มิเกลเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา แต่เขาไม่ได้มองเธอแล้ว เป็นจังหวะที่ดวงตาคู่นั้นเบือนมองออกไปทางอื่นพอดี วินาทีนั้นเลยมีโอกาสมองหน้าหล่อๆ ไล่มองตั้งแต่เปลือกตาลงมาที่ปลายจมูกโด่งคม ยิ่งเผลอนึกถึงค่ำคืนนั้นตอนที่จมูกอันนี้คลอเคลียซุกไซ้กับซอกคอขาวมันยิ่งทำให้แก้มร้อนผ่าว เลยต้องรีบดึงสติของตัวเองลากสายตามาหยุดที่ปาก ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ สายตาคู่นั้นกลับตวัดกลับมามองที่เธอ
“มองอะไร”
“ปะ เปล่าค่ะ”
“ก็เห็นอยู่ว่ามอง” มาเฟียหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ การกระทำของเขามันก็ยิ่งทำให้เธอลนลาน
“ดื่มเลยนะคะ” คนถูกถามพยักหน้ารับและปรายตามองแก้วเหล้าในมือเล็ก ไม่รู้เหมือนกันว่าเธออยากได้เงินมากหรือกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ แต่มิเกลยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปากรวดเดียวจนเกลี้ยง มันทำให้มุมปากหนาผุดรอยยิ้มเล็กๆ ขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“ดีไหม?”
“ขมปี๋เลยค่ะ” ลิ้นเล็กตวัดเลียกลีบปากเก็บเหล้าที่หกเลอะเพราะรู้ว่ามันแพงมากๆ มันพลอยกระตุ้นให้คนที่เผลอกลืนน้ำลายลงคอเบือนหน้าหนีทันที
“เกล” เสียงเรียกจากทางด้านหลังส่งผลให้มิเกลหันกลับ ก่อนจะพบว่าเป็นพี่ชายที่แสนดีที่มองเธอด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ทำอะไร นี่ดื่มเหล้าเหรอ” กานต์เดินเข้ามาแย่งแก้วเหล้าในมือเล็ก พร้อมกับถอนลมหายใจออกมาหนักๆ
“เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอเกล ทำไมต้องดื่ม” กานต์ปรายตามองอีกคนที่นั่งอยู่กับน้องสาวของเขา ยิ่งเห็นรอยยิ้มเย้ยหยันบนมุมปากของเพื่อนที่เคยสนิทมันก็ยิ่งทำให้หัวอกของคนเป็นพี่ชายร้อนรุ่ม
“กูขอคุยกับเกลเป็นการส่วนตัว”
“มึงนี่มันนิสัยเสียไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ ชอบเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองอยากได้โดยไม่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่น เป็นแบบนี้จนเคยตัว”
“กูแค่อยากคุยกับน้องกู”
“กูใจกว้างอยู่แล้ว ข้อนี้มึงรู้ดีนี่ ขนาดของของกูกูยังยกให้มึงมาแล้วเลย” มาเฟียหนุ่มมองเพื่อนเก่าตาแข็ง ยิ่งเห็นหน้ายิ่งไม่สบอารมณ์ หงุดหงิดจนต้องยอมดันตัวลุก เดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อเปิดโอกาสให้พี่และน้องได้คุยกันตามลำพัง
“พี่กานต์มาที่นี่ได้ยังไงคะ”
“ทำไมถึงมานั่งดื่มเหล้าที่นี่ เราคุยเรื่องนี้กันแล้วไม่ใช่เหรอเกล ห้ามเมา ห้ามปล่อยให้ตัวเองไม่มีสติจำที่พี่เตือนไม่ได้เหรอ”
“หนูจำได้ แต่หนูไม่ได้นั่งดื่มกับคนอื่นหนูอยู่กับเพื่อนพี่”
“แต่พี่เตือนเธอแล้วว่าต่อให้เพื่อนพี่เธอก็ไว้ใจใครไม่ได้” เพราะสัมผัสได้ถึงความห่วงใยของคนเป็นพี่ชาย มิเกลจึงทำได้เพียงคลี่ยิ้มออกมา
“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้คะ แล้วงานที่ทำเป็นยังไงบ้าง” เธอรู้ว่าตอนนี้พี่ชายต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาใช้หนี้เพื่อน
“พี่กำลังพยายามอยู่ และจะพยายามหาเงินมาคืนเขาให้เร็วที่สุด พี่จะได้พาเกลกลับบ้าน”
“เข้าใจแล้วค่ะ แต่หนูสบายดีนะ ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงเลย พี่สบายใจได้” กานต์กวาดสายตามองหน้าน้องสาวเพียงคนเดียวก่อนจะขยับไปนั่งข้างกัน
“มันทำอะไรเราหรือเปล่า”
“ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะคะ”
“เวลาที่อยู่ด้วยกัน ห้ามรู้สึกอะไรกับมันเด็ดขาดนะเกล ห้ามรัก ไม่ควรแม้แต่จะรู้สึกดีๆ ด้วย เพราะเขาไม่มีวันรู้สึกแบบนั้นกับเรา”
“อะไรทำให้พี่คิดแบบนั้นเหรอคะ” กานต์ก้มหน้าลง เขารู้ดีว่าเขาไม่มีคำตอบที่ดีที่สุดให้น้องเลย และรู้ด้วยว่าน้องสาวเขาต้องเสียใจอยู่แล้วที่ได้ยินคำพูดแบบนี้
“เราต่างกันเกินไป ไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วอีกอย่าง โรมไม่มีทางรู้สึกอะไรกับเกลแน่ๆ เพราะฉะนั้นถ้าเราพลาดรู้สึกกับเขาแม้แต่นิดเดียว คนที่จะเจ็บและคนที่จะเสียใจคือเกล” แววตาของคนฟังวูบไหวลงอย่างเห็นได้ชัด
“ฟังแล้วรู้สึกท้อแท้จัง” ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อยากทำให้พี่ชายคิดมาก เพียงแต่ฝืนยิ้มเพื่อแสดงออกให้เห็นว่าเธอไหว เธอไม่เป็นไร เธอรับมือได้กับทุกอย่างเลย
“เกล…”
“เขาให้เกลแก้วละหมื่นค่ะ มันเยอะมากนะพี่กานต์ มันเท่ากับต้องทำงานเป็นเดือนๆ เลยนะ เกลอยากเก็บเงินไว้ช่วยพี่อีกแรง”
“เกล…”
“พี่ไม่ต้องเป็นห่วงเกลนะ เกลไหว เกลอยู่ได้ ตอนนี้ไม่ได้เครียดกับอะไรเลย รอเป็นกำลังใจให้พี่ชายสุดที่รักด้วยค่ะ”
“รู้ใช่ไหมว่าที่มันทำแบบนี้มันต้องการอะไร” กานต์เอ่ยถามอย่างจริงจัง เขาไม่ได้อยากให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเพื่อนต้องเอาคืนเขาด้วยวิธีนี้อย่างแน่นอน
“เขาอยากได้ตัวเกลเหรอ”
“ถึงมันจะต้องการแบบนั้นแต่มันไม่ได้ให้ค่าเราเลยนะเกล เกลต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้เพราะพี่แท้ๆ”
“พี่บอกเองว่าเขาไม่มีวันให้ค่าเรา และเกลก็รู้อยู่แก่ใจว่าที่ต้องมาอยู่ตรงนี้เพราะอะไร แล้วมันมีอะไรให้น่าห่วงคะ ในเมื่อมีจุดเริ่มต้นสุดท้ายวันนึงมันก็ต้องมีจุดจบอยู่แล้ว และการที่เกลต้องมาอยู่ตรงนี้พี่กานต์ไม่ได้บังคับเกลเลย เกลเต็มใจที่จะมาอยู่ตรงนี้เอง” คนเป็นพี่ชายก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด คนที่ผิดในเรื่องนี้มันมีแค่เขาคนเดียว
“อย่าคิดมากนะคะ พี่แค่ทำหน้าที่ของพี่ เกลทำหน้าที่ของเกล แล้วเราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะคะ” มิเกลคว้ามือใหญ่มากุมเอาไว้หลวมๆ จากนั้นก็ยิ้มให้พี่ชายที่แสนดีเป็นเชิงให้กำลังใจ
“พี่จะรีบทำงานแล้วจะรีบหาเงินมาคืนเขาให้เร็วที่สุด”
“สู้ๆ นะคะ เกลเป็นกำลังใจให้พี่กานต์เสมอนะ”
“อดทนนะเกล และจำที่พี่เตือนเอาไว้ อย่ารักเขา เพราะมันจะทำให้น้องสาวของพี่เจ็บเจียนตาย” มิเกลพยักหน้ารับเบาๆ ทั้งที่เธอรู้อยู่เต็มอกว่าเธอกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้และไม่สามารถทำตามที่พี่ชายเตือนได้แล้ว ความรู้สึกของเธอมันถลำลึกไปตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าเป็นเขา ต่อให้เขาจะจำเธอไม่ได้ก็ตาม
“ดูแลตัวเองด้วยนะ มีอะไรไม่สบายใจเกลโทรหาพี่ได้ตลอดเวลา”
“ได้เลยค่ะ แล้วพี่ฟ้าเป็นยังไงบ้างคะ สบายดีไหม” กานต์ชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถาม หากเป็นช่วงเวลาอื่นเขาคงไม่มานั่งเครียดกับคำถามนี้
“โรมถามถึงฟ้าหรือเปล่า”
“หมายความว่ายังไงคะ หมายถึงพวกเขารู้จักกันเหรอคะ” มิเกลมองพี่ชายอย่างไม่เข้าใจ เธอก็แค่อยากรู้ว่าคนรักของพี่ชายสบายดีหรือเปล่าก็แค่นั้น ไม่คิดว่าพี่ชายจะย้อนถามคืนแบบนี้
“ว่าไงคะ ทำไมพี่กานต์ถึงถามหนูแบบนี้ เขารู้จักกันเหรอ”
“รู้สิ พี่ถึงถามไงว่ามันถามถึงฟ้าหรือเปล่า” กานต์สบตากับน้องสาวนิ่งๆ
“ว่าไงเกล มันถามถึงฟ้าบ้างไหม”
“ไม่นะคะ เกลไม่เห็นเขาถามถึงพี่ฟ้าเลย”
“ดีแล้ว ขอให้เป็นแบบนั้นก็แล้วกัน”