รถเอสยูวีสีดำเป็นมันสะท้อนแสงไฟ จอดนิ่งแอบอยู่มุมหนึ่งท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาล ดวงตาคมกริบภายใต้แว่นตาเลนส์สีชามองผ่านกระจกติดฟิล์มดำ จ้องเขม็งที่ประตูรั้วสแตนเลส สูงใหญ่ซึ่งโอบล้อมพื้นที่สี่ไร่เอาไว้ เขาไม่รู้ว่าจะต้องเฝ้ารออีกนานแค่ไหน แต่วันนี้ เขาจะไม่ยอมพลาดอีกเด็ดขาด เจ้าของใบหน้าเพรียวแกร่ง หน้าผากลาดเป็นสันลงมาถึงคิ้วเข้ม ขยับร่างใหญ่ล่ำเพียงเล็กน้อย หลังจากนั่งอยู่ภายในรถเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
ดวงตาคมกริบสีดำ จดจ้องผ่านรั้วมองลึกเข้าไป จนพบอาคารสไตล์โมเดิร์นสีไข่ไก่ มีโดมครึ่งวงกลมครอบอยู่ตรงส่วนยอดของหลังคา รอบๆ โดมกรุกระจกทั้งหมด เขาละสายตาจากบ้านราคาหลักสิบล้าน และยกนิ้วชี้แกร่งขึ้นมาถูจมูกโด่งเป็นสัน เพื่อระบายความหงุดหงิด ถึงกระนั้น คนอารมณ์ร้อนอย่าง นีโอ อันโตเลส ก็ยังเฝ้ารออย่างอดทน
เขาอดทนนั่งนิ่งอยู่ที่เบาะหลัง โดยมีลอนโซคนสนิทมือซ้ายเป็นคนขับรถ และอัมริโกคนสนิทมือขวานั่งอยู่ด้านหน้ากับคนขับ ซึ่งทั้งสองนั่งนิ่งแทบไม่หายใจ เพราะรู้ดีว่าเจ้านายไม่เคยอดทนรออะไรได้นานขนาดนี้
ในที่สุด ริมฝีปากหยักบางของเจ้านาย ก็ขยับถามลูกน้องมือขวาเสียงเข้ม “แน่ใจว่าข้อมูลของนายไม่พลาด อัมริโก”
“หมู่บ้านมหาเศรษฐีแห่งนี้แหละ ไม่พลาดแน่ครับบอส” อัมริโก ตอบพลางหันมาพยักหน้าเครียดเข้มยืนยันกับเจ้านาย
“ใช่หมู่บ้านนี้ แล้วบ้านล่ะใช่รึเปล่า” ลอนโซแกล้งแซวเพื่อน
“บ้านหลังนี้แน่นอนครับบอส อย่าไปฟังลอนโซมัน” อัมริโกซึ่งอายุรุ่นคราวเดียวกับนีโอรีบบอก และชกที่แขนของเพื่อนซึ่งอ่อนวัยกว่า
“มีรถมาจอดหน้าประตูแล้วครับบอส” ลอนโซร้องบอก
นีโอพยักหน้าช้าๆ มือของเขาขยับแว่น และกดปุ่มลดกระจกติดฟิล์มดำลงครึ่งหนึ่ง ดวงตาคมจ้องมองร่างเพรียวสวยสมส่วน ในชุดเดรสรัดรูปผ้าคอตตอนสีครีม ขณะที่กำลังก้าวลงจากรถ เขามองสัดส่วนที่ถูกชุดรัดจนเห็นความกลมกลึงของอกอวบ เอวคอดกับสะโพกโค้งมนบั้นท้ายงอนงาม รวมเป็นร่างสวยงามที่หนุ่มอิตาลีต้องการครอบครอง
แต่ทว่า...จู่ๆ ก็มีรถสีดำคันหนึ่งขับมาจอด และเบรกเสียงดังสนั่นขวางการมองของนีโอ ชายฉกรรจ์สามคน ผมดำหนึ่งคนและผมทองสองคนลงจากรถพร้อมกับจ้ำเท้าไปหาอณิษฐา หนุ่มลูกครึ่งอิตาลีสั่งคนสนิทเสียงเครียด
“อัมริโก ลอนโซ จัดการ” สิ้นคำสั่ง คนสนิททั้งสองก็เปิดประตูลงจากรถเดินไปขวางหน้าชายสามคนไม่ให้เดินเข้าหาอณิษฐา
หญิงสาวลงมายืนนิ่งคิดอยู่นอกรถ ไม่คิดว่าระดับไฮโซอย่างเธอจะต้องเดินไปไขกุญแจเปิดประตูรั้วเอง ซึ่งความจริงแล้วเธอควรจะนั่งรอในรถสบายๆ ถ้าไม่เกิดปัญหากับธุรกิจเหมือนเวลานี้ เจ้าของร่างเพรียวสวยอวบอิ่มไม่รู้ตัวว่า ณ มุมมืดยามค่ำคืน เธอกำลังถูกจ้องมองจากใครคนหนึ่ง เสียงรถเบรกทำให้ใบหน้ารูปไข่หันไปมอง
ดวงตาเรียวสีเทาเข้มเห็นชายสามคนลงจากรถเดินมาหาเธอ เพียงเสี้ยวนาทีก็มีชายอีกสองลงมาจากรถซึ่งเธอไม่ทันได้สังเกตเห็นแต่แรกเดินมาขวางหน้า อณิษฐายืนนิ่งได้ยินพวกเขาพูดคุยกันด้วยภาษาอังกฤษ
“ถอยไป! พวกแกเป็นใคร อย่ามาแส่” หนุ่มผมทองร่างใหญ่ตวาดใส่หน้าลอนโซ
“พวกแกนั่นแหละที่ต้องถอยให้ห่างจากผู้หญิงของมิสเตอร์อันโตเลส” เสียงเหี้ยมของอัมริโกมาพร้อมกับกระแทกด้ามปืนใส่หน้าอกของคนที่ไล่ลอนโซ สาวไทยยืนตะลึงกับคำพูดของอัมริโก
กลุ่มมาเฟียจากรัสเซียถูกโกงไปสามร้อยล้าน จากการส่งจิวเวลรี่ปลอมของอณิษฐา ไม่มีวันปล่อยให้สาวไทยลอยนวล แต่เจ้านายของชายฉกรรจ์นั่งรออยู่ในรถและได้ยินว่าเป็นผู้หญิงของตระกูลอันโตเลส จึงเปิดประตูลงจากรถ
“แกบอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของใครวะ!” กุตานอฟ เจ้าของธุรกิจค้าอัญมณี ถามเสียงขุ่น
หนุ่มลูกครึ่งอิตาลีนั่งฟังอยู่สักครู่ พอได้ยินเสียงกุตานอฟ เขาจึงเปิดประตูรถลงมายืนเต็มความสูง 185 ซม. เผยรูปร่างสมาร์ทใหญ่ล่ำซึ่งสวมกางเกงยีนสีซีดแบรนด์ดัง กับเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวพับแขนถึงข้อศอกยี่ห้อเดียวกับกางเกงยีน เขาดูเหมือนนายแบบที่อยู่ในชุดสบายๆ กระดุมเสื้อเม็ดบนที่ปล่อยไว้ทำให้เห็นไรขนบนแผงอกรำไร และดูเป็นชายหนุ่มขี้เล่นซึ่งดูหล่อมาก แต่ถ้าใครได้เห็นแววตาวาวโรจน์ภายใต้แว่นที่สวมปิดบังไว้ จะรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ห่างไกลจากคำว่าขี้เล่นจนคาดไม่ถึง
“ถ้าเป็นผู้หญิงของฉัน นายจะมีปัญหาอะไรรึ กุตานอฟ” เสียงเรียบขรึมถามพลาง ส่งแววตาราวกับเพชฌฆาตไปให้คนฟัง
การเจรจาธุรกิจที่ยังรอการตัดสินใจจาก หนุ่มอิตาลีผู้ร่ำรวย ทำให้กุตานอฟสะดุดกึก เขาหันหน้ามามองเจ้าของเสียง แม้นีโอจะอายุเพียง 34 ปี แต่เขาก็ทรงอิทธิพล จนหนุ่มใหญ่ต้องก้มศีรษะยอมให้ ก่อนจะหันไปตวาดลูกน้องเสียงดัง
“ไอ้โง่! กลับสิวะ” กุตานอฟรู้ดีว่าไม่อาจสู้นีโอได้ ทั้งอิทธิพลและความร่ำรวย จึงส่งเสียงระบายอารมณ์กับลูกน้องทั้งสาม จากนั้นกลุ่มคนรัสเซียทั้งหมดก็ขึ้นรถขับออกไป
หลังจากมาเฟียรัสเซียพากันกลับไปแล้ว อณิษฐาค่อยถอนหายใจโล่งอก เธอยืนพิงรถเบนซ์คันหรูซึ่งเพิ่งจะขับกลับจากการไปเดินแบบงานการกุศล หญิงสาวเห็นหนุ่มลูกครึ่งยืนจ้อง รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าคงจะโล่งใจได้ไม่นาน จึงระมัดระวังทุกการย่างก้าวระหว่างเดินใกล้จะถึงประตูรั้ว สมองในหัวสวยๆ มีแต่เรื่องครุ่นคิด