ตอนที่ 1 ราตรีห้องหอ

903 Words
กลีบกุหลาบสีชมพูละมุนระบายทั่วผืนผ้าขาวบริสุทธิ์ที่เรียกขานกันว่า'ผ้าปูที่นอน' หมู่มวลดอกพฤกษาประดับประดาห้องหอระบายกลิ่นคลุ้งหอมเช่นเดียวกัน 'รสา' สตรีผู้งดงามวัยยี่สิบสามปีจากเมืองหลวง เธอระหกระเหินห่างไกลครอบครัวขึ้นสู่แดนดินถิ่นเหนือเพื่อเข้าสู่พิธีวิวาห์แทนการชดใช้หนี้สินที่ตนไม่ได้ก่อ "จำใส่หัวของเธอไว้ด้วย ว่าการแต่งงานครั้งนี้มันเป็นแค่การแต่งงานเพื่อชดใช้หนี้สินให้กับพ่อแม่เธอ อย่าตีราคาว่าตัวเองมีค่าถึงยี่สิบล้าน" คำพูดแสนดูถูกดูแคลนของ'พ่อเลี้ยงสิงห์'ราวมีดคมกรีดเฉือนหัวใจ รสาเก็บกุมความรู้สึกเจ็บปวดแสนระทมไว้ลึกสุดหัวใจดวงน้อยที่อ่อนแรงลงเต็มที เจ้าสาวแสนสวยประดุจนางฟ้าจากสรวงสวรรค์ไม่อาจเปลี่ยนหัวใจของคนที่มีอคติได้ หญิงสาวจึงเลือกปิดประตูแห่งการโต้แย้งและเข้าสู่ห้วงภวังค์แห่งความเงียบสงบ "และถ้าเธอคิดว่าฉันจะปฏิบัติตัวเป็นสามีที่ดี ฉันบอกเธอไว้ก่อนเลยนะว่าเธอคิดผิด นอนกอดทะเบียนสมรสที่เธอต้องการไปเถอะ!" ร่างสูงกำยำในชุดทักซิโด้หยัดกายขึ้นยืน เขาปรายตามองนวลงามบอบบางในชุดเจ้าสาวแสนสะโอดสะองเล็กน้อย จากนั้นจึงสืบเท้ายาวออกจากประตูห้องหอไป มีหรือที่พ่อเลี้ยงสิงห์จะสนใจขนบประเพณี ในเมื่อเขาไม่ได้อยากแต่งงานตั้งแต่แรก... ไนต์คลับ "ฮือ...คุณไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ คุณไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นด้วยซ้ำ ทำไมคุณถึงไม่ยกหนี้ให้เธอไปเลย นาเสียใจมