"หนูมีเรื่องอยากจะถามพี่ต้าร์หน่อยค่ะ"
หญิงสาวพลิกตัวกลับมาหาเขาก่อนจะสอดมือกอดเข้ามาจากด้านหลัง ช่วงค่ำเธอโดนโทรเรียกให้มาหาและก็...มีอะไรกันไปหนึ่งครั้ง ต้าร์นอนเปลือยท่อนบนอย่างเหนื่อยหอบไปกับบทรักอันเร่าร้อนที่เพิ่งเสร็จสมไปเมื่อครู่
"มีอะไร?"
ถามกลับมาสั้นๆ ในขณะที่ยังนอนหายใจหอบถี่ๆ พร้อมกับเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นประปรายไปทั้งร่างแลดูเซ็กซี่น่ามองไปอีกแบบ
"ในวงของพี่มีผู้หญิงเข้ามาเหรอคะ?"
"แล้ว?"
"ปละ..เปล่าค่ะ"
น้ำเสียงของต้าร์ดูไม่ยี่หระจนสะกิดให้อันน์คิดว่าเธอคิดมากไปเอง
"อย่าบอกนะว่ากำลังคิดหึงหวง"
พูดขึ้นอย่างรู้ทัน เขาคบกับอันน์อย่างลับๆ มาตลอดและคบได้นานกว่าคนอื่นเพราะอันน์ไม่จู้จี้จุกจิกไม่งี่เง่าเรียกร้องอะไรมาก แต่..ถ้าวันหนึ่งหล่อนเปลี่ยนไปเป็นอีกคน แน่นอนว่าเขาไม่รอช้าที่จะเท
'คิดค่ะ หวงมาก รักมากด้วยรู้มั้ยคะ'
ได้แต่ตอบคำถามที่ตรงใจออกมาเพียงในใจแผ่วเบา ก่อนจะยิ้มให้เขาพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ ไม่มีสิทธิ์อะไรจะไปหวง สิทธิ์เดียวที่มีคือสิทธิ์รักเขาข้างเดียวจนหมดใจ
"ไม่คิดก็ดีแล้ว..พี่ไม่ชอบผู้หญิงงี่เง่า..เงินนี่เอาไปเถอะ "
ต้าร์ยื่นซองเงินให้ปึกหนึ่ง ข้างในมีเงินราวๆ สาม-สี่หมื่นบาท
"เงินค่าอะไรคะ?"
อันน์ถามออกไปอย่างงงๆ เพราะเธอไม่เคยเรียกร้องหรือขออะไรจากเขาเลยเงินนี่ก็มากเกินไปสำหรับนักศึกษาอย่างเธอด้วยซ้ำ..อีกอย่างถ้ารับก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงขายตัว
"ค่าที่เธอเป็นคนที่คอยดูแลเรื่องอาหารให้พี่มาตลอด ไม่ต้องคิดมากเอาไปเถอะ อยากใช้อะไรก็ใช้ไม่พอให้บอกไม่ต้องไปทำโอทีหนักๆ ให้เหนื่อย มีหน้าที่เรียนก็เรียนให้เต็มที่ แล้วก็..."
ต้าร์หยุดพูดไป
"แล้วก็อะไรคะ"
"ระวังอย่าให้ท้อง พวกเรายังเด็กยังไม่พร้อมกับเรื่องนี้หรอกนะ"
เรื่องนี้อันน์ป้องกันตัวเองเป็นอย่างดีถึงจะรักต้าร์มากแต่เธอก็ไม่ได้โง่ขนาดปล่อยให้ท้องและก็ไม่คิดน้อยใจด้วยที่เขาพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ดีซะอีกอย่างน้อยต้าร์ก็เตือนสติให้เธอรู้ตัว
"เรื่องนั้นพี่ต้าร์สบายใจได้ค่ะ"
ส่วนเรื่องเงินความจริงอันน์ไม่ได้อยากรับ แต่ คนอย่างต้าร์หรือจะยอม..ครั้งก่อนเขาเคยโอนให้..เธอไม่รับเขาก็ไม่พอใจพาลไม่อยากพบหน้าเธอไปหลายวัน..นี่เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของต้าร์คือไม่เคยเอาเปรียบเธอเปล่าๆ ทุกอย่างที่อันน์ทำให้เขามักจะมีสิ่งตอบแทนกลับมาให้เสมอ
แต่พี่ต้าร์คะ รู้บ้างมั้ยสิ่งเดียวที่อันน์อยากได้จากพี่คือหัวใจเท่านั้นค่ะ
"ขอบคุณสำหรับเงินนะคะ"
"กลับไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพี่ต้องไปร้องเพลงแล้ว"
ปลดแขนเรียวออกจากพันธนาการก่อนร่างสูงโปร่งจะลุกพรวดขึ้นทันทีเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปทำงานร้องเพลงในผับต่อ ส่วนอันน์..ก็แยกย้ายกลับห้องไปพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้มีเรียน
ทว่า..ก่อนที่เขาจะย่างเท้าเข้าห้องน้ำ
"ปีนี้พี่เรียนจบแล้ว...รู้ใช่มั้ยว่าอีกไม่นานพี่ต้องกลับกรุงเทพฯ"
เอียงหน้ามาเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไป อันน์ไม่รู้เลยว่าสีหน้าของต้าร์ตอนนี้เป็นอย่างไร อย่างไรก็ไม่เท่าเรื่องที่เขาบอกว่าจะกลับไปกรุงเทพฯ เท่ากับความสัมพันธ์ของเธอและเขาต้องจบลง
"อะ..อะไรนะคะ อันน์นึกว่าพี่จะไม่กลับไปแล้วซะอีก นึกว่าจะอยู่ต่อที่นี่อีกสักพัก"
"ตอนแรกก็คิดแบบนั้น แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา"
พูดจบต้าร์ก็เดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้อันน์นั่งอึ้งจมอยู่กับความคิด ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน วันนี้ที่พี่ต้าร์พูดกับเธอมากกว่าปกติก็เพราะอยากพูดเรื่องนี้สินะ เรื่องที่เขาบอกว่ากำลังจะจากไป
คล้ายเหมือนกำลังถูกบอกเลิกเลยแหะ
วันต่อมา
"อีอันน์!"
"หืม.."
"ครั้งที่สามแล้วที่กูเรียกมึง มึงจะเหม่ออะไรนักหนา ไร้สติแบบนี้อย่าบอกนะว่าทอนเงินลูกค้าผิด บอกไว้ก่อนเลยกูไม่ช่วยชด"
"ไม่ผิดหรอกน่า ฮารุคือว่า...พี่ต้าร์บอกว่าเรียนจบแล้วจะกลับกรุงเทพฯน่ะ"
"อ๋อ เรื่องผัวอีกแล้ว"
อันน์ถอนหายใจออกมาด้วยอาการเหนื่อยๆ เนือยๆ ไร้ชีวิตชีวา เพราะหัวใจของเธอเอาไปผูกติดกับต้าร์มากเกินไป หายใจเข้าก็เขาหายใจออกก็เขา จนลืมเตือนตัวเองไปว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้มีแต่ความเสี่ยง เธอรักต้าร์จริงจังแต่เขาล่ะ...เพียงแค่เสี้ยววินาทีเคยนึก นึกจะคิดรักกันบ้างไหม เป็นคำถามที่ไร้คำตอบมาเนิ่นนาน
หรือเพราะว่า ในใจของเขามอบหัวใจให้ผู้หญิงคนนั้นแล้วไม่คิดจะรักใครอีก เขาเลยไร้หัวใจไร้ความรักต่อเธอเหลือเกิน
"อันน์เอ๋ย แกจะคิดอะไรมาก เขากลับกรุงเทพฯก็ใช่ว่าแกจะไม่มีทางนี่นา ตอบรับงานที่ผู้จัดการเสนอมาซะเถอะ"
"นี่แกรู้เรื่องนั้นเหรอฮารุ?"
อันน์ตกใจเล็กน้อยเพราะเรื่องที่เธอโดนผู้จัดการคัดเลือกให้เข้ารับตำแหน่งนี้ยังเป็นความลับต่อพนักงานคนอื่นๆ ในร้าน
"อืม..รู้สิ และก็รู้ว่าแกปฏิเสธ..ผู้จัดการเลยต้องให้ฉันมาช่วยพูดให้"
เรื่องที่ฮารุรู้คือ อันน์เป็นพนักงานพาร์ทไทม์ที่ผู้จัดการเสนอชื่อเข้าโพรเจกต์ ตำแหน่ง area manager ฝึกหัดหลังเรียนจบปริญญาตรี แต่ต้องไปฝึกงานที่กรุงเทพฯเป็นเวลาหนึ่งปีถึงจะเข้าประจำเขตในภาคได้
"เรื่องนั้นที่ต้องปฏิเสธเพราะบ้านฉันทำงานรับราชการกันทั้งบ้าน พ่ออยากให้ฉันทำงานราชการแกก็รู้"
"แล้วไง พี่อัทธ์ พี่ชายของแกคนเดียวก็พอแล้วมั้ง"
อัทธ์พี่ชายของอันน์รับราชการเป็นทหารอากาศผู้มีอนาคตไกล ต่างกับอันน์ที่พ่อแม่คาดหวังไว้สูงกว่านี้..แต่ตอนนี้คล้ายๆ ว่าเธอกำลังจะไปไม่ถึงฝันของพ่อกับแม่เสียแล้ว
"อันน์ คิดดีๆ ชีวิตเป็นของแก คนที่มีความสุขคือแก ฉันรู้ว่าแกไม่ได้อยากรับราชการ"
อันน์นิ่งคิดไป เอาจริงๆ เรียนจบแล้วมีงานรองรับในฐานเงินเดือนหลักสามหมื่นเลยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในประเทศนี้ เธอก็ควรจะรับโอกาสนี้ไว้ไม่ใช่เหรอ แต่..อย่างน้อยก็ต้องบอกพ่อกับแม่ไม่อย่างนั้นจะโดนเล่นงานไม่ใช่น้อย เธอเองก็ไม่อยากกระด้างกระเดื่องกับครอบครัวจนดูเป็นคนก้าวร้าวและสุดโต่งจนเกินไป
"อืม เอาไว้จะไปคิดดูอีกที พี่วินยังให้เก็บกลับเอามาคิดอีกที ยังไม่รับคำปฏิเสธของฉันหรอกน่า"
"ดี งั้นคืนนี้ก็กลับไปคิดซะ"