พริ้งพราว

1829 Words
แพรไหมถอดแว่นสายตาบนหน้าออกก่อนจะขยี้ตาตัวเองและเช็ดทำความสะอาดเลนท์แว่นเพื่อดูภาพของว่าที่สามีในอนาคตให้แน่ใจอีกครั้ง แต่บนหน้าจอนั้นยังเป็นหน้าของชายคนเดิมที่ทำให้เธอรู้สึกตกใจ ก็จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงกันในเมื่อผู้ชายคนนี้คือคนเดียวกันกับที่เธอเคยเจอเมื่อไม่กี่วันก่อน ''แม่ แม่แน่ใจนะว่าคนนี้คือว่าที่สามีหนู''แพรไหมเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก ''ก็ใช่สิจ๊ะ นี้แหละภากรหล่อใช่ไหมล่ะ''แม่เอยถามพร้อมยิ้มอย่างชื่นชมในความหล่อของคนบนหน้าจอทีวี ''แม่ แม่อย่าบอกนะว่าที่หนูเข้าบ้านหลังนั้นผิดเป็นฝีมือแม่อ่ะ แม่จงใจให้หนูไปเจอเขาใช่ไหม?''แพรไหมเริ่มจะจับต้นชนปลายเรื่องที่อยู่ๆ รินดาก็โทรมาขอร้องให้เธอไปสอนภาษาแทน แล้วพอหลังจากออกมาจากบ้านหลังนั้นรินดาก็โทรมาบอกว่าส่งโลเคชั่นและข้อมูลบ้านให้ผิดหลัง จนทำให้แพรไหมรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่อยู่ๆ เธอก็ไปสร้างเรื่องให้ผัวเมียเขาทะเลาะกัน เล่นเอาเธอคิดมากจนนอนไม่หลับไปหลายคืนทีเดียว นึกอยากจะกลับไปขอโทษอยู่เหมือนกันแต่พอกลับไปก็เห็นว่าบ้านปิดเงียบกดกริ้งหน้าบ้านเท่าไหร่ก็ไม่มีใครออกมาเปิด ''แม่ ถ้าเป็นอีตานี้หนูไม่เอานะ เขามีแฟนแล้วหนูไม่เอาหรอก''แพรไหมปฏิเสธทันที ''ก็แค่แฟนยังไม่ได้แต่งกันซะหน่อย ป้าพิศมัยไม่ได้ยอมรับผู้หญิงคนนั้นด้วย ลูกก็ได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้วหนิว่าผู้หญิงคนนั้นร้ายกาจแค่ไหน ลูกจะปล่อยให้คนดีๆ แบบภากรตกไปอยู่ในมือผู้หญิงคนนั้นจริงๆ หรอ?''พริ้งพราวเอ่ยพร้อมกับทำหน้าเศร้าๆ ราวกับว่ากำลังเจ็บปวดแทนเพื่อนรักอย่างพิศมัยอยู่ แพรไหมกรอกตามองบนไปมาอย่างไร้ทางเลือกเพราะเธอนั้นได้รับปากแม่แล้วว่าจะไม่ต่อต้านอีก และเธอก็อยากจะแก้บนต่อคำบนบานสารกล่าวที่ได้เอ่ยขอต่อสิงศักสิทธิ์ไปด้วยว่าถ้าแม่ของเธอรอดปลอดภัยฟื้นคืนสติกลับมาเธอจะยอมแต่งงานกับคนที่แม่เลือกให้อย่างไร้เงื่อนไข ''ก็ได้ค่ะ หนูรับปากไปแล้วหนิ แต่งก็แต่งค่ะ ''เมื่อแพรไหมเอ่ยประโยคนี้ออกมา พริ้งพร้าวจึงสามารถยิ้มออกมาอย่างสดใสได้อีกครั้ง.... .............................................. วันต่อมา... ''คนพวกนี้เป็นใครกันคะแม่?''แพรไหมที่เปิดประตูห้องพักผู้ป่วยของมารดาเข้ามาก็ต้องประหลาดใจ เธอกลับห้องพักของตนไปเก็บของใช้จำเป็นแค่เพียงไม่นานกลับมาถึงก็พบว่าตอนนี้ห้องของแม่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จักมากมาย ''พวกนี้คือทีมงานมืออาชีพที่แม่จ้างมาเพื่อดูแลลูกโดยเฉพาะยังไงล่ะจ๊ะ เอาล่ะทุกคนเริ่มหน้าที่ของตัวเองได้เลย ''พริ้งพราวที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงออกคำสั่ง คนแปลกหน้าสิบกว่าคนที่มีทั้งชายไม่จริงหญิงไม่แท้ต่างก็ลุกขึ้นพุ่งตัวไปจับแขนแพรไหมไว้ ''เดียว เดียวก่อนดูแลอะไรคะ หนูดูแลตัวเองได้ค่ะแม่!!!''แพรไหมโวยวายอย่างไม่ชอบใจ ''ไม่ได้นะแพรไหม ลูกรับปากแม่แล้วหนิว่าจะแต่งกับภากร เพราะฉะนั้นลูกก็ต้องปรับปรุงภาพลักษณ์ตัวเองก่อน ลูกคงไม่อยากแพ้ผู้หญิงคนนั้นหรอกใช่ไหม เพชรกัญญาน่ะลูกคงไม่อยากแพ้หล่อนหรอกใช่ไหม?'' แพรไหมนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกเพชรกัญญาแฟนสาวของภากรเหยียดหยันและดูถูกราวกับเธอเป็นคนต่ำต้อยด้อยค่า ''หนูต้องดีกว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่แล้ว'' หญิงสาวเอ่ยกับมารดา ทำให้พริ้งพราวยิ้มกว้างออกมาทันที ''แน่นอนลูก ลูกแม่ต้องดีกว่าร้อยเท่าพันเท่าอยู่แล้ว ไปจ๊ะเด็กๆ พาคุณหนูไปขัดศรีฉวีวรรณให้สวยไร้ที่ติเลยนะ'' ''จัดให้คร้า!!!!!''เหล่าบรรดาผู้ดูแลนับสิบชีวิตตอบรับเสียงดังฟังชัดอย่างพร้อมเพียงก่อนจะพาตัวของแพรไหมออกจากห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาลมุ่งหน้าไปยังคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับแพรไหมโดยเฉพาะ.... พริ้งพราวมองตามแผ่นหลังเล็กๆ ของลูกสาวไปพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เริ่มจางลงเรื่อยๆ ก่อนที่เธอจะเริ่มไอออกมาอย่างหนัก มือเล็กยกขึ้นหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดของเหลวสีแดงที่มันไหลออกมาจากทั้งปากและจมูกของตน ''เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วสินะ ฮื้อๆ แพรไหม แม่ขอโทษที่เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องมาตลอด แต่ก่อนที่แม่จะจากโลกนี้ไปแม่อยากจะแน่ใจจริงๆ ว่าแม่ได้ฝากลูกไว้กับคนที่ดีพอจะรักและปกป้องลูกได้'' พริ้งพราวที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวแต่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ยกเว้นเพียงเพื่อนรักอย่างพิศมัยเพราะเธอนั้นแม้จะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแต่ก็มีชนักติดหลัง ย้อนไปเมื่อ24ปีก่อนพริ้งพราวได้ตั้งท้องกับพ่อของแพรไหมและให้กำเนิดแพรไหมขึ้นมา แต่ทางบ้านของพริ้งพราวนั้นมีหน้ามีตาในสังคมตระกูลเธอนั้นถือว่าอยู่ในระดับแถวหน้าของประเทศ ส่วนพ่อของแพรไหมนั้นเป็นเพียงตำรวจยศเล็กๆ ที่ฐานะยากจน ''แกจะเอายังไงก็เลือกมาพริ้งพราว จะกลับไปกับฉันดีๆ หรือจะต้องให้เสียเลือดเนื้อของคนพวกนั้นก่อน!!!!!'' คุณหญิงตรีทิพย์แม่ของพริ้งพราวที่มาตามลูกสาวถึงบ้านของลูกเขยสุดกระจอกเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มีน้ำโห ''คุณแม่ ได้โปรดเถอะค่ะ ถือว่าเห็นแก่เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลเราเถอะนะคะ ปล่อยพวกเขาไปเถอะค่ะได้โปรดเถอะค่ะคุณแม่!!!''พริ้งพราวกอดขามารดาร่ำไห้ คุณหญิงตรีทิพย์แม่ของเธอช่างใจไม่ไส้ระกำนัก กีดกันความรักของเธอยังไม่พอยังตามมาถึงบ้านของสามีเธอเพื่อหมายจะเอาชีวิตยกครอบครัวเพียงเพราะเธอเลือกจะละทิ้งทุกอย่างเพื่อมาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่นี้ ''แปลว่าแกยอมจะกลับไปกับฉันแล้วใช่ไหม ว่านอนสอนง่ายแบบนี้แต่แรกก็จบ เอาตัวคุณพริ้งพราวไป!!!!''คุณหญิงตรีทิพย์ส่งเสียงดังสั่งลูกน้องซึ่งเป็นชายฉกรรณนับยี่สิบชีวิตที่เธอพามาด้วย ''มะ ไม่ ไม่นะ ได้โปรดเถอะครับคุณหญิง อย่าพรากพวกเราออกจากกันเลย ได้โปรดเถอะครับ ฮื้อๆ'' จ่าพง หรือพงศกรสามีของพริ้งพราวที่ถูกซ้อมจนสบัดสบอมพยายามจะส่งเสียงอ้อนวอน ร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือดพยายามจะคลานเข้าไปกราบแทบเท่าแม่เมียใจดำ ''หุบปาก หุบปากของมึงไปซะไอ้พง ไอ้ขี้คอกเลี้ยงไม่เชื่อง กูจ้างมึงมาเป็นบอร์ดี้การ์ดดูแลความปลอดภัยให้ลูกกูแต่มึง มึงกลับเหยียบย้ำหัวใจกู ทำระยำกับลูกกูได้ยังไง แล้วอีกอย่างนี้หรอคำมั่นสัญญาที่มึงบอกว่าจะดูแลลูกสาวกูเป็นอย่างดี ความยากลำบากทั้งกายทั้งใจนี้หรอที่มึงมอบให้ลูกกูไอ้สันดาน!!!!'' คุณหญิงตรีทิพย์จิกกระชากผมพงศกรขึ้นมาด้วยความโกรธ ยิ่งเห็นบาดแผลตามใบหน้าและลำตัวของลูกสาวตนคุณหญิงยิ่งเจ็บแค้น ''ลูกกูเลี้ยงมา มดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมแล้วมึงกับแม่ของมึงเป็นใครถึงได้กล้ามาตบตีลูกกูไอ้สารเลว!!!!'' -ผวั๊ะ!!!!-คุณหญิงตรีทิพย์ใช้ด้ามปืนตบไปที่ใบหน้าพงศกรอย่างแรงด้วยความคับแค้นใจ อีกทั้งเธอยังขึ้นลำกล้องหมายจะยิงพงศกรทิ้ง แต่ก็ต้องหยุดการลั้นไกไว้เมื่อพริ้งพราวที่สะบัดหลุดจากลูกสมุนมาได้คว้าเอาปืนอีกกระบอกจ่อไปที่หัวของตัวเองแทน ''ยัยพราวแกทำอะไร วางปืนลงเดียวนี้นะ!!!''คุณหญิงตรีทิพย์ส่งเสียงร้องด้วยความตกใจที่เห็นลูกสาวเอาปืนจ่อหัวตัวเอง ''ถ้าแม่ยิงพงหนูจะตายให้แม่ดู หนูจะตายไปกับเขา หนูพูดจริงๆ ถ้าแม่ยิงหนูก็ยิง ฮื้อๆ''พริ้งพราวที่เตรียมลั้นไกระเบิดหัวตัวเองเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ''พราว ทำไมกันลูก ทำไมลูกต้องรักไอ้ชั่วนี้ขนาดนั้น มันไม่มีค่าพอให้ลูกเอาชีวิตมาแลกสักนิด ทำไมถึงได้โง่แบบนี้!!!!'' ''เพราะหนูรักเค้าค่ะแม่ หนูรักเค้า และเค้าคือพ่อของลูกหนู หนูให้เขาตายไม่ได้ ตายไม่ได้เด็ดขาด ฮื้อๆ'' ''ก็ได้ถ้าแกอยากให้ฉันไว้ชีวิตมัน แกก็ต้องกลับไปกับฉัน ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่และลืมมันซะ แต่ถ้าแกไม่ทำตาม ฉันยังยืนยันคำเดิมฉันจะฆ่าพวกมันไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว รวมถึง...นังเด็กนั้นด้วย''คุณหญิงตรีทิพย์เอ่ยพร้อมกับมองไปยังแพรไหมในวัยแบเบาะแววตาของเธอไร้แววของความปราณีเพราะเด็กคนนั้นคนเดียวที่ทำให้อนาคตพริ้งพราวดับวูบลง 'มารหัวขน' นั้นคือคำที่คุณหญิงตรีทิพย์คิดว่าเหมาะสมที่สุด.... เมื่อพริ้งพราวยอมจะกลับไปแต่โดยดี คุณหญิงตรีทิพย์จึงได้ร่างสัญญาขึ้นมาฉบับหนึ่ง คุณหญิงฉลาดมากเธอได้ร่างเป็นสัญญากู้ยืมขึ้นมาเพื่อบีบบังคับและแยกพริ้งพราวกับพงศกรออกจากกัน ''ข้าพเจ้านางสาว พริ้งพราว วรภัทรภิรมย์เดชา และนายพงศกร อภิมาศสุภาภรณ์ได้กู้ยืมเงิน นางตรีทิพย์ วรภัทรภิรมย์เดชาเป็นจำนวนเงิน ยี่สิบล้านบาท โดยได้รับเป็นเงินสดทั้งสิ้นอย่างครบถ้วนแล้ว ลงชื่อนางสาว พริ้งพราว วรภัทรภิรมย์เดชา ผู้กู้ยืม ลงชื่อจ่าสิบเอกพงศกร อภิมาศสุภาภรณ์ ผู้กู้ร่วม ลงชื่อนางเพียงตา อภิมาศสุภาภรณ์ พยาน สัญญาเงินกู้ฉบับนี้ถูกนำมาเป็นเครื่องมือต่อรองโดยที่ไม่มีใครกล้าขัด พริ้งพราวต้องตามคุณหญิงตรีทิพย์กลับไปและห้ามไม่ให้ติดต่อกับพงศกรอีก พริ้งพราวถูกส่งไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศษและถูกคุณหญิงตรีทิพย์จับย้อมแม้วใส่ตระกร้าล้างน้ำให้ตกแต่งกับนักธุรกิจชาวฝรั่งเศษ ส่วนพงศกรได้รับเงินก้อนหนึ่งเพื่อใช้เลี้ยงดูแพรไหม ''ถ้าแกกล้าเอานางมารหัวขนนั้นมาทำลายชีวิตพริ้งพราวแล้วล่ะก็สาบานเลยว่าฉันจะเอาเลือดคนในครอบครัวแกทุกคนมาล้างตีน!!!!''
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD