“หึ… คนอุตส่าห์มาช่วย ตอบแทนกันอย่างนี้หรอกเหรอ” อีตาเย็นชา (แต่โคตรหล่อ) พูดขึ้นหลังจากยืนเล่นเกมจ้องตากันได้สักพัก อ๊ากก อยากแดดิ้นตาย คนบ้าอะไรฟะ หล่อแต่โคตรเย็นชาบวกน่ากลัวสุด ๆ ฟีโรโมนน่ากลัวแผ่กระจายรอบตัวเขาเลยอ่ะ
“เอ๊ะ อะไรนะ นายบอกว่าช่วยเหรอ ช่วยฉันทำไม? ฉันยังไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
หลังจากที่คิดไม่ออกสักทีว่าอีตานี่เป็นใคร ฉันก็เริ่มโต้ตอบเขากลับบ้าง อยู่ดี ๆ มาบอกว่าช่วยฉัน บ้าสิ ฉันยังไม่ได้ร้องให้ใครช่วยเลยนะ ผู้หญิงอีกคนต่างหากล่ะที่ต้องการความช่วยเหลือ อีตานี่ช่วยผิดคนหรือเปล่าฟะ
“...” เขาไม่ยอมพูดอะไรต่อเพียงแต่ยืนจ้องตาฉันนิ่ง ๆ จนฉันเองกลับเป็นฝ่ายหลบตาเขา เขินเหมือนกันนะเฟ้ย จะจ้องให้ท้องเลยหรือไง!
“อ๊ะ เซน!” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากจุดที่เกิดเหตุ ฉันจึงละสายตาไปมองตามเสียงเรียกชื่อนั้น ผู้หญิงที่กำลังจะโดนรุมทำร้ายคนนั้นนั่นเอง ตอนนี้เธอเดินออกมายืนอยู่ด้านข้างฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ฉันมองหน้าเธอด้วยความงุนงงแต่ดวงตากลมโตของเธอกลับจ้องไปที่ผู้ชายร่างสูงตรงหน้าฉันราวกับตกใจ
หือ? เซนเหรอ เซนไหนวะ? ยังไม่เก็ทเลยฉัน
ฉันหันกลับมามองอีตาเซนตามที่ผู้หญิงคนนั้นเรียกแต่ก็พบว่าเขายังคงยืนจ้องหน้าฉันนิ่งเหมือนเดิมโดยไม่ละสายตาไปมองผู้หญิงด้านข้างฉันเลยสักนิด
เฮ้ย! จะมองอะไรนักหนาล่ะฟะ ฉันเขินแล้วนะเฟ้ย!
“เซน...เซนมาช่วยแพรใช่ไหมคะ เซนจะกลับมาหาแพรแล้วใช่ไหม” ผู้หญิงที่ยืนข้าง ๆ ฉันเมื่อกี้ บัดนี้ถลาเข้าไปเกาะแขนอีตาเซนเรียบร้อยแล้ว
โอ้โห้ คนหรือชะนีฟะ ไวปานวอก
“...เปล่า แค่ผ่านมาเฉย ๆ แล้วเห็นยัยนี่ด้อม ๆ มอง ๆ เข้าไปในนั้น ฉันก็เลยให้คนของฉันไปจัดการ...แค่นั้น” อีตาเซนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่โคตรจะไร้เยื่อใยก่อนจะดึงมือของยัยชะนีแพรอะไรนี่ออกไปจากแขนเขา จังหวะเดียวกันกับคนของเขาที่ว่าเดินกลับมายืนอยู่ด้านหลังเขาพอดี ฉันรีบหันไปมองไอ้สี่โหดที่จะรุมทำร้ายผู้หญิงเมื่อครู่นี้แล้วก็ต้องตกใจ
เฮือก คนหรือศพฟะ
“นาย...คงไม่ได้ฆ่าคนพวกนั้นใช่ไหม” ฉันชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพ เอ๊ย ผู้ชายร่างใหญ่สี่คนที่บัดนี้ลงไปนอนจมกองเลือดอย่างน่าอนาถและโคตรน่ากลัว พลางหันหน้าหนีภาพอันน่าสยดสยองนั่นกลับมามองอีตาเซน อึ่ย ฉันจะไม่ยอมหันไปมองอีกเป็นรอบที่สองแน่!
“ไม่หรอก แค่สั่งสอนเท่านั้น .. ไปได้แล้ว”
ไม่ตอบเปล่า อีตาเซนกลับเดินเข้ามาดึงแขนฉันแล้วออกแรงลากให้เดินออกมาจากตรงนั้นท่ามกลางสายตาอึ้ง ๆ ของยัยชะนีแพร
“อ๊ะ! นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย ปล่อยนะ ฉันไม่รู้จักนาย ไม่ไป ๆ ปล่อย” ฉันรั้งตัวสุดแรงเกิดพลางสะบัดแขนให้ออกจากการเกาะกุมของเซน ได้ผลแฮะ.. เขาหยุดเดินทันทีแล้วหันกลับมาจ้องหน้าฉันด้วยสายตาเย็นชา
“มองหน้าฉันชัด ๆ สิ จำได้หรือเปล่า นี่เธอเป็นปลาทองกลับชาติมาเกิดหรือไงวะ” เขาพูดเสียงน่ากลัวเหมือนออกคำสั่งเวลาสั่งลูกน้องจนฉันไม่กล้าขยับตัว ได้แต่จ้องเข้าไปที่นัยต์ตาสีดำสนิทแสนจะเย็นชาคู่นั้น
เอ่อ...นายวะกับผู้หญิงได้ยังไงกันเนี่ย มันไม่สุภาพนะคะ
“เซน ให้แพรไปด้วยสิคะ อย่าทิ้งแพรนะแพรกลัว” ยัยแพรทำหน้าเหมือนจะร้องไห้พลางวิ่งเข้ามาเกาะแขนเซนข้างที่กำลังจับแขนฉันอยู่จนเขาต้องปล่อยมือออกจากแขนฉัน เขาลากสายตาจากใบหน้าฉันไปมองแพรด้วยสายตาน่ากลัวสุด ๆ จนยัยนั่นตัวสั่นเลยอ่ะ อ๊าก! ฉันกลัวแทนเธอได้ป่ะ TT
“อย่ามายุ่งกับฉัน” เซนสะบัดแขนอย่างแรงจนยัยแพรล้มลงไปนั่งกับพื้นพร้อมกับพูดเสียงนิ่งช้า ๆ ชัด ๆ ไปทางยัยแพร รังสีความน่ากลัวแผ่อยู่รอบตัวเขามากมายเหลือเกิน ขนาดฉันยังขนลุกเลยอ่ะ
“เซนคะ..”
“นี่นาย มันจะมากไปแล้วนะ ไม่เห็นต้องทำรุนแรงขนาดนี้เลย”
ถึงฉันจะไม่ค่อยชอบยัยชะนีนี่สักเท่าไหร่ แต่ก็ทนเห็นยัยนี่โดนทำร้ายไม่ได้อ่ะนะ ฉันเดินเข้าไปประคองเธอที่ยังนั่งอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าหวาดกลัว เออ! ฉันก็กลัวนะยัยบ้า รีบ ๆ ลุกขึ้นสิ ก่อนที่อีตาบ้านั่นจะฆ่าเธอกับฉันแล้วหมกทิ้งไว้ที่นี่ โฮก ทำไมฉันถึงเป็นคนดีขนาดนี้เนี่ยยยย!
“เธอไม่เกี่ยว! มานี่!”
และก่อนที่ยัยแพรจะลุกขึ้นยืนได้แขนของฉันก็โดนอีตาบ้าเซนที่เดินเข้ามากระชากไปอีกรอบอย่างแรงส่งผลให้มือฉันหลุดออกจากแขนของยัยแพรจนยัยนั่นล้มลงไปนั่งบนพิ้นอีกรอบ แง้ว ขอโทษน้า~ฉันไม่ได้ตั้งจายยย
เซนลากฉันมาที่รถลีมูซีนสีดำ ของเขาที่มีคนเปิดประตูรถรอไว้เรียบร้อยแล้ว เขาผลักฉันเข้าไปนั่งข้างในรถแล้วตัวเองก็เข้ามานั่งตามอีกที พอฉันทำท่าจะเปิดประตูอีกข้างหนึ่งออก เขาก็เอื้อมมือมากระชากแขนฉันจนเซเข้าไปปะทะกับแผ่นอกกว้างของเขาอย่างจัง
กรี๊ดดดด กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ลอยเข้าจมูกฉันทันทีเล่นซะเคลิ้มไปเลยทีเดียว ว่าแต่กลิ่นน้ำหอมนี่มันคุ้น ๆ แฮะ เหมือนเคยได้กลิ่นนี้มาก่อนเลย จากที่ไหนนะ?