ตอนที่ 9 เยียนตระกูลอัน

1809 Words
และคืนนี้แขกไม่ได้รับเชิญก็โผล่หัวมา นั่นจะเป็นใครนอกจากสามีในนามของอันเฟยเทียนผู้นี้ “เจ้าคงจะชอบมานั่งเล่นที่นี่ทุกคืนกระมัง หรือมีบางอย่างแอบแฝง” ทักทายคำแรกคือสมเป็นคุณชายเจียตงหยาง “ข้าแค่ชอบมาชมพระจันทร์ยามค่ำคืนเท่านั้น หาได้มีอะไรแอบแฝงอย่างที่กำลังถูกกล่าวหา” อันเฟยเทียนหมดอารมณ์แล้วจริง มารความสุขจริงๆ “เจ้ายอกย้อนข้าอย่างนั้นหรือ ราชครูเฮยคงสอนเจ้ามาดี” “ท่านพ่อของข้าสอนข้ามาอย่างดี คุณชายตงหยางไม่ต้องเป็นห่วง” “ใครเป็นห่วงเจ้า แต่วันนี้เจ้าไปเลี้ยงเหลาอาหารฮันอ๋อง แต่กลับส่งค่าอาหารมาที่จวนแบบนี้มันจะมากไปกระมัง” “ข้าเป็นเพียงฮูหยินรอง เบี้ยหวัดน้อยนิดจะพอจ่ายค่าอาหารที่เหลาได้อย่างไร ยิ่งฮันอ๋องเป็นหลานของคุณชายข้าจะปฏิเสธให้เสียหน้าก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะถูกครหาว่าจวนเจียไม่มีเงินเลี้ยงอาหารเพียงมื้อเดียวให้แก่หลานชาย” อันเฟยเทียนทำเสียงน่าสงสาร “หากเจ้าจะเลี้ยงเหลาอาหารแก่ฮันอ๋องเอง เจ้าก็ย่อมทำได้สินเดิมเจ้าตั้งมากมาย” “ที่เรือนของข้าไม่เห็นว่ามีสินเดิม ไม่ใช่ว่ายึดสินเดิมของข้าไปเสียหมดสิ้น” “ข้าเป็นใคร คุณชายเจียตงหยางอย่างข้าเป็นถึงอาของฮ่องเต้ ข้าทำค้าขายมีทรัพย์สินมากมาย จะยึดสินเดิมเจ้าเพื่ออะไรกัน” อันเฟยเทียนก็นึกขึ้นได้ลืมไปเลยเรื่องสินเดิม น่าจะเป็นสิ่งแรกที่คิดได้สิ่งแรก ถ้างั้นสินเดิมข้าหายไปไหน “ถ้ามีทรัพย์สินมากมายจะคิดมากอะไรแค่อาหารเลี้ยงหลานชายแค่มื้อเดียว” “ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้ อย่าไปยุ่งกับฮันอ๋องให้มาก ที่เล่นย่าสะใภ้กับหลาน” อันเฟยเทียนรู้สึกอายทันที เมื่อโดนเรื่องนี้ ก็ย่าสะใภ้ที่อายุน้อยกว่าหลานเขยตั้งห้าปี ก็ช่วยไม่ได้ที่นี่เขานับเรื่องยศศักดิ์ดีนัก “ทำไมจะเล่นไม่ได้ ก็เป็นเรื่องจริง” คุณชายเจียตงหยางอดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วเคาะหน้าผากของอันเฟยเทียนอย่างหมั่นเขี้ยว คนอะไรเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมนางดูน่ารัก “โอ้ย...ย แดงรึเปล่าไม่รู้เคาะมาได้” เสียงเหมือนลูกแมวอ้อนแบบไม่รู้ตัว วันรุ่งขึ้น ที่จวนเจียวุ่นวายกันไปหมด เพราะว่าคุณชายเจียตงหยางกับฮูหยินรองจะไปเยียนจวนตระกูลอันเป็นเวลาสามคืน ทำให้ฮูหยินเอกไม่พอใจหนัก ถึงขั้นเดินมาหาอันเฟยเทียนที่กำลังยุ่งตรวจดูของว่าครบหรือไม่ “น้องสาว ข้าขอคุยด้วยประเดี๋ยว” เสียงหวานของเอินลู่จิว “พี่สาวมีอะไรจะพูดกับข้า พูดมาได้เลย” อันเฟยเทียนผู้ไม่ได้ดูบรรยากาศรอบตัว เพราะตอนนี้สาวใช้คนงานต่างหัวหดแล้ว “ตามข้ามา” เอินลู่จิวจับแขนอันเฟยเทียนแล้วลากไปที่ลับตาคน “เจ้าคิดจะเป็นหนามยอกอกข้าไปถึงไหน ถึงขั้นให้ท่านพี่ไปตระกูลของเจ้า มันไม่มากไปรึไง” น้ำเสียงเกี้ยวกราดเมื่ออยู่สองคน อันเฟยเทียนที่โดนลากมามีหรือจะไม่สู้กลับ “หากข้าเป็นหนามยอกอกเจ้า เจ้าก็จำกัดข้าให้พ้นทางเสียสิ” “หึ รอดมาได้ครั้งนี้ไม่กลัวตายเหมือนครั้งก่อน ดีค่อยสมที่จะสู้กันหน่อย” อันเฟยเทียนทำไมคิดไม่ออกตั้งแต่ครั้งแรก ศัตรูอยู่แค่ปลายจมูกนี่เอง กลับมองข้าม ต่อหน้าเสียงหวานปานน้ำผึ้ง ลับหลังเป็นนางพญาผึ้งนี่เอง “คิดว่าทำได้อีกก็เชิญ” อันเฟยเทียนสะบัดหน้าหนี แล้วเดินไปหน้าเรือนใหญ่ เพราะของเยอะมาก บางส่วนเก็บไว้ที่ถุงวิเศษแล้ว สักครู่เดียวเอินลู่จิวก็เดินมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอเห็นว่าคุณชายตงหยางเดินออกมา “ท่านพี่เดินทางปลอดถภัยนะเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลจวนให้เป็นอย่างดีท่านพี่ไม่ต้องห่วง” เดินไปเกาะแขนทันที เสียงนี่หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า หรือว่าข้าต้องเอาอย่างนางบ้างแล้ว คุณชายตงหยางก็พยักหน้าก่อนจะหอมแก้ม ทำให้นางอายม้วนไปทันที อันเฟยเทียนที่เห็นก็รู้สึกเอือมระอากับผัวเมียคู่นี้จริงๆ ก่อนที่จะส่ายหัว แต่ทำให้เหม่ยอิงจับชายเสื้อแล้ว “คุณหนูไม่ต้องเสียใจไปนะเจ้าค่ะ” อันเฟยเทียนอยากจะบ้าตาย นี่เหม่ยอิงคิดว่าข้าหึงหวงหรือเนี่ย เมื่อร่ำลากันเรียบร้อยก็นั่งรถม้ามุ่งหน้าไปยังจวนตระกูลอันทันที ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถม้า “อิจฉาคนมีความรักหรือไง” “ทำไมข้าต้องอิจฉา ข้าไม่ได้ชอบพอกับคุณชายเสียหน่อย” อันเฟยเทียนพูดความจริง แต่ความจริงนั้นทำให้เจียตงหยางคิ้วขมวดไม่พอใจ เจียตงหยางดึงแขนอันเฟยเทียนให้เข้ามาสู่อ้อมกอดของตนอย่างหงุดหงิด ไม่ได้ชอบพออย่างนั้นหรือ แล้วมาแต่งงานกับข้าทำไมกัน ภายในใจของตงหยางเริ่มต่อสู้กับความคิดที่เริ่มตีกันในหัวที่พุดขึ้นมาอย่างมากมาย อันเฟยเทียนที่อยู่ในอ้อมกอดของเจียตงหยางคงเป็นครั้งที่สองที่อยู่ในอ้อมกอดนี้ กลิ่นที่เป็นกลิ่นเฉพาะของคุณชายตงหยางกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ ผู้ชายอะไรมีกลิ่นดอกกุหลาบเป็นกลิ่นเฉพาะตัว แต่จะว่าไปอ้อมกอดนี้ก็อบอุ่นเหมือนกันนะ “เจ้านี่เผลอเป็นไม่ได้ ชอบอ้อมกอดข้าก็ไม่บอก แล้วยังบอกไม่ชอบข้าอีก” ตงหยางดึงอันเฟยเทียนออกจากอ้อมกอดตนทันที อันเฟยเทียนรู้สึกว่าครั้งนี้โดนล่อลวงจนพูดไม่ออก เมื่อมาถึงที่จวนตระกูลอันก็รีบลงจากรถม้าทันที ก็เห็นท่านพ่อยืนรออยู่แล้วก็โผล่กอดทันทีอย่างลืมตัว “อ่ะแฮ่ม” อดีตราชครูเฮยส่งสัญญาณ “พ่อตา สบายดี” “ข้าสบายดี เชิญคุณชายด้านใน” อดีตราชครูเฮยเดินนำเข้าไป อันเฟยเทียนก็หันไป “เหม่ยอิง คุมคนงานขนของเข้าไปให้เรียบร้อย” ก่อนจะเดินตามพ่อตากับลูกเขยเข้าไปด้านใน บรรยากาศเหมือนจะมืดลง เหมือนว่าสองคนนี้แค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน พอเข้ามาด้านในแทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย เป็นตงหยางที่เดินสำรวจบ้านอย่างเสียมารยาท อันเฟยเทียนรู้สึกว่าครั้งนี้ตงหยางทำเกินไป “เป็นถึงอาของฮ่องเต้ กลับไร้มารยาทเสียจริง ท่านพ่อข้าขออภัยแทนสามีข้าด้วยนะเจ้าค่ะ” อันเฟยเทียนส่งซิกให้อดีตราชครูเฮยเล่นงิ้วต่อ โอกาสไม่ได้มาบ่อยๆ “ช่างคุณชายเจียตงหยางเถอะลูก ลูกเขยของพ่อไม่ได้อยู่ในราชวงศ์นานแล้ว จะลืมมารยาทพ่อเข้าใจ” อดีตราชครูเฮยก็ไม่ย่อยนะ คุณชายตงหยางรู้สึกว่าแค่พลาดท่าเพียงก็จะโดนโจมตีเช่นนี้ แต่มีหรือจะยอมโดนอยู่ฝ่ายเดียว “ข้าต้องขออภัยท่านพ่อตาที่เสียมารยาท ข้ามาครั้งแรกก็อยากรู้ว่าเทียนเอ้อร์มีความเป็นอยู่อย่างไร ว่าแต่พาข้าไปห้องนอนที่เราจะค้างกันคืนนี้ดีกว่า” เจียตงหยางโอบไหล่อันเฟยเทียนต่อหน้าอดีตราชครูเฮยทันที อันเฟยเทียนรู้สึกว่างานเข้าแล้ว “เหม่ยอิง เจ้าพาคุณหนูและลูกเขยข้าไปพักที่ห้องที” อดีตราชครูเฮยเรียกตัวช่วยทันที เหม่ยอิงก็พานายทั้งสองของตนไปที่ห้องนอนคุณหนูทันที หน้าตายิ้มแย้มอย่างดีใจ โดยไม่รู้เลยว่าคุณหนูของตนอยากจะร้องไห้ อันเฟยเทียนที่ถูกโอบไหล่เดินเหมือนคนกำลังมีครรภ์ก็ไม่ปาน พอมาถึงห้องเหม่ยอิงก็ปิดประตูทันที เหมือนรู้หน้าที่ดีเกินไป “คุณชายก็พักผ่อนตามสบายก็แล้วกัน ข้าจะไปคุยธุระกับท่านพ่อ” อันเฟยเทียนรีบหาตัวรอด