ตอนที่ 8 ฮูหยินรองแต่ไม่เป็นรอง

1772 Words
เมื่อกลับมาถึงเรือนโดยการใช้ประตูด้านหลังจวนก็เป็นเรื่องที่ดีมากที่ไม่ต้องเจอสามีและเมียหลวง แต่พอกลับมาถึงเรือนที่อยู่รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เรือนถ้าฝนตกหนักมีหวังพังลงมา ถ้าเข้าฤดูหนาวมันจะบังลมหนาวได้อย่างไร หรือว่าข้าจะซ่อมเรือน แต่ก็ต้องใช้เงินหลายตำลึงเหมือนกัน เรื่องกินอิ่มไม่ห่วง แต่นอนอุ่นเนี่ยไม่แน่ใจว่าจะทำได้ไหม ต้องเข้าไปคุยแล้วกระมัง รอพรุ่งนี้เช้าก่อนก็แล้วกัน เวลานี้ไม่น่าเหมาะเท่าไหร่ เมื่อวันรุ่งนี้อันเฟยเทียนต้องไปเคารพฮูหยินเอกตามธรรมเนียมอีก สิ่งที่เรือนที่พักมีดีอยู่อย่างเดียวคือสะพานตรงสระนี้แหละ เมื่อมาถึงเรือนฮูหยินเอกก็ต้องเข้าสู่ธรรมเนียมเมียน้อยเคารพเมียหลวง เป็นเมียหลงต้องใจแข็งเพียงใดที่ต้องเห็นหน้าเมียน้อยมาลอยหน้าลอยตาทุกวัน แต่ก็ต้องยิ้มต้อนรับอย่างปฏิเสธไม่ได้ “ข้าอันเฟยเทียนคารวะ ฮูหยินเอกเจ้าค่ะ” ทำตามระเบียบทุกอย่างคล่องแคล่ว “ไม่ต้องพิธี” อันเฟยเทียนเคารพเสร็จก็หันหลังกลับทันที ฮูหยินรองไม่มีสิทธิ์ร่วมสำรับอยู่แล้วถ้าไม่ถูกเชิญ แต่แล้วเสียงทรงพลังก็ดังขึ้นตามหลัง “อันเฟยเทียน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงได้ทำให้มันจบๆไปอย่างขอไปที” อันเฟยเทียนหันหน้ากลับมา “ข้าทำเพราะมันต้องทำ ถ้าไม่อยากจะเห็นหน้าข้าก็ไล่ข้าออกจากจวนให้ได้สิ” “เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรืออย่างไร” “ข้าจะขอบคุณพี่สาวมาก ถ้าหากว่าพี่สาวไล่ข้าออกจากจวนได้” “เรื่องอะไรข้าจะให้เจ้าเป็นอิสระ ข้าจะให้เป็นฮูหยินรองเป็นรองข้าทุกเรื่อง” อันเฟยเทียนรู้สึกว่าผิดแผนไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรเพิ่งตื่นมายังโลกนี้ได้ไม่กี่วันจะรีบไปไหนไหน เป็นหนามยอกอกเอินลู่จิวไปก่อน วันไหนางทนไม่ไหวก็เขี่ยเราทิ้งไปเองแหละ เราไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ พ่อจะเดินทางกลับเรื่องก็เจอพ่อบ้านเข้า อันเฟยเทียนก็ถือโอกาสแจ้งกับพ่อบ้านไปเลย “พ่อบ้าน ข้าฝากไปเรียนสามีของข้าทีว่าข้าจะซ่อมแซมเรือนใหม่ แล้วข้าจะส่งค่าใช้จ่ายให้ท่าน” “ฮูหยินรองเรื่องนี้ท่านต้องเรียนกับคุณชายตงหยางด้วยตนเอง ข้าไม่สามารถที่จะทำโดยพลการได้” “เช่นนั้นก็พาข้าไปพบคุณชายของท่านด้วย” พ่อบ้านทำหน้าลำบากใจอย่างไม่ปิดบังสักนิด อันเฟยเทียนก็เอ่ยอย่างไม่รอช้า “ถึงข้าจะเป็นฮูหยินรอง แต่ข้าก็ขึ้นชื่อว่าเป็นฮูหยินเช่นเดียวกับฮูหยินเอก เหตุใดถึงเลือกปฏิบัติกับข้า อีกอย่างข้าก็ไม่ใช่สาวใช้ในเรือน ถึงไม่เป็นที่โปรดปราน แต่ตามกฎของจวนข้าก็มีสิทธิ์มีเสียงเช่นกัน” “เช่นนั้นฮูหยินรองก็ตามข้ามาเถอะ” อันเฟยเทียนเดินตามพ่อบ้านมาที่เรือนใหญ่ ก็เห็นสามีตัวเองนั่งตรวจบัญชีอยู่ “คารวะ ท่านพี่” เจียตงหยางที่ได้ยินเสียงอันเฟยเทียนที่เรียกตนว่าท่านพี่ก็เผลอยิ้มออกมาเพียงเสี้ยววิก็มลายหายไป “เจ้ามาหาข้ามีกิจอันใด” “ข้าจะซ่อมแซมเรือน จึงมาบอกท่านพี่ให้ทราบ” “ใครอนุญาต” “ข้าก็กำลังขออยู่นี่ไงเจ้าค่ะ” “เจ้าคิดว่าที่ข้าให้เจ้าไปอยู่ที่ท้ายจวนเพื่อจะให้เจ้าอยู่อย่างสุขสบายอย่างนั้น” “ถ้าหากท่านพี่ไม่ซ่อมเรือนให้แก่ข้า ข้าจะเข้าวังไปฟ้องฮ่องเต้” อันเฟยเทียนทำท่ายียวน “ถึงอย่างไร ข้าก็ได้รับพระราชทานสมรสเช่นเดียวกับฮูหยินเอกของท่าน ถึงจะข้าจะเป็นฮูหยินรอง แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านจะปฏิบัติต่อข้าอย่างทิ้งขว้าง ถึงท่านจะเป็นอาของฮ่องเต้ก็เถอะ” เจียตงหยางไม่คิดว่าอันเฟยเทียนจะเล่นมุกนี้กับเข้า ร้ายกาจถึงขั้นจะฟ้องฮ่องเต้ ช่างมักใหญ่ใฝ่สูงเสียจริง สมแล้วที่เป็นลูกของราชครูเฮย พ่อนางคงสั่งสอนมาอย่างดีถึงได้กล้าถึงเพียงนี้ “ค่าใช้จ่ายก็แจ้งแก่พ่อบ้าน ว่าแต่ตั้งแต่เจ้าแต่งเข้าจวนมา ข้ายังไม่ได้ไปเยียมจวนของเจ้า พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะไปเยียมพ่อตาเสียหน่อย” อันเฟยเทียนก็ไม่ได้คิดอะไร ไปก็ดีหมือนกัน จะได้ไปกระตุ้นเอินลู่จิวเสียหน่อยให้กำจัดข้าให้พ้นทางเร็วขึ้น หลังจากที่เจียตงหยางอนุญาตก็รีบไปที่ตลาดหาคนรับเหมาซ่อมแซมเรือนทันที และก็ได้เจอกับคนที่รับเหมาที่พร้อมทำงานทันที อันเฟยเทียนจึงบอกให้เริ่มงานในวันพรุ่งนี้ได้เลย เพราะอย่างน้อยก็ไปนอนที่ตระกูลตัวเองตั้งสามคืน อย่างน้อยสามวันก็น่าจะเสร็จ เพราะซ่อมแซมไม่ได้ปลูกใหม่ทั้งหลัง คงใช้เวลาไม่นาน “คุณหนูของเหม่ยอิงเก่งที่สุดเลยเจ้าค่ะ” “ที่ข้าทำเพื่อตัวข้าเอง เกิดวันไหนฝนตกหนักขึ้นมา เราจะได้นอนหลับอย่างสบายใจไม่ต้องกังวลใจ” พรุ่งนี้ต้องไปเยียมท่านพ่ออย่างเป็นทางการก็ต้องมีของฝากติดไม้ติดมือไปอยู่แล้ว อันเฟยเทียนจึงซื้อของกระจายมีเงินเสียอย่างจะกลัวอะไร จะมีฮูหยินรองที่ไหนออกจากจวนไปไหนมาไหนตลอดโดยไม่เกรงกลัวอะไรเลย และก็ไม่พลาดที่ชิมอาหารจีนโบราณรสชาติต้นตำรับ กินให้พุงแตก และระหว่างที่เลือกชิมอยู่ก็เจอกับฮันอ๋องที่มาเดินตลาดเช่นกัน ไม่พลาดที่จะทักทาย “ไม่รู้ว่าหลานมาเดินตลาดเป็นเช่นกัน จะทานอะไรไหมเดี๋ยวย่าสะใภ้เลี้ยงเอง” อันเฟยเทียนลืมจนหมดสิ้นที่โดนกระบี่ฟาดมาที่คอวันก่อน ฮันอ๋องมองหน้าอันเฟยเทียนอย่างไม่พอใจ กล้าที่จะเรียกตัวเองว่าย่าสะใภ้ แถมล้อเลียนเขาอย่างไม่กลัวตายเลย ไม่รู้ว่านางไปกินอะไรเข้าถึงได้ไม่กลัวเขาได้ถึงเพียงนี้ ‘หลานกับย่าสะใภ้’ สักวันข้าจะให้เจ้าไม่กล้าที่จะเอ่ยคำว่าย่าสะใภ้ออกมาแม้แต่ครึ่งคำ “ไม่ทราบว่าท่านย่าสะใภ้ซื้อของจะไปที่ใดตั้งมากมาย” “ปู่ของเจ้าก็จะไปเยียมตระกูลของย่าสะใภ้ในวันพรุ่งนี้” อันเฟยเทียนยิ้มอย่างสดใส “เช่นนั้นจะเลี้ยงข้าวหลานสักมื้อได้หรือไม่” บทสนทนาของย่าหลานปลอมๆได้ ทำให้ผู้ติดตามของฮันอ๋องสีหน้าถมึงทึงขึ้นทันที สตรีนางนี้กล้าดีเช่นไรมาพูดว่าฮันอ๋องเป็นหลานอย่างไม่อายปาก “หลานจะทานอะไรเลือกได้เลย ย่าสะใภ้ยอมตามใจ” เหมยอิงที่ตัวสั่นเหมือนนกตกน้ำจะบินหนีก็บินไม่ได้ เห็นคุณหนูกล้าล้อเล่นกับฮันอ๋องจอมโหดโดยที่ไม่เกรงกลัวกระบี่ที่ถืออยู่เลย ได้แต่กระตุกแขนเสียเป็นระยะ เพื่อส่งสัญญาณให้หยุด แต่คุณหนูก็ไม่ได้สนใจ แถมชวนไปทานข้าว อกเหม่ยอิงจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ฮันอ๋องพาอันเฟยเทียนมาที่เหลาอาหารที่หรูหราที่สุด ไม่พอยังพามาที่ห้องส่วนตัวชั้นสาม และสั่งอาหารที่แพงที่สุดมาหลายสิบอย่าง พออาหารมาเสิร์ฟก็ชิมอาหารอย่างละนิดละหน่อยเท่านั้น อันเฟยเทียนที่มองดูหลานปลอมๆของตนแล้วรู้สึกขัดใจ “ถ้าหลานจะทานเพียงเท่านี้ แล้วใยสั่งอาหารมาเยอะเลี้ยงคนทั้งจวนได้เช่นนี้” ฮันอ๋องอึ้งที่อันเฟยเทียนกล้าที่จะตำหนิตนอย่างไม่กลัวตายเลยสักนิด “ข้าอิ่มแล้ว ย่าสะใภ้จ่ายเงินได้แล้ว” อันเฟยเทียนรู้อยู่แล้วว่าฮันอ๋องจะเล่นมุกนี้กับนาง “ห่ออาหารทั้งหมดกลับ ส่วนค่าอาหารส่งไปที่จวนเจียได้เลย เดี๋ยวปู่ของหลานข้าจะเป็นคนจ่ายเอง” อันเฟยเทียนยิ้มพร้อมกับยักคิ้วให้ฮันอ๋อง “แค่หลานคนเดียวทำไมปู่ของหลานจะเลี้ยงไม่ไหวจริงไหม” พอเสี่ยวเอ้อร์ห่ออาหารมาให้ อันเฟยเทียนกับเหม่ยอิงก็ช่วยกันหิ้วออกจากเหลาอาหาร แล้วเดินไปที่ท้ายตลาดตรงตรอกเก่าๆ แล้วแจกให้กับขอทานคนละห่ออย่างใจกว้าง พอมีคนมาแจกอาหารคนไร้บ้านหรือคนยากคนจนก็มาต่อแถวยาวมาก อันเฟยเทียนคิดว่าอาหารไม่น่าพอ จึงได้พูดขึ้น “ให้พวกเจ้าจับกลุ่มครบสี่คนก็มารับอาหารหนึ่งกล่อง รับรองว่าพวกเจ้าแบ่งกันกินก็อิ่มเช่นกัน” เมื่อแจกหมดก็กลับไปเอาของที่ซื้อไว้ที่ฝากไว้ที่เหลาอาหาร และเดินกลับจวนเจีย อันเฟยเทียนรู้สึกเมื่อยไปทั้งตัว ถ้าที่นี่มีนวดก็คงดีไม่น้อย อันเฟยเทียนลืมไปสนิทว่าตัวเองมีถุงวิเศษสามารถเอาเข้าไปใส่ด้านในโดยที่ไม่ต้องพะรุงพะรังแล้วปวดเมื่อยไปทั้งตัวแบบนี้หรอก ก็คนมันลืมจะให้ทำอย่างไร จะว่าไปตอนนั้นไม่ได้นึกถึงอุปกรณ์การอาบน้ำบ้างหรืออย่างไร จำได้แต่ตู้เย็น ลองเข้าไปดูสิว่าว่ามีหรือ พอเข้าไปในถุงวิเศษก็เห็นถุงที่ที่อยู่ข้างตู้เย็นปรากฏว่าเป็นถุงสบู่แชมพู ทำไมไม่เข้ามาสำรวจก่อน ปล่อยให้อาบน้ำลวกๆตั้งหลายวัน บ้าจริง เมื่ออาบน้ำคัดขี้ไคลฟอกสบู่ให้หอม สระผมให้สะอาดด้วยแชมพูก็รู้สึกหายเมื่อยเป็นปลิดทิ้ง ว่าแต่เย็นนี้จะทานอะไรดีน่า “เหม่ยอิง เย็นนี้ทำอะไรกินบ้าง” “หมูทอดเจ้าค่ะ” อันเฟยเทียนไม่คิดว่าเหม่ยอิงจะหมูทอดกับหมูต้มสลับให้นางกินแทบทุกมื้อ สงสัยคงคิดว่านางชอบกินกระมัง อย่างน้อยก็ดีกว่ากินผักดองท่องเอาไว้ เมื่อทานข้าวเสร็จทุกคืนอันเฟยเทียนจะมานั่งที่ศาลากลางสระทุกคืนเป็นการย่อยและชื่นชมบรรยากาศใต้แสงจันทร์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD