เช้าวันรุ่งขึ้น
เวลาแปดโมงครึ่ง..เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้คนที่กำลังนอนฝันหวานรู้สึกตัวตื่น ริมฝีปากบางชมพูบ่นพึมพำทำเสียงอืมในลำคอ ดวงตาเรียวสวยค่อยๆ สะลึมสะลือตื่น มองดูเพดานห้องสีขาวเพื่อปลุกตัวเองให้ตื่นจากฝัน เมื่อคืนเธอสืบเรื่องราวของศัตรูเยอะไปหน่อย สืบที่ว่าคือเลื่อนไถลดูไอจีของศัตรูหนุ่ม ดูเพลินจนเกือบตีหนึ่งแล้วเผลอหลับไป...
"อือ..ยังง่วงอยู่เลย" คนสวยยกมือขึ้นบิดขี้เกียจไปมา
ก็อกๆ ก็อก ประตูหน้าห้องยังถูกเคาะไม่หยุด
ก็อกๆ ก็อกๆ
"คุณหนูคะ คุณหนู เดี๋ยวจะไม่ทันประชุมเช้านี้นะคะ" ป้าจุ๋มยืนเคาะประตูไม่หยุด เหตุเพราะเป็นห่วงกลัวหญิงสาวจะไม่ทันเข้าประชุม เมื่อช่วงเช้าคุณท่านได้กำชับกับป้าจุ๋มว่าให้ดูแลเรื่องนี้ เก้าโมงเช้าคุณท่านจะให้คนมารับ นี่แปดโมงครึ่งไม่รู้คุณหนูเตรียมตัวหรือยัง...
แกร็ก!!
ประตูถูกเปิดออก..ใบหน้าสวยโผล่หน้าออกมายิ้มง่วงๆ
"ค่ะ ป้าจุ๋มมาเคาะเรียกหวานแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่าคะ วันนี้ไม่มีออเดอร์ทำขนมนะ หวานปิดรับมาเป็นอาทิตย์แล้ว" เธอมีงานอดิเรกที่ทำเป็นงานประจำคือทำขนมขายเป็นพวกเค้กเบเกอรี่กับคุกกี้ตามใจคนขาย แต่ตอนนี้หยุดทำเพราะไม่สบาย..
ป้าจุ๋มมองสำรวจเจ้าของห้องก็ได้แต่ตกใจ สภาพเพิ่งตื่นจะไปประชุมทันได้ยังไง
"คุณหนูยังไม่แต่งตัวอีกเหรอคะ วันนี้มีประชุมสำคัญ ลืมไปแล้วหรือคะ เก้าโมงเช้าคุณท่านจะให้คนมารับ ถ้าไปไม่ทันป้าโดนเล่นงานแน่ๆ"
ป้าจุ๋มรีบเดินเข้าไปในห้องช่วยจัดชุดที่จะใส่ประชุม
"ประชุมอะไรคะ หวานไม่ได้บอกว่าจะไปสักหน่อย นี่ป้าจุ๋มก็รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอคะ" เธองงไปหมดแล้ว
"รู้ค่ะ คุณท่านกำชับป้าตั้งแต่เช้า รีบเข้าไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวจะไม่ทัน" ไม่พูดเยอะป้าจุ๋มรีบหยิบผ้าเช็ดตัวให้หญิงสาวเข้าไปอาบน้ำเรียกว่ามัดมือชก
ใช้เวลาไม่นานเธอก็อาบน้ำเสร็จอยู่ในชุดคลุมเดินออกมา..
"แล้วเฮียขุนละคะ เฮียไปทำงานแล้วหรือยัง ให้หวานไปพร้อมกับเฮียก็ได้" ถ้าให้คนของเตี่ยมารับคงไม่ทันนี่เหลือเวลาสิบห้านาทีจะเก้าโมง..ถ้าให้คนขับรถของเตี่ยมารอ เธอโดนเตี่ยด่าแน่ๆ
"คุณขุนไปแล้วค่ะออกไปพร้อมกับคุณท่านตั้งแต่เช้าตรู่เลยค่ะ" ทุกวันนี้ลูกชายบ้านนี้เป็นคนดีขยันทำงานเหลือลูกสาวนี่แหละยังไม่ขยัน
"ตั้งแต่ได้คืนดีกับพี่ช่อ เฮียก็กลายเป็นลูกรักของเตี่ยไปแล้วเหรอคะ แล้วนี่พี่ช่อตื่นหรือยังคะ" เฮียเคยไปทำงานพร้อมกับเตี่ยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เตี่ยเธอไปทำงานเช้ามากและเฮียก็ไปไม่เคยทัน ดูทุกวันนี้สิไปทำงานพร้อมกับเตี่ยด้วย
"คุณช่อตื่นแล้วค่ะ ตอนนี้นั่งเล่นอยู่กับเจ้าป๊อกกี้ข้างล่าง" ทุกคนตื่นหมดแล้วเหลือคนเดียวนี่แหละ...
น้ำหวานจำต้องรีบแต่งตัวตามคำบอกของป้าจุ๋ม ป้าจุ๋มคือคนที่เลี้ยงดูเธอกับพี่ชายมา เธอจึงไม่ค่อยดื้อกับป้าจุ๋ม...
"คุณหนูของป้ายิ่งโตก็ยิ่งสวย สวยยังกับตุ๊กตาเลยค่ะแต่แปลกที่ยังไม่มี..." ป้าจุ๋มมองชุดที่หญิงสาวใส่แล้วพูดชมไม่หยุดนานทีจะเห็นใส่ชุดทำงานเรียบร้อยสวยหรู
"ยังไม่มีอะไรเหรอคะ" มือเล็กจัดระเบียบชุดกระโปรงทรงเอให้เข้ารูป
"ยัง..ยังไม่มีแฟนน่ะค่ะ คุณหนูของป้าสวยขนาดนี้ทำไมถึงไม่มีหนุ่มๆ คนไหนมาจีบบ้างนะ" ป้าจุ๋มพูดแซวยิ้มชื่นชมในความสวยสไตล์สาวหมวย สวยจริงๆ นะ
น้ำหวานถึงกับหน้าแดงร้อนที่ป้าจุ๋มบอกว่าไม่มีหนุ่มๆ คนไหนมาจีบเธอ ใครบอกไม่มี..สมัยเรียนมีหนุ่มๆ มาชอบมาจีบเธอตั้งเยอะแต่ใครจะผ่านด่านเตี่ยกับเฮียไปได้ล่ะ แล้วดูตอนนี้สิ เธออายุจะสามสิบยังไม่มีใครกล้ามาจีบเลย...
"ใครบอกว่าไม่มีมาจีบคะ มีคนมาชอบมาจีบหวานตั้งเยอะแต่หวานเลือกต่างหาก หวานไม่ชอบให้ใครมาจีบก่อน ถ้าหวานชอบหวานจะไปจีบเองค่ะ" รอให้ผู้ชายมาจีบก่อนใครจะกล้ามาจีบ ต่อไปนี้เธอจะจีบเองซะเลย แค่จีบผู้ชายเรื่องง่ายๆ
"ว๊ายยไม่ได้นะคะ เป็นผู้หญิงต้องให้ผู้ชายเข้ามาจีบก่อนถึงจะงามนะคะ" ได้ฟังแล้วหัวใจจะวาย
"นี่มันสมัยไหนแล้วคะป้าจุ๋ม จะผู้หญิงจีบก่อนหรือผู้ชายจีบก่อนก็เหมือนกันแหละค่ะ ป่านนี้คนขับรถของเตี่ยคงมารอนานแล้ว หวานไปก่อนนะคะ"
"เดี๋ยวก่อนค่ะคุณหนู กระเป๋าค่ะ" รีบจนลืมกระเป๋า
"ขอบคุณค่ะ" ใบหน้าสวยหันมายิ้มแล้วรับกระเป๋ากับป้าจุ๋ม จากนั้นก็รีบร้อนเดินออกไป..
บริษัทเทพพิทักษ์ สยามไรซ์ จำกัด
จากโรงสีข้าวระดับจังหวัด สู่ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ระดับเอเชีย...เทพพิทักษ์ สยามไรซ์ ชื่อที่ใครๆ ก็รู้จักในนามว่าข้าวเทพ ข้าวหอมมะลิคัดเกรดเอ หุงขึ้นหม้อกลิ่นหอมไปไกลร้อยบ้านพันบ้าน...หุงแล้วหิวกันทั้งอำเภอ ข้าวเทพ ต้องข้าวเทพแบรนด์เทพพิทักษ์เท่านั้น...
ไม่ได้มาบริษัทเตี่ยเกือบปีไม่คิดว่าจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้...
น้ำหวานยืนมองโกดังขนาดใหญ่นับร้อยโกดังในพื้นที่สองร้อยไร่อย่างไม่อยากตะเชื่อสายตา เธอไม่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวายกับงานของเตี่ยมีแค่เฮียขุนเข้ามาช่วยไม่คิดว่าจะยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ ทั้งป้ายบริษัทป้ายโฆษณาทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เธอคิดว่าเธอเป็นแค่ลูกสาวเจ้าของโรงสีข้าวประจำจังหวัดมาโดยตลอด..ตอนนี้ไม่น่าจะแค่ระดับจังหวัดแล้วนะ ใหญ่ขนาดนี้ให้ระดับประเทศไปเลย เตี่ยเธอเก่งสุดๆ ไปเลย เทพสมชื่อจริงๆ
"คุณน้ำหวานครับ คุณน้ำหวาน" ลุงมิ่งคนขับรถเรียกหญิงสาวอยู่หลายครั้ง ถึงแล้วทำไมไม่รีบเดินเข้าไป ทำยังกับไม่เคยเห็นบริษัทตัวเอง
"คะ..คะ" น้ำหวานได้สติเมื่อตอนที่ถูกเรียก
"รีบเข้าไปเถอะครับ คุณท่านรออยู่" คุณท่านเป็นคนตรงเวลามากๆ
"อ้อค่ะ" เธอหันไปยิ้มให้ลุงมิ่งแล้วรีบเดินเข้าอาคารเป็นตึกกระจกขนาดใหญ่และกำลังจะสร้างใหม่ข้างๆ กัน
เตี่ยเธอนี่รวยมากจริงๆ ไม่ได้มาบริษัทแค่ไม่นาน เตี่ยเธอรวยขึ้นขนาดที่จะสร้างตึกใหม่เชียวหรือ ไหนเคยบ่นว่าไม่มีเงินลงทุน..แต่มีเงินสร้างตึกใหม่เนี่ยนะ??
เมื่อเดินเข้ามาด้านในก็เจอกับอิงอรเลขาของเตี่ยเทพ
"สวัสดีค่ะคุณน้ำหวาน ไม่เจอกันนานสวยขึ้นเป็นกองเลยนะคะ " อิงอรเลขาสาววัยสี่สิบปลายๆ ยิ้มทักทาย วันนี้ลูกสาวเจ้าของบริษัทแต่งตัวสวยเชียว
"ขอบคุณค่ะ แล้วนี่เตี่ยอยู่ไหนเหรอคะ"
"คุณท่านรออยู่ข้างบนค่ะ เชิญเลยค่ะ" เธอลงมารอรับเพื่อจะพาขึ้นไปข้างบน
น้ำหวานเดินตามไปที่ลิฟต์ มองสังเกตรอบๆ ก็พบว่าทุกอย่างดูเป็นระบบระเบียบสุดๆ
หน้าลิฟต์ชั้นสาม...
อิงอรเดินนำไปที่ห้องรับรองแขกไม่ใช่ห้องทำงานหรือห้องประชุม...
ภายในห้อง
เตี่ยเทพกำลังนั่งคุยอยู่กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนสำคัญและรายย่อยอีกสองคน สาเหตุที่เตี่ยเทพให้คนไปรับลูกสาวตอนเก้าโมงก่อนเวลาประชุมเพราะจะได้พามาทำความรู้จักคนบุคคลสำคัญในบริษัทและจะได้มาประชุมทันเวลา...
ก็อกๆ
"ขออนุญาตค่ะ" อิงอรเคาะประตูสองสามทีแล้วเปิดประตูเข้าไป
"คุณน้ำหวานมาถึงแล้วค่ะ" เลขาสาวขยับตัวเชิญให้หญิงสาวเจ้าของชื่อเดินเข้าไปแต่เธอเอาแต่ยืนนิ่งไม่ยอมเดิน
น้ำหวานสูดลมหายใจเข้าปอดสองสามทีจากนั้นก็ยิ้มเดินเข้าไปในห้อง..
เธอพอจะรู้ชะตากรรมของตัวเอง เตี่ยทำเซอร์ไพรส์เธอแน่ๆ ระวังจะโดนเธอเซอร์ไพรส์กลับนะ
ใบหน้าสวยฉีกยิ้มหวานเดินเข้าไปสวัสดีทุกคนที่อยู่ในห้อง คนแรกคือเตี่ยเทพคนที่สองคือคุณลุงดนัยคนที่สามคือคุณลุงวิโรจน์และคนที่สี่คือคนที่เธอไม่อยากจะเจอเลยสักนิดเดียวแต่ก็เตรียมตัวเตรียมใจทำการบ้านมาพอสมควร
"สวัสดีค่ะ" น้ำหวานยกมือไหว้เขาแบบเร็วๆ และแทบจะไม่เงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยซ้ำตั้งแต่เดินเข้ามาเธอมองแค่ปลายเท้าของเขา..เห็นเงาเขาในตาเธอแว๊บๆ
ร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลากระตุกยิ้มพราวระยับยกมือขึ้นรับไหว้ เขาเอาแต่มองสำรวจเธอไม่ละสายตา วันนี้เธอสวมกระโปรงทรงเอสีดำคลุมเข่ากับเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในสวมทับด้วยเสื้อสูทเข้ารูปสีกลมดูเหมือนพนักงานใหม่มากกว่าลูกสาวเจ้าบริษัท ใบหน้าหล่อเหลายิ้มพึงพอใจ...
เตี่ยเทพบอกให้ลูกสาวเดินมานั่งลงข้างๆ ใกล้ๆ กับแขกคนสำคัญทำเอาน้ำหวานตัวแข็งไม่ยอมแต่สุดท้ายก็ต้องนั่ง เธอไม่ชอบสายตาของเขาที่กำลังมองมาที่เธอ คล้ายกับว่าเขากำลังจะสื่ออะไรหรืออยากจะพูดอะไรบางอย่าง ถ้าเขาพูดเรื่องคืนนั้นเธอบีบคอเขาแน่..
"นี่น้ำหวานลูกสาวคนเดียวของผมเองครับ" เตี่ยเทพยิ้มมีความสุขก่อนหน้าแอบลุ้นกลัวว่าลูกสาวจะทำอะไรแปลกๆ จึงได้กำชับให้ป้าจุ๋มช่วยดูแลเรื่องการแต่งตัว วันนี้ลูกสาวเตี่ยสวยมากจริงๆ
"นี่คุณอาเธอร์ผู้ถือหุ้นรายใหญ่และยังเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัทเรา เตี่ยอยากให้ลื้อทำความรู้จักเอาไว้มีอะไรจะได้ปรึกษากัน" คำหลังเตี่ยเทพพูดกระซิบกับลูกสาวแล้วเธอก็กระซิบกลับ
"หวานไม่ได้อยากรู้จักสักหน่อย" ตอนนี้เธอรู้สึกอึดอัดจนอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายไป
"คือเราสองคนรู้จักกันอยู่แล้วครับ ใช่ไหมครับ คุณน้ำหวาน" ใบหน้าหล่อระบายยิ้มอ่อนๆขยับนั่งตัวตรงดึงกระชับเสื้อสูทด้วยท่าทางทะมัดทะแมงแต่คนที่ถูกพูดถึงหุบยิ้มจนแทบจะบึ้งตึง...
คำตอบของเขาทำเอาเธอต้องเงยหน้าขึ้นมองสบตา แบบตามองตาพร้อมที่จะฆ่าเขาด้วยสายตาอาฆาต..สองมือเล็กกำเข้าหากันแน่น
สำหรับเธอสงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่สำหรับเขาคิดว่าไม่ใช่ เขาดูมีความสุขเกินไป
เตี่ยเทพอ้าปากค้าง..งุนงงไม่คิดว่าทั้งคู่จะรู้จักกัน ดูจากสายตาท่าทางของลูกสาวแล้วไม่น่าจะรู้จักกันในทางที่ดีนะ โอ้ไม่นะงานนี้ซี้แหงแก๋ ลูกสาวเตี่ยจะเป็นศัตรูกับผู้ชายทุกคนบนโลกนี้ไม่ได้ แล้วเมื่อไหร่จะขายออก!! พ่อแทบจะกุมขมับ หวังจะขายลูกสาวแต่ดูแล้วน่าจะได้ขายหน้า
"เหอะ รู้จักกันอย่างนั้นเหรอคะ" ใบหน้าสวยยิ้มร้าย รอยยิ้มนี้เตี่ยเทพรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงพูดให้ทุกอย่างผ่อนคลายลง
"อ้อ ฮ่าๆ รู้จักกันอยู่แล้วก็ไม่บอก เตี่ยดีใจดีใจมากๆ ไปเจอกันที่ไหนงั้นหรือ" ดีใจก็ดีใจแต่ก็แปลกๆ กับอาการของลูกสาว ดูท่าทางไม่ยินดีเลยนะ
"ที่มหาลัย/ที่คลับครับ" ทั้งคู่พูดขึ้นพร้อมกันแต่คนละที่ เตี่ยเทพมองสลับไปมาตกลงแล้วที่ไหนกันแน่..
"อ้อ เจอกันที่มหาลัยแล้วไปเที่ยวกันที่คลับใช่ไหม ฮ่าๆ ดีๆ" เตี่ยเทพพยายามโยงเรื่องให้ผ่อนคลาย แต่ลูกสาวเตี่ยไม่เคยเที่ยวคลับสมัยเรียนหรือว่าจะแอบไป
"ฉันคิดว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันค่ะ" สายตาของเธอมองตรงไปที่เขา ดูเป็นศัตรูมากกว่าเป็นมิตรแต่คนถูกมองกลับยังยิ้มหัวเราะท่าทางเอ็นดูเธอสุดๆ ทำเอาเธอโกรธควันออกหู ทำหน้าแบบนี้อยากจะโดนต่อยหน้าหล่อๆนั่นอีกใช่ไหม..
"ได้สิครับ คุณน้ำหวาน" ยิ้มหล่อละมุนละไมเป็นรอยยิ้มที่สาวๆ ทุกคนต้องละลายแต่ยกเว้นเธอ...
"หวานขอยืมตัวหุ้นส่วนคนสำคัญของคุณพ่อสักครู่นะคะ" พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก หันไปยกมือไหว้ขอโทษคุณลุงทั้งสองที่เสียมารยาทแล้วเธอก็ลุกขึ้นเดินออกไป...
"ผม..ขอตัวสักครู่นะครับ" ใบหน้าหล่อพูดยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่ได้มีท่าทีตื่นกลัวใดๆ ออกไปทางมีความสุขมากเสียด้วยซ้ำ
เมื่อทั้งคู่เดินออกไป เตี่ยเทพก็ทำหน้าเหมือนกำลังเจอเรื่องคอขาดบาดตาย
"อ๊าา งานนี้อาหวานทำซี้แหงแก๋ อั๊วกลุ้มใจ"เตี่ยเทพเอามือทาบอก..
ใจเย็นๆ นะอาหวาน อย่าได้ทำร้ายหุ้นส่วนคนสำคัญของเตี่ยเชียวนะ...
ระวังพี่อาเธอร์จะมาเอาคืนเด้อ555