ชมรมแฟชั่น (SG คลับ)
ปึง!
กองเอกสารมากมายหลายปึกถูกโยนลงบนโต๊ะตรงหน้าฉันด้วยฝีมือของหนามเตย ฉันเงยหน้ามองดวงตากลมโตที่ถูกบดบังด้วยแว่นสายตาเลนส์ใส ใบหน้าสวยได้รูปแดงเรื่อนิด ๆ สาเหตุคงมาจากอากาศที่ค่อนข้างร้อน ริมฝีปากชมพูบางเม้มเป็นเส้นตรงเหมือนกำลังเหนื่อยหน่ายใจอย่างแรงก่อนกระแทกก้นนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความหงุดหงิดที่ดูขัดจากใบหน้าสวย ๆ อย่างสิ้นเชิง
“อะไรของแกวะยัยเตย” ยัยน้ำชาหันมาถามด้วยความแปลกใจที่เห็นเอกสารมากมายกองอยู่ตรงหน้าฉัน
“ประวัติไง”
“เห? ประวัติอะไร?” ฉันมองหนามเตยด้วยสีหน้างงงวย อยู่ดี ๆ ก็เดินเข้ามาในห้องแล้วโยนปึงเอกสารบ้า ๆ ใส่หน้าฉันก็งงพอแล้วนะ ดันมาบอกว่าเป็นประวัติอีก ขยายความด่วน!
“โอ๊ย! แกจะให้ฉันหงุดหงิดไปถึงไหนนะ! ก็ประวัติของไอ้บ้าไลท์อะไรนั่นไง แกรู้ไหมว่าประวัติมันซับซ้อนแค่ไหน ฉันแทบไม่ได้นอนทั้งคืนเลยนะกว่าจะหามาได้ขนาดนี้อ่ะ!”
หนามเตยโอดครวญออกมาอย่างเหลืออด ปกติยัยนี่นอกจากจะขี้หงุดหงิดแล้ว ยังเป็นเซียนคอมพิวเตอร์อีกต่างหาก ยัยนี่มีความสามารถพิเศษทางด้านเจอะโปรแกรมหรือแฮคข้อมูลต่าง ๆ ที่อยากรู้ได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงจนน่าทึ่ง และถ้ามันมาโอดครวญว่าหาทั้งคืนอย่างนี้ล่ะก็ แปลว่าอีตาบ้าไลท์นี่ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
“เอ๊ะ พี่เตยหาข้อมูลของพี่ไลท์อยู่เหรอคะ?” ยิปซีที่นั่งอ่านหนังสือสอบอยู่ใกล้กันหันมาสนใจ เรียกสายตาหงุดหงิดของคนถูกถามให้หันไปมองสายตาขุ่น
“อืม คนบ้าอะไรไม่รู้ข้อมูลหายากฉิบเป๋งเลย กว่าฉันจะหามาได้บางส่วนนี่ก็เล่นเอาซะเกือบจะพังคอมฯ ไปหลายรอบแล้ว” หนามเตยเม้มปากแน่นอย่างหัวเสีย เออ! ฉันเชื่อ เวลาหงุดหงิดทีไรนะ ยัยนี่จะทุบคอมฯ ทุกทีสิน่า
“แหะ ๆ ไม่แปลกหรอกค่ะ เพราะพวก PB คลับเขาเก่งเรื่องปิดข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกจะตายไป ทุกคนในคลับแทบจะไม่เปิดเผยเรื่องส่วนตัวเลยด้วยซ้ำไป” คำตอบของยิปซีทำให้พวกเราหันไปมองเธออย่างอึ้ง ๆ
“หมายความว่าไง? อย่าบอกนะว่าอีตาบ้าไลท์นั่นเป็น...”
“สมาชิก PB คลับอ่ะ” โบลิ่งต่อท้ายประโยคให้ฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย พลางก้มหน้าก้มตาเปิดหนังสือในมืออ่านต่อ ฉันหันกลับไปจ้องมันอย่างแปลกใจ
“ห๊ะ แกรู้ได้ไงยัยโบ?”
“ก็...เอ่อ...อีตาเรดาร์นั่นก็เป็นหนึ่งในนั้นนี่นา”
อ๋อ ลืมไปว่ามันทำภารกิจนายเรดาร์อะไรนั่นอยู่
“อ่า...ถึงว่าสิทำไมไลท์ถึงได้ฉายาเจ้าชายเพลย์บอย ที่แท้ก็ทำงานแบบเรานี่เอง” เสียงงึมงำเหมือนพูดกับตัวเองของยัยน้ำชาทำให้ฉันหันไปสนใจมันนิดหน่อย แต่หนามเตยกลับหันไปสนใจยิปซีมากกว่าแถมยังทำหน้าเย็นชาใส่อีกต่างหาก
“งั้นเธอพอจะรู้อะไรเกี่ยวกับผู้ชายพวกนั้นหรือเปล่า”
“อืมม...ก็พอรู้นะคะ เพราะพวกพี่ ๆ เขาเคยมาเที่ยวที่บ้านยิปซีบ่อย ๆ น่ะค่ะ”
“งั้นเล่ามาให้หมดเลย ฉันอยากรู้เรื่องของไอ้พวกนั้นทุกคน”
อ่า หนามเตยพูดเสียงเย็นแสนอาฆาต เหอะ ๆ ก็แหงสิ ยัยนี่ไม่เคยสติแตกกับการหาข้อมูลใครขนาดนี้มาก่อนเลยนี่
“ค่ะ เอ่อ...งั้นเริ่มจากสมาชิก PB คลับที่มีทั้งหมดแปดคน มีหัวหน้าคลับที่เป็นรุ่นพี่อยู่คนหนึ่งก็คือ 'พี่เรียวกิ' รู้สึกว่าจะเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสาม” ยิปซีพูดพร้อมกับปิดหนังสือสอบในมือแล้วเปลี่ยนมานั่งหลังตรงแทน ก่อนจะมองหน้าฉันสลับกับทุกคนในห้องไปด้วย “ส่วนสมาชิกทั้งเจ็ดคนเรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติเซนต์อังดรูว์ทั้งหมดเลยค่ะ”
อืมฮึ~อย่างนี้นี่เอง น่าแปลกแฮะที่พวกเราไม่เคยรู้เรื่องนี้กันเลยอ่ะ
“อืมม...เอาคนแรกก่อนแล้วกันนะคะ 'พี่ไลท์' เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลธนานูกุลที่เป็นเจ้าของโรงแรมหรูชื่อดังอันดับต้น ๆ ของประเทศ รู้สึกว่าจะมีพี่สาวอีกคนหนึ่งนะคะ เท่าที่พี่ซัมเคยเล่าให้ฟังก็ประมาณว่าพี่ไลท์ไม่ค่อยจะลงรอยกับพ่อซึ่งอยากจะให้ไปสืบทอดธุรกิจต่อเลยย้ายออกมาอยู่คอนโดฯ คนเดียว แถมนิสัยของพี่ไลท์ยังนิ่งเงียบดูเข้าใจยากอีกต่างหาก ที่ได้ฉายาเจ้าชายเพลย์บอยมาก็อาจจะเป็นเพราะท่าทางที่ดูเท่ ๆ มาดขรึมของเขาล่ะมั้งคะ” ฉันก้มหน้าลงนิดหน่อยหลังจากฟังประวัติของไลท์จบ อ่า...รู้สึกแปลก ๆ แฮะ
“คนที่สอง 'พี่เรดาร์'...” พอถึงชื่อคนที่สองปุ๊บ โบลิ่งก็รีบหันหน้าไปมองยิปซีปั๊บ มันชักแปลก ๆ แฮะยัยนี่
“พี่เรดาร์ เป็นทายาทคนเดียวของห้างสรรพสินค้าสุดหรูที่เรารู้จักกันดีแหละค่ะ แถมครอบครัวของเขายังมีธุรกิจรายใหญ่อยู่อีกหลายประเทศเช่นเดียวกันกับพี่ไลท์และคนอื่น ๆ ในคลับ ส่วนนิสัยของพี่เรดาร์เป็นคนที่ค่อนข้างเปิดเผย เข้ากับคนง่าย แล้วก็นิสัยเจ้าเล่ห์สุด ๆ แต่ซีว่าลึก ๆ แล้วพี่เขาก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ พี่เรดาร์ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่งเชียวล่ะ แค่ติดเจ้าเล่ห์ให้สมกับฉายาเพลย์บอยจอมเจ้าเล่ห์เท่านั้นแหละค่ะ" ฉันสังเกตเห็นนะว่ายัยโบลิ่งแอบหน้าแดงด้วยอ่ะ อ๋า~เพื่อนฉันเปลี่ยนไป
“ส่วนคนที่สาม 'พี่เซนจิ'..”
ห๊ะ เซนจิเหรอ เอ๊ะ! จะใช่คนเดียวกันกับเซนจิที่ฉันรู้จักหรือเปล่านะ
“อืม...กับพี่เซนจินี่ ซีไม่ค่อยรู้อะไรมากหรอกค่ะ เพราะว่าพี่เข้าเป็นคนที่เข้าถึงยากที่สุด เรียกว่าค่อนข้างเย็นชาบวกกับน่ากลัวมาก ๆ เลยอ่ะ”
คนเดียวกันชัวร์ คนสวยฟันธง!!!
“รู้สึกว่าพี่เซนจิจะเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นนะคะ พ่อพี่เขาเป็นคนญี่ปุ่นส่วนแม่เป็นคนไทยแต่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนตัวพี่เซนจิเองไม่ยอมไปอยู่กับพ่อที่ญี่ปุ่นก็เลยต้องอยู่ที่เมืองไทยคนเดียว แถมยังมีบอดี้การ์ดตามคุ้มครองอยู่แทบจะตลอดเวลาเลยนะคะ พี่ซัมเคยเล่าให้ฟังว่าพ่อของพี่เซนจิเป็นคนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ และด้วยความเย็นชาบวกน่ากลัวของพี่เขาเลยได้ฉายาว่าเพลย์บอยจอมเย็นชาไปตามระเบียบ”
“พ่อเขาเป็นนายกฯ ญี่ปุ่นเหรอ” ปูเป้โพล่งขึ้นมาอย่างสงสัย เออ ฉันก็อยากรู้ หลังจากได้พบเจอบอดี้การ์ดของเขามากับตัว
“มาเฟียค่ะ”
“หา!!!”
อึ้ง! อึ้ง! อึ้ง!
เฮือก!! นี่ฉันไปยุ่งเกี่ยวกับลูกมาเฟียเหรอฟะเนี่ย จะถูกฆ่าตายไหมวะฉันนนนนน!!