ตึก ตึก ตึก
“เฮ้ย! พวกแกเป็นใครวะ หลีกไปนะโว้ยย ส่งผู้หญิงคนนั้นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!” เสียงอีตาเคนโวยวายลั่นแต่ฉันก็ไม่ได้หันไปมองหรอก เพราะมือของร่างสูงที่กอดฉันอยู่กำลังดันหน้าฉันเข้าไปซุกแผ่นอกของเขา
“งั้นเหรอ... เธอรู้จักมันหรือเปล่า?” น้ำเสียงทุ้มต่ำนิ่งขรึมแสนเย็นชาและไร้ความรู้สึกดังขึ้นจากบนหัวฉัน
ฉันส่ายหัวทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่ในแผ่นอกของเขา
เอาวะ! ก็ยังดีกว่าโดนไอ้บ้าเคนจับตัวไปละกัน อืมม~จะว่าไปหน้าอกอีตานี่ก็อุ่นดีเหมือนกันนะ หอมด้วยแฮะ
“ลากมันออกไปให้พ้นหน้าฉัน…”
“เฮ้ย! จะทำอะไรวะ! ปล่อยฉันนะเว้ย ปล่อยยย!”
สิ้นสุดเสียงที่เหมือนจะเป็นคำสั่งของผู้ชายร่างสูงคนนี้ เสียงโวยวายของอีตาเคนก็ดังขึ้นจนค่อย ๆ เงียบหายไปในที่สุด ผู้ชายร่างสูงที่ช่วยฉันไว้ค่อย ๆ ดันตัวฉันออกจากอ้อมกอดของเขาโดยเว้นระยะห่างไว้แค่คืบเดียว ฉันรีบก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าวทันทีด้วยความเขินจนหลังไปชนกับใครบางคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ฉันเลยหันไปมองด้วยความตกใจก่อนจะมองไปรอบตัวอย่างหวาด ๆ
พระเจ้า… ผู้ชายใส่ชุดสูทสีดำประมาณแปดคนยืนล้อมวงฉันกับผู้ชายร่างสูงตรงหน้าเหมือนกับกลัวว่าฉันจะวิ่งหนีไปไหนอย่างนั้นแหละ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ฉันหันกลับไปมองชายร่างสูงตรงหน้าก่อนจะตกตะลึงอีกครั้ง
อ๊ากกกกกก! หล่อค่ะหล่อ! ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผู้มีใบหน้าหล่อขั้นเทพ ผมสีดำขลับสไลด์ยาวประบ่ารับกับใบหน้าเรียวขาวของเขาเป็นอย่างดี นัยน์ตาสีดำสนิท (แลดูเย็นชา) ถูกปกปิดด้วยกรอบแว่นตา คิ้วสวยคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางกระตุกขึ้นนิด ๆ เหมือนแสยะยิ้มเยือกเย็น อ๊ายยย ผู้ชายคนนี้เปล่งรัศมีความหล่อเข้มสไตล์หนุ่มญี่ปุ่นมั่กมาก
เขาสวมเครื่องแบบนักเรียนชายของโรงเรียนเซนต์อังดรูว์ที่ดูแล้วไม่ค่อยเข้ากับบุคลิกที่ดูน่า (กลัว) เกรงขามของเขาสักเท่าไหร่ เอ๊ะ! ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันนะ ทำไมฉันไม่รู้สึกคุ้นหน้าเขาเลยอ่ะ ฉันยืนจ้องเขาอยู่นานจนสายตาเลื่อนไปสบกับนัยน์ตาสีดำคมกริบที่มองตอบกลับมามันช่างเย็นชาและน่ากลัวมากจนฉันสะดุ้งเล็กน้อยกับสายตาหนาวแหน็บคู่นั้น (น่ากลัวจริง ๆ อ่ะ)
“เอ่อ...ฉัน...” น่ากลัวง่ะ เขาจะฆ่าฉันม้ายยย
“...”
“คือฉันไม่รู้จักเขานะ แบบว่า.. ฉันเดินอยู่ดี ๆ ก็โดนดึงแขนไว้ ฉันก็เลย...” ฉันส่งยิ้มแก้เก้อให้เขา อ๋า~ใจดีสู้เสือค่า
“ช่างเหอะ ฉันไม่ได้อย่างฟัง” เขาขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึมโดยไม่ละสายตาไปจากใบหน้าฉัน ฉันรีบก้มหน้าหลบสายตาเย็นชาคู่นั้นด้วยความหวาดกลัว
โอ๊ยย! อึดอัดชะมัดเลยอ่ะ ทำไมนายต้องจ้องฉันด้วยสายตาแบบนั้น ฉันเคยทำอะไรนายหรือเปล่าเนี่ย! น่ากลัวชะมัด!
“แต่...”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าวะไอ้เซน?” เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินออกมาจากประตูหลังโรงเรียนเซนต์อังดรูว์ขัดบทสนทนาของฉันที่กำลังจะแย้งขึ้น เขาเดินเข้ามาแทรกตรงกลางวงล้อมระหว่างฉันกับผู้ชายน่ากลัวคนนี้พอดี
“เฮ้ย!!!” ผู้มาใหม่อุทานลั่นเมื่อหันมามองหน้าฉันอย่างเต็มตา ฉันเลยเงยหน้าขึ้นไปมองเขาด้วยความแปลกใจ
“กรี๊ดดด! เฮีย...” ฉันชี้หน้าเฮียนัทด้วยความตกใจ มันมาอยู่นี่ได้ไงวะ
“แกมาทำอะไรที่นี่ฟะไอ้นิว” เฮียนัทเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสงสัยปนงุนงง
“เฮียนั่นแหละมาทำอะไรที่นี่?” ฉันเลี่ยงคำถามเฮียกลับเช่นกัน เรื่องอะไรจะบอกเล่า.. ว่ากำลังจะโดดเรียนไปเดทกับผู้ชายอ่ะ
“อ้าวไอ้นี่ ก็นี่มันโรงเรียนฉันอ่ะ แกนั่นแหละทำไมไม่อยู่ที่โรงเรียน อย่าบอกนะว่า... เฮ้ย! นี่แกโดดเรียนเหรอ?”
นั่นไง นี่มันเพิ่งเที่ยงกว่า ๆ เอง ตาย ๆ ทำไงดี
“ก็...พอดีวันนี้อาจารย์ปล่อยกลับบ้านครึ่งวัน เอ๊ะ? แล้วเฮียจะมายุ่งอะไรกับฉันล่ะ อยากจะไปฟ้องป๊ากับม้าก็เชิญเลย ฉันก็จะฟ้องเรื่องที่เฮียชอบหนีเที่ยวกลางคืนบ้าง แบร่” ฉันลอยหน้าลอยตาใส่เฮียอย่างเหนือกว่าพลางแลบลิ้นให้ ฮ่า ๆ เอาสิ ฉันก็ขี้ฟ้องนะจะบอกให้
“เออ ๆ ไอ้นี่นิ ฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แล้วนี่แกมายืนทำอะไรกับไอ้เซนจิตรงนี้เนี่ย?”
“เซนจิ?” ฉันทวนกลับด้วยคำถามพลางหันไปมองหน้าผู้ชายอีกคนที่ยังคงยืนนิ่งโดยไม่พูดอะไรสักคำ แต่เมื่อกี้ฉันเห็นเขายิ้มด้วยนะตอนที่ฉันยืนเถียงกับเฮียนัทอ่ะ
“ถามยัยนี่เอาเองแล้วกัน” ว่าจบเขาก็เดินกลับเข้าไปในโรงเรียนพร้อมกับพวกผู้ชายสูทสีดำที่เดินตามเข้าไป
“ตกลงแกมายืนทำอะไรอยู่กับไอ้เซนตรงนี้ว่ะ?” เฮียนัทยืนเกาหัวแกรก ๆ มองเซนจิที่เดินเข้าไปอย่างงง ๆ เออ ฉันก็งงเหมือนกันย่ะ!
“ไม่มีอะไรร้อก~ แหม~นับวันชักจะทำตัวเป็นผู้หญิงขี้สงสัยขึ้นทุกวันแล้วนะเนี่ยคุณพี่สาว ฮี่ ๆ ไปดีกว่า” ฉันหยอกพี่ชายตัวดีก่อนจะวิ่งโบกไม้โบกมือให้คนที่ดูเหมือนจะยังไม่รู้ตัวว่าโดนหยอกอยู่มองด้วยความงุนงง แต่ไม่ถึงสิบวินาทีเฮียนัทก็ตะโกนไล่หลังฉันมาอย่างหัวเสีย
“เฮ้ย! ไอ้นิว นี่แกหาว่าฉันเป็นผู้หญิงเหรอ? ไอ้เด็กบ้า! กลับมานี่นะ! กลับมาเดี๋ยวนี่นะเว้ย! ไอ้น้องบ้า!”
“ฮ่า ๆ ไปนะคะพี่สาว จุ๊บ ๆ” ฉันว่าตามหลังด้วยเสียงที่ดังก้อง ฮี่ ๆ หมั่นไส้