Chapter 10

1552 Words
สารวัตรมาวินพาหญิงสาวมาขึ้นรถที่เดิมก่อนจะพากันขับออกมาจากหน้าบ้านของหญิงสาว ตลอดทางชายหนุ่มก็แกล้งเธอไม่หยุดจับนั่นจับนี่ตลอดจนหญิงสาวต้องตีมือเป็นพักๆเพราะเธอกำลังตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ “คุณอย่าแกล้งหนูสิคะกำลังตั้งใจอ่านหนังสืออยู่” “ก็อ่านไปสิ” “แต่หนูไม่มีสมาธิเลยค่ะ คุณกำลังทำให้หนูอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องนะ” เธอบ่นออกมาเสียงจริงจัง เขาจึงคิดว่าจะหยุดแกล้งเธอแค่นี้พอจะได้ปล่อยให้เธอตั้งใจอ่านหนังสือไปชดเชยที่เมื่อคืนเขานอนกอดเธอทั้งคืน “ก็ได้ไม่แกล้งแล้วก็ได้ แต่ว่าต้องหอมแก้มพี่ก่อนนะ” ชายหนุ่มจอดไฟแดงตรงสี่แยกยื่นแก้มไปให้หญิงสาวทำตามความต้องการของตัวเอง นับดาวพ่นลมหายใจออกทางปากอย่างเซ็งๆก่อนจะหันไปหอมแก้มชายหนุ่มอย่างแรงถึงจะแอบเขินก็เถอะแต่ก็ต้องทำเข้มไว้ก่อน “พอใจนะคะ” “จุ๊บ” “งื้อ มาหอมแก้มหนูทำไมเนี่ย” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างสนุกยื่นมือไปยีผมหญิงสาวเล่นก่อนจะขับรถไปต่อเมื่อสัญญาณไฟกลายเป็นสีเขียว นับดาวสะบัดหน้าใส่ชายหนุ่มอย่างงอนก่อนจะก้มหน้าอ่านหนังสืออย่างตั้งใจเพราะวันนี้มีสอบก่อนเรียนด้วยเดี๋ยวจะไม่ได้ท็อปของห้องซึ่งเธอได้มาตลอด สารวัตรมาวินเหลือบสายตามองหญิงสาวเป็นพักๆเธอในตอนนี้ตั้งใจอ่านหนังสือมากจนไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลย ตอนแรกเขาเปิดเพลงคลอเบาๆแต่พอเห็นหนูน้อยนับดาวตั้งใจอ่านก็เลยปิดให้ทุกอย่างเงียบเธอจะได้มีสมาธิ เขาแวะคาเฟ่ใกล้มหาวิทยาลัยลงไปซื้อขนมและเครื่องดื่มหลายอย่าง “ทั้งหมดสามร้อยยี่สิบบาทค่ะ” “นี่ครับ” เขาจ่ายเงินเรียบร้อยก็ขึ้นมาที่รถพร้อมกับส่งขนมไปให้หญิงสาว เธอเงยหน้ามองสบตากับชายหนุ่มก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณที่เขามีน้ำใจซื้อมาให้ “อ่ะพี่ซื้อให้กินด้วย” “ขอบคุณค่ะ ใจดีอะไรเนี่ย” เธอเอ่ยออกมาเสียงเบาเปิดถุงดูมีแต่ของที่เธอกินได้ทั้งนั้นถือว่าเลือกได้ดีพอสมควร “พี่ใจดีกว่านี้อีกแต่หนูไม่รับไว้เอง คิดในแง่ลบตลอดว่าพี่ให้เงินเพราะต้องการนอนกับหนู” “ก็หรือไม่จริงคะ…” เธอมองเขาอย่างระแวงในใจตอนนี้ก็ไม่คิดว่าเขาจริงใจกับเธอจริงๆหรอก ก็แค่คิดว่าช่วงนี้เขากำลังหลงเธอถึงได้อยากให้นั่นนี่ทุกอย่างแต่ถ้าวันหนึ่งเขาเบื่อบางทีอาจจะไม่มีแบบนี้ก็ได้หรือไม่ก็ทิ้งเธอไปเลยไม่สนใจอีก “เห็นพี่เป็นคนยังไงคะ” “ตอนนี้เหมือนคุณกำลังเห่อของใหม่ คนมันอยากได้อะไรมันก็ดีหมดแหละ ถ้าวันหนึ่งคุณเบื่อขึ้นมาก็คงทิ้งหนู ถึงตอนนั้นคุณไม่เป็นแบบนี้หรอก” เธอเอ่ยออกมาตามความจริง คนอย่างเธอไม่มาอ้อมค้อมให้เสียเวลาหรอกมันเสียเวลาชีวิตมาก อายุแค่นี้มีอะไรให้ทำตั้งมากมายถ้าเธอต้องมาคิดมากกับทุกเรื่องคงไม่ก้าวหน้าไปไหน สารวัตรมาวินกุมมือหญิงสาวเอาไว้บีบเบาๆเพื่อให้เธอรับรู้ความรู้สึกของเขาว่าไม่คิดที่จะหลอกลวงอะไรเธอเลยสักนิด “พี่บอกแล้วไงว่าจะรับผิดชอบหนูทุกอย่าง ทำไมถึงขี้ระแวงแบบนี้นะเรา” “ผู้ชายมันก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ” “เคยมีแฟนเหรอถึงได้รู้ดีขนาดนี้” เขาหลุดขำออกมาทันที ไม่เคยแม้แต่นอนกับผู้ชายสักคนทำมาเป็นรู้ดีว่าใครเป็นยังไง “ในละครก็มีให้เห็น คนรอบข้างก็มีตัวอย่างให้ดูนี่คะ ผิดเหรอที่หนูคิดแบบนี้” “ไม่ผิดค่ะแต่นี่มันโลกแห่งความเป็นจริง มันมีดีเลวปะปนกันไป เอางี้พี่จะพิสูจน์ตัวเองว่าจริงใจกับหนูจริงๆไม่ได้เป็นเหมือนตัวร้ายในละคร เอาแบบนี้ดีมั้ย” หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาสับสน ทำไมเธอต้องให้เขาพิสูจน์ตัวเองด้วยล่ะในเมื่อเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย “พิสูจน์ตัวเองทำไมคะเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” เธอหลบสายตาของเขาไม่ยอมสบตาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองรู้สึกยังไงในตอนนี้ แต่ว่ามองยังไงก็ไม่เห็นอนาคตร่วมกันเขาคือสารวัตรตำแหน่งหน้าที่การงานดีในขณะที่เธอกำลังเรียนยังไม่จบเลยด้วยซ้ำ “ก็เป็นสิพี่อยากเป็นนะ” “คุณเป็นสารวัตรส่วนหนูยังเรียนไม่จบเลยค่ะ เราไม่เหมาะสมกันหรอก” “ทำไมคิดแบบนั้นความเหมาะสมเค้าวัดกันตรงไหนเหรอ… ตอนพี่อายุเท่าหนูยังเป็นตำรวจยศไม่ใหญ่โตอะไรเลย ถ้าหนูอายุเท่าพี่ตอนนี้อาจจะมีตำแหน่งสูงกว่าก็ได้คนเรามันพัฒนากันได้อย่าคิดแบบนี้อีกนะ” ชายหนุ่มไม่อยากให้เธอคิดว่าตัวเองเป็นลูกแม่ค้าไม่เหมาะสมกับเขาที่เป็นตำรวจ เขาจะเลือกใครสักคนเป็นคู่ชีวิตก็ต้องมองโดยรวมทั้งนิสัย การใช้ชีวิตต่างๆซึ่งเธอมีพร้อมที่เขาต้องการ นับดาวมองเขาตาใสแป๋วพยายามทำความเข้าใจเรื่องที่เขาพูดมาซึ่งถือว่าเขามีทัศนคติที่ดีกับเพื่อนร่วมโลกนะ “แต่หนูยังไม่อยากมีแฟนค่ะอยากเรียนให้จบก่อน” “พี่รอได้ไม่เป็นไรหรอก เราก็ทำความรู้จักกันไปคุยกันไปเรื่อยๆพี่ก็ไม่ได้เร่งรีบอะไรสักหน่อย แต่บอกไว้ก่อนนะว่าพี่ขี้หวงหนักมากด้วย” “ไม่ได้เป็นอะไรกันจะมาหวงได้ยังไง” เธอดึงมือตัวเองกลับเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมพร้อมสำหรับการไปเรียนในตอนเช้า สารวัตรมาวินดึงหญิงสาวเข้ามากอดก่อนจะเอ่ยเสียงดุ “ก็ลองดูสิจะหาว่าไม่เตือน” “ไหนบอกจะไม่ขู่แล้วไงคะ” “หมายถึงว่าขู่เรื่องที่เรามีอะไรกันกับแม่หนูต่างหากส่วนเรื่องอื่นไม่ได้สัญญา” เขาตีเนียนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และนั่นทำให้หญิงสาวรู้ว่าไม่มีสัจจะในหมู่โจรมันเป็นยังไง “ไม่มีสัจจะเลยเป็นตำรวจซะเปล่า” “ไหนหลักฐานที่พี่สัญญาไว้ล่ะ” เขายักคิ้วอย่างกวนๆโน้มใบหน้าไปจูบหญิงสาวอย่างอ่อนโยนจนเธอเผลอเคลิ้มไปกับสัมผัสของเขา และเมื่อได้สติว่ามันไม่ทันแล้วเธอจึงดันตัวเขาออกจากนั้นก็กระแอมออกมาเสียงเบา “หนูจะเข้าเรียนไม่ทันแล้วค่ะ งั้นเราก็คุยกันไปก่อนก็ได้หนูจะให้คำตอบคุณตอนที่หนูเรียนจบ” “นานมั้ยอ่ะ” “ไม่ถึงปีหรอกค่ะนี่ก็ใกล้ฝึกงานแล้วถ้าเรียนจบเมื่อไหร่หนูจะให้คำตอบคุณนะคะ” เธอยิ้มออกมาและยอมที่จะคุยกับเขาต่อไปโดยมีสถานะคือคุยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆและคิดว่าการคุยในแบบของเขาคือหาทางให้เธอไปนอนค้างด้วยบ่อยๆแน่นอนซึ่งเธอทำใจไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ และถ้าเขาจริงใจกับเธอและอดทนรอได้ถึงตอนนั้นเธอจะยอมให้เขาเป็นแฟนก็ได้ “สัญญาแล้วนะว่าถ้าเรียนจบหนูจะเป็นแฟนกับพี่” “หนูบอกว่าจะให้คำตอบ” “ไม่รู้แหละพี่เข้าใจว่าแบบนั้น โอเคตกลงตามนี้เดี๋ยวพี่ไปส่งที่หน้าตึกเลย” เขายิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีขับรถเข้าไปในมหาวิทยาลัยเพื่อส่งหญิงสาวไปเรียนหนังสือ นับดาวมองเขาหน้ามุ่ยทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้หน้ามึนมากขนาดนี้เนี่ย เอาจริงเขาร้ายกว่าเธออีกนะร้ายมากเลยด้วย “คุณก็แบบนี้ตลอดแหละไม่เคยจะฟังที่หนูพูดเลย” “ตึกหนูอยู่ตรงไหนนะ” เขาไม่สนใจจะคุยเรื่องก่อนหน้านี้เลยเปลี่ยนเรื่องไปเป็นอย่างอื่นและนั่นทำให้หญิงสาวหน้างอง้ำใบหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆชี้นิ้วไปยังตึกหน้าทางเข้า “ตรงนั้นค่ะ” “โอเคถึงแล้ว พี่รอแถวนี้นะคะเลิกเรียนแล้วจะรับไปเที่ยว” “ค่ะ… งั้นเลิกเรียนแล้วหนูจะโทรหาค่ะ” เขาโน้มใบหน้าไปจูบหน้าผากหญิงสาวอย่างแผ่วเบาแววตาที่มองเธอมันอ่อนโยนมากจนเธอรู้สึกอบอุ่นเพราะไม่เคยได้รับสัมผัสที่อ่อนโยนแบบนี้มาก่อน “ตั้งใจเรียนนะคะขาดเหลืออะไรบอกพี่ พี่สามารถซัพพอร์ตหนูได้ทุกอย่าง” “คนมันรวยอ่ะเนาะจะพูดยังไงก็ได้” “ก็ไม่เถียงนะพอตัวอยู่…”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD