ข้าวของทุกชิ้นที่นางรังสรรค์หามาเพื่อขายในยุคที่จากมานั้นอยู่ในระบบวิเศษนี้ทั้งหมดที่สำคัญยังสามารถค้นหาสินค้าจากร้านอื่นๆ
ได้ด้วย
“วิเศษไปเลย! ใช้งานได้จริงๆ หรือไม่นะ”
ไป๋ฉางอวี้หันมองไปรอบๆ บ้านเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครเห็นนางจึงเร่งฝีเท้าเข้าไปในห้องครัวที่อยู่ใกล้ที่สุด นางเปิดระบบขึ้นมาอีกครั้งคิดอยากจะลองเลือกสินค้าออกมาสักชิ้น
อากาศที่นี่แม้จะเป็นช่วงกลางวันแต่กับเย็นยิ่งนักเมื่อคิดเห็นภาพของเด็กน้อยผู้เป็นบุตรชายของเจ้าของร่างนี้ที่ยืนตัวสั่นเพราะความหนาวเย็นของอากาศเหตุเพราะสวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นทั้งยังเก่าและขาดจนไม่น่าใส่นางจึงลองเลือกสินค้าจากร้านของตนเองออกมาหนึ่งชิ้น
ไป๋ฉางอวี้เลือกผ้าห่มขนสัตว์หนานุ่มออกมาสามผืนแต่เมื่อจะค้นหาเสื้อผ้าสำหรับใส่ในยุคนี้กลับมีเพียงชุดคอสเพลย์ที่บางเบาเสียอย่างนั้น
‘แบบนี้ไม่ใช่ว่าต้องหาเงินเพิ่มเพื่อซื้อเสื้อผ้าใส่เอาเองหรอกหรือนี่’
ไป๋ฉางอวี้คิดดังนั้นจึงนำผ้าห่มวางไว้บนชั้นวางของ ผ้าเหล่านี้ยังสะอาดและมีกลิ่นหอมน่าจะยังไม่ต้องซักก่อนใช้นางจึงเดินออกไปจากห้องครัวก่อนจะเดินสำรวจบ้านหลังนี้อีกครั้ง
ตัวบ้านทำจากแผ่นไม้ขนาดใหญ่เรียงต่อกันแต่ในส่วนของห้องครัวที่นางเพิ่งออกมานั้นน่าจะทำจากดินและสีที่ดำคล้ำของผนังน่าจะเกิดจากควันหรือฝุ่นที่จับกันนานและขาดการดูแลอย่างแน่นอน ดวงตาที่ทอดมองไปจนทั่วทุกซอกทุกมุมทำให้รู้ว่าบ้านหลังนี้นั้นข้าวของเครื่องใช้มีน้อยชิ้นยิ่งนัก พวกเขานำมันไปขายหรือว่าไม่มีใช้มาตั้งแต่แรกนั้นก็ไม่อาจรู้ได้
นางเดินไปจนถึงห้องโถงกลางบ้านที่น่าจะเป็นเพียงห้องเดียวที่ดูจะใหญ่สุดแล้วก่อนที่สองขาจะก้าวข้ามพ้นประตูไปดวงตาก็สบเข้ากับแผ่นหลังหนาของใครบางคนบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งที่กำลังนั่งหันหลังให้นาง
เสื้อผ้าที่ถูกปะชุนซ่อมแซมไปทั่วทั้งตัวนั้นทำเอานางอดที่จะเวทนาไม่ได้
‘รอยปะชุนนั่นฝีมือดีไม่ใช่เล่นไป๋ฉางอวี้คนเก่าหรือใครที่เป็นคนทำกันแน่นะ’
“แกร๊บ!”
สองเท้าที่ก้าวพ้นประตูไปแต่แล้วดันเหยียบเข้ากับเศษกระดาษที่ถูกวางระเกะระกะเอาไว้ทำให้บุรุษผู้นั้นหันมามองอย่างรวดเร็ว
นางเบี่ยงตัวหลบทันใดก่อนจะหันหลังแล้วรีบวิ่งออกไปด้านนอกบ้านด้วยความรวดเร็ว
‘ยังไม่พร้อมจะเจอหน้าเขาในตอนนี้ขอทำใจก่อนแล้วกัน’
นางกลับมานั่งลงบนชิงช้าตามเดิมในหัวก็คิดไปเรื่อยมองดูรอบๆ บ้านที่กว้างใหญ่แต่กลับเงียบเหงาและอ้างว้าง
“ทำอย่างไรต่อไปดีนะ”
ไป๋ฉางอวี้เปิดระบบวิเศษขึ้นมาอีกครั้งนางนั่งมองหน้าจอสีฟ้าด้วยความรู้สึกสับสนไม่รู้ว่าควรที่จะทำอย่างไรต่อไปดี
อยากกลับบ้านก็อยากกลับแต่หากต้องกลับไปพบเจอกับคนผู้นั้นแบบนี้ก็ขออยู่ที่นี่เสียยังจะดีกว่า
“เฮ้อ…”
“ท่านแม่”
“ว๊าย!”
เสียงเล็กๆ ที่เรียกนางนั้นทำเอาไป๋ฉางอวี้ตื่นตกใจก่อนจะรีบหันกลับไปมองด้วยความรวดเร็ว เด็กชายตัวน้อยที่ยืนกอบกุมสองแขนเอาไว้แน่นพลางจ้องมองมาที่นางด้วยแววตางุนงง
“เจ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เมื่อครู่นี้เองขอรับ”
“แล้วเห็นอะไรบ้าง”
“ข้าเห็นเพียงท่านแม่นั่งพูดคนเดียวหรือท่านแม่พูดอะไรกับใครอยู่หรือขอรับ”
“พูดคนเดียวงั้นหรือ” นางหันหลังกลับไปมองหน้าจอสีฟ้านั้นมันยังคงปรากฏให้เห็นไม่ได้หายไปแต่อย่างใด
‘แล้วเจ้าก้อนแป้งผู้นี้มองไม่เห็นมันงั้นหรือ’
ไป๋ฉางอวี้ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมานางลองขยับตัวออกเล็กน้อยพอที่คนด้านหลังจะมองเห็นสิ่งที่นางกำลังทำอยู่
“เจ้าเห็นแค่ข้างั้นหรือ”
“ก็ใช่น่ะสิขอรับ หรือว่าท่านแม่เห็นใครอีกเล่า”
เด็กชายตอบนางเพียงเท่านั้นก่อนที่ใบหน้าเล็กๆ นั้นจะหันมองไปรอบๆ ด้วยความกังวลและหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
‘เยี่ยมไปเลยเด็กคนนี้มองไม่เห็นมันจริงๆ สินะ’
“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกเจ้าก็ทำเป็นกลัวไปได้อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เล็กๆ แล้วไม่ใช่หรือเจ้าน่ะ”
“ก็ท่านแม่ชอบบอกว่าเห็นผีนี่นา”
“นั่นก็แค่หลอกเด็กน่ะเอาล่ะๆ เจ้าอย่าใส่ใจคำพูดของข้านักเลยนะ”
ไป๋ฉางอวี้อมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะใช้มือแตะไปที่ปุ่มปิดระบบ นางรีบหันกลับมาหาบุตรชายของเจ้าของร่างนี้ใบหน้าเล็กที่คล้ายคลึงกับเด็กคนนั้นทำเอานางอดไม่ได้ที่จะเศร้าใจอีกครั้ง
เด็กชายที่นางเกือบจะขับรถชนในยุคที่จากมานั้นจะเป็นอย่างไรบ้างนะบาดเจ็บหรือตายไปเหมือนนางแล้วทะลุมิติมาที่แห่งนี้หรือไม่
แต่หากเป็นเด็กคนนั้นจริงๆ ก็น่าจะมีความทรงจำบางอย่างที่พอจะจดจำได้จากยุคที่จากมาเหมือนข้าด้วยสิ
“นี่เจ้าน่ะ”
“ขอรับ”
“ชื่ออะไรนะ”
“ท่านแม่ลืมข้าไปแล้วหรือ”
“เอ่อ หัวของข้าคงกระทบกระเทือนจึงเลอะเลือนไปไม่น้อยดังนั้นอย่าถือสาข้าเลยนะ”
“ก็ได้ขอรับ”
เด็กชายดูเหมือนจะเข้าใจที่นางพูดอย่างง่ายดายโดยไม่ซักไซ้นางอีก
“ข้าชื่อเหวินเซียวหยวน”
“ชื่อน่ารักจัง”
“ท่านพ่อตั้งให้ขอรับ”
“นี่อาหยวน”
“ขอรับ”
“พ่อกับแม่ของเจ้า เอ่อ..ข้าหมายถึงท่านพ่อของเจ้าทะเลาะอะไรกันกับข้าหรือไม่เมื่อครู่ในตอนที่ข้าเดินผ่านห้องนั้นไปไม่เห็นเขาจะสนใจข้าเลย”
“สนใจอะไรขอรับแต่ถึงท่านพ่อจะรู้ว่าท่านแม่เดินเข้าไปในบ้านก็ไม่อาจมองเห็นได้”
“หมายความว่าอย่างไร”
“ท่านแม่ลืมไปแล้วหรือขอรับ”
“ลืมเรื่องอะไรงั้นหรือ”
“เอ๋?”