หน้าคฤหาสน์...
ขุนเขาเดินออกมาส่งโอบเอื้อที่รถ วันนี้เตี่ยเทพเลิกงานกลับบ้านเร็วกว่าทุกวัน ชวนโอบเอื้อกินข้าวเย็นด้วยกันแต่ชายหนุ่มมีธุระช่วงหกโมงเย็น..ก็เลยไม่ได้อยู่กินด้วยกัน
"แล้วเจอกันเพื่อน อ้อไอ้เอื้อ กูลืมบอกว่าพรุ่งนี้มากินข้าวเย็นที่บ้านกูนะ เตี่ยแม่งไม่ยอมจะต้องให้มึงมากินให้ได้ มึงก็มากินหน่อยแล้วกัน" เตี่ยเขาเป็นคนประเภทชอบออกคำสั่ง เจอกันแล้วก็ต้องกินข้าวด้วยกันอะไรประมาณนี้
"โอเคเพื่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็นกูจะแวะเข้ามา ฝากขอบคุณเตี่ยเทพด้วยนะ" โอบเอื้อหันไปโบกมือก่อนจะเดินไปขึ้นรถ
"โอเคๆ ขับรถดีๆ เว้ยเอื้อ.." สองเพื่อนโบกมือลากัน
"เดี๋ยวก่อน!! คุณชื่อว่าอะไรนะ" น้ำเสียงเข้มดุดังมาจากด้านข้างติดกับโรงจอดรถ ทั้งขุนเขาและโอบเอื้อต่างก็งุนงงว่าเสียงใคร??
เมื่อหนุ่มหล่อเดินอุ้มเจ้าป็อกกี้ออกมาจากสวนก็ทำเอาทั้งคู่ตกใจ
"อ้าวว คุณอาเธอร์สวัสดีครับ คุณพ่อตามหาคุณอยู่ข้างใน ผมก็ว่าจะออกมาตามอยู่พอดี" ขุนเขาทักทายตามประสาคนรู้จักกัน เตี่ยเทพบอกกับเขาว่าชายหนุ่มมาด้วยแต่ยังไม่เข้ามา จึงไม่ได้แปลกใจส่วนคนที่แปลกใจคือโอบเอื้อ..
"สวัสดีครับ คุณขุน ผมกำลังจะเข้าไป" ทักทายสวัสดีขุนเขาแต่สายตามองตรงไปที่อีกคน...
เมื่อขุนเขาเห็นว่าชายหนุ่มมองไปที่เพื่อนสนิทเขาก็รีบแนะนำให้รู้จัก ว่าแต่ยัยหวานยอมให้คนอื่นอุ้มหมาของตัวเองด้วยเหรอ...ขนาดพี่ชายยังไม่ให้อุ้ม
"นี่โอบเอื้อ เพื่อนสนิทผมเองครับ เอ้ยเอื้อ...นี่คุณอาเธอร์หวังผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คนที่กูเคยเล่าให้มึงฟังไง" คำหลังขุนเขาเดินไปกระซิบคุยกับเพื่อน เผื่อมีอะไรที่ร้านจะได้ปรึกษาคุณอาเธอร์ คนนี้ของจริง
โอบเอื้อยืนงง มองไปที่หนุ่มหล่อแปลกหน้าด้วยความสงสัย ทำไมถึงหน้าคุ้นจังวะ คุ้นจริงๆ ด้วยความมัวแต่คุ้นก็เลยลืมทักทาย..อาการของโอบเอื้อคล้ายคนถือตัวมีอีโก้แต่ความจริงไม่ใช่ เขาแค่รู้สึกคุ้นหน้าก็เลยลืมทักทาย
มาเฟียหนุ่มเป็นฝ่ายเดินตรงเข้ามาทักทาย สายตาที่เขามองโอบเอื้อคล้ายกับอยากจะฆ่าให้ตาย..
"สวัสดีครับ ผมอาเธอร์หวัง" ใบหน้าหล่อยิ้มเหี้ยมยื่นมือออกไปจับทักทาย
โอบเอื้อเพิ่งได้สติในตอนที่ชายหนุ่มพูดแนะนำตัว มัวแต่มองสำรวจหน้าหล่อๆ คนอะไรหล่อฉิบหายยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งหล่อ หล่อแบบนี้เหมือนเคยเจอที่ไหน??
"สวัสดีครับ ผมชื่อโอบเอื้อ เพื่อนสนิทขุนเขา ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ยิ้มหล่อแต่คงไม่สู้คนตรงหน้า หล่อแบบลูกครึ่งแถวนี้ไม่มี ว่าแต่ทำไมคนหล่อมองหน้าเขาแปลกๆ มองเหมือนอยากจะหักคอ
โอบเอื้อยื่นมือออกไปจับอย่างเป็นมิตร สร้างมิตรภาพเผื่อได้เพื่อนกินเหล้าเพิ่ม ที่ร้านเขาเปิดเป็นคลับช่วงเย็น ทรงนี้ท่าทางจะกระเป๋าหนัก...
"อะโอ๊ยๆๆ ..อะเจ็บๆ" เมื่อมือแตะสัมผัสกับฝ่ามือใหญ่ กระดูกนิ้วมือเขาก็ลั่นกรอบแกรบเหมือนถูกบีบด้วยคีมเหล็ก ซี๊ดดด...
ขุนเขารีบเดินเข้ามาดูเมื่อเห็นว่าเพื่อนร้องเหมือนจะตาย..แต่ก็เป็นแค่การยืนจับมือกันปกติ มันจะร้องทำไม??
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ คุณเอื้อ" อาเธอร์ยังคงยิ้มทักทายแต่คนถูกทักเริ่มมือสั่นหน้าสั่น
"อะโอ้ยๆ ครับๆ" โอบเอื้อพยายามดึงมือออกแต่ดึงไม่ออก ไอ้หน้าหล่อนี่มันจะทักทายหรือฆ่าเขากันแน่ อะซี๊ดด เจ็บๆ โอบเอื้อนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
"ปะปล่อยก่อนเถอะครับ" มือเขาจะแหลกอยู่แล้ว เจ็บจริงๆ ไม่ได้แกล้งหรือนี่คือการทักทายกันแบบฝรั่งของจริง..
ใบหน้าของอาเธอร์ยิ้มมองไปที่ศัตรูก่อนที่จะปล่อยมือ แค่นี้เขาก็ประเมินได้แล้วว่าอีกฝ่ายอยู่ในระดับไหน หึ..ไม่มีบารมีเลยสักนิด มีตรงไหนที่มันสู้เขาได้งั้นหรือ??
"แรงดีเหลือเกินนะครับ" โอบเอื้อยิ้มเจื่อน ค่อยๆ ก้าวถอยหลังไปขึ้นรถ เขารู้สึกเหมือนได้ผูกศัตรูมากกว่าผูกมิตร เขาต้องรีบไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด...
"รักษาชีวิตไว้ให้ดีด้วยนะครับ" เป็นคำพูดส่งท้ายก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินขึ้นรถ
โอบเอื้อหันกลับไปยิ้มให้หนุ่มหล่อด้วยใบหน้าซีดเซียว คำพูดนี้คล้ายคำสั่งตายยังไงๆ ....ฟังดูแปลกๆนะ
"เฮียเอื้อจะกลับแล้วเหรอคะ" เสียงเล็กของน้ำหวานดังมาจากด้านหลัง..ทุกคนต่างหันมองไปที่เธอ ขุนเขางุนงงที่อยู่ๆ น้องสาวก็เข้ามาพูดทักทายเสียงหวานกับเพื่อนเขา
"อะ..ใช่ๆ เฮียกำลังจะกลับละ" โอบเอื้อหันกลับไปมองน้องสาวเพื่อนด้วยความแปลกใจ ปกติจะมาจะกลับก็ไม่เคยทักเห็นเขาเป็นตอไม้ ทักแบบนี้รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี..
ใบหน้าสวยฉีกยิ้มมาแต่ไกลเป็นรอยยิ้มที่ทุกคนต้องขุนลุก..วันนี้มาแปลก ร่างสมส่วนเดินตรงเข้าไปหาโอบเอื้อ ผ่านพี่ชายกับอีกคนไปราวกับอากาศ...
"หวานคงคิดถึงแย่เลยค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ แล้วเจอกันค่ะที่รัก" มือเล็กจับลงที่แขนล่ำสันทำเอาโอบเอื้อขนลุกซู่ไปทั้งตัว ทั้งคำพูดการกระทำผิดปกติไปหมด..
โอบเอื้อยืนตัวแข็งทื่อขาที่จะก้าวขึ้นรถแข็งจนก้าวไม่ออก รู้สึกได้ถึงลางร้าย..ต้องมีอะไรแน่ๆ
"เล่นอะไรวะหวาน ผีเข้าหรือไง" เขาหันไปพูดกระซิบ มาจับแขนแบบนี้มันขนลุกนะเว้ย ...
"ชู่..." น้ำหวานเอามือแตะปากเขาเบาๆ เป็นการบอกว่าให้หยุดพูด...
เธอกำลังแสดงละคร ตอนนี้กำลังมีคนมองอยู่ ใบหน้าสวยฉีกยิ้มขยิบตาให้อีกฝ่ายเล่นด้วย..
"ขึ้นรถเถอะค่ะ ขับรถกลับดีๆ นะที่รัก" เธอใช้จังหวะที่เขากำลังงุนงงผลักเข้าที่หลังให้เขาเดินไปขึ้นรถ โอบเอื้อเดินไปขึ้นรถง่ายๆ เพราะกำลังงุนงงว่าเธอกำลังเล่นบ้าอะไร...
ก่อนจะปิดประตูน้ำหวานก็ก้มหน้าลงไปพูดกระซิบ...
"พรุ่งนี้หวานจะเข้าไปหาที่ร้าน ตอนนี้เฮียรีบไปเถอะ"
เมื่อส่งพี่ชายเพื่อนขึ้นรถเสร็จเธอก็รีบปิดประตูรถ...
ปึ้ง...
"บ๊ายบายนะคะ ที่รัก" ยิ้มโบกมือลา...
ขุนเขายืนมองพฤติกรรมของน้องสาวด้วยความสงสัย...ยัยตัวแสบกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ คิดว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน ต้องรีบบอกให้เพื่อนเขาสวดมนต์ เคราะห์หนักจะได้เป็นเบา...
"ผมฝากด้วยนะครับ" อาเธอร์ส่งคืนลูกหมาในมือให้กับขุนเขา..
"อ้อ..ครับ" ขุนเขาทำหน้างงๆ ยื่นมือออกไปรับเจ้าป็อกกี้ มันทำเสียงขู่เหมือนจะกัดแต่เขาทำหน้าขู่กลับจนมันกลัว กัดมากูกัดกลับอะ...
ร่างสูงใหญ่ของมาเฟียหนุ่มเดินตรงเข้าไปกระซิบพูดคุยกับนักฆ่ามือขวา..
ยักษ์พยักหน้ารับคำสั่ง..ก่อนจะรีบขับรถตามออกไป...
ภายในบ้าน...
ทุกคนในบ้านไม่มีใครไม่รู้จักหนุ่มหล่อหุ้นส่วนคนสำคัญ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาที่นี่ แต่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน..
เตี่ยเทพยิ้มหน้าบานดูมีความสุขกว่าใคร..เดินไปหยิบนั่นหยิบนี่คอยบริการแขกคนสำคัญตั้งแต่เข้ามาในบ้านจนถึงเวลาร่วมโต๊ะกินข้าวก็ยังคอยตักนั่นตักนี่บริการไม่หยุด
"ผัดพริกแกงหมูกรอบฝีมืออาช่อ อร่อยที่สุดเลยครับ ลองชิมดู ฮ่าๆ" ยื่นมือไปตักผัดพริกแกงแสนอร่อยให้แขกคนสำคัญแล้วก็ยิ้มหัวเราะมีความสุข ทำเอาทุกคนยิ้มมีความสุขไปด้วยแต่ยกเว้นอยู่หนึ่งคนที่นั่งทำหน้าบูดบึ้ง...
"ขอบคุณครับ" แขกคนหล่อยิ้มรับ..
น้ำหวานได้แต่มองแล้วก็สงสัย เตี่ยกินข้าวกับเธอมาตั้งกี่ปียังไม่เคยตักให้เธอกินเลย เขาเป็นใครทำไมเตี่ยต้องดูแลดีขนาดนี้ แค่เตี่ยบังคับให้เธอขอโทษเขาก่อนนั้นก็มากเกินพอแล้วนะ เธอจะทนไม่ไหวแล้ว รู้สึกกินข้าวไม่ลง..
"หวานเป็นอะไรหรือเปล่า พี่ไม่เห็นหวานกินข้าวเลย" ช่อฟ้าสะใภ้ของบ้านพูดถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เขี่ยข้าวในจานไปมา..
"เปล่าค่ะพี่ช่อ หวานแค่กลืนไม่ลง" เธอเงยหน้าขึ้นมองเตี่ยกับนายหน้าหล่อนั่น เห็นแล้วรู้สึกอัดจนกินไม่ลง เธอทำขนาดนี้เตี่ยยังไม่สนใจเอาแต่คุยกับนายหน้าหล่อนั่น!!
"งั้นลองทานซุปดูไหม ทานร้อนๆ จะได้ลื่นคอ" ช่อฟ้าเองก็เป็นห่วงแม้ว่าเธอจะท้องอยู่แต่เธอก็เป็นห่วงทุกคนในบ้านเสมอ..
"ขอบคุณค่ะ พี่ช่อทานให้เยอะๆ เถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหวานหรอก หวานเป็นห่วงหลานชายของหวานกับพี่ช่อมากกว่า" เธอหันไปยิ้มให้พี่สะใภ้ ดีที่เธอมีพี่ช่อนั่งอยู่ข้างๆ ไม่อย่างนั้นเธอคงนั่งต่อไม่ได้...
เตี่ยไม่เหมือนเดิม เตี่ยหลงคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง..เอะ!!ภาพนี้คุ้นๆ คล้ายกับตอนที่เตี่ยรักพี่สะใภ้มากกว่าเฮียขุน ไม่นะ ไม่น่าจะใช่แบบนั้น!!
แขกคนสำคัญยังคงยิ้มพูดคุยกับเตี่ยเทพและทุกคนดูกลมกลืนมีความสุข..ยกเว้นก็แต่น้ำหวานอีกเช่นเคย สิ่งที่เธอสังเกตได้คือนายหน้าหล่อนั่นแทบจะไม่หันมองมาที่เธอคล้ายกับคนโกรธทั้งที่ก่อนนั้นเขาดูจะสนใจเธอมากๆเชอะเธอเองก็ไม่อยากจะมองเขาเหมือนกันแหละ แต่ตอนนี้ดูเขากับเตี่ยและเฮียขุนจะเข้ากันได้ดีสุดๆ ถึงขนาดชวนกันไปดื่มไวน์ในห้องกันต่อ...
ห้องไวน์ริมสระ
เตี่ยเทพเปิดห้องต้อนรับแขกคนพิเศษ..คุยกันถูกคอก็ดื่มกันต่อสักหน่อย ภายในห้องเก็บเสียงจึงไม่รู้ว่าคนข้างในคุยอะไรกันบ้าง..
หลังจากส่งเจ้าหมาป็อกกี้เข้านอนเสร็จน้ำหวานก็เดินขึ้นชั้นบน ทุกคนในบ้านนอนชั้นล่างกันหมดมีแค่เธอคนเดียวที่นอนอยู่ชั้นบน ตั้งแต่ที่พี่สะใภ้ท้องก็ย้ายลงไปนอนห้องข้างล่างชั้นบนก็เลยเงียบเหงา...
ห้องนอนฝั่งขวา...
น้ำหวานหันมองคนงานสองคนที่กำลังยกกระเป๋าลากเข้าไปในห้องอีกฝั่งอย่างไม่เข้าใจ...กระเป๋าใคร?? เฮียกับพี่ช่อจะย้ายกลับมานอนห้องเดิมงั้นเหรอ
"มะขามนั่นกระเป๋าใคร กระเป๋าเฮียกับพี่ช่อเหรอ" มีอะไรเกิดขึ้นกับพี่ช่อหรือเปล่า
"เปล่าค่ะ นี่เป็นกระเป๋าของแขกคนสำคัญ คุณท่านให้เอาขึ้นมาเก็บในห้องค่ะ" มะขามตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม..
"ฮะ!!!กระเป๋าใครนะ" ใจของเธอเต้นตึกตัก ใครคือแขกคนสำคัญ?? อย่าบอกนะว่าเป็น...ไม่นะ!! ใบหน้าสวยเห่อแดงด้วยความโกรธ ตอนนี้เธอกำลังโกรธเตี่ยเอามากๆ
"นี่เป็นกระเป๋าแขกคนสำคัญของคุณท่านค่ะ" มะขามตอบไปตามที่นายท่านสั่งว่าเป็นกระเป๋าของแขกคนสำคัญ
"เตี่ยยย!!" น้ำหวานพูดขึ้นเสียงดังก่อนจะรีบวิ่งลงบันไดอย่างไม่คิดชีวิต
สองมือเล็กกำเข้าหากันแน่น เธอโกรธ.. โกรธเตี่ยเอามากๆ ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไมถึงไม่ถามเธอสักคำ..ให้คนนอกเข้ามาอยู่ในบ้านของเราได้ยังไง...นี่เตี่ยรักเธอจริงป่ะเนี่ย ทำไมถึงไม่ห่วงลูกสาวบ้างเลย ปล่อยให้คนอื่นเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน!!!
หน้าห้องไวน์..