“มีอะไรติดหน้าหนูหรือเปล่าคะ” มิเกลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น ทั้งที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน แต่สายตาของเขามันก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ อยู่ดี ทุกครั้งที่ถูกจ้อง เธอรู้สึกว่าร้อนวูบวาบที่ใบหน้า จะว่าเป็นเพราะความหวาดกลัวมันก็ไม่ใช่ ที่จริงลึกๆ เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจ
“อยากนั่งอยู่ข้างๆ พี่หรืออยากไปทำงาน” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยถามยิ่งกระตุ้นหัวใจดวงน้อยให้เต้นแรงมากกว่าเดิม
“ทำงานค่ะ” คำตอบที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มส่งผลให้คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย สบตากับดวงตากลมสวยคู่นั้น สายตาเธอมันบอกให้รู้เลยว่าเธอต้องการทำงานจริงๆ
“หนูทำได้ทุกอย่างเลยค่ะ ที่นี่มีอะไรให้ทำบ้างคะ” หรือเขาไม่ไว้ใจเธอ คิดว่าเธอทำไม่ได้แบบที่โม้ออกไป
“เสิร์ฟ ล้างจาน ถูพื้น ทำความสะอาด เธอถนัดแบบไหนล่ะ หรือที่มากกว่านั้น อาจจะได้เงินเยอะกว่างานค่อนข้างสบายกว่าก็มีเหมือนกัน”
“ได้เงินเยอะกว่าเหรอคะ” คนถามทำตาโต วินาทีนี้งานไหนที่มันจะทำให้เธอช่วยพี่ชายแบ่งเบาภาระได้เธอพร้อมที่จะคว้าเอาไว้โดยไม่มีข้อแม้อะไรเลย
“ดูแลแขกอย่างใกล้ชิด ค่าแรงขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ สนใจไหมล่ะ” มาเฟียหนุ่มหยั่งเชิงถาม คนโลกสวยและโคตรใจดีแบบเธอ ขืนทำงานแบบนั้นมีหวังโดนล้วงตั้งแต่วันแรกแน่ แล้วเขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าหน้าอย่างเธอจะเอาตัวรอดได้ ดีไม่ดีจะปล่อยให้แขกที่อยากได้ตัวเธอจนกล้าทำเรื่องเหี้ยๆ ลอยนวลด้วยซ้ำไป
“ดูแล แล้วต้องดูแลอะไรบ้างคะ”
“ก็ดูแลทุกอย่างที่เขาอยากจะให้ดู”
“หนูไม่เก่งเรื่องเลือกเครื่องดื่ม” คำตอบของเธอส่งผลให้มุมปากหนายกยิ้ม
“แต่หนูฝึกได้นะคะ” แค่นั้นเลยที่ทำให้ดวงตาคมกริบวาววับ
“หมายความว่านั่งกับแขกได้?”
“ที่นี่มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของพี่ หนูว่า…”
“ไม่มีใครคอยดูแลใครตลอดเวลา บางอย่างก็ต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเอง” เจโรมเอ่ยเสียงดุ ตอนแรกเขาตั้งใจจะให้เธอได้ทำงานนั่นแหละ จะให้เธอทำทุกอย่างจนเธอสัมผัสกับความเหนื่อยและลำบากจนไม่อยากทำเพื่อคนอื่นอีกแล้ว แต่เท่าที่เห็นตอนนี้ เหมือนกับว่าเธอจะไม่ฟัง ดูเหมือนอยากจะช่วยพี่ชายสารเลวของเธอเหลือเกิน
“แล้วหนูต้องทำอะไรบ้างคะ”
“ให้เลือกระหว่างทำงานกับนั่งเฉยๆ”
“หนูบอกพี่ไปแล้วไงคะว่าหนูอยากทำงาน หนูอยากเก็บเงินไว้ใช้หนี้พี่ช่วยพี่กานต์อีกแรง”
“งั้นก็มานั่งข้างพี่ ดื่มเป็นเพื่อนพี่ พี่ให้แก้วละพัน” เจโรมปรายตามองเครื่องดื่มข้างลำตัวก่อนจะตวัดสายตาไปมองคนที่ยืนโดดเด่นอยู่ตรงหน้าของเขาอีกครั้ง และวินาทีนี้ไม่ใช่แค่เขาที่มองเธอ คนที่อยู่รอบตัว สายตาหลายต่อหลายคู่ก็หันมามองที่เธอด้วยความสนใจไม่ต่างกัน
เจโรมถอนลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะรั้งข้อมือเล็กแล้วดึงเธอให้นั่งลงข้างเขา ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งสวย และมีหลายอย่างเลยที่เขาจดจำเธอได้เป็นอย่างดี
“พี่ไม่อยากได้เงินคืนเหรอคะ” มิเกลหันมาถาม จังหวะที่หันกลับมาแล้วเผลอสบตากันพาลหัวใจดวงน้อยก็กลับมาเต้นไม่เป็นส่ำ
“หมายความว่ายังไง”
“พี่ไม่ยอมให้หนูไปทำงาน พี่ไม่กลัวว่าพี่จะเบื่อหนูก่อนที่พี่กานต์จะเอาเงินมาใช้หนี้พี่แล้วเหรอคะ”
“เธอพูดเหมือนอยากรักษาผลประโยชน์ให้พี่?”
“มันก็ควรเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ”
“ถ้าเธอใจดีขนาดนั้นก็ทำให้พี่ไม่เบื่อเธอสิ ทำยังไงก็ได้ให้พี่ไม่เบื่อเธอแล้วเราจะได้อยู่ด้วยกันต่อไปเรื่อยๆ”
“แล้วหนูต้องทำยังไงพี่ถึงจะไม่เบื่อ”
“ก็เป็นเด็กดีสิ เชื่อฟังทุกอย่างที่พี่บอก บอกให้ทำก็ทำ ห้ามดื้อ แค่นั้นก็อยู่ด้วยกันยาวๆ แล้ว เห็นไหมว่ามันไม่มีอะไรยากเลย” มิเกลเม้มริมฝีปากแล้วกดใบหน้ารับ พอถูกจ้องมองนานๆ เธอเลยทำทีเป็นเสมองเครื่องดื่มที่วางอยู่ข้างลำตัวแทน
“ดื่มสิ พี่จ่ายแก้วละพัน” คนบอกตวัดขาขึ้นนั่งไขว้ห้าง ดวงตาคมกริบหันมองเครื่องดื่มราคาแพงที่วางอยู่อย่างใจเย็น
“สิบแก้วก็หมื่นนึงเลยนะคะ และถ้าพันแล้วนี่เป็นแสนเลยนะ” มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มบางๆ ที่มุมปาก เขาชอบในความตรงไปตรงมาของเธอ
“คอแข็งขนาดนั้นเลยเหรอ”
“หนูดื่มได้ พี่จ่ายจริงๆ ไหม” คนตัวเล็กเอียงใบหน้าน้อยๆ ขณะถาม ดวงตากลมโตมีเสน่ห์และดูซุกซนในเวลาเดียวกัน
“ได้สิ ส่งเลขบัญชีมาไว้เลยก็ได้” คนบอกปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์มือถือแล้วยื่นมันให้เธอแอดไลน์ เพื่อที่ทุกอย่างมันจะได้ง่ายขึ้น
คนอยากได้ตังค์ไม่ลังเลที่จะคว้ามันมาเพิ่มเพื่อนแล้วคืนมันให้เขา จากนั้นก็ไม่รอช้าที่จะส่งเลขบัญชีของตัวเองให้เขา
เธอเคยไม่เอาเงินเขามาแล้วหนึ่งครั้ง ไม่ใช่ว่าเธอด้อยค่าเงินจำนวนนั้นและไม่อยากได้ แต่เธอไม่อยากได้มันด้วยวิธีนั้นเธอเลยเลือกที่จะไม่รับแล้วคืนมันให้เขา แต่เขาคงจำเธอไม่ได้ เขาคงไม่รู้ว่าคนที่เขาบังเอิญเจอในคืนนั้น… คือเธอ
วันนั้นเธอตั้งใจช่วยเขาเพราะเห็นเขามีท่าทีเหมือนต้องการความช่วยเหลือ ใครจะคิดว่าสิ่งที่เขาต้องการจากเธอ มันจะเป็นสิ่งที่เธอหวงแหน และไม่ได้ตั้งใจจะเสียมันไป
ตอนแรกมิเกลไม่อยากช่วยเหลือพี่ชายด้วยวิธีแบบนี้เลย แต่เพราะเธอรู้ว่าเป็นเขา เขาคนนั้นที่เธอจำไม่เคยลืมทิ้งเวลาล่วงเลยมาเป็นเดือน เธอเลยยอมตกลงที่จะช่วยเหลือพี่ชายด้วยวิธีนี้
“คิดอะไรอยู่” เสียงทุ้มที่เอ่ยถามส่งผลให้คนตัวเล็กหลุดจากภวังค์ มิเกลคลี่ยิ้มบางให้คนตรงหน้าก่อนจะถือวิสาสะหยิบแก้วว่างที่วางอยู่
“ให้หนูเริ่มเลยไหม”
“เริ่มเลย เคยดื่มไหม?” เจโรมเอ่ยถามและยังจ้องหน้า ยิ่งเห็นเธอส่ายหน้าไปมามันก็ยิ่งทำให้เขานึกคิดบางอย่างในใจ
“ไม่ดื่มค่ะ”
“ไม่เคยเมาจนเผลอทำอะไรที่ไม่รู้ตัวลงไปเลยเหรอ”
“ไม่เคยค่ะ ถ้าเคยคงรู้สึกแย่มากๆ”
“แล้วชีวิตนี้เคยพลาดอะไรสักอย่างแล้วรู้สึกแย่มากๆ ไหม” วินาทีนั้นเองที่ดวงตากลมโตตวัดกลับมามองสบตากับเขาอีกครั้ง
“น่าจะเคยนะคะ คิดว่าทุกคนก็น่าจะเคยผ่านเรื่องแย่ๆ มาเหมือนกันหมด”
“แล้วเสียใจไหม”
“ความรู้สึกนั้นมันเกิดขึ้นแค่บางครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครกลับไปแก้ไขอดีตและเรื่องที่มันเกิดขึ้นแล้วได้ หนูเลยไม่ได้รู้สึกเสียใจ”
“ดื่มเลยไหม พี่ให้แก้วละหมื่น” เจโรมคว้าแก้วของตัวเองมาควงในมือเพื่อรอเธอ
“แก้วละหมื่นเลยเหรอคะ”
“อ่า เมาแล้วจะได้รีบกลับบ้านไปนอน”