ตอนที่2 สะใจ

4140 Words
นิยาย เรื่อง #หมอคนสวยของนายมาเฟีย by adtree ----Ep02----สะใจ เรารีบวิ่งไปยังห้องผ่าตัดซึ่งมีหมอครีมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เรา : หมอครีม มาได้ไง//เราพูดทักออกไป หมอครีมรีบวิ่งมาหาเรา หมอครีม : ฉันได้ยินเสียงไมค์ประกาศของผอ. ทำไมนักศึกษาแพทย์อย่างพวกเราได้ผ่าตัดล่ะ เรา : ไว้เล่าทีหลัง ตอนนี้ฉันต้องเข้าผ่าตัดก่อน หมอครีม : ฉันช่วย เรา : ไม่เป็นไรหรอกหมอครีม เรื่องนี้ถ้าหมอมายุ่งจะเดือดร้อนเปล่าๆ หมอครีม : อย่าพูดแบบนั้นซิ พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ เพื่อนต้องช่วยเพื่อนซิ//หมอครีมทำแขนเราไว้ เรามองหน้าหมอครีมที่ส่งสายตาอ้อนวอน เรา : นั่นซินะ งั้นไปกัน ขอบใจหมอครีมเพื่อนรักมาก//เราส่งยิ้มให้หมอครีม จากนั้นมาเปลี่ยนชุดด้านใน เป็นชุดERสีน้ำเงินเข้ม แล้วเดินออกไปล้างมือทำความสะอาดก่อนเข้าห้องผ่าตัด มีวิสัญญีคนนึงเดินมาหาพวกเราที่กำลังล้างมืออยู่ วิสัญญี : &นี่ผลCT Scan สมองของคนไข้ครับ//วิสัญญียกหน้าจอไอแพคให้เราดู เป็นภาพพื้นสีดำ มีแต่รูปวงกลม2ก้อนสีขาว นั่นคือรูปกะโหลกและสมองของคนไข้ เรา : &ขอซูมดูต้องชั้นสมองหลังกะโหลกหน่อย//เราพูดออกไปให้วิสัญญีคนนั้นทำตาม เขาก็ซูมให้เราดู พวกเรา : เฮ้ย!! //เรากับหมอครีมอุทานพร้อมกัน แล้วหันมามองหน้ากันอย่างตกใจ หมอครีม : สมองตรงWhite matterถูกกระแทก มีรอยแผลตรงนั้นด้วย//หมอครีมพูดขึ้น เรา : แค่รอยบาดหรอ แต่อาการสมองบวมเฉียบพลันมันน่าจะมีมาจากอาการอย่างอื่น//เรายืนคิด หมอครีม : เส้นเลือดในสมองโป่งพองหรือเปล่า//หมอครีมหันมาถามเรา เรา : อ่ะ!! ใช่แล้ว ตอนนั้นฉันเห็นอวัยวะเพศของมันที่เล็กผิดปกติ แถมยังแข็งเกินไปจนดูน่าเกลียด เดี๋ยวนะ!! ฉันเจออะไรอีกล่ะ//ฉันยืนปิดตานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในห้องเมื่อกี้ ตอนนั้นฉันเดินไปหยิบไฟแช็คบนโต๊ะ มีบุหรี่และอะไรสักอย่าง เป็นฟอยล์ยาที่ถูกกินแล้ว บุหรี่มีสิทธิ์ทำให้เส้นเลือดโป่งพองก็จริงอยู่ แต่อายุคาล์กยังไม่ถึง30น่าจะไม่มีอาการรุนแรงขนาดนั้น นอกจาก.. จิ๊!! เราเปิดตากว้าง มองหน้าหมอครีม เรา : ไอ้คาล์กกินยากระตุ้นอวัยวะเพศให้แข็ง//เรากับหมอครีมมองหน้ากัน เราหันไปมองวิสัญญีที่ยืนทำหน้างงๆ ก็เพราะเขาฟังภาษาไทยที่เราสนทนากันไม่ออก หมอครีม : แบบนี้คงต้องตรวจเลือดคนไข้ อาการแบบนี้ส่งผลถึงสมองน่าจะใช้ยามานานแล้ว//หมอครีมพูดขึ้น ความคิดของพวกเราตรงกัน เรา : &ฝากคุณตรวจเลือดคนไข้ด่วนๆ //เราหันไปสั่งวิสัญญี วิสัญญี : &ได้ครับ อีกครึ่งชม.ผมจะเอาผลตรวจมาให้//วิสัญญีเดินออกไป หมอครีม : ที่น่าเป็นห่วงตอนนี้คือผลกระทบจากยา ไม่รู้จะส่งผลกับเส้นเลือดในสมองตรงไหน หรือพวกเราจะรอหมอใหญ่มากันก่อน//หมอครีมพูดมองหน้าเรา เรา : คงรอไม่ได้อีก ฉันพูดตามตรงนะ caseนี้ฉันพนันกับพวกผอ.ไว้ ถ้าคนไข้ตาย ชีวิตหมอของฉันก็จบเห่ แต่ถ้าคนไข้รอด ฉันก็รอด หมอครีมไม่ต้องเข้าไปในห้องผ่าตัดหรอก ฉันไม่อยากดึงหมอครีมมาเกี่ยว หมอครีม : พูดเกรงใจไปได้ ดึงดนอะไร พวกเราเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ ตอนเด็กๆ หมอบิวตี้ก็ช่วยปกป้องฉัน จากคนที่มาแกล้งไม่ใช่หรอ ฉันช่วยเพื่อนแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เรา : ซึ้งใจจริงๆ รอผ่าตัดเสร็จเดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวหมอเอง หมอครีม : ฉันจะกินเยอะๆ เลย เรา : ได้เลย ไปพวกเราไปเปิดสมองกันดีกว่า//เราเดินนำหมอครีมเข้ามายังหน้าห้องผ่าตัด เป็นประตูใสเปิดอัตโนมัติ ในห้องมีพยาบาลอยู่แค่2คน และมีวิสัญญีผู้ชายอีกคน ทั้ง3คนยืนทำหน้าที่โดยไม่สนใจพวกเราที่เดินเข้ามา เรา : &ทำไมคนน้อยแบบนี้//เราพูดมองทุกคนสลับกัน พย.คนนึง : &ทั้งแผนกกำลังยุ่งเพราะมีcaseของหมอใหญ่ ไม่มีใครว่างเข้ามาช่วยcaseเล็กๆ แบบนี้หรอกค่ะ//พย.คนนึงพูดขึ้น หันไปจัดเตรียมเครื่องมือต่อ เราหันไปมองหน้าหมอครีม หมอครีม : มีแค่นี้ก็แค่นี้ เรา : นั่นซิ จะไปทำอะไรได้ เฮ้อ~//เราถอนหายใจยาวๆ แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ครั้งแรกในการผ่าตัดเราต้องทำให้สำเร็จ เพราะเราคือบิวตี้ ลูกของม๊าสโนว์กับป๊านที จะไม่ยอมแพ้แค่เรื่องเล็กๆ นี้หรอก เรา : &พยาบาลคนนั้นมาใส่ถุงมือ และผ้าคลุมให้พวกฉันซิ//เราสั่งพยาบาลอีกคนที่ยืนว่างๆ อยู่หลังเครื่องมือ เธอเดินมาแบบเอื่อยๆ มาใส่ถุงมือและผ้าคลุมให้เรากับหมอครีม จากนั้นเราเดินไปที่หัวเตียง ที่ประจำการผ่าตัด หมอครีมเดินมายืนข้างๆ เรา : &ความดันกับชีพจรล่ะ//เราหันไปถามวิสัญญีอีกคนที่ยืนคุมเครื่องมือด้านข้าง วิสัญญี : &ชีพจรกับความดันคงที่ครับ ผมจัดการเตรียมคนไข้ไว้พร้อม ฉีดด้วยยาสลบ50ML. เรา : &ขอบคุณมาก ต่อไปจะทำการเปิดกะโหลก//เราพูดขึ้นกวาดสายตามองแต่ละคน พย. : &หมอมั่นใจในการผ่าตัดครั้งนี้แล้วใช่ไหมคะ//พย.คนที่ทำหน้าที่หยิบเครื่องมือถามขึ้น เรา : &แน่นอน แต่ถ้าพวกเธอไม่มั่นใจในตัวหมอ ก็ออกไปได้นะ//เรากวาดสายตามองทุกคน พย.: &ช่วยก็ช่วยค่ะ พวกเราไม่มีอะไรให้เสียอยู่แล้ว เรา : &งั้นเริ่มผ่าตัดได้//เราก้มมองศีรษะคนไข้ที่ถูกโกนผมออกไป พย.เลื่อนกล้องจุลทรรศน์อันใหญ่ที่ถูกยึดติดกับเพดานด้านบน ถูกคลุมด้วยพลาสติกป้องกันเชื้อโรค ตั้งอยู่เหนือหัวผู้ป่วยมาส่องให้เรา หมอครีม : &หมอบิวตี้ ฉันขอเปิดกะโหลกให้เองนะคะ เรา : &ได้ซิ//เรายกแขนขึ้น เดินขยับไปด้านข้าง หมอครีมยืนประจำตรงหัวผู้ป่วย ใช้ปากกาวาดมาร์กที่กะโหลก จากนั้นใช้เหล็กสว่านอันเล็ก ทิ่มลงไปที่กะโหลกทางด้านซ้ายให้เป็นรู แล้วมาเจาะรูทางด้านขวาเหมือนกัน จากนั้นใส่สว่านด้านใบมีดลงไป หมุนด้ามจับ สว่านค่อยๆ ปั่นใบมีดให้เลื่อยเปิดกะโหลกช้าๆ ฝีมือการทำของหมอครีมนิ่มนวลและแม่นยำ ขยับใบมีดตรงรอยปากกาที่ขีดไว้เป๊ะ เมื่อเลื่อยเปิดกะโหลกเสร็จก็ใช้ตะขอแบน งัดแผ่นกะโหลกที่ตัดออกมา ไขมันเยิ้มๆ น้ำใสไหลย้อยออกมาจากกะโหลก เส้นเลือดเล็กๆ ฝอยๆ มากมายสีแดงเด่นชัดอยู่บนมันสมองสีครีม หมอครีม : &เปิดกะโหลกเรียบร้อยค่ะ//หมอครีมหันมาพูดกับเรา แล้วเดินหลบไปด้านข้าง เรา : &ขอบใจมาก ต่อไปขอดูส่วนเนื้อขาวตรงด้านซ้ายกะโหลกหน่อย//เราเดินมาบนเก้าอี้ สำหรับผ่าตัด พยาบาลขยับกล้องจุลทรรศน์มาใกล้ๆ เราแบมือไปทางพย. เธอหยิบกรรไกรและคีบปากแบนส่งมาให้อย่างรู้งาน เราดูผ่านกล้องจุลทรรศน์ ก้อนสมองยังเต้นตุบ!! ตุบ!! อย่างปกติ จากนั้นใช้กรรไกรในมือตัดปลอกไมอีลีนที่ห่อหุ้มเนื้อขาวอยู่ ฉับ!! เยื่อบางๆ ขาดออกจากกัน เราใช้คีบแหวก เอาเยื่อออกทำให้เห็นเนื้อขาวที่เป็นสีชมพูอ่อน ตัวปัญหา เรา : &ตรงนี้ที่มีรอยแผล//เราใช้คีมเขี่ยที่รอยแผลอันนั้นเบาๆ สมองของคนไข้กลับกระตุกอย่างแรง2ครั้ง ตี๊ด..ตี๊ด เครื่องช่วยหัวใจดังถี่ขึ้นเร็วๆ ทำให้เราตกใจเล็กน้อย วิสัญญี : &หมอครับชีพจรของคนไข้เต้นเร็วขึ้น//หมอวิสัญญีพูดเสียงดังด้วยความตื่นเต้น เรา : &ความดันล่ะ//เราถามออกไป แต่สายตายังมองอยู่ในกล้องจุลทรรศน์ วิสัญญี : &ความดันต่ำลงเรื่อยๆ ครับ แบบนี้คนไข้จะชักจากการผ่าตัดได้ หมอครีม : &หมอบิวตี้แบบนี้จะเอาไง เตรียมยาephedrineเลยมั๊ย (ephedrineคือยาลดขยายหลอดเลือดที่ใช้สำหรับฉีดเข้าไขสันหลัง) //หมอครีมถามด้วยเสียงตื่นเต้น เรา : &ใจเย็นๆ ทุกคนเงียบก่อน//เราพูดขึ้น ทุกคนต่างเงียบ เราใช้สมาธิเพ็งดูตรงเนื้อขาวที่มันขยับเคลื่อนไหวพร้อมกับก้อนสมอง เอ๊ะ!! เรา : &เนื้อขาวขยับแปลกๆ //เราพูดบ่นขึ้น หมอครีม : &รีบเย็บตรงแผลเถอะ คนไข้อาจจะไม่ไหว//หมอครีมพูดเร่ง แต่เรากลับค้างคาใจการเต้นเนืองๆ แบบนั้น เพราะที่เคยศึกษามาเนื้อขาวพวกนี้จะไม่มีอาการขยับมากถึงขนาดนี้จังหวะผิดไปจากการเต้นของหัวใจ นอกจากจะ.. เราคิดขึ้นได้ ส่งเครื่องมือกลับไปให้พย. จากนั้นดูมือตัวเอง มั่นใจว่าถุงมือยังสะอาดอยู่ ใช้นิ้วชี้ซ้ายลูบที่แผลของเนื้อขาวเบาๆ เราปิดตาทำสมาธิ เนื้อขาวปกติจะสัมผัสลื่นๆ เพราะมีพวกไขมันล่อเลี้ยงอยู่ จนเรามาสะดุดกับผิวข้างๆ รอยแผล เจออะไรสักอย่างที่มันแข็ง เรา : &มีอะไรอยู่ตรงนี้ด้วย//เราเปิดตาหันไปมองหมอครีม หมอครีม : &หรือเลือดคั่ง เรา : &เวลาจากการเกิดอุบัติเหตุถึงตอนนี้แค่3ชม.ถ้าเป็นเลือดคั่งคงไม่ใช่แน่ๆ เพราะมันแข็งเกินไปจนสัมผัสได้//เราก้มมองในกล้องจุลทรรศน์ต่อ วิสัญญี : &หมอจะเอากล้องสอดไหมครับ//หมอวิสัญญีถามขึ้น เรา : &ถ้าใช้กล้องคงไม่ทันแน่ หมอจะผ่าตัดออกมาเลยจะได้รู้ว่าเป็นอะไร//เพราะตอนนี้ทั้งความดันและชีพจรของคนไข้ไม่ปกติ ถ้าขืนยังช้าอีกคนไข้ได้ตายในการผ่าตัดแน่ เครื่องวัดชีพจรก็ดังไม่หยุด เจอการกดตันหลายทาง แต่เราต้องสติ ค่อยๆ ทำอย่างใจเย็น เพราะถ้ารีบร้อนไปจะเกิดการผิดพลาดกับเส้นเลือดฝอยอื่นๆ ในสมองคนไข้ได้ เรา : &ขอกรรไกรหัวทู้กับที่คีบ//เราแบมือไปที่พย.เธอส่งกรรไกรกับที่คีบมาให้ เราจับให้ถนัดมือ ใช้ที่คีบแหกเนื้อขาวออกให้กว้างเพื่อหาก้อนเล็กๆ ที่เป็นปัญหา แต่ก็ยังไม่ถนัด จู่ๆ ก็มีที่คีบอีกอันช่วยมาแหกเนื้อไว้อีกด้าน เราเงยหน้าไปมองคนที่ช่วยคือหมอครีม เธอพยักหน้ามาให้ เราพยักหน้าตอบ จากนั้นก็ช่วยกันใครคีบแหวกก้อนเนื้อขาวอย่างเบามือ จนเราเห็นอะไรแข็งๆ จึงใช้กรรไกรหัวทู้ในมือคีบขึ้นมา เลือดไหลตามมาด้วย หมอครีมรีบใช้ผ้าก๊อซเช็ดและกดห้ามเลือดไว้ มันเป็นเศษแข็งๆ สีขาวมนๆ อันเล็ก เรานึกขึ้นได้มันคือเศษแจกันที่ทุบหัวไอ้คาล์กนี่เอง พยาบาลยื่นถาดมาให้ เราทิ้งลงไป ตี๊ด..ตี๊ด เครื่องวัดชีพจรกลับมาเต้นปกติ วิสัญญี : &ความดันกลับมา ชีพจรเต้นปกติครับ เรา : &งั้นเย็บแผลที่เนื้อขาวได้ หมอครีม : &หมอบิวตี้พักสายตาเถอะ ฉันเย็บให้เอง เรา : &อืม//เราลุกขึ้นจากเก้าอี้ หมอครีมไปนั่งแทน เรายืนมองทางจอมอนิเตอร์ดูการเย็บแผลของหมอครีม แต่อาการเส้นเลือดโป่งพองล่ะ มันอยู่ตรงไหน ครืด..เสียงประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดเข้ามา เราหันไปมองคนที่เข้ามาใหม่คือ หมอวิสัญญีผู้ชายคนเดิมที่มาหาเราก่อนเข้าห้องผ่าตัด เราเดินไปหาเขาทันที วิสัญญี : &ผมได้เลือดของคนไข้มาแล้วครับ มีสารซิเดนาฟิลในเลือด30%ครับ เรา : &ห๊ะ!! 30%!! แสดงว่าใช้มานานแล้วซิ//เราเหลือบไปมองหน้าไอ้คาล์ก มึงหื่นมาก ดีนะกูไม่ได้มีอะไรกับมึง เรา : &เอาภาพสแกนCTรอบศีรษะของคนไข้มาหรือเปล่า วิสัญญี : &เอามาครับ นี่ครับ//วิสัญญีกดสไลด์ภาพสแกนให้เราดูช้าๆ ทีละภาพ เรา : &เดี๋ยวนะ ย้อนกลับไปภาพก่อนหน้านี้ซิ ขยายตรงด้านขวาหน่อย//วิสัญญีทำตามที่เราบอก เรา : "สมองด้านซ้ายโดนกระแทก มันต้องสะเทือนกระทบไปทางขวาที่มีอาการอยู่ก่อนแล้วแน่ๆ "//เรายืนคิดในใจ จำลองเหตุการณ์ตอนที่คาล์กโดนตีหัว อืมๆ น่าจะเป็นแบบนั้น หมอครีม : &ตรงนี้เย็บแผลเสร็จแล้วให้ปิดกะโหลกเลยหรือเปล่า//หมอครีมพูดขึ้น เราหันไปหาหมอครีม เรา : &ยังๆ ขอเช็คอะไรอีกหน่อย เรา : &พยาบาลเตรียมน้ำเกลือ5%ให้ด้วย//เราหันไปสั่งพย.แล้วเดินไปใกล้ๆ บริเวณหัวเตียงคนไข้ หมอครีมลุกจากที่นั่ง เราไปนั่งแทน หมอครีม : &จะทำอะไรเหรอหมอบิวตี้ เรา : &เรื่องยากระตุ้น มีในเลือดสูงถึง30% แสดงว่าอาการชักก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เกิดจากการโดนแจกัน แต่เกิดจากการโดนตีข้างซ้าย ทำให้กระทบไปด้านขวา ถ้าเดาไม่ผิดเส้นเลือดโป่งพองต้องอยู่ทางขวาแน่ๆ หมอครีม : &ถึงได้จะใช้น้ำเกลือใช่ไหม เรา : &อืม พยาบาลขอน้ำเกลือ//เราแบมือไป พย.ส่งน้ำเกลือที่บรรจุลงในเข็มฉีดยาอันใหญ่มาให้ เราค่อยๆ เอาน้ำเกลือฉีดเบาๆ ไล่ลงไปจากสมองทางซีกขวาเรื่อยๆ ทั้งห้องต่างเงียบ ลุ้นดูในจอมอนิเตอร์ เราฉีดมาถึงบริเวณส่วนกลาง น้ำเกลือกลับไหลลงย้อยลงด้านล่างอย่างไวจนผิดสังเกตุ เราลองใช้นิ้วโป้งถูในบริเวณนั้น เรา : &เจอแล้ว เตรียมเครื่องมือไว้ ฉันจะทำคลิปหนีบ (Clipping) //เราเจอเส้นเลือดที่โป่งพองหนาประมาณ1.5ซม.ที่ถูกซ้อนทับด้วยsubarachnoid space (เยื่อหุ้มสมอง) ทุกคน : &ห๊ะ!! //ทุกคนพูดพร้อมกัน จะตกใจอะไรเบอร์นั้น เรา : &จะตกใจอะไร รีบเตรียมตัวให้พร้อม//เรากวาดสายตามองทุกคน จากนั้นพย.เตรียมเครื่องมือให้ หมอครีม : เคยทำเหรอบิวตี้//หมอครีมกระซิบถามเราเป็นภาษาไทย เรา : ไม่เคยหรอก ปกติหมอใหญ่เป็นคนทำ ฉันได้แต่ยืนดูเท่านั้นแหละ วันนี้ขอลงมือทำเองหน่อย//เรายกยิ้มภายใต้หน้ากาก ไอ้คาล์กมันต้องดีใจแน่ๆ ถ้ามันรู้ว่าเป็นหนูทดลองทำคลิปหนีบครั้งแรกของเรา แต่มันก็สมควรโดนแล้วล่ะ อยากนอกใจเราดีนัก ชิ๊!! พย.: &เครื่องมือพร้อมแล้วค่ะหมอ//พย.ส่งคลิปที่เหมือนกับคลิปหนีบกระดาษ ซึ่งทำมาจากtitanium มาให้ เราใช้หนีบที่บริเวณก้านของจุดที่โป่ง เพื่อให้ส่วนปลายที่โป่งพองนั้นแฟบลง แต่ยังสามารถให้เลือดไหลเวียนผ่านหลอดเลือดส่วนที่ปกติไปได้//การทำคลิปยากตอนหนีบนี่แหละ ถ้าหนีบแรงไปเลือดจะไม่เดิน แต่ถ้าหนีบคลิปเบาไปเส้นเลือดจะกลับมาโป่งพองอีก ซึ่งต้องใช้ความชำนาญ แต่สำหรับเราที่ทำครั้งแรก เราใช้ส่งๆ ไปงั้นแหละ แค่กะจากขนาดคลิป และแรงที่หนีบลงไป เส้นเลือดไหลได้ปกติ คนไข้ไม่มีอาการกระตุกใดๆ แสดงว่าเรียบร้อย เรา : &เสร็จแล้ว หมอครีม : &ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ แล้วเส้นเลือดตรงนั้นจะมีปัญหาอีกหรือเปล่า เรา : &ตอนนี้ไม่มีปัญหาหรอก ต้องรอดูอาการคนไข้ตอนฟื้นอีกที หมอครีม : &มั่นใจมากเหรอว่าคนไข้จะไม่เป็นอะไร เรา : &แน่นอนอยู่แล้ว ดูซิคนไข้ไม่ชักไม่กระตุก สรุปว่าสำเร็จไง//เรากระพริบ1ข้างส่งให้หมอครีม หมอครีม : &อืมๆ เรา : &เดี๋ยวไปกินร้านอาหารไทยกัน ฉันอยากกินไส้หมู//เห็นสมองคนไข้สีขาว มีเส้นเลือดแดงๆ เยอะๆ แบบนี้อยากกินไส้หมูขึ้นมาทันที เราทำการปิดกะโหลกของคนไข้เอง ส่วนหมอครีมยืนดูอยู่ใกล้ๆ เรา : &เสร็จเรียบร้อย//เราลุกขึ้นยืน ทุกคนในห้องทำตาโต เหมือนไม่เชื่อสายตา เรา : &ตบมือซิคะ รออะไร//แปะ!! แปะ!! เรายืนตบมือให้ตัวเอง ทุกคนในห้องเริ่มตบมือตาม แต่ละคนมองหน้ากันอย่างงงๆ ก็ต้องงงเด้ เพราะเราเป็นแค่นักศึกษาแพทย์จะผ่าตัดสำเร็จได้ไง แถมไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ ในการผ่าตัดอีกด้วย อัจฉริยะจริงๆ ตัวกู เรา : &หมอวิสัญญีสั่งพยาบาลคนดูแลคนไข้ด้วย ถ้าคนไข้ฟื้นให้รีบโทรบอกฉันทันที วิสัญญี : ครับ เรา : กลับกันดีกว่าหมอครีม//เราดึงเสื้อคลุมผ่าตัดออก ถอดถุงมือ จากนั้นเดินไปกอดคอหมอครีมเดินออกมาจากห้อง พวกเรามาอาบน้ำและเปลี่ยนชุด พากันไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารไทย หมอครีม : เล่าได้ยังว่าเกิดอะไรขึ้น//หมอครีมถามเราด้วยสีหน้าจริงจัง เรา : ไอ้คาล์กมันเป็นแฟนฉันไง//เราเล่าเรื่องทั้งหมดให้หมอครีมฟัง หมอครีมทำตาโตตกใจ หมอครีม : เรื่องมันเป็นแบบนี้เอง ทำไมพวกผอ.ใส่ร้ายเธอแบบนั้น เรา : รอให้ไอ้คาล์กฟื้นขึ้นมาก่อน รับรองไอ้พวกผอ.หงายเงิบแน่ ผ่านมาอีก2วัน พย.โทรหาเราแต่เช้า บอกว่าคาล์กฟื้นจากการผ่าตัดแล้ว และยังมีตำรวจที่คาล์กแจ้งความเอาเรื่องผู้หญิงคนนั้น ฐานทำร้ายร่างกายด้วย ทุกคนเลยรู้ความจริงทั้งหมด เราไม่ได้ทำร้ายคาล์ก เรื่องนี้เรากลายเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วจ้า พนง.ในรพ.ต่างฮือฮากับเรื่องของเรา ที่เป็นแค่นักศึกษาแพทย์แต่ผ่าตัดคนไข้สำเร็จ ทุกคนอาจจะพูดกันในแง่ดีมั้ง เราไม่ได้ใส่ใจ ขณะที่เรายื่นอ่านแฟ้มอยู่หน้าเคาน์เตอร์ หมอครีมเดินมาหาพอดี หมอครีม : ดังใหญ่แล้วนะหมอบิวตี้ เรา : แง่ดีหรือแง่ร้ายล่ะ//เราก้มอ่านประวัติคนไข้ในมือ หมอครีม : เก่งขนาดนั้นก็ต้องแง่ดีอยู่แล้ว//ฉันเงยหน้ามองหมอครีมที่ส่งยิ้มให้ เรา : เก่งอะไร ถ้าไม่มีหมอครีมช่วย การผ่าตัดคงไม่สำเร็จหรอก หมอครีมเก่งกว่าฉันตั้งเยอะ ฉันไม่เคยเห็นใครผ่ากะโหลกได้สวยเท่าหมอครีมมาก่อนเลยนะ เย็บแผลก็สวย เร็วและชำนาญ หมอครีม : พูดยอกันเองแบบนี้ตัวจะลอยไปดาวอังคารแล้วเนี่ย เรา : อ่ะ!! ได้เวลาที่ต้องไปแล้ว หมอครีม : ไปไหนหรอบิวตี้ เรา : ไปทวงข้อตกลง//เราเดินออกมาทันที ตรงไปยังตึกผู้บริหาร ระหว่างทางเราฮัมเพลงตลอด ด้วยความอารมณ์ดีสุดๆ จนมาหยุดอยู่หน้าห้องผอ.เราหมุนรอบตัวเอง1ครั้ง สะบัดผม1ครั้ง จัดเสื้อผ้าชุดกาวน์ของตัวเองให้เรียบร้อย กำลังจะเคาะประตู ..?? ..: &เดี๋ยวค่ะหมอ//มีคนพูดมาจากด้านหลัง เราหันกลับไปมอง เป็นเลขาของผอ.นั่นเอง เรา : &ผอ.ไม่อยู่เหรอคะ//เราถามกลับไป พร้อมชี้ไปที่ประตู เลขา : &ผอ.ติดประชุมค่ะ วันนี้ยุ่งทั้งวันอาจจะไม่ได้เข้ามาที่นี่//เลขาพูดจบ เดินมาใกล้ๆ พร้อมแบมือเหมือนไล่ให้เรากลับไป เรา : &เหรอคะ งั้นไว้ฉันจะมาใหม่พรุ่งนี้ก็ได้//เราเดินไป3ก้าว จังหวะนั่นเลขาถอนหายใจเสียงดัง เราใช้จังหวะที่เลขาเผลอ วิ่งกลับไปที่ประตู จับลูกบิดเปิดเข้าไปทันที Oh No!! โนโน้โน่โน้โน เรายกยิ้มขึ้น เพราะในห้องมีทั้งผอ.และรองผอ.อยู่กันพร้อมหน้า ทั้ง2คนเห็นเรากลับตาโตอ้่ปากค้างอึ้งไปเลย ชิ๊!! หนีบิวตี้ไม่พ้นหรอกจ๊ะ เรา : &ไหนบอกไปประชุมไงคะ//เราเดินเข้าไปในห้อง มองหน้าทั้ง2คนสลับกัน พวกนั้นหน้าซีดไปเลย เลขา : &ดิฉันห้ามแล้วค่ะ ไม่คิดว่าหมอจะเข้่ามา//เลขาพูดเสียงเบา ผอ.สะบัดไล่มือเลขาออกไป รองผอ.: &หมอบิวตี้มีเรื่องอะไร ถึงได้ไม่มีมารยาทเข้ามาแบบนี้//รองผอ.ทำหน้าเหยียดเรา อย่างไม่มีคำว่าสำนึก เรา : &มาทวงเรื่องที่พนันไว้คราวก่อน ฉันผ่าตัดสำเร็จ แถมยังไม่ใช่คนร้ายอีก รองผอ.: &เรื่องนี้ก็ให้จบตามที่ตกลงไว้ตามนั้น//รองผอ.พูดแทรกตลอด ผอ.ได้แต่นั่งเงียบ เรา : &อีกเรื่องล่ะ เรื่องที่จะต้องมานั่งคุกเข่าขอโทษฉัน อย่าบอกนะว่าอายจนแกล้งทำเป็นลืม รองผอ.: &อะไรพวกผม ไปรับปากไว้ตอนไหน//รองผอ.ทำหน้าหงุดหงิด จะกลบเกลื่อนล่ะซิ เรา : &นั่นไงทำเป็นลืมจริงๆ ด้วย ไม่มีสัจจะในหมู่โจรจริงๆ //เราพูดพร้อมกับส่ายหัวเอือมระอา ผอ.: &ใครลืม ผมพูดแล้วก็ต้องทำได้//ผอ.ลุกขึ้นยืนทันที เดินมาตรงหน้าเราแล้วคุกเข่าลง รองผอ.รีบเดินตามมา นั่งคุกเข่าตรงหน้าเราเช่นกัน เรา : &เดี๋ยวๆ ขออัดวิดีโอไว้หน่อย//เรารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายหน้าทั้ง2คนไว้ ทั้ง2คน : &ขอโทษ//ทั้ง2คนพูดพร้อมกัน ก้มหัวจรดพื้น สะใจบิวตี้โว้ย ให้มันรู้ซะบ้างว่าคนอย่างบิวตี้ไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ หรอก เราอัดวิดีโอไว้ทุกช็อต แต่จะไม่เอาไปแชร์ว่อนเน็ตหรอก แค่เอาไว้ขู่พวกมันก็พอ เรา : &เรื่องนี้ฉันจะไม่บอกใคร แต่ถ้าเมื่อไหร่ยังเข้ามาหาเรื่องฉันอีก รับรองภาพหน้าอายนี้รู้กันทั้งเมกาแน่//เราพูดขู่ทั้ง2คน พร้อมชูโทรศัพท์อย่างผู้ชนะ เมื่อสาสมความสะใจแล้ว ก็ห้องจากห้องผอ.ทันที เรามาทำงานตามปกติ 1เดือนผ่านมา หมอครีมวิ่งหน้าตาตื่นมาหาเรา ที่กำลังดูอาการคนไข้ในห้องฉุกเฉิน หมอครีม : หมอบิวตี้ๆ เห็นข่าวยัง เรา : ว่า? //เรากำลังจดรายการบันทึกลงในคู่มือของตัวเอง หมอครีม : นี่ไงรพ.RWTชื่อดังที่ไทยกำลังจะรับสมัึครหมอฝึดหัดที่พึ่งจบเข้าบรรจุ//เราได้ยินที่หมอครีมพูดก็หยุดชะงักทันที ก็รพ.RWTที่หมอครีมกำลังพูดถึงก็คือรพ.ของม๊านั่นเอง เรื่องนี้หมอครีมไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นรพ.ของครอบครัวเรา จะว่าไปม๊าเปิดรับแพทย์ใหม่แบบนี้ไม่บอกเราสักคำ ม๊านะม๊า เรา : ดีซิ อีก2เดือนพวกเรากลับไทยก็ไปสมัครได้แล้ว หมอครีม : ใช่ๆ ฉันจะได้ลงแผนกศักยกรรมสมอง แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วล่ะ เรา : ฉันด้วยๆ //พวกเราต่างพากันดีใจ เรา : เดี๋ยวนะ หมอครีมพูดแบบนี้แสดงว่าจะกลับไทยด้วยเหรอ หมอครีม : ใช่ ในเมื่อเพื่อนรักกลับไทย แล้วฉันจะอยู่ที่นี่อีกทำไม เรา : จริงนะ เย้ๆ //พวกเรากอดกัน แล้วกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ..?? ..: &แฮ่ม!! ที่นี่รพ.นะครับ//มีอาจารย์หมอคนนึงพูดขึ้น พวกเราผละกอดออก หยุดดีใจ ก้มหัวลงเล็กน้อย แล้วแอบยิ้มให้กัน คิก!! คิก!! เราดีใจมากที่หมอครีมจะกลับไปด้วยกัน แถมยังจะไปสมัครงานที่รพ.เราอีก ไว้รอให้หมอครีมสอบได้ จะบอกเรื่องรพ.ว่าเป็นของม๊าให้หมอครีมเซอร์ไพรส์เล่นดีกว่า เรามั่นใจว่าหมอครีมเก่ง ต้องสอบเข้าได้อยู่แล้ว เรื่องที่เรารู้ว่ารพ.ม๊าจะเปิดรับหมอใหม่ ปิดไว้ก่อนดีกว่า เพราะบางทีม๊าอาจจะเซอร์ไพร์สเรา ให้เข้าทำงานในรพ.โดยไม่ต้องสอบเหมือนคนอื่นก็ได้ ก็เพราะเราเป็นลูกม๊าหนิเนอะเส้นใหญ่อยู่แล้ว ตลอดเวลาที่เหลือในการเรียนที่นี่ เราสบายมากกว่าเดิม ไม่ค่อยมีใครมาจู้จี้เรามากนัก เวลาเราบังเอิญเจอผอ.หน้าผอ.เนี่ยตกใจมาก แถมยังสะบัดหน้าหนีทำเป็นหยิ่งใส่เรา คิก!! คิก!! ด้วยความหมั่นไส้เราเลยชูโทรศัพท์ขู่ไป ผอ.หน้าเปลี่ยนสีไปเลย สะใจบิวตี้ค่ะ ในเมื่อเห็นว่าฉันเป็นตัวร้าย ฉันก็จะร้ายให้ดู ในรพ.เลยไม่มีใครกล้ายุ่งกับเราอีก จนเรียนจบถึงเวลาที่จะต้องกลับไทยสักที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD