ตอนที่ 1 ฉากรักอันเร่าร้อน

1169 Words
ณ คฤหาสน์บนยอดเขา ภายในห้องอันหรูหรากว้างใหญ่ เสียงครางของหญิงสาวดังระงมไปทั่วห้องด้วยความเจ็บปวดและไม่เต็มใจ ปนกับเสียงหอบของชายหนุ่มที่บ่งบอกถึงการใช้แรงอย่างหนักหน่วง ชายหนุ่มจับร่างของหญิงสาวไว้แน่นพร้อมขยับตัวอย่างอย่างดิบเถื่อนไร้ความปราณี เสื้อผ้าที่ขาดรุ่ยตกกระจัดกระจายบนพื้นสภาพไม่ต่างกับเศษผ้าที่ไร้ค่า ทั้งที่มันคือเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่คนทั่วไปจับต้องยาก ซึ่งมันบ่งบอกถึงความป่าเถื่อนของผู้กระทำได้อย่างชัดเจน เผยให้เห็นฉากรักอันเร่าร้อนของสองร่างที่แนบชิดรวมเป็นหนึ่งอยู่บนเตียงใหญ่ หญิงสาวรู้สึกเจ็บปวดราวกับร่างอันบอบบางของเธอกำลังแหลกสลายจนหน้าซีดเผือด เมื่อชายหนุ่มบุกทะลวงทุกสิ่งขวางกั้น เข้ายึดครองร่างของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่ปราณี จนหญิงสาวทนไม่ไหวเอ่ยเสียงแผ่วร้องขอความเห็นใจ “ พี่ตรัยคุณ ขอร้องล่ะฉันไม่ไหวแล้ว หยุดเถอะ ” ยิ่งหญิงสาวร้องขอความเห็นใจจากชายหนุ่ม ชายหนุ่มก็ยิ่งบุกทะลวงร่างหญิงสาวจากทางด้านหลัง เพิ่มความถี่และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเอ่ยเสียงเยือกเย็นอย่างไร้หัวใจ “ หยุดเหรอ แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ ชิชา เธอเสนอตัวเข้ามาอ่อยถึงห้องเองนะมาตอนนี้ขอให้หยุดมันสายไปแล้ว ” พูดจบชายหนุ่มยิ่งทวีความรุนแรงและป่าเถื่อนอย่างไม่หยุด จนหญิงสาวชาไปทั่วทั้งร่างสายตาพร่ามัว แข้งขาอ่อนแรงแล้วเธอก็สลบไป ชายหนุ่มไม่ยอมหยุดการกระทำไม่สนว่าเธอจะเป็นหรือตายเขาทำจนเสร็จสมใจแล้ว ถึงจะผละตัวออกจากร่างของหญิงสาวที่ขาวซีดอ่อนปวกเปียกอยู่บนเตียงอย่างไร้สติ จากนั้นร่างสูงใหญ่ก็ลุกไปอาบน้ำโดยไม่แลสายตามามองหญิงสาวที่อยู่บนเตียงอีกเลย พออาบน้ำเสร็จชายหนุ่มรูปร่างงามออกมาสวมใส่เสื้อผ้า แล้วเหลือบไปมองร่างหญิงสาวแวบหนึ่ง ใบหน้าของชายหนุ่มก็ปรากฏแววตาลุ่มลึกเผยความดูถูกเยาะเย้ยอย่างเกลียดชัง “ ชิชาเธอนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ อย่าคิดว่าใช้วิธีสกปรกแบบนี้แล้วเธอจะสมหวังนะ ” พูดจบเสียงโทรศัพท์ชายหนุ่มก็ดังขึ้นเขาจึงรีบรับโทรศัทพ์อย่างเร็ว สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอ่อนโยนน้ำเสียงอ่อนโยนนุ่มนวลเจือหวานละมุนราวกับหยดน้ำผึ้ง “ ว่าไงครับที่รัก ” “ ไตร ฉันอยากทานข้าวพร้อมกับคุณค่ะ คุณออกมาหรือยังคะ ” เสียงหญิงสาวฟังแล้วอ่อนหวานอ่อนโยนจนคนฟังอ่อนใจ “ ครับที่รักผมจะรีบไปหาคุณเดี๋ยวนี้ ” “ ค่ะฉันจะรอคุณนะคะ ” หญิงสาวพูดสายตาพลางจ้องไปที่เข็มนาฬิกาที่ติดบนฝาผนัง ขณะนี้เวลาสี่ทุ่มแล้วแต่ชายหนุ่ที่เธอรอคอยนั้นยังไม่มาจนเธอต้องกดโทรหา เนื่องจากชายหนุ่มรับปากว่าจะมาอยู่กับเธอคืนนี้เวลาที่นัดกันคือสองทุ่ม เธอรอไปจนถึงสี่ทุ่มแล้วชายหนุ่มก็ไม่มา ทำให้เธอรู้สึกร้อนใจจนเกิดความริษยาในตัวบุคคล น้ำเสียงอ้อยอิ่งอ่อนโยนที่เปล่งออกมานั้นแม้จะนุ่มนวล แต่มืออีกข้างที่วางบนตักกำแน่นเล็บแหลมจิกเข้าไปในผิวหนังจนขาวซีด ผิวฉีกเป็นรอยแผลเลือดซึมออกมาจากผิวหนัง แต่แววตาเธอกลับอ่อนโยนเช่นวาจา หลังจากชายหนุ่มวางสายก็หยิบเสื้อสูทออกมาแล้วรีบออกไปจากห้องทันที โดยไม่แยแสคนที่นอนขดตัวอยู่บนเตียง ใบหน้าขาวซีดเซียวที่เพิ่งได้สติ ต้องอยู่อย่างขมขื่นและเดียวดายในคฤหาสน์หลังใหญ่บนภูเขา น้ำตาหญิงสาววัย20ปีไหลพรั่งพรูออกมาเป็นสายด้วยความเสียใจ แต่ร่างกายที่ปวดระบมปนไปด้วยรอยฟกซ้ำ จากน้ำมือที่ป่าเถื่อนของชายที่รีบออกไป ทั่วทั้งร่างของเธอตอนนี้กลับเริ่มชาจนไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไป หัวใจของเธอเจ็บปวดร้าว ระทมอมทุกข์อย่างทรมานน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมาร้อนราวกับน้ำพุร้อน แทบจะลอกผิวหนังบนใบหน้าอันสวยงาม เพอร์เฟคของเธอได้ ความคับแค้นเริ่มก่อตัวขึ้นมาในใจของเธอแล้วทีละนิดๆ ราวกับว่าใจที่บริสุทธิ์ก่อนหน้านี้กำลังจะถูกครอบงำด้วยความแค้นอย่างช้าๆ “ ตรัยคุณ! " หญิงสาวกัดฟันคำรามชื่อชายหนุ่มเบาๆเป็นเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากไรฟัน ทำให้รู้ว่าเธอกัดฟันแน่นด้วยความโกรธแค้นในใจ ก่อนหน้านี้เธอเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยมีครอบครัวที่อบอุ่น เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลจันทร์ เป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ตระกูลจันทร์และตระกูลคัง เป็นสองตระกูลใหญ่ที่ทำธุรกิจร่วมกัน มีความสัมพันธ์อันดีตลอด และเธอก็ตกหลุมรักตรัยคุณตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนนี้ก็ยังรักเขาไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนตรัยคุณก็ทำดีกับเธอมาตลอดดูแลปกป้องเธอห่วงใยเธอรับส่งเธอไปโรงเรียนด้วยกันตลอด จนกระทั่งเขาเข้าเรียนต่อในระดับมหาลัยและได้พบกับมิตา หลังจากนั้นเปลี่ยนไปมาก ทุกครั้งที่เธอโทรหาเขา เขามักจะพูดเพียงสั้นๆว่าไม่ว่าง หรือเวลาเธอเอาขนมที่เขาชอบไปให้เขาก็แสดงออกเล็กน้อยว่ารำคาญ แต่เธอก็ยังไม่สนใจที่เขาเปลี่ยนไป พยายามเอาอกเอาใจเขามากขึ้น แต่เขาเหมือนจะรำคาญเธอมากขึ้น เริ่มตีตัวออกห่างจากเธอ เธอรักเขามากจนไม่อาจสูญเสียเขาไปได้ อะไรที่ยอมได้เธอก็ยอมเขา แม้แต่ใช้ให้เธอไปส่งของขวัญให้มิตาคนที่เขารัก เธอก็ยอมไปส่งให้แม้มันจะทำให้เธอเจ็บก็ตาม จนกระทั่งมารู้ว่าเขากำลังจะหมั้นกันกับแฟนสาวที่เรียนมหาลัยด้วยกันอย่างมิตา เธอรู้สึกเสียใจราวกับจะขาดใจตายร้อนไห้ทั้งวันทั้งคืนไม่ยอมกินไม่ยอมนอน คนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างพ่อแม่เธอมีหรือจะไม่ปวดใจที่เห็นแก้วตาดวงใจเจ็บปวดปางตาย “ ชิชาลูกอย่าเสียใจไปเลย พี่ตรัยคุณของหนูไม่ได้ไปไหนสักหน่อย ” คุณหญิงมารียืนโอบกอดลูกสาวที่นั่งร้องให้อยู่บนเตียง เอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน โดยที่ไม่รู้เลยว่าลูกสาวของเขาไม่ได้คิดกับตรัยคุณแค่พี่ชาย ใบหน้าสวยสดใสของชิชาเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ซบหน้าเข้าไปแนบชิดกับหน้าท้องของผู้เป็นแม่เธอกอดเอวแม่ไว้แน่นร้องให้สะอื้นไม่หยุด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD