ตอนที่ 5 ซื้อของ

1473 Words
“เหม่ยอิง เจ้าว่าสามสิบตำลึงนี้ ควรเอาไปทำอะไรก่อน” “คิดว่าแปลงเป็นสิ่งของเจ้าค่ะ เพราะอีกสักพักก็จะเริ่มเข้าสู่หน้าสงครามอีกครั้ง ต่อให้เราอยู่ในเมืองหลวง ไม่ได้อยู่ในเขตชายแดนก็จริง แต่ช่วงทำการรบทัพจับศึกข้าวของมักจะแพงขึ้น” “เจ้าฉลาดนะเนี่ย ของแห้ง ยา เครื่องนุ่งห่มก็จำเป็น แสดงว่าเงินก็แค่ก้อนหินก้อนกราดในช่วงทำศึก แต่สงครามใกล้จบเงินก็มีอำนาจขึ้นเป็นเท่าตัว” “ใช่เจ้าค่ะ” “เดี๋ยวหลังจากพวกเรากลับมาจากข้างนอก เจ้าไปสืบมาว่าจะมีศึกอีกเมื่อไหร่ คนในจวนทำอะไรกันบ้างในช่วงนี้” “ได้เจ้าค่ะ เหมือนคุณหนูมีแผนอะไรในใจ” “ข้ารู้ว่าเจ้ารู้ ตอนนี้เราต้องไปซื้อของเตรียมตัวกัน” อันเฟยเทียนเลือกที่จะเดินไปตลาดเอง ขากลับค่อยเรียกรถม้าดีกว่า จะได้สำรวจเมืองหลวงด้วย ช่างสวยงามจริงๆ ดั่งภาพในซีรี่ย์จีน แต่ภาพของจริงที่อยู่ตรงหน้าสวยงามกว่า ของจริงมันสวยกว่าภาพในละครอีกนะเนี่ย เดินไปยิ้มไปจนลืมว่าตัวเองมาทำอะไร “คุณหนู จะไปไหนก่อนดีเจ้าค่ะ” “ไปที่แลกเงิน เราต้องใช้เงินแบบย่อยในการซื้อของ” พอไปแลกเงินเสร็จ อันเฟยเทียนก็มุ่งหน้าไปแผงหมู พอเดินดูหลายๆร้าน ก็เจอร้านที่ดูสดใหม่อยู่เกือบท้ายตลาด คนขายเป็นผู้ชายที่อ้วนท้วม ใบหน้าโหด แต่พอมีคนเข้าร้าน กลับมีรอยยิ้มที่ขัดกับใบหน้าจริงๆ “เถ้าแก่ฟู่ หมูขายจินเท่าไหร่” เหม่ยอิงถาม “จินละสิบสองอีแปะขอรับ” “ทำไมแพงขึ้นตั้งสองอีแปะ” “ตอนนี้เพิ่งจะจบศึกมาใหม่ๆ ข้าวของก็แพงขึ้นเป็นธรรมดา ถ้าไม่รีบซื้อ อีกเดือนให้หลังอาจแพงขึ้นกว่านี้ และตอนนี้ชาวเมืองเริ่มจะกักตุนอาหารกันแล้วขอรับ การรบทัพจับศึกเป็นอะไรที่ไม่แน่นอนน” “ถ้าข้าซื้อห้าสิบจิน ลดให้ข้าเป็นจินละสิบอีแปะ” อันเฟยเทียนพูดแบบไม่อ้อมค้อม “ได้สิขอรับ ทั้งหมดห้าร้อยอีแปะขอรับ” โชคดีก่อนมาซื้อหมู ได้จ้างรถม้าเอาไว้แล้ว จึงไม่ต้องเปลืองแรงมาก ต่อไปก็ไปซื้อขิง ข้าต้องซื้อจำนวนมาก แก้ลมหนาวได้ดี พอมาร้านที่ร้าน เถ้าแก่ก็ออกมาตอนรับขับสู้เป็นอย่างดี “ฮูหยิน รับอะไรขอรับ” “ข้าต้องการขิง ที่นี่มีแบบสดหรืออบแห้งแล้ว” “ที่ร้านมีสามแบบ สด แห้ง และผง แบบสดจินละสิบห้าอีแปะ แบบแห้งยี่สิบอีแปะ แบบผงสามสิบอีแปะ” เถ้าแก่หลี่อธิบายอย่างกระชับ อันเฟยเทียนได้ยินราคาขิงแล้ว สะอึกไปเลย ขิงแพงกว่าเนื้อหมูอีก จะเป็นลม “เหตุโดราคาถึงแพงเช่นนี้” “ฮูหยินน่าจะทราบว่าเพิ่งจบศึก คนเมืองหลวงมักจะกักตุนอาหารและยากัน เพื่อการศึกในอนาคต แต่อีกอย่างผลผลิตปีนี้มีไม่มีมากขอรับราคาถึงสูง” “ถ้าข้าเอาจำนวนมาก พอจะลดให้ข้า...” “ได้สิขอรับ” เถ้าแก่ตกลงอย่างรวดเร็ว เพราะนึกในใจ ฮูหยินคนนี้ชั่งโง่เขล่ายิ่งนัก เพิ่งจบศึกมา ใครเค้าจะกักตุนอาหารจำนวนมากกัน ราคามีแต่ลดลงเท่านั้น เพราะที่เถ้าแก่พูดออกไปเป็นราคาระหว่างทำศึก แต่ราคาหลังศึกจะลดลงกว่าครึ่ง ในหัวของเถ้าแก่คิดแต่กำไร แต่สีหน้าของเถ้าแก่ก็ไม่พ้นสายตาของอันเฟยเทียน แต่เรื่องสีหน้าคนแค่เปลี่ยนไปแค่เสี้ยววินาทีอันเฟยเทียนก็มองไม่พลาด เพราะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล เหม่ยอิงกระซิบข้างหูว่า ‘ราคานี้คือราคาระหว่างศึก ไม่ใช่หลังศึกเจ้าค่ะ’ ‘ข้ารู้แล้ว แต่เชื่อข้าเถอะ ว่าเถ้าแก่คนนี้จะต้องอกแตกตายแน่ ๆ เพราะว่าข้าจะซื้อทั้งร้าน แล้วเถ้าแก่ต้องมาขอซื้อต่อจากข้าในราคาเท่าตัวที่คิดจะหลอกข้าในครั้งนี้’ ‘มันจะคุ้มหรือเจ้าค่ะคุณหนู’ ‘เชื่อข้า’ สองสาวกระซิบกระซาบกับมา เถ้าแก่สีหน้ากลับแบบปกติมาก แทบไม่มีอาการตื่นตระหนกเลย นี่สินะเถ้าแก่ที่ทำการค้าตัวจริงเก่งมาก แต่ไม่เป็นไรในอนาคตข้าจะให้บทเรียน “แบบผงข้าเอาทั้งหมดที่เจ้ามี ในราคาจินละยี่สิบแปดอีแปะ แบบแห้งก็เอาทั้งหมด ในราคาจินละสิบเจ็ดอีแปะ” อันเฟยเทียนพูด เถ้าแก่ก็ดีดลูกคิด ว่าจะคุ้มค่าหรือเปล่า แต่ในหัวของเถ้าแก่ ราคานี้ยังไงก็กำไรงามอยู่แล้ว “ตกลงราคานี้ขอรับ แล้วแบบสดไม่รับหรือขอรับ” “ไม่ดีกว่า เดี๋ยวเถ้าแก่หลี่ไม่มีงานทำ” อันเฟยเทียนยิ้มอย่างมีเลศนัย “ฮูหยินเหย้าข้าเล่นแล้ว” “ข้ารับของภายในวันนี้เลย รถม้าอยู่หน้าจวน ของทั้งหมดเท่าไหร่” “แบบผงมีทั้งหมดห้าสิบจิน แบบแห้งมีทั้งหมดร้อยจิน เป็นเงินทั้งหมด สามตำลึงทองหนึ่งร้อยอีแปะ ข้าลดให้เป็นสามตำลึงทองขอรับ” “เหม่ยอิงไปดูของว่าครบหรือเปล่าแล้วยกขึ้นรถม้า ” “ไว้โอกาสแวะมาที่ร้านข้าอีกนะขอรับ” “แน่นอนแล้วเราจะได้เจอกันเร็วๆนี้” หลังจากที่ออกจากร้านแล้ว เวลานี้ก็เป็นเวลายามอิ๋นแล้ว เผลอแปบเดียวเอง ยังซื้อไม่ครบเลย แต่ก่อนกลับก็ขอแวะร้านขายขวดก่อน “คุณหนูแวะร้านนี้ ซื้ออะไรหรือเจ้าค่ะ” “ข้าอยากได้ขวดเป็นจำนวนมาก ข้าแวะมาสั่งให้เถ้าแก่ทำให้ข้า” พอมาถึงร้านเถ้าแก่ก็เข้าไปเลย เพราะแต่ละร้านจะมีชื่อร้านว่าขายอะไรเขียนเอาไว้อยู่แล้ว “ฮูหยินมีอะไรให้ข้ารับใช้ขอรับ” “เถ้าแก่พอจะมีขวดขนาดความยาวประมาณนี้ไหมเจ้าค่ะ” อันเฟยเทียนโชว์ฝ่ามือของตัวเองขึ้น “มีขอรับ ไม่ทราบว่าฮูหยิน ต้องการจำนวนเท่าใด” “ข้าต้องการสองพันขวด” “ฮูหยินจะเอาไปทำอะไรมากมายขนาดนั้น ที่ร้านตอนนี้น่าจะมีหนึ่งพันขวด ถ้าต้องการสองพันขวด ต้องรออีกสี่วันของถึงจะเข้ามาขอรับ” “งั้นข้าเอาแค่หนึ่งพันขวดพอ” “ขวดละสี่อีแปะขอรับ” “เจ้าคงไม่โกงข้าหรอกนะ ทำไมถึงได้แพงเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าข้าไม่ได้ถามราคาเจ้าก่อนจึงขึ้นราคาทีหลังนะ” มันเป็นเช่นนั้นเพราะปกติราคาอยู่ที่สามอีแปะ พอเห็นว่าฮูหยินน้อยผู้นี้ไม่ถามราคาแล้วเอาจำนวนมาก พ่อค้าที่ไหนจะไม่ฉวยโอกาสละ กำไรอยู่ตรงหน้า ราคาส่งอยู่ที่สองอีแปะ ขายหน้า ร้านสามอีแปะ “ฮูหยินเหย้าข้าแล้ว” เหม่ยอิงกระซิบบอก ‘สามอีแปะเจ้าค่ะ ราคาปกติ’ “ข้าก็เหย้าเถ้าแก่เล่น ทั้งหมดเท่าไหร่” เถ้าแก่ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะตอนที่สาวใช้กระซิบบอก แต่ก็ยังซื้ออยู่ ทำให้เถ้าแก่ยิ้มไม่หุบอยู่ดี เพราะขายดีแถมได้กำไรเท่าตัวไปอีก “ทั้งหมดหกลึงตำลึงทองขอรับ” เหม่ยอิงยังกระซิบไม่เลิก ‘ข้ามองยังไงเราเหมือนโดนโกงนะเจ้าค่ะ’ “ไปเช็คของเหม่ยอิง อย่าให้แตกแม้แต่ขวดเดียว” “ข้าน้อยขอถามฮูหยินเสียหน่อยว่าเหตุใดถึงได้ซื้อขวดเไปมากมายขนาดนี้ขอรับ” “เมื่อถึงหน้าศึกเจ้าจะรู้เองว่า ข้าซื้อไปทำไมตั้งมากมาย” เถ้าแก่หลี่มองหน้าฮูหยินน้อยนี้อย่างไม่เข้าใจ เพราะการศึกเพิ่งแล้วเสร็จ กว่าจะมีศึกหน้าก็น่าจะอีกหลายปี “ไว้มาอุดหนุนข้าใหม่นะขอรับ” อันเฟยเทียนที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองถูกตามทั้งแต่ออกจากจวน โดยองครักษ์ของเจียตงหยาง เพราะคุณชายไม่ได้มีความไว้ใจคนตระกูลอันตั้งแต่ต้น เจียตงหยางสั่งองครักษ์ตามแล้วมารายงานว่าอันเฟยเทียนออกไปทำอะไรบ้าง ผลที่องครักษ์รายงานคือ ออกไปซื้อหมูห้าสิบจิน ขิงแห้งร้อยจิน ขิงผงห้าสิบจิน แล้วก็ขวดหนึ่งพันขวด และก็บอกอีกว่าซื้อในราคาที่แพงกว่าราคาปกติ และแวะทานอาหารที่เหลาของตระกูลฮูหยินเอก “อันเฟยเทียนไม่น่าใช่คนโง่ แต่เหตุใดถึงยอมโดนหลอก ซื้อของในราคาที่แพงขึ้น”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD