“เอาน่าไอ้ซัม เราคงจำคนผิดจริง ๆ ผมขอโทษแทนเพื่อนด้วยแล้วกันนะ” ไลท์ส่งสายตาเชือดเฉือนให้ฉันก่อนจะดึงเพื่อนตัวเองกลับไปที่กลุ่มเดิมของเขา
เหอะ! ทำไมต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นด้วยล่ะตาบ้า! ฉันไปทำอะไรให้นายย่ะ
“เอ่อ... งั้นเดี๋ยวน้ำหวานไปดูแลพวกพี่ไลท์ก่อนนะ มีอะไรก็ถามจากพี่วิทย์ได้นะคะ เขาชอบเทคแคร์สาวสวยอยู่แล้วค่ะ” ว่าแล้วน้ำหวานก็เดินตามหลังไลท์ไปอีกคน
“ขอโทษแทนพวกเพื่อน ๆ ด้วยนะครับ ปกติมันไม่ใช่คนแบบนี้”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันยิ้มให้กรวิทย์พลันสายตาก็เหลือบไปสบเข้ากับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลคู่หนึ่งที่มองมาทางฉันเหมือนจ้องจับผิด
อีตาบ้าไลท์ จะจ้องให้ฉันกลายเป็นคางคกไปเลยหรือไงนะ มองอยู่ได้ ฉันกลัวแล้วนะ ฮืออออ
“เอ่อ...พิ้งขอไปทักทายเพื่อนก่อนนะคะ” ฉันละสายตากลับมาหายิปซีที่ทำท่าทำทางว่าจะไปเริ่มภารกิจของตัวเองบ้าง
“ตามสบายจ้ะ ดูแลตัวเองดี ๆ นะพี่เป็นห่วง”
“ค่ะ”
“ดูคุณพริตติ้เป็นห่วงน้องสาวมากเลยนะครับ”
“อ่า.. ใช่ค่ะ ก็แหม...ก็มีกันอยู่แค่สองคนพี่น้องนี่ค่ะ แล้วคุณล่ะ ไม่ห่วงน้ำหวานบ้างเหรอคะ” ฉันหันกลับมาตอบกรวิทย์ที่ยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ ฉัน
“ห่วงสิครับ แต่ยัยนั่นเก่งดูแลตัวเองได้ เอ่อ..เรียกผมว่าวิทย์เฉย ๆ ก็ได้นะครับ เรียกคุณมันดูห่างเหินจัง” สายตากรุ้มกริ่มทำเอาฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนแปลก ๆ เฮ้อ.. เจอผู้ชายเจ้าชู้มาเป็นสิบแล้วแต่ก็ยังไม่ชินกับสายตาแบบนี้สักทีสินะ ชวนขนลุกที่สุด
“ได้สิคะวิทย์ งั้นก็เรียกว่าพริตติ้เหมือนกันนะ ห้ามเรียกคุณล่ะ” แต่ถึงจะรังเกียจรอยยิ้มแบบนี้แค่ไหน ฉันก็ยังคงฉีกยิ้มหวานต้อนรับไมตรีที่เขาพยายามหยิบยื่นให้ เพื่องาน.. เพื่อภารกิจ..
“ได้สิครับ”
.
.
.
ฉันยืนคุยกับอีตาวิทย์อย่างถูกคอพลางหัวร่อต่อกระซิก ท่ามกลางสายตาเย็นชาที่ยังคงจ้องมาที่ฉันอยู่ตลอด (อีตาไลท์เองค่ะ) และด้วยมารยาหญิงอันเหลือล้นของฉันก็ทำให้เป้าหมายอย่างนายกรวิทย์เริ่มเดินตามเกมที่วางไว้ในที่สุด ขณะเดียวกันฉันก็ค่อยสังเกตความเคลื่อนไหวของยิปซีอยู่ตลอด และดูเหมือนยัยนั่นเองก็กำลังไปได้สวยด้วยเช่นกัน
“เอ่อ วิทย์คะ พริตติ้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
“อ่า.. ได้สิครับ รีบไปรีบมานะครับ ผมจะรอ”
กรวิทย์ส่งสายตาหวานหยดย้อยมาให้อีกเป็นครั้งที่ร้อยละมั้ง ฉันจึงส่งยิ้มหวานละลายใจกลับก่อนจะเดินออกมาจากห้องโถงใหญ่ พอเดินเข้ามาภายในห้องน้ำฉันก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออก
[สวัสดีค่ะ] เสียงตอบรับจากปลายสายดังขึ้นพร้อมเสียงดนตรีคลอเคลียเบา ๆ
“ภารกิจโอเคหรือยัง”
[ค่ะ เป็นไปตามนั้นค่ะ พี่นิวจะให้ซีทำไงต่อคะ]
“อีกครึ่งชั่วโมงงานจะเลิก เธอทำยังไงก็ได้ให้เขาขอเบอร์เธอ แล้วค่อยสานสัมพันธ์ต่อเข้าใจไหม”
[เข้าใจค่ะ]
“ดีมาก งั้นไว้เจอกันจ้ะ”
[ค่ะ]
ติ๊ด!
เฮ้อ...ถ้าทำภารกิจคนเดียวมันก็คงไม่เหนื่อยขนาดนี้หรอกนะ ฉันกดน้ำล้างมือก่อนเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อมุ่งตรงไปที่ห้องโถงใหญ่
พึ่บ!
อ๊ะ! จู่ ๆ เอวบางของฉันก็ถูกใครบางคนล็อกไว้จากด้านหลังแล้วดึงเข้าไปในห้องที่ฉันเคยเข้ามาหลบคุยกับยิปซีเมื่อตอนก่อนเข้างาน
“ใครน่ะ! ปล่อยฉันนะ ปล่อยยยย!”
ฉันดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนของเขาพลางส่งเสียงดังอย่างตกใจ มือหนาปิดปากฉันแน่นก่อนดันหลังฉันจนติดกำแพงห้องอย่างแรง ฉันรีบเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความใคร่รู้ว่าใครกันนะที่กล้ามาจับตัวฉันอย่างนี้
...!!!
ไม่จริง! นี่มัน.. ไลท์!!!
“ตกใจเหรอ ทำไม? จำฉันไม่ได้หรือไง”
“อื้อ! อื้อ!” น้ำเสียงนิ่งรียบแสนเย็นชานั้นลอดออกมาตามไรฟันของไลท์ ฉันรีบส่ายหน้าพัลวันไลท์ขณะที่เขาค่อย ๆ คลายมือออกจากปากฉัน
กรี๊ดดด อีตาบ้าไลท์กดตัวฉันเข้ากับกำแพงจนชิด ร่างกายเราสองคนตอนนี้แทบไม่มีอากาศให้ไหลผ่านได้เลยอ่ะ เจ็บนะ
“จะ...จะทำอะไรน่ะ! ฉันบอกแล้วไงว่าไม่รู้จักคุณ!”
“โกหก! เธอต้องการอะไรจากเพื่อนฉันกันแน่ โน้นก็ไอ้บาส นี่ก็ไอ้วิทย์ เธอต้องการอะไรกันแน่!” เขาพูดด้วยเสียงเหมือนตะคอกเบา ๆ จนฉันเผลอหลับตาปี๋ แง้... ถึงฉันจะแกร่งขนาดไหน ยังไงฉันก็เป็นผู้หญิงนะ จะให้มาสู้แรงผู้ชายอย่างเขาได้ยังไงกันเล่า!
“ฉันไม่รู้.. ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น และฉันก็ไม่รู้จักนายด้วย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นนายจะเสียใจ” ฉันสะบัดหน้าพลางหลบสายตาเขาแล้วดิ้นหนีสุดแรง อีตาบ้านี่ต้องการจับผิดฉันจริง ๆ ด้วย ฉันไม่น่าเจอหมอนี่เลย
“งั้นเหรองั้นฉันขอพิสูจน์หน่อยแล้วกัน”
ไลท์จับคางฉันเงยขึ้นก่อนจะประกบริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาลงมาที่ริมฝีปากบางของฉันโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว ไอร้อนอุ่น ๆ จากริมฝีปากเขาส่งผลกับความร้อนบนใบหน้าฉันทันที ฉันพยายามพลักเขาออกด้วยแรงทั้งหมดที่มีอยู่ แต่ยิ่งดิ้นยิ่งพลักเท่าไหร่เขาก็ยิ่งกดตัวเข้ามาเบียดฉันเข้ากับกำแพงมากเท่านั้น
ความรุนแรงจากรสจูบของเขาทำให้ริมฝีปากฉันเจ็บแสบไปหมด ฉันอดกลั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว..นี่เขาทำเกินไปแล้วนะ น้ำใส ๆ รื้นขึ้นมารอบขอบตา ฉันรู้สึกขอบตาร้อนผ่าวร้อนไปทั้งตัวจนแทบจะหมดแรง เขาบดริมฝีปากอย่างรุนแรงจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธนักหนา
ฮึก...
“...” ไลท์ผละริมฝีปากออกทันทีที่ได้ยินเสียงสะอื้นของฉัน เขานิ่งงันทันทีที่เห็นฉันร้องไห้ ก่อนจะปล่อยตัวฉันออกจากพันธนาการของเขา ฉันค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรงพลางเอามือปิดหน้า
ตอนนี้ฉันรู้สึกทั้งตกใจ ทั้งแค้นใจ และก็อายอย่างที่สุด เราเพิ่งเจอกันครั้งที่สองเองนะ ไม่สิ.. ถ้าตอนนี้ฉันคือพริตตี้ก็เท่ากับว่าฉันกับเขา.. เราเพิ่งเจอกันครั้งแรกด้วยซ้ำ ทำไมเขาต้องทำกับฉันถึงขนาดนี้ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายนะที่จะมายืนให้ใครก็ไม่รู้จูบได้ง่าย ๆ