หลังจากรถเคลื่อนตัวออกช้า ๆ ฉันก็ตั้งสติที่กำลังเคลิ้มไปกับกลิ่นน้ำหอมของผู้ชายคนนี้ แล้วผลักตัวเขาออกแต่ก็ไม่ได้ผล เพราะเซนโอบแขนไว้รอบเอวฉันก่อนจะดันหน้าฉันเข้าไปซบที่แผ่นอกกว้างของเขาอีกรอบ อ๊ากกกก อยากจะบ้าค่ะ
“นี่! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ไม่รู้ว่ามันคือเสียงหัวใจของฉันหรือของเขากันแน่ที่แข่งกันดังจนความเงียบภายในรถทำให้ฉันอาย ฉันพยายามกึ่งดิ้นกึ่งผลักเขาขณะเริ่มโวยวายเสียงดัง เพื่อไม่ให้เขาได้ยินเสียงหัวใจบ้า ๆ ของฉัน มันเต้นแรงมากเลยอ่ะ ตอนนี้ฉันรู้สึกได้ว่าคางของเขาจะต้องเกยอยู่บนหัวฉันแหง ๆ เพราะรู้สึกถึงแรงกดลงมาบนหัวเบา ๆ งืด ไม่กล้าเงยหน้าเลยอ่ะ
“อยู่เฉย ๆ เหอะน่า เธอจำฉันได้เมื่อไหร่แล้วฉันจะปล่อย”
“แต่ฉันจำนายไม่ได้จริง ๆ นี่ นายก็บอกมาสิว่าเราเคยเจอกันที่ไหน” ฉันเงยหน้าขึ้นมองคางเรียวของเขา แต่เขากับเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่ว่างเปล่าดูไร้อารมณ์มาก
ให้ตายเหอะ เวลากอดฉันมันไร้อารมณ์ขนาดนั้นเลยเหรอย่ะ โกรธ...
“เฮ้อ~ฉันช่วยเธอมาสองครั้งแล้วนะ หัดจำซะบ้างสิ ยัยปลาทองติ๊งต๊อง” เขาบ่นงึมงัมเบา ๆ แต่ฉันได้ยิน ปลาทอง? ติ๊งต๊อง?
“เห?” ฉันนึกทบทวนคำพูดของอีตาเซนอีกครั้งอย่างงุนงง ช่วยฉันสองครั้งงั้นเหรอ เคยมีใครมาช่วยอะไรฉันแบบนี้บ้างล่ะเนี่ย
โหย คิดไม่ออกง่ะ เอ๊ะ! จะว่าไปคนที่เคยช่วยฉันก็มีแต่อีตาบ้าไลท์ไม่ใช่เหรอไง หรือว่าฉันลืมอะไรไปนะ กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ แบบนี้ ใบหน้ากับดวงตาเย็นชาและน่ากลัวแบบนี้ ฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ อืมม...
'เฮ้ย! พวกแกเป็นใคร หลีกไปนะ ส่งผู้หญิงคนนั้นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!'
'งั้นเหรอ งั้นเธอรู้จักมันหรือเปล่า?'
'ลากมันออกไปให้พ้นหน้าฉัน'
‘คือฉันไม่รู้จักเขานะ แบบว่า.. ฉันเดินอยู่ดี ๆ ก็โดนดึงแขนไว้ ฉันก็เลย...’
'ช่างเหอะ ฉันไม่ได้อยากฟัง'
ภาพเหตุการณ์หนึ่งแล่นเข้ามาในโสตประสาท ฉันเลยนึกย้อนกลับไปในเหตุการณ์วันนั้นทันที ภาพของผู้ชายร่างสูงผมสีดำสนิทกับสายตาเย็นชาและน่ากลัวนั่น
ใช่...เขาที่เคยช่วยฉันไว้จากไอ้พี่เคนเป้าหมายเก่าของฉันที่มันอุตส่าห์จำหน้าฉันได้แล้วพยายามจะลากฉันไปกับมัน โชคดีที่ตอนนั้นฉันวิ่งหนีไปทางหลังโรงเรียนเซนต์อังดรูว์จนไปเจอกับเขา...เจ้าของนัยน์ตาสีดำสนิทที่แสนเย็นชาคู่นั้น คนที่เฮียนัทบอกว่าชื่อ...
เซนจิ
ฉันเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่กำลังโอบกอดฉันอีกครั้ง ใช่จริง ๆ ด้วย นี่ฉันลืมคนหล่อที่แสนจะน่ากลัวคนนั้นไปได้ยังไงเนี่ย บ้าชะมัดเลยยัยปลาทอง
“..เซนจิ?”
“หือ” เขาหันกลับมาตามเสียงเรียกของฉัน ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วจ้องหน้าฉันอย่างสงสัย ทำให้หน้าฉันกับเขาห่างกันแค่คืบ อ๊าย! นายจะหล่อเอาโล่หรือไงยะ กรี๊ดดดดด!
“เธอ...จำได้แล้วเหรอ?”
“อะ...อืม” ฉันพยักหน้านิดหน่อยเป็นการยอมรับ น่าอายชะมัด นี่ฉันลืมคนที่เคยช่วยฉันจากไอ้คนเลว ๆ นั่นได้ยังไงนะ เซนจิยังคงก้มลงมาจ้องหน้าฉันอยู่นิ่ง ๆ จนฉันต้องหลบสายตาเขาออกไปมองนอกหน้าต่างแทน เขินเหมือนกันนะเนี่ย
“เอ่อ...ปล่อยฉันได้หรือยังล่ะ”
“...” ไม่มีเสียงตอบรับมาจากเขา มีเพียงแต่อ้อมกอดที่ค่อย ๆ คลายออกอย่างช้า ๆ ทันทีที่หลุดจากกอดที่ชวนให้ใจเต้นของเขาได้ ฉันก็รีบถอยหนีจนหลังไปติดกับประตูรถอย่างจนมุม พลางสูดหายใจเข้าเต็มปอดด้วยความโล่งใจ
ฮือออ ฉันมันใจ (เต้น) ง่ายยยยย
“ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง” เซนจิถามฉันด้วยสีหน้านิ่งเรียบ สงสัยจังว่าหมอนี่เคยยิ้มบ้างหรือเปล่านะ ทำหน้าไร้ความรู้สึกอยู่ตลอดเวลาเลย ให้ตายสิ!
“เอ่อ...เปล่า ฉันแค่...ไม่ชินกับการถูกคนที่เพิ่งรู้จักกันกอดอ่ะ” ฉันยิ้มแหย ๆ ไปให้เขาก่อนจะขยับตัวนั่งท่าปกติ ส่วนเซนจิก็หันกลับไปมองนอกหน้าต่างตามเดิม อ่า~บรรยากาศในรถเงียบสงัดไปเลยอ่ะ วังเวงชะมัด
“เซนจิ...คือ...ขอบคุณนะ แล้วก็ขอโทษด้วยที่วันนั้นยังไม่ทันได้ขอบคุณนายเลยที่ช่วยฉันไว้ เฮียนัทดันออกมาขัดไว้ซะก่อน”
“...” เขานิ่งไปอีกแล้วแถมยังหันกลับมาจ้องฉันอีกครั้งด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม เอ่อ...มันแปลก ๆ แฮะ อธิบายไม่ถูก...
“แล้วนี่นายจะพาฉันไปไหน?” ฉันหลบตาเขาทำเป็นหันไปมองนอกหน้าต่างบ้าง อยากจะกรีดร้องอย่างแรงกับสายตาที่ทรงอิทธิพลคู่นั้น
บ้าจริง ทำไมต้องจ้องกันขนาดนั้นด้วยนะ ถึงฉันจะมีภูมิคุ้มกันผู้ชายดี แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เขินไม่อายเลยนะเฟ้ย หน้าแดงไปหลายรอบแล้วด้วย อับอาย
“เดี๋ยวก็รู้เองแหละ อะนี่.. ใส่ซะ ฉันจะแวะไปเอาของนิดหน่อย ก่อนจะไปส่งเธอที่บ้านแล้วกัน”
และแล้วน้ำเสียงเย็นชาของเขาก็ทำลายความเงียบภายในรถขึ้น เขายื่นเสื้อคลุมตัวใหญ่ให้ฉันใส่ ก่อนหันกลับไปมองนอกหน้าต่างด้วยอารมณ์ไหนไม่รู้มองไม่เห็น แต่แวบหนึ่งฉันรู้สึกเหมือนเห็นมุมปากเขากระตุกยิ้มนิด ๆ ด้วยอ่ะ ตาฝาดแหงเลยฉัน
ก่อนที่จะฟุ้งซ่านไปกันใหญ่ฉันเลยรีบรับเสื้อมาใส่อย่างว่าง่ายเพราะเริ่มรู้สึกถึงความหนาวเย็นของแอร์ในรถคันหรู เมื่อกี้ยังไม่หนาวขนาดนี้เลยอ่ะ
ฉันเหลือบตาไปมองผู้ชายที่นั่งเท้าแขนไว้กับประตูรถพลางเอามือเท้าคางไว้อย่างแปลกใจ ผู้ชายคนนี้มีรังสีที่น่าเกรงกลัวจริง ๆ แฮะ เดาอารมณ์ไม่ออกเลย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอใครที่ทำหน้าตาไร้อารมณ์ได้ขนาดนี้เลยอ่ะ ชักไม่ค่อยอยากจะรู้จักซะแล้วสิฉันนน