ต้นข้าว & วิคเตอร์ - 6  มันคือโชคชะตา

1361 Words
ให้ตายสิตั้งใจจะหนีเขามาทั้งวัน อุตส่าห์วางแผนรอบคอบแล้วแท้ ๆ ทำไมวิคเตอร์ถึงตามฉันมาได้อีกนะ อย่าบอกนะว่าเขาตามฉันออกมาตั้งแต่คอนโดเก่าน่ะ นี่มันสต๊อกเกอร์ชัด ๆ เลยไม่ใช่หรือไง! ทันทีที่ลิฟต์เปิดออกฉันก็รีบจ้ำอ้าวออกมาหวังจะเข้าห้องตัวเองให้เร็วที่สุด ทว่าเขากลับยังคงตามหลังฉันมาติด ๆ จนฉันได้ยินเสียงฝีเท้าที่น่าหงุดหงิดเนิบนาบนั่น “ฉันไม่ใช่ผีนะ เธอจะตกใจกันขนาดนั้นทำไมเนี่ย” เขาเอ่ยแซว ฉันหยุดชะงักลงก่อนจะหันซ้ายหันขวาหาผู้ดูแลความปลอดภัยหรืออะไรสักอย่างก็ได้ที่จะทำให้ฉันลากเขาออกไปจากที่แห่งนี้ได้ “นายตามฉันมาทำไม” “เปล่านะ ห้องฉันก็อยู่ทางนี้เหมือนกัน” เขาหยุดชะงักอยู่ด้านหลังของฉันก่อนจะตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่แสนจะกวนโอ๊ย ฉันอยากจะบ้าทำไมฉันถึงได้ซวยขนาดนี้ ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเขาอยู่คอนโดนี้ฉันจะไม่ทำสัญญาเช่าโดยเด็ดขาด ฉันทำได้แค่หายใจฟึดฟัด สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินหน้าต่อไป “ให้ช่วยยกไหม” เขาเดินมาเทียบเคียงข้าง ๆ ก่อนจะโผล่หน้าเข้ามาถามใกล้เพราะเห็นว่าฉันยกกล่องนี้จนเส้นเลือดปูดขึ้นมา “…” ฉันกัดฟันกรอดก่อนจะเดินต่อไปไม่สนใจเขา เขามันก็เป็นแค่อากาศธาตุ ฉันจะตัดความสัมพันธ์ระหว่างเราให้ขาดสะบั้น! ฉันหยุดยืนหน้าห้องตัวเองด้วยความหัวเสียไม่น้อย แต่ก็มีใครบางคนหยุดยืนตามฉันด้วยเช่นกัน วิคเตอร์ชักจะกวนประสาทฉันเกินไปแล้วนะ เขาอยากให้ฉันว๊ากออกมามากเลยหรือยังไง ฉันชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะหันกลับไปหาเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว วิคเตอร์เปิดประตูห้องตรงข้ามก่อนจะหันมายิ้มให้ฉันและเลิกคิ้วขึ้นสูงเล็กน้อยแทนคำถามว่าฉันเป็นอะไร มีปัญหาอะไรให้ช่วยหรือเปล่า ฉันยังคงมองเขาอย่างต่อเนื่องให้มันรู้ไปว่าตรงหน้านี้คือห้องของเขาจริง ๆ “มีอะไรก็เรียกฉันได้เสมอนะ” เขาเอ่ย และก็ปิดประตูลงต่อหน้าต่อตาฉัน โอ๊ยยย! ปรอทในสมองฉันเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ นี่มันหนีเสือปะจระเข้ชัด ๆ ทำไมยิ่งหนี เขาถึงกลับอยู่ใกล้แค่เอื้อมกันแบบนี้ล่ะ!!!? ---- Rrrr~ Rrrr~ “มีอะไรแก” ฉันรับโทรศัพท์จากปลายสายหลังจากที่นั่งเก็บห้องอยู่เกือบครึ่งค่อนวัน (ต้นข้าวแกอยู่ไหนทำไมไม่อ่านไลน์กลุ่มสักที เป็นอะไรไปหรือเปล่า) ใบชาส่งคำถามมาด้วยอาการร้อนรนแปลก ๆ นั่นก็เป็นเพราะนี่คือวันหยุดไม่ใช่หรือไง ทำไมฉันจะต้องอ่านไลน์กลุ่มด้วย “โทษที มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” (มีสิ อาจารย์ขอถ่ายรูปรวมใหม่ตอนบ่ายอีก 10 นาทีก็ถึงเวลานัดแล้วแกรีบมาเลย ชุดนักศึกษานะ) “อ่า…โอเคขอบใจมากนะฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย” (เจอกันแก) ฉันรีบกดตัดสายก่อนจะคว้าชุดนักศึกษาวิ่งเข้าห้องแต่งตัวไป ฉันไม่คิดเลยว่าเรื่องเร่งด่วนพวกนี้จะเกิดขึ้น จากวันหยุดพักผ่อนของฉัน ฉันสวมใส่รองเท้าผ้าใบด้วยความเร่งรีบ พร้อมกับกุมท้องน้อยที่เกิดเจ็บแปล๊บขึ้นมาบ่อยครั้งเวลาฉันรีบทำอะไรสักอย่างอาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อคืนฉันรุนแรงมากเกินไปหน่อย ไม่ถูกสิ วิคเตอร์ต่างหากที่ไม่ปรานีกันเลยแม้แต่วินาทีเดียว มั้งนะ…แฮะ ฉันรีบรุดเปิดประตูออกมาพร้อมกับวิคเตอร์พอดี ฉันมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าบ่งบอกว่าเขาก็จะไปมหาลัยเช่นเดียวกัน เขาทำหน้ากวนประสาทใส่ฉัน แค่นั้นมันก็ทำให้ฉันเข้าใจแล้วว่า… ฉันมันซวยชะมัด! “ไปด้วยกันไหม” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม “ไม่” ฉันเอ่ยตัดบทก่อนจะจ้ำอ้าวเดินหนีออกไปก่อนด้วยความเร่งรีบ แต่วิคเตอร์ก็ยังคงตามฉันมาติด ๆ “ไปเปล่า ดีกว่าเสียค่าแท็กซี่นะ” เขายังพยายามเสนอทางเลือกให้กับฉันราวกับว่าเป็นเซลล์ขายอะไรสักอย่าง “ไม่เป็นไร” “รีบไปไหนของเธอ” เขาเร่งวิ่งตามฉันลงมาที่ลานจอดรถ ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วควักกุญแจรีโมทเปิดรถหรูที่จอดอยู่ข้างรถฉัน ฉันไม่สนใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ก่อนจะปลดล็อกรถสปอร์ตป้ายแดงให้เขาได้เห็นชัด ๆ “ลงทุนซื้อรถใหม่เลยเหรอเฮ้ย” เขาเอ่ยอย่างเหลือเชื่อขณะเดินมาสำรวจใกล้ ๆ “เรื่องของฉัน” ฉันตอบปัดอีกครั้งพร้อมกับพาก้นของตัวเองนั่งแหมะลงไปหวังปิดประตูรถใส่หน้าเขา ‘อูยยยย~’ ทว่า…ฉันกระแทกก้นแรงไปหน่อย มันเลยสะเทือนไปทั่วท้องน้อยจนฉันหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม มือเรียวเผลอกุมท้องอัตโนมัติ วิคเตอร์ดูตกใจที่ฉันหน้าเสีย และเขาก็รีบรุดเปิดประตูรถฝั่งข้างพลขับและนั่งรถฉันอย่างถือวิสาสะ “เมื่อคืนยังขอให้ทำแรง ๆ อยู่เลย” เขาพูดพลางค้นกระเป๋าหาอะไรบางอย่างแล้วส่งมันให้ฉัน “ยาแก้ปวด” เขายิ้มเยาะ “ลงไปจากรถฉันเลยนะวิคเตอร์!” ฉันไล่ผลักเขาใหญ่จนเขาเออออยอมทำตามคำสั่ง แต่เขาก็ยังไม่ยอมปิดประตูรถให้ฉันสักที “เลิกกวนได้แล้วฉันรีบมาก แล้วก็ห้ามเอาเรื่องของเราไปบอกใครนะ อย่าลืม” ฉันชี้หน้าสั่งคำขาด “อ่า…รู้แล้ว ๆ ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรเธอสักหน่อยสบายใจได้เราเป็นเพื่อนกันแล้วนี่” เขาอธิบายพลางยิ้มให้กับฉัน “ดีแล้ว” ฉันมองค้อนเขาเล็กน้อย วิคเตอร์ยอมปิดประตูให้ก่อนจะโบกมือลาตามสไตล์ของเขา ฉันขับรถออกมาด้วยความอับอายภายในใจ เพราะฉันเป็นถึงนักศึกษาแพทย์แต่เขาดันเอายาแก้ปวดมาเย้ยหยันกันแบบนี้ มิหนำซ้ำฉันก็ดันไปเผยพิรุธให้วิคเตอร์เห็นต่อหน้าอีกว่าคืนนั้นตัวเองเจ็บปวดแค่ไหน /// วิคเตอร์ Talk… ผมนั่งยิ้มกริ่มคนเดียวอยู่ในรถเหมือนคนบ้า ยัยจืดนี่ท่าทางจะคิดมากเอาการถึงขนาดซื้อรถใหม่ป้ายแดงย้ายคอนโดหนีกันเลยเหรอ ผมว่าตัวเองได้พูดชัดเจนแล้วนะว่าจะไม่จีบ นั่นก็คือไม่จีบ ต้นข้าวมีความเป็นตัวเองสูงมาก ต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกที่ผมเห็นเธอเดินผ่านทุกวันสาวหวานในชุดไปรเวทสวมแว่นกรองแสงเหมือนสาวเรียบร้อย อ่อนหวาน อ่อนต่อโลก แต่เธอกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เธอทั้งดุ เผ็ดร้อนและขี้ระแวงฉิบหาย ตอนแรกผมแค่จะแหย่เล่น ๆ แต่พอเห็นใบหน้าซีดเซียวเข้าก็อดไม่ได้ที่จะตามไปส่ง ไหนจะสภาพที่เธอมีอะไรกันครั้งแรกกับผมจนปวดซะขนาดนั้น เธอคงจะคิดว่าผมไม่รู้ล่ะมั้งว่าตัวเองยังไม่เคยผ่านใครมา ถึงภายนอกจะดูโชกโชนก็เถอะแค่ผมสัมผัสเบา ๆ ก็รู้แล้ว “หึหึ” ผมยังคงขำค้างกับท่าทางของสาวคณะแพทย์ ก่อนที่จะขับรถออกไปทั้งอย่างนั้น รู้แบบนี้ลองจีบเล่นไปตั้งนานแล้ว ก็เพราะพวกไอ้มีคุณนั่นแหละ แม่งชอบกล่อมประสาทบอกว่าสาวคณะนี้เสียเวลาจีบ เขาเป็นสาวน่าเบื่อแก่เรียนเรื่องเยอะ แต่พวกมันไม่รู้หรอกว่าความจริงแล้ว มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป แต่ผมก็สบายใจแล้วล่ะ คืนนั้นคิดซะว่ามันเป็นผลพลอยได้ก็แล้วกันนะ…คุณหมอต้นข้าว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD