พี่เขาจะตบฉันไหมเนี้ยที่นั่งติดกับผู้ชายของเขาขนาดนี้ แต่จะว่าไปนี่ก็ผู้ชายของฉันเหมือนกันนะเพราะเราสองคนแต่งงานกันแล้ว ...โอ้ยยย คิดบ้าอะไรของแกอายตา!!... ฉันสะบัดส่ายหน้าเบาๆ เพื่อไล่ความคิดในหัวของตัวเอง เฮ่อออ....แล้วก็แอบถอนหายใจเบาๆ ออกมา...
อายตาเมิงก็แค่ก็เมียในนามแต่นั่นน่ะแฟนตัวจริงของเขา...รึเปล่านะ?? ได้แค่คิดในใจแต่ไม่เคยกล้าถามคำถามนี้กับเขาเลย... แอบกลัวคำตอบอยู่เหมือนกัน
“ไม่ไป!” เสียงทุ้มต่ำของเขาตอบไปแค่นั้น กลัวคำพูดมันจะหมดหรือไงนะ
“ทำไมหละคะธาม?! ลูกหว้าอยากไปค่ายนี้กับธามนะ... เพื่อนๆ ก็ไปกันหลายคนนะ” พี่ลูกหว้าว่าพลางยื่นมือเรียวเล็กมาเกาะแขนพี่ธามแล้วเขย่าเบาๆ เป็นเชิงออดอ้อน แต่คนถูกอ้อนกลับส่งเพียงสายตาเย็นชากลับไปจากนั้นก็หันมาหาฉัน ...มองฉันทำไม??... ฉันส่งสายตาไปให้เขาเป็นเชิงว่าอย่าลากฉันเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องนี้เด็ดขาด
“ช่วงนี้พวกเรายุ่งๆ น่ะครับลูกหว้า เลยไม่ค่อยมีเวลา” พี่คิมหันต์พูดขึ้นมาขัดบรรยากาศมาคุเพราะกลัวว่าจะมีเรื่องยุ่งเกิดขึ้น เขารู้ดีว่าธามธาวินเพื่อนรักจอมเย็นชาของตัวเองรู้สึกยังไงกับผู้หญิงตรงหน้าเพียงแต่เจ้าตัวมีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่พูดจาหักหน้าหล่อนต่อหน้าคนอื่น
ลูกหว้าที่เห็นธามธาวินหันมองอายตาคิ้วสวยคมก็ขมวดเข้าหากันทันทีสายตาคมของเธอถูกส่งมาที่คนตัวเล็ก อายตาเองก็สัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่ถูกส่งมา ...นี่สินะที่เรียกว่าแรงหึงของผู้หญิง!!... เธอไม่รู้หรอกนะว่าพวกเขาเป็นอะไรกันเพราะก็ไม่แน่ใจแต่ดูเหมือนลูกหว้าจะหึงธามธาวินเอามากๆ
“ใช่... พวกเรายุ่งมากๆ เลยคงไม่มีเวลาไปหรอก” พี่อาร์มก็พูดเสริมขึ้นมาอีกคน
“ค่ะ.. ลูกหว้าเข้าใจ” ปากบอกเข้าใจแต่น้ำเสียงของเธอกลับไม่เป็นแบบนั้นเลย
“แล้วคืนนี้ธามจะไปที่ร้านไหมคะ? ลูกหว้ากับเพื่อนจะไปที่ร้านพอดี” พี่ลูกหว้าปรับสีหน้าแล้วส่งยิ้มหวานกลับมาให้พี่ธามอีกครั้ง
“ไม่!... เหนื่อย!... ขอตัวนะ” เขายังคงตอบเสียงราบเรียบไร้อารมณ์
“กลับ!” ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วฉุดข้อมือของฉันให้ยืนขึ้นตามไปด้วย พร้อมออกแรงดึงให้เดินไปที่รถของเขาทันที
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากค่ะ! ทุกคนในโต๊ะต่างพากันมองการกระทำของพี่ธามที่ฉุดมือฉันให้เดินตามเขาออกไปโดยที่ฉันยังไม่ได้เก็บของอะไรเลย แต่พอฉันเห็นสายตาของเขาแล้วก็ไม่กล้าจะขัดขืนอะไรยอมเดินตามเขาไปแต่โดยดี ดูเหมือนเขาจะโมโหเอามากๆ ...แต่โมโหอะไรก็ไม่ควรมาลงที่ฉันโอเคไหม...
“พี่ธามหยุดก่อนค่ะ! อายยังไม่ได้เก็บของเลย” ฉันขืนตัวไว้จนคนตัวโตยอมหยุดเดินแล้วหันมามอง
“เดี๋ยวเพื่อนเธอก็เก็บให้เองแหละ... กลับบ้าน!” เรื่องเอาแต่ใจน่ะยกให้เขาเลย
“ไม่ได้ค่ะอายยังมีการบ้านต้องทำอีกตั้งเยอะ ต้องเอากลับไปทำที่บ้าน” ฉันเองก็ดื้อเอาเรื่องแหละ พี่ธามมีสายตาที่แสดงถึงความเอือมระอาระคนอ่อนใจกับท่าทางดื้อดึงของฉันก่อนที่เขาจะยอมปล่อยมือ
“รีบไปเอาแล้วรีบกลับมา” เขาพูดพร้อมกับยืนกอดอกพิงรถของตัวเอง ได้ยินแบบนั้นฉันก็หมุนตัวเดินกลับไปที่โต๊ะที่ยังมีเพื่อนของฉันและเพื่อนของพี่ธามนั่งกันอยู่รวมไปถึงพี่ลูกหว้าที่ยังคงอยู่ตรงนั้นด้วย
“อ้าว... กลับมาทำไมครับน้องอายตา ลืมของเหรอ?” พี่คิมหันต์เอ่ยถามเพราะเห็นฉันเดินเข้ามาอีกครั้ง ฉันเดินอ้อมพี่ลูกหว้าที่ยืนอยู่ที่เดิมแล้วตรงไปเก็บของของตัวเองใส่กระเป๋าผ้า
“อายมาเก็บของน่ะค่ะ” ฉันส่งยิ้มให้พี่เขาไปทีนึง พอหันกลับมาก็เห็นพี่ลูกหว้ายืนจ้องฉันเขม็ง ฉันเลยรีบหันกลับไปล่ำลาพวกพี่ๆ เพื่อนของพี่ธามและเพื่อนของฉันก่อนจะหมุนตัวกลับเพื่อเดินออกไปหาพี่ธาม แต่ก่อนที่ฉันจะได้ก้าวขาออกไปฉันก็รู้สึกถึงความเย็นและเปียกชื้นที่หน้าอกของตัวเอง น้ำแดงที่วางอยู่บนโต๊ะแก้วที่พี่ธามเป็นคนซื้อให้ถูกสาดมาที่ตัวฉันจนเสื้อนักศึกษาสีขาวกลายเป็นสีแดงและเปียกชุ่มไปหมด
“เฮ้ยยยย!!!” เสียงเพื่อนพี่ธามกับเพื่อนของฉันประสานกันดังลั่น
“ทำอะไรวะลูกหว้า!!” พี่อิฐลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงฉันให้ไปยืนข้างๆ สายตาเกรียวกราดพอดู
“อีนี่เป็นใคร!!” พี่ลูกหว้าจิกตามองฉัน นิ้วเรียวถูกชี้มาทางฉันอย่างเอาเรื่อง
“ลูกหว้าเลิกบ้าซะทีเถอะ! แล้วก็เลิกยุ่งกับไอ้ธามมันซะ เธอก็รู้ตัวไม่ใช่เหรอว่ามันไม่เล่นด้วยอ่ะ!” พี่อาร์มเองก็ลุกขึ้นยืนมองหน้าพี่ลูกหว้าอย่างเอาเรื่องเหมือนกัน
“ฉันถามว่าอีนี่มันเป็นใครทำไมธามถึงทำเหมือนหวงมันนัก!!” พี่ลูกหว้าหันไปมองพวกเพื่อนพี่ธามเพื่อคาดคั้นคำตอบ
“คนสำคัญไงมันถึงได้หวง... แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ” พี่คิมหันต์ทำเพียงแค่พูดเสียงนิ่งๆ นั่งอยู่ที่เดิม
“หมายความว่าไง??!!” พี่ลูกหว้าเสียงดังขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่ได้ยินคำพูดของพี่คิมหันต์ ...ตายๆ เรื่องมันจะไปกันใหญ่แล้ว...
“เออคือ....” ฉันที่กำลังจะอ้าปากอธิบายกลับต้องชะงักเพราะพี่ธามเดินกลับมาดึงมือฉันเข้าไปหาเขาซะก่อน และใบหน้าหล่อเหลานั่นก็ฉายแววเกรียวกราดขึ้นมาทันทีเมื่อมองเห็นสภาพของฉันที่เนื้อตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำสีแดงก่อนที่เขาจะถอดเสื้อช็อปของตัวเองมาคลุมตรงหน้าอกของฉันไว้เพราะตอนนี้เสื้อนักศึกษามันเปียกไปหมดจนทำให้มองเห็นทะลุไปถึงข้างใน
“ทำเหี้ยไรวะ!!!!” เสียงตะหวาดของพี่ธามทำเอาคนตรงหน้าอย่างพี่ลูกหว้าถึงกับผงะถอยหนีเลยทีเดียว ฉันเองก็ไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้เลย ขนาดตอนที่เขาโกรธฉันตอนฉันหนี้เที่ยวเขายังไม่เคยน่ากลัวขนาดนี้เลย
“ก็ทำไมธามถึงทำเหมือนสนใจอีนี่นัก!! ทั้งๆ ที่ลูกหว้าอยู่ตรงนี้น่ะ!!” พี่ลูกหว้ายังคงเชิดหน้าถามคำถามต่อหน้าพี่ธาม
“มันไม่ใช่เรื่องของเธอ!! อย่ายุ่ง!!” เสียงเข้มถูกเค้นรอดไรฟันออกมาอีกครั้ง
“ธามก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าลูกหว้าคิดยังไงกับธาม แต่ทำไมธามถึงไม่เห็นสนใจลูกหว้าบ้างเลย!!” เธอว่าพลางมีแววตาตัดพ้อส่งมาให้เขา แต่พี่ธามกลับค่อยๆ หลับตาลงเหมือนกำลังสะกดกั้นอารมณ์ของตัวเองพลางกรามของเขาก็ขบเข้ากันแน่นจนเกิดสันนูนอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเหยียบเย็นกว่าเดิมหลายเท่าจนคนตรงหน้ายืนนิ่งไปเลย
“อย่ายุ่งกับเมียกูอีก!!!!”
จากนั้นก็ดึงมือฉันเดินออกมาจากตรงนั้น เรื่องที่ฉันเคยสงสัยว่าพี่ลูกหว้าเป็นตัวจริงของเขารึเปล่านั้น ฉันคิดว่าฉันรู้คำตอบแล้วหละค่ะ แต่ก็ยังคงมีคำถามมากมายในใจฉันไม่อยากคิดไปเองหรือคิดเข้าข้างตัวเอง....เพราะกลัวคำตอบมันจะทำให้ฉันเจ็บ แต่เรื่องน้ำแดงนั้น..... ชาตินี้ขอไม่กินมันอีกเลยละกัน!!