่ะ แล้วเจอกันใหม่” เหม่ยอิงที่ร้องไห้ไม่หยุด เสียงสะอื้นน้ำตาก็ไหลตลอดเวลา “ฮื้อๆ คุณหนูฟื้นสิเจ้าค่ะ” เหม่ยอิงเช็ดตัวไปด้วย “เจ้านี่ร้องไห้ได้ทุกเวลา หยุดร้องแล้วเช็ดตัวไป และข้าขอเตือนเจ้า อย่าได้เรียกฮูหยินรองว่าคุณหนูอีก” “อีกสองเค่อจะครบหนึ่งชั่วยาม เจ้าภาวนาให้ฮูหยินรองฟื้นเถอะ” หมอกล่าว หนึ่งเค่อต่อมา ไอทีก็เข้าร่างอันเฟยเทียนได้สำเร็จ แล้วก็ลุกขึ้นมาแบบพรวดพราด แล้วก็หายใจเข้าออกอย่างแรง เพื่อสูดอากาศเข้าไปให้ได้มากที่สุด หมอเห็นฮูหยินรองฟื้นขึ้นมาก็รีบจับชีพจรทันที “อาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว ข้าจะให้เทียบยาเอาไว้ ต้มดื่มสักสองสามวันก็หายดีขอรับ” อันเฟยเทียนไม่ได้ฟังที่หมอพูดเลย แค่ตอนนี้อยากได้ยาดมเท่านั้น “ถ้ายังไงข้าขอตัวนะขอรับ” หมอพูดขึ้นพร้อมกับพ่อบ้าน อันเฟยเทียนได้ยินเท่านั้นก็เหมือนสติกลับเข้าร่าง จึงเรียกพ่อบ้านเอาไว้ก่อน “หมอกลับไปได้ แต่พ่อบ้านอยู่ก่อน ข้ามีเรื่องจะคุยด้วย เหม่ยอิงเดินส่งหมอ” “ฮูหยินรองมีอะไรให้ข้ารับใช้หรือขอรับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD