ต้าร์ตัดสินใจเล่าเรื่องครอบครัวของตัวเองคร่าวๆ ให้พีทฟังก่อนที่จะเรียนจบและจากที่นี่ไป เพราะหากไม่มีเหตุผลพอเชื่อแน่ว่าพีทไม่มีวันยอมให้เขาจากไปแน่ เนื่องจากสัญญากันไว้แล้วว่าจะอยู่เป็นหุ้นส่วนด้วยกันตลอดไป
วันนี้เมื่อเป็นฝ่ายทำผิดสัญญาก็ต้องมีเหตุผลมากพอมาอธิบาย
"ห๊า! ว่าอะไรนะไอ้ต้าร์ เรื่องที่มึงเล่ามาทั้งหมด ไม่ใช่แต่งเรื่องขึ้นมาใช่มั้ย?"
พีทกระพริบตาถี่ๆ จ้องต้าร์เขม็งอย่างไม่อยากเชื่อหูและสายตาตัวเอง แม้ว่าการที่มีคนมาหาต้าร์ในวันนั้นจะเป็นการยืนยันอยู่แล้วว่าต้าร์คือทายาทคนรวยจริงๆ
ที่เขาไม่เชื่อเพราะที่ผ่านมาต้าร์ทำตัวเป็นคนธรรมดามาตลอด ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่บ้าแบรนด์เนม ออกจะอยู่ง่ายกินง่ายสบายๆ ไม่ติดหรูเลยสักกะนิดเดียว พอรู้แบบนี้เลยไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองซักเท่าไหร่
"กูดูเป็นคนพูดจาเพ้อเจ้อเหรอ?"
ต้าร์ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ พอๆ กับสีหน้า
"ละ แล้ว ๆ ทำไมตอนนั้นมึงไม่บอกความจริงกับปาลินไปว่ามึงรวยกว่าไอ้หน้าตี๋นั้นมาก ปาลินจะได้ไม่ต้องทิ้งมึงไป"
"หึ ๆ เพื่อ! บางทีการที่กูเป็นทายาทเศรษฐีใช่ว่าชีวิตจะมีความสุขจริงๆ ไอ้ชินอะไรนั่นอาจจะทำให้ลินมีความสุขกว่ากูจริงๆ ก็ได้ บางครั้งอาจจะเป็นกูเองที่ทำให้ลินหมดใจ"
ต้าร์นึกย้อนความทรงจำไปถึงความสัมพันธ์ของเขากับปาลินตอนนั้น..เป็นปาลินที่พยายามอยู่ฝ่ายเดียว..ถึงวันที่ความอดทนของปาลินหมดลง ก็คือวันที่เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าทำผิดไปแต่ก็ไม่ทันแล้ว..เมื่อปาลินพบคนที่ดีกว่าเป็นใครก็ต้องเลือกคนที่ดีกว่าสิ จะมาเลือกคนที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างเขาเป็นที่ตั้งได้อย่างไร พอผ่านระยะเวลามาพอสมควรความคิดมันตกผลึกต้าร์จึงเข้าใจปาลิน
"พูดแบบนี้รู้เลยว่ายังรักลินอยู่..แล้วทำไมเมื่อวานถึงไม่ยอมเจอเธอ"
"...."
ต้าร์เงียบไปเช่นนั้นก็เท่ากับยอมรับ..
ที่เขาไม่พบปาลินเพราะเขาไม่อยากได้สิ่งที่อยู่ในมือของปาลิน รู้อยู่ว่าปาลินมาแจกการ์ดแต่งงาน ถึงพยายามจะคิดบวกกับปาลินแล้วแต่ความเจ็บปวดมันยังคุกรุ่นอยู่ในใจไม่ได้จางหายไปไหน...ยังไม่พร้อมรับความเจ็บปวดที่จะเพิ่มเข้ามาในตอนนี้ เพราะสิ่งที่ควรสนใจมากกว่าสิ่งใดๆ ในเวลานี้คือการสอบครั้งสุดท้ายก่อนเรียนจบ
"ไม่ตอบก็แล้วแต่..ว่าแต่ว่าตอนนี้น่ะ พอจะมีให้กูยืมสักห้าหมื่นมั้ยครับคุณหนูต้าร์"
ตุ้บ!
ฝ่าเท้าของต้าร์ยันลงบนก้นของพีทเต็มแรง จนอีกฝ่ายเซถลาล้มลงไปกองกับพื้นเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวว่าจะโดนบาทา แต่กระนั้นก็ระเบิดหัวเราะออกมา
"โอ้ย ถีบกูทำไมวะ?"
ลุกขึ้นลูบแก้มก้นเบาๆ พลางซู้ดปากแต่ก็ปนไปด้วยความขำขันเมื่อนึกถึงผู้ชายเมื่อวานที่เข้ามาหาต้าร์และคำแรกที่ผุดออกจากปากของผู้ชายที่มีกิริยานอบน้อมต่อต้าร์คนนั้นคือคำว่า 'คุณหนูครับ'
"กูไม่ใช่คุณหนู"
ต้าร์ปฏิเสธพร้อมกับตั้งท่าเปิดศึกใส่พีทหากไม่ยอมจบเรื่องนี้จริงๆ ภายในใจได้แต่กระฟัดกระเฟียดใส่อาไชยยศที่เป็นต้นเหตุของความอับอาย ทั้งๆ ที่บอกไปหลายครั้งแล้วแท้ๆ ว่าไม่ชอบให้เรียกชื่อว่าคุณหนู
"จะไปรู้เหรอ ได้ยินผู้ชายคนเมื่อวานเรียกนายว่าคุณหนูนี่นา"
พีทย้ำน้ำหนักเสียงตรงคำว่าคุณหนู คล้ายจะแซวให้ต้าร์หัวเสียพลางกลั้นขำเอาไว้แบบสุดๆ คนบ้าอะไรโตเท่าควายแล้วยังให้คนใช้เรียกว่าคุณหนู พีทไม่รู้หรอกว่าคนที่มาหาต้าร์มีตำแหน่งอะไรระดับนั้นเคยดูจากซีรีส์ก็พวกคนขับรถหรือไม่ก็พี่เลี้ยงส่วนตัว
ไอ้ตัวเขาเองถึงครอบครัวร่ำรวยก็จริงแต่เป็นเศรษฐีบ้านนอกที่ทำธุรกิจเปิดเป็นตลาดห้างร้านให้แม่ค้าเช่าแผงอยู่ในอำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น จะไปเทียบอะไรกับนักธุรกิจพันล้าน หมื่นล้านอย่างต้าร์
"ถ้าไม่หยุดพล่ามนอกจากเงินห้าหมื่นจะไม่ได้แล้ว กูจะถีบให้ปากแตกด้วย"
ต้าร์ฮ้างขายาวๆ ขึ้นขู่อีกครั้ง พีทเมื่อได้ยินว่าเงินห้าหมื่นกำลังจะหลุดลอยไปรีบโบกมือยกธงขาวยอมแพ้ทันที
"โอ๊ะ ๆ ยอมแล้วครับ เอาครับๆ คุณ....เพื่อน"
"ค."
ต้าร์สบทออกมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโอนเงินให้พีท ทว่า
'พี่ต้าร์คะ อันน์แขวนข้าวเที่ยงไว้หน้าห้องแล้วนะคะ'
อันน์ส่งมาตั้งแต่หกโมงเช้าแต่เขายังไม่ได้เปิดอ่าน ปัดๆ ออกไปเพราะว่ามีงานอื่นที่ต้องเคลียร์ จนลืมไปว่า..เขายังมีผู้หญิงอีกคนที่ยังเคลียร์ไม่จบ..เผลอลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ายังมีหล่อนอยู่ในชีวิต
ต้าร์ถอนหายใจออกมาราวกับตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ พลันหวนนึกถึงคำพูดของเพลินเพลงเมื่อคืนวาน
'พี่พีทบอกเพลงว่าพี่ต้าร์กำลังคุยอยู่กับน้องอันน์เด็กบัญชีปีสองใช่มั้ยคะ'
'ลูกพี่ลูกน้องของเพลงเป็นผู้จัดการร้านแฟมิลี่มาร์ทที่น้องอันน์ทำอยู่ค่ะ เห็นว่าแอบชอบน้องอันน์อยู่เหมือนกัน...ถ้าพี่ต้าร์ไม่ได้จริงจังกับน้องอันน์จริงๆ ก็ปล่อยน้องเขาไปเถอะนะคะ พี่วินน่ะ นิสัยดีมากๆ รับรองว่าถ้าน้องอันน์ชอบพี่วินตอบน้องอันน์จะมีความสุข'
ในตอนนั้นต้าร์ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปและไม่นึกโกรธพีทที่เอาเรื่องนี้ไปบอกเพลินเพลง เพราะไม่ได้คิดจะทำตามคำพูดของเพลินเพลงตั้งแต่แรก แต่ว่า...พอมาคิดดูอีกทีในตอนนี้เขาควรตัดคนที่นี่ออกไปให้หมดเหลือไว้เพียงเพื่อนสนิทๆ ก็พอ ชีวิตของเขาที่กรุงเทพฯนับแต่นี้ไปไม่ใช่เรื่องง่าย มันหมดเวลาสำหรับชีวิตในฝันแล้วหลังจากเรียนจบไปจากที่นี่ ชีวิตของเขาไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป
'เงินนี่พี่โอนให้เธอครั้งสุดท้าย ไม่ต้องทำอะไรให้พี่อีก ไม่ต้องมาพบ พี่ไม่สะดวกพบเจอใครในช่วงนี้ทั้งนั้น'
ต้าร์กดโอนเงินก้อนสุดท้ายให้อันน์ไป ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ ทำใจให้นิ่งชั่วคราวแล้วกดลบ บล็อก ทุกอย่างที่เกี่ยวกับอันน์ออกไป ความสัมพันธ์ที่ไม่มีโอกาสได้สานต่อไม่ควรฝืนอีกต่อไป...ถึงเวลาแล้วที่เจ้าชายอย่างเขาจะกลับเข้าไปขังตัวเองอยู่ในปราสาทเพื่อสืบทอดทายาทให้กับผู้ที่ให้กำเนิดเขาขึ้นมาต่อไป ชาตินี้เขาคงเกิดมาเป็นได้แค่นี้ ลำบากคนเดียวก็ยังดีกว่าลากคนอื่นมาลำบากด้วยเพราะย่าของเขา..ไม่ธรรมดา..ต่อให้ท่านจะป่วยแค่ไหนก็มีคนพร้อมจะทำงานแทนท่านได้เสมอ