ล้ำเส้น 8

1133 Words
- เอิร์ธ - ผมออกมาจากห้องน้ำก็กินเวลาเที่ยงคืนพอดี ไม่เห็นเงาพี่กันต์อยู่ในห้อง เขาหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่ผมโล่งใจที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเขาตอนนี้ แม้จะรู้สึกว่าเขายังอยู่ในห้องก็เถอะ เมื่อครู่ผมดันหยิบเสื้อคอกว้างเข้าไปในห้องน้ำ ใส่แล้วแทบจะโชว์แผงอก ผมจะไม่เรื่องมากเลยถ้าไม่มีรอยจ้ำแดงๆ ที่พี่กันต์ทำเอาไว้ ต้องหาเสื้อเปลี่ยน ผมรีบค้นหาเสื้อผ้าที่มันพอดีตัวก่อนจะเจอเสื้อยืดคอกลมตัวเล็กกว่าพี่กันต์สองไซส์ เขาซื้อมาผิดเหรอ ผมเอียงคอสงสัยแต่ช่างเถอะ ใส่ตัวนี้นี่แหละ Line!~ ผมได้ยินเสียงไลน์เตือน รีบใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกมาหาโทรศัพท์ มันวางอยู่บนโต๊ะโซฟาก่อนผมจะโดนพี่กันต์บังคับลากเข็นให้ไปอาบน้ำ ไนท์ : เอิร์ธ เอิร์ธ : ครับพี่ ไนท์ : อยู่ไหน เอิร์ธ : กลับมาแล้วพี่ ห้องพี่กันต์ ไนท์ : เคลียร์กันละเหรอ เอิร์ธ : เคลียร์อะไรล่ะ เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเป็นผม ไนท์ : เอิร์ธโอเคหรือเปล่า เอิร์ธ : ถ้าผมบอกว่าโอเค ผมก็โกหกแล้วล่ะ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่ ผมพิมพ์บอกพี่ไนท์แล้วน้ำตาจะไหล อัดอั้นไม่รู้จะไประบายกับใคร พูดกับตะวันผมก็กลัวมันรับไม่ได้ มันเหมือนอยู่ตัวคนเดียว... ผมบีบโทรศัพท์แน่น กำลังจะเอนหัวลงนอนเสียงยะเยือกก็ดังมาจากด้านหลังโซฟา “ใครบอกให้มึงเอาเสื้อตัวนั้นมาใส่!” เฮือก!!! พี่กันต์พุ่งเข้ามาอย่างเอาเรื่อง ผมผวาลุกขึ้นทันที ก้มลงมองเสื้อที่กำลังใส่อย่างงุนงง ไม่เข้าใจว่าทำอะไรผิดทำไมผมจะใส่เสื้อตัวนี้ไม่ได้ “ถอดออกมา!” “พะ..พี่... เดี๋ยว” “กูบอกให้ถอด!” “อึก พี่กันต์ โอ๊ย! หยุด... ผมถอดแล้วๆ ปล่อย ผมถอดเองได้!” ร่างสูงพุ่งเข้ามาจับผมถอดเสื้อ ผมถอยหนีแต่เขาก็ยังตามมายื้อยุดฉุดกระชากเสื้อผมอย่างหน้ามืดตามัว ผมผลักเขาออกห่างสุดแรง รีบถอดเสื้อโยนใส่หน้าเขาแล้วเดินออกมาทันที อารมณ์ผมพลุ่งพล่านไปหมด ทั้งโกรธทั้งเจ็บใจ อะไรนักหนาก็ไม่รู้ “ไอ้เอิร์ธ!” “โอ๊ย...” เสียงฝีเท้าหนักๆ ตามมาด้านหลังพร้อมกับน้ำเสียงเดือดดาลก่อนที่ท่อนแขนผมจะถูกกระชากให้หันกลับไปเผชิญหน้าอย่างแรง “มึงกล้าทำแบบนี้กับกูเหรอ!” พี่กันต์ถลึงตาใส่ผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ปล่อย!” ผมสะบัดมือข้างนั้นทิ้งอย่างไม่ไยดี จ้ำเอ้าเข้ามาในห้อง ตั้งใจจะไปค้นเสื้อตัวเดิมในตะกร้ามาสวมแต่แผ่นหลังผมก็โดนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ถลำแทบเสียหลัก หันขวับไปจ้องพี่กันต์นัยน์ตาขุ่น “ผมจะไปจากที่นี่” พูดเสร็จก็รีบสาวเท้ามาหยิบเสื้อตัวเก่าที่ใส่ติดตัวขึ้นสวม เดินผ่านหน้าพี่กันต์ออกมาอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน “เดี๋ยวก่อน!” ผมไม่ฟังอะไรทั้งนั้น รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาตะวันระหว่างเดินมาที่ประตูห้องเพื่อจะบอกให้หมอนั่นมารับ ผมไม่แน่ใจว่าดึกแบบนี้จะยังมีแท็กซี่อยู่หรือเปล่า แต่ถ้าตะวันไม่มาผมก็ตั้งใจว่าจะโทรหาพี่ไนท์ หมับ! “พี่กันต์!? นี่... เอามือถือผมคืนมา” โทรศัพท์ผมโดนฉวยไปจากด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว พี่กันต์กำโทรศัพท์ในมือแน่น พอผมจะแย่งคืนเขาก็ยื้อมือขึ้นจนสุดเหนือหัว ผมได้แต่ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างเจ็บใจ “จะไปไหน” “เรื่องของผม” “ถอดเสื้อออกสิ” “อะไรนะ!” ผมจ้องดวงตาคมกริบของคนตรงหน้าอย่างดุดัน มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง แล้วทำไมผมต้องทำตามที่เขาบอกด้วย ผมคิดว่าพี่กันต์คงบ้าไปแล้ว หันหลังกลับมาเปิดประตูอย่างไม่สนใจไยดีอะไรทั้งนั้น “เอิร์ธ!” เสียงขู่กรรโชกทำผมชะงักกึก มือที่เอื้อมไปแตะลูกบิดประตูนิ่งค้าง ชำเลืองสายตากลับไปมองด้านหลังโดยที่หน้าไม่กระดิก “ถอดเสื้อ” “ทำไมผมต้อง..” “กูบอกให้ถอด” ผมกลั้นหายใจเฮือก หันไปจ้องตอบสายตาดุเดือดของพี่กันต์อย่างไม่ลดละ เดี๋ยวก่อน... ทำไมจู่ๆ พี่กันต์ถึงอยากให้ผมถอดเสื้อ ก็นี่มันเสื้อผม ถ้าถอด มันก็ต้องเห็นร่องรอย... อึก! หัวใจผมกระตุกวูบ หรือว่าพี่กันต์รู้แล้ว ให้ตายผมก็ไม่มีวันถอดเสื้อต่อหน้าพี่กันต์เด็ดขาด ผมรีบหันกลับมากุลีกุจอเปิดประตูอย่างร้อนรน “ไอ้เอิร์ธ!” พี่กันต์จับผมเหวี่ยงออกห่างประตูอย่างหมดความอดทน ร่างผมถลาไปชนกับชั้นวางรองเท้าดังโครม “โอ๊ย!” ผมร้องออกมาอย่างตกใจก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น สะกดกลั้นความเจ็บเอาไว้ข้างใน ทว่าก่อนที่ผมจะได้กล่าวโทษใดๆ พี่กันต์ก็ย่างสามขุมเข้ามากระชากคอเสื้อผมเข้าไปใกล้ “อึก...” “มึงนี่ดื้อด้านจริงว่ะ จะถอดดีๆ หรือถอดด้วยน้ำตา” “ผมไม่ถอด” “ทำไม!” “แล้วทำไมผมต้องถอด!” คราวนี้เป็นพี่กันต์ที่ผงะ ดวงตาคมกริบวูบไหวคล้ายกำลังสับสนในอะไรบางอย่าง เขาทำให้ผมพลอยใจเสียไปด้วย “ช่างเถอะ ไม่อยากถอดก็ไม่ต้อง” จู่ๆ เขาก็ปล่อยมือจากผมแล้วผละออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “....” อ้าว... นี่ผมงงจริงๆ แล้วนะ ตกลงว่าเขาจะเอายังไงกับผมกันแน่ ผมเดินกลับเข้ามาข้างในอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก พี่กันต์โยนโทรศัพท์ผมลงบนโซฟาอย่างไม่ใส่ใจก่อนเดินหายเข้าไปทางห้องนอน ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างสงสัย ทำไมพี่กันต์ถึงโมโหที่ผมใส่เสื้อตัวนั้น หรือว่า... หึ ช่างเถอะ ผมส่ายหน้าอย่างไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น กดโทรศัพท์โทรหาตะวัน จะถามมันว่าอยู่ห้องไหม แต่ทันทีที่มันรับสายก็เสียงกระเส่ามาเลย [เอิร์ธมีไรวะ กูกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม] “ทำไรอยู่วะ” [อยู่กับแฟน...] “อ้าว... เออๆ ไม่กวนแล้ว แค่นี้ล่ะ” ผมรีบวางสายจากตะวัน ไม่บอกก็รู้ว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ เลื่อนหาเบอร์เพื่อนคนอื่นๆ แต่ก็ไม่มีใครที่ผมสนิทพอจะพึ่งพาได้เหมือนตะวัน แถมนี่ก็ดึกแล้วด้วย เฮ้อ สุดท้ายผมก็ทิ้งโทรศัพท์ลงข้างๆ นอนลงบนโซฟาอย่างถอดใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD