ไม่รู้ว่าระยะนี้เกิดขึ้นเธอเหมือนถูกจับตามองจากชายหนุ่มร่างสูงที่ช่วงนี้ขยันขับรถไปกลับบ้านไร่กับโรงแรมของตัวเองเหลือเกินทั้งๆ ที่เมื่อก่อนอาทิตย์หนึ่งกลับแค่สองสามวันเท่านั้นเอง แถมเวลาที่เขามองสายตาที่ส่งมามันดูแปลกๆ ยังไงบอกไม่ถูก หรือว่าเธอเผลอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจนะ
“หนูเทียนเป็นอะไรไปจ๊ะทำไมนั่งขมวดคิ้วแบบนั้นล่ะ” จินตนาที่เดินเข้ามาเห็นรสิกาที่นั่งทำงานอยู่ที่ระเบียงไม้ซึ่งตอนนี้เป็นมุมโปรดของหญิงสาวไปแล้ว
“ไม่มีอะไรค่ะคุณป้าพอดีหนูนั่งคิดเรื่องงานที่ร้านนิดหน่อย” จะให้เธอพูดได้ยังไงว่ากำลังคิดถึงเรื่องลูกชายของหญิงสูงวัยอยู่
“มีอะไรให้ป้าช่วยก็บอกได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ อย่าลืมว่าป้ารักหนูเทียนเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง” หญิงสูงวัยพูดย้ำให้อีกฝ่ายรู้พร้อมกับส่งยิ้มหวานที่เต็มไปด้วยความเมตตา
“ขอบคุณคุณป้ามากนะคะที่เมตตาหนู” รสิกยกมือแล้วกราบไปที่ตักของหญิงสูงวัย ตลอดเวลาที่ทำงานที่นี่เธอได้รับความเมตตาและการดูแลอย่างดีเหมือนเป็นลูกหลานของท่านไม่มีผิด
จินตนาลูบศีรษะเล็กอย่างเบามือ เมื่อเห็นว่าไหนๆ ก็พูดคุยกันแล้วเธอเลยเอ่ยปากถามเรื่องที่รบกวนจิตใจอยู่ไม่น้อย และคงไม่ใช่เธอคนเดียวที่อยากรู้แน่เพราะมีใครบางคนที่สังสัยใคร่รู้แต่ฟอร์มจัดไม่กล้าถามเลยชอบหาเรื่องจับผิด รสิกาตลอด
“หนูเทียนป้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหมจ๊ะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวไม่รู้หนูลำบากใจที่จะเล่าหรือเปล่า”
“เรื่องอะไรคะ” เธอถามอย่างสงสัยว่าหญิงสูงวัยอยากรู้เรื่องอะไร
“หนูกับคุณกานต์เป็นคนรักกันหรือเปล่าจ๊ะ ที่ป้าถามเพราะเขาอาจจะไม่อยากให้หนูมาทำงานไกลเขาก็ได้” จินตนาถามเข้าประเด็นและเธอก็ต้องแอบยิ้มในใจเมื่อเห็นเงาของใครคนหนึ่งที่คิดว่าตัวเองตัวเล็กหลบหลังหน้าต่างแล้วจะไม่มีใครมองเห็น
“ไม่ใช่หรอกค่ะ หนูกับพี่กานต์ไม่ได้เป็นอะไรกันนอกจากเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่เรียนมัธยมที่เดียวกันมาค่ะ” รสิกาหัวเราะแล้วตอบออกมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนถามแบบนี้ เพราะที่ผ่านมามีคนคิดและถามแบบนี้หลายคน
“อ้าวเหรอ ป้าเห็นสนิทสนมกันก็เลยนึกว่าหนูเทียนมีคนรักแล้ว” เธอแกล้งพูดเสียงดังๆ เพื่อจะได้ให้คนที่มาแอบฟังได้ยินด้วย
“หนูยังไม่มีคนรักเลยค่ะ” รสิกาพูดตามความจริง เธอไม่เคยมีคนรักหรือแฟนเลยสักคนไม่ว่าผู้ชายคนไหนมาจีบก็ไม่เคยผ่านการสแกนของกานต์สักที เขามักจะมีข้อติของคนนั้นมาบอกเธอเสมอพอเวลาผ่านไปก็เป็นจริงอย่างที่ชายหนุ่มรุ่นพี่บอกจริงๆ อย่างคนล่าสุดมาดดีดูมีเสน่ห์แพรวพราว ช่างเอาใจพูดจาอ่อนหวานแต่ทันทีที่กานต์เห็นเขาก็บอกว่าผู้ชายคนนี้เจ้าชู้และมีเจ้าของแล้ว ตอนนั้นเธอก็ไม่อยากเชื่อกานต์ที่พูดแต่แล้ววันหนึ่งเธอก็เจอผู้ชายคนนั้นเดินกอดเอวผู้หญิงสวยหุ่นดีคนหนึ่งซื้อของอยู่ในห้างใหญ่ของจังหวัดเธอเลยแกล้งเข้าไปทักทาย และก็ได้รู้ว่าผู้หญิงที่มาด้วยคือคนรักของผู้ชายที่มาจีบเธอนั่นเอง ตั้งแต่วันนั้นเธอไม่เคยรับโทรศัพท์หรือเจอผู้ชายคนนั้นอีกเลยพอนานวันชายหนุ่มก็ท้อและเลิกไปเอง ล่าสุดได้ยินข่าวว่าเลิกกับผู้หญิงคนนั้นไปแล้วเพราะไปทำผู้หญิงคนหนึ่งท้องเลยต้องไปรับผิดชอบคนนั้นแทน
จินตนาพอได้ยินที่หญิงสาวบอกเธอก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ และพอหันไปมองหลังหน้าต่างก็เห็นว่าคนตัวโตที่แอบยืนฟังอยู่ได้หายไปแล้ว
“ฟอร์มจัดจริงนะพ่อลูกชาย เดี๋ยวจะแกล้งเสียให้เข็ด” เธอคิดและหัวเราะในใจ
ด้านอชิระที่เดินเข้ามาในห้องนอนใหญ่ของตัวเอง เมื่อกี้เขาบังเอิญผ่านไปได้ยินที่มารดาคุยกับหญิงสาวหน้าหวานที่ระเบียง ตอนแรกเขาจะเดินเข้าไปทักแต่พอได้ยินที่สองสาวคุยกันขาทั้งสองข้างก็หยุดเดินและถือโอกาสแอบฟังเสียเลย
“ปากบอกไม่ได้เป็นอะไร แต่การกระทำมันสวนทางกันนะ” เขาพูดเบาเหมือนต้องการย้ำในสิ่งที่ตัวเองเห็นและเข้าใจ
“เฮอะ ผู้หญิงก็โกหกด้วยกันทุกคนนั่นแหละ” พูดจบเขาก็เดินลงส้นหนักๆ เข้าห้องน้ำหวังให้น้ำเย็นๆ จะช่วยดับความร้อนในร่างกายและจิตใจลงได้บ้าง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่สายตาของเขาคอยมองหญิงสาวหน้าหวานที่มาเป็นพยาบาลจำเป็นอยู่ตลอด ทั้งๆ ที่เขาเคยคิดว่าหญิงสาวจะไม่สามารถอยู่ในบ้านไร่ท่ามกลางขุนเขาแห่งนี้ได้ แต่ผิดคาดไม่ใช่แค่รสิกาจะอยู่ได้เธอยังมีความสุขและคอยสร้างเสียงหัวเรารอยยิ้มให้มารดาเขาอีกต่างหาก เรื่องอาหารและยาก็ถูกจัดการอย่างเรียบร้อย ทำให้ผลการตรวจร่างกายของท่านออกมาได้ผลดีเยี่ยมขนาดคุณหมอประจำตัวมารดายังเอ่ยปากชมออกมาเลย
“อ้าวรบมาตั้งแต่เมื่อไรน่ะลูก” จินตนาแกล้งถามเหมือนเพิ่งรู้ว่าลูกชายกลับมา
“มาได้สักพักแล้วครับ พอดีเห็นแม่กำลังคุยอยู่กับรสิกาผมเลยขึ้นไปอาบน้ำบนห้องก่อน” เขาพูดกับมารดาแล้วปรายตามองไปที่หญิงสาวที่นั่งตรงข้ามที่ไม่ได้หันมาสนใจเขาเลย
“งั้นเหรอจ๊ะ” จินตนาถามเสียงสูงออกมา
“ว่าแต่เรื่องไปเที่ยวถ้ารบไม่ว่างเดี๋ยวแม่กับหนูเทียนไปกันสองคนก็ได้นะ”
“แม่จะไปเมื่อไรแล้วไปที่ไหนกันครับ เพราะอาทิตย์นี้ผมมีประชุมด้วย” อชิระถามมารดา
“สุดสัปดาห์นี่แหละแม่จะไปเกาะเสม็ดว่าจะใส่ชุดว่ายน้ำสวยๆ แล้วไปส่องหนุ่มๆ กันน่ะจ้ะ ถ้ารบไม่ว่างเดี๋ยวให้มิตรขับรถพาแม่ไปก็ได้” จินตนาแกล้งพูดออกมา ถึงเธอจะอายุมากแล้วแต่หัวใจยังเป็นวัยรุ่นพร้อมเที่ยวเหมือนเด็กสาวๆ ได้
“อะไรนะครับชุดว่ายน้ำเหรอ!” อชิระถามเสียงดังลั่นด้วยความตกใจพร้อมกับหันไปมองหน้าหญิงสาวเต็มๆ ตา
รสิกาเองก็ตกใจที่หญิงสูงวัยพูดออกมาแบบนั้น เธอไม่เคยคิดแม้แต่จะใส่ชุดว่ายน้ำตัวจิ๋วลงเล่นน้ำทะเลแน่ๆ จากตอนแรกที่จะพูดปฏิเสธพอเห็นสีหน้าและท่าทางการตกใจของอชิระทำให้เธอพูดอีกอย่างออกมา
“ก็ดีเหมือนกันนะคะหนูเองก็ไม่เคยใส่ชุดแบบที่คนอื่นเขาใส่กันเลยค่ะ” และคำพูดของเธอก็เหมือนจะถูกใจหญิงสูงวัยยิ่งนัก
+++++