แต่เหมือนว่าเจียตงหยางรู้ทันก็โผล่กอดอันเฟยเทียนเอาไว้ “คิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าออกไป” อย่าบอกนะว่าเจียตงหยางจะเข้าหอกับนาง “ปล่อยข้าก่อน แล้วมาตกลงกันอย่างสันติ” เจียตงหยางไม่อยากจะเชื่อหู อันเฟยเทียนมีเรื่องจะตกลงกับเข้า นางมีสิทธิอะไร แต่งงานเข้าจวนเจียแล้วก็เป็นสมบัติของตระกูลเจีย “เจ้าคงลืมไปแล้วว่าแต่งงานกับข้าก็ต้องเป็นคนของตระกูลเจีย เป็นสมบัติของข้า” “งั้นสมบัติของท่านก็เป็นของข้าเช่นกันใช่หรือไม่” เรื่องนี้เรื่องเดียวที่เอาชนะเจียตงหยางได้ พอพูดถึงสมบัติเจียตงหยางก็คลายกอด แล้วมานั่งบนเก้าอี้ “มีอะไรจะตกลงก็พูดมา” “ข้ารู้ว่าท่านไม่ชอบที่ท่านพ่อของข้าบังคับให้ท่านแต่งงานกับข้า โดยวิธีการบีบบังคับหรืออะไรก็ตาม แต่ท่านก็สามารถที่จะหย่ากับข้าได้ทุกเมื่อ แล้วทำไมไม่หย่ากับข้าเสียล่ะ” “ในเมื่อเข้าถ้ำมังกรแล้ว คิดว่าจะออกจากกรงเล็บมังกรไปได้หรืออย่างไร เห็นตระกูลเจียเป็นสนามเด็กเล่น?” “ในเมื่ออะไรก็ไม่ได้ก็อยู่กันแบบนี้ก็แล้วกัน ถือว่าได้พูดกับท่านเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ดีเสียอีก ท่านร่ำรวยถึงเพียงนี้ข้าก็สบายไปทั้งชาติแล้ว แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องเกรงใจท่าน ข้ามีแต่ได้กับได้ไม่เห็นต้องกังวลใจอะไร” “เผยทาสแท้ออกมาเสียที มัวแต่ปิดบังอยู่ได้ ใครๆทั่วเมืองหลวงก็รู้ว่าตระกูลของเค้าคดโกง จนไม่มีใครคบ ถึงต้องใช้วิธีสกปรกเพื่อเอาตัวรอด” อันเฟยเทียนฟังตงหยางแล้วอยากจะทึ้งหัวจริงๆ นี่เล่นศาลเตี้ยกดดันท่านพ่อของข้า อันเฟยเทียนเดินออกจากห้อง แล้วเดินไปหลังจวนทันที จำได้ว่าตอนเข้ามาเห็นใบไผ่ที่สูงพ้นหลังคาจวน ที่หนีออกมาไม่ใช่ว่าเถียงไม่ได้ แต่เถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ คนมีอคติ แค่ออกมาสูดอากาศก่อนที่อยากจะฆ่าสามีตัวเอง อย่าบอกนะว่าที่คุณชายตงหยางมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์สืบเรื่องนี้อย่างแนบเนียน และคงไม่ได้มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอกกระมัง ร้ายกาจนักนะ พอสงบสติอารมณ์ตัวเองเรียบร้อยก็เดินเข้าไปหาอดีตราชครูเฮย เพราะมีเรื่องจะคุยถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะวางแผนล่อมังกร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD