ตอนที่ 6 พบเจอฮันอ๋อง

1682 Words
“ข้าเห็นแม่นางเหม่ยอิงกระซิบกระซาบฮูหยินรองตลอด และข้าเห็นว่ามีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลเช่นกัน ฮูหยินรองถึงได้ทำเช่นนั้น” “จะอะไรอีกนอกจากขายเกร็งกำไรยังไงละ เพราะตระกูลอันคือตระกูลคดโกง คิดไม่ซื่อ” อคติที่เจียตงหยางมีต่ออันเฟยเทียน และตระกูลของนาง ฝั่งลึกเข้าในใจจิตใจของเจียตงหยาง ไม่เช่นนั้นพ่อของนางไม่ทูลต่อฮ่องเต้ให้มีราชโองการสมรสพระราชทานออกมา ทั้งที่ตระกูลของนางมีเอี่ยวคดียักยอกทรัพย์หลวง แต่ก็รอดออกมาได้ แถมยังให้ลูกสาวกับข้า เพื่อไม่ให้ตระกูลถูกสาวใส้ไปมากกว่านี้ก่อนตัวเองจะเกษียณ แล้วใช้เงินอย่างสบายใจ เพื่อไม่ให้ข้าเอาเรื่องนี้ขึ้นทูลต่อฮ่องเต้อีก ถ้าไม่ใช่เฒ่าเจ้าเล่ห์ จะเรียกว่าอะไร ลูกสาวจะเป็นลูกไม้ไกลต้นไปได้อย่างไร ตระกูลนางรู้สถานะของเขาดี ถึงได้กล้าทำ อันเฟยเทียนผู้ไม่รู้อะไรเลย ว่าภัยกำลังมาถึงตัว ก่อนจะกลับยังมีอารมณ์สุนทรีไปทานอาหารที่เหลาอาหารชื่อดังของตระกูลเอินอีก ตระกูลของฮูหยินเอก เสียงกระซิบมาเช่นเดิม เหมือนพรายกระซิบประจำตัวไปแล้วตอนนี้ ‘คุณหนูที่นี่เหลาอาหารของตระกูลชายารอง เราไม่ค่อยถูกกันเจ้าค่ะ’ ‘เจ้าจะกลัวอะไร แค่มาทานข้าว’ เถ้าแก่เอินเมื่อเห็นฮูหยินรอง ที่เป็นดั่งศัตรูหัวใจของหลานสาวคนเล็ก แต่ก็ต้องต้อนรับขับสู้ ถึงแม้ว่าเหมือนนางจะมาหยามถึงที่ก็ต้องตอนรับขับสู้ เพื่อไม่ให้หลานสาวตกที่นั่งลำบากถึงจะเป็นฮูหยินเอกก็เถอะ “ฮูหยินรองเทียน เชิญด้านในขอรับ” “เกรงใจแล้ว เถ้าแก่เอิน” “วันนี้รับอะไรดีขอรับ” “เอาอาหารที่แพงที่สุดในร้านมาสักสี่ห้าอย่างแล้วกัน” ผ่านไม่ถึงหนึ่งเค่อ คนที่ไม่คาดคิดก็ปรากฏตัวก็คือ เจียตงหยางกับเอินลู่จิว พร้อมกับองครักษ์ และมุ่งหน้ามายังโต๊ะที่อันเฟยเทียนนั่งอยู่ คนมองกันทั้งเหลาอาหาร เวลานี้คนเยอะเป็นพิเศษ อันเฟยเทียนนั่งอยู่ ก็ต้องตกใจ ใครจะคิดว่าจะเจอสามีกับเมียหลวงเดินเข้ามาหา “ลมอะไรหอบมาเจ้าค่ะ” พูดด้วยเสียงประชด “น้องสาวเหตุใด ถึงมาอยู่เหลาอาหารตระกูลข้า” เอินลู่จิวพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ “เหลาอาหารก็ต้องมาทานอาหารสิเจ้าค่ะ เชิญคุณชาย ฮูหยินเอกนั่งด้วยกันไหม” ไม่มีเสียงใดเอ่ยขึ้นมา คุณชายเจียตงหยาง และเอินลู่จิวก็นั่งลง สักครู่เถ้าแก่เอิน พร้อมกับพนักงานก็ยกอาหารมาเสิร์ฟ “คารวะคุณชายเจียตงหยางขอรับ/เอินลู่จิวคารวะท่านลุงเจ้าค่ะ” ลุงและหลานสาวตระกูลเอินเอ่ยพร้อมกัน อาหารมื้อนี้ อันเฟยเทียนจะอิ่มไหม มัวแต่คารวะกันไม่เสร็จ บรรยากาศไม่ต่างจากมื้อเช้าที่จวนเลย อันเฟยเทียนไม่สนใจใครทั้งนั้น รีบโกยอาหารเข้าปากอย่างไม่รอช้า เพราะใช้พลังงานไปทั้งวัน หิวมากแล้วต้องมาดูงิ้วต่ออีก เจียตงหยางก็ค่อยมองอันเฟยเทียนตลอดเวลา ในตอนแรกเพื่อจับผิด แต่พอมองไปนานๆ ทำไมกินอย่างเอร็ดอร่อย ไม่สมกับเป็นคุณหนูตระกูลอัน แถมไม่มีพิรุธอะไรออกมาอีก แสดงงิ้วเก่งเสียจริง แต่ทว่าในใจรู้สึกแปลกๆ หลังจากที่อันเฟยเทียนกินแบบไม่สนใจใครก็รู้สึกอิ่ม แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นสองคนนั้นมองมาที่ตัวเองตลอด ก็รู้สึกเขินในใจ สงสัยไม่เคยมีใครกินแบบสวามปามแบบนี้สินะ “ข้าอิ่มแล้วขอตัวนะเจ้าค่ะ คุณชายเจียตงหยาง ข้าซื้อของมาเยอะ ต้องไปจัดการเก็บที่เรือน” ไม่รอให้เจียตงหยางได้เอ่ย รีบเดินออกมาอย่างไว และไม่ได้มองทาง ทำให้เดินไปชนกับคุณชายคนหนึ่งร่างกายกำยำสูงโปร่ง กลิ่นกายหอมเหมือนน้ำอบชาววัง กลิ่นที่หอมโชยเข้าจมูกชั่งน่าหลงใหลเหลือเกิน ยังไม่ทันได้เด้งตัวออกก็โดนกระแทกเข้ามาอีกรอบ เป็นภาพที่ไม่น่ามอง ด้วยที่เดินตามกันมาติดๆ เหม่ยอิงก็ชนเข้าอันเฟยเทียนอีกที เพียงพริบตาเดียว เหม่ยอิงโดนผู้ชายจับตัวให้นั่งคุกเข่าลง ส่วนอันเฟยเทียนโดนคุณชายที่ชนดึงออกอีกที แต่หน้าคุณชายเหมือนมีท่าทีที่ตกใจ หลังจากนั้นก็หายไปเพียงเสียววินาที “ปกป้องฮันอ๋อง” องครักษ์สองคนฝั่งซ้ายและฝั่งขวาชักดาบฟาดมาที่คออันเฟยเทียน และเหม่ยอิง แค่เสี้ยวอันเฟยเทียนโดนดาบจ่อที่คอแล้ว ฉี่เกือบแตก จากที่กำลังฟินหายฟิน “หม่อมขออภัยฮันอ๋อง หม่อมฉันไม่ทันได้มองเลยชนกับท่านอ๋อง ขอพระราชทานอภัยเพคะ” พร้อมคุกเข่าลงทันที ยิ่งกว่ากิ้งก่าเปลี่ยนสีก็ข้านี่แหละ “หม่อมฉันด้วยเพคะ” เหม่ยอิงพูดด้วยเสียงสั่น “ลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่ได้จะเอาเรื่อง เก็บดาบด้วย สองสาวกลัวจนตัวสั่นแล้ว” “พะยะค่ะ” “ขอบพระทัยเพคะ/ขอบพระทัยเพคะ” อันเฟยเทียนกับเหม่ยอิงพูดพร้อมกันแล้วก็ลุกขึ้น พอลุกขึ้น ปรากฏว่าอันเฟยเทียนได้มองหน้าฮันอ๋องอย่างชัด คุณชายเจียตงหยางว่าหล่อเหลาแล้ว ฮันอ๋องหล่อยิ่งกว่า จมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าเรียว ดวงตาเฉียวเหมือนแมว สันกรามชัดเจนรับใบหน้า คุณชายเจียตงหยางว่าลูกขององค์เทพเแล้ว ฮันอ๋องคือเทพเจ้าเลย แต่รังสีแห่งความโหดเหี้ยมมีมากกว่า ถึงแม้น้ำสียงจะไพเราะก็ตาม เมื่อเกิดเรื่องทุกคนก็มุ่งหน้ามาที่เกิดเหตุ คุณชายเจียตงหยางก็เช่นกัน เพราะกำลังจะกลับจวนเหมือนกัน เมื่อคุณชายเจียตงหยางเดินมาทุกคนก็พร้อมจะแหวกทางเดินอยู่แล้ว พอเห็นเป็นฮันอ๋อง และฮูหยินรองของตัวเอง สีหน้าก็มืดหม่นลงอีก เอินลู่จิว “ถวายบังคม ฮันอ๋องเพคะ” “ไม่ต้องมากพิธี ที่นี่ไม่ใช่ในวัง ว่าแต่เสด็จอามาทำอะไรที่นี่” ทั้งที่ฮันอ๋องควรเรียกว่าเสด็จปู่เล็กด้วยซ้ำ “มาทานอาหารเย็น” แต่สายตาเหลือบไปมองอันเฟยเทียน แต่ทุกอย่างไม่รอดพ้นสายตาของฮันอ๋อง ที่มองเห็นว่าเสด็จอามองไปที่อันเฟยเทียน “นางเป็นอะไรกับเสด็จอาหรือ?” “ฮูหยินรองของอาเอง” “อ๋อ อันเฟยเทียนผู้นั้นนั่นเอง” อันเฟยเทียนได้ยินบทสนทนาทั้งหมด ก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ว่าทุกอย่างมันต้องมีเงื่อนงำมากกว่าที่คิด ไม่งั้นฮันอ๋องไม่พูดขึ้นมา ‘อันเฟยเทียนผู้นั้นนั่นเอง’ มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นสิ เธอนี่เริ่มน่าสนใจแล้วนะ อันเฟยเทียนเธอสร้างเรื่องอะไรไว้กันแน่ หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ อันเฟยเทียนก็กลับถึงเรือนด้วยความเหนื่อยล้า อาบน้ำเสร็จหัวถึงหมอนก็หลับเลย ของที่ซื้อมาก็เก็บไว้ที่ถุงวิเศษก่อน เพื่อกันขโมย วันรุ่งเช้า เหม่ยอิงก็เริ่มทำงานอย่างขะมักเขม้น ทำอาหารให้คุณหนูตัวเอง โชคดีที่เมื่อวานซื้อเนื้อหมูมาด้วย คุณหนูเอาไว้ให้หนึ่งจินเพื่อทำหมูทอดในเช้าวันนี้ เห็นแบบนี้ข้ารู้ว่าคุณหนูไม่ใช่อันเฟยเทียนคนเดิม เพราะเห็นคุณหนูเอาของเข้าออกทางถุงวิเศษตั้งแต่วันแรก แต่เลือกที่จะไม่พูด คุณหนูก็น่าจะรู้ว่าข้ารู้ ยังไม่ทันที่เหม่ยอิงไปปลุก อันเฟยเทียนก็เดินออกมาตามกลิ่นของหมูทอด “หอมมาก เจ้าทำออกมาได้น่ากินกว่าข้ามากเลย” “ขอบคุณเจ้าค่ะ คุณหนูรีบไปล้างหน้าล้างตา แล้วมาทานข้าว” หลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จ อันเฟยเทียนก็ให้เหม่ยอิงเอาเนื้อหมูมาหั่นเป็นเส้นๆ ช่วยกันหั่นจนมือระวิง “หั่นเสร็จแล้ว เอาไปตากแดดจนหมูแห้ง สักห้าหกวัน” หลังจากนั้นก็ มาช่วยกันเอาผงขิงมาใส่ในขวดให้ครบพันขวด “คุณหนู เหม่ยอิงขอถามได้ไหมเจ้าค่ะว่า ทำไมถึงซื้อผงขิงมามากมายขนาดนี้” “เจ้าไม่รู้อะไร ตอนนี้เพิ่งเสร็จศึกมาใช่ไหม ผลผลิตใกล้จะขาดแคลน เพราะตอนนี้มันเพิ่งหน้าเพาะปลูก ผู้คนก็ต้องหาซื้อ เพื่อชงดื่ม ขิงเห็นแบบนี้มีประโยชน์มากกว่าที่เจ้าคิด” “แต่ทำไม คุณหนูไม่ซื้อแบบสดมาด้วยละเจ้าค่ะ” “ข้าขี้เกียจ ซื้อแบบผงเก็บง่ายกว่า ซื้อแบบสดมาข้าไม่มีเวลา และมันเสียเวลาที่จะทำเอง ข้าไม่มีเวลาทำแบบอื่นพอดี ถึงจะขายในราคาแพง แต่พ่อค้าก็ต้องอยากได้กำไรใช่ไหม” “แต่เท่าที่เห็นขวดแก้วที่ซื้อมามีราคากว่าผงขิงอีกนะเจ้าค่ะ” “มันเรียกว่าเพิ่มมูลค่าทางการค้า รีบทำ” กว่าที่จะเสร็จทั้งพันขวด เวลาก็ล่วงเลยมายามจื่อ “เหม่ยอิงไปเตรียมตัวข้าจะไปข้างนอก” ทางด้านคุณชายเจียตงหยางก็ฟังองครักษ์รายงานว่าช่วงเช้า เห็นฮูหยินรองกับสาวใช้หั่นเนื้อหมูแล้วเอาไปตากแดด หลังจากนั้นเอาผงขิงใส่ขวดที่ซื้อมาเมื่อวาน และกำลังออกไปข้างนอกอีก “ตระกูลหน้าเงินจะอะไรเสียอีก เอาไว้ขายโก่งราคา แต่พวกนางหั่นหมูแล้วตาก ไม่ใช่ว่าพวกนางจะกักตุนอาหาร ตระกูลของนางกำลังทำการใหญ่ เจ้าไปสืบเรื่องตระกูลอันมาว่าตอนนี้มีอะไรผิดสังเกตอีกไหม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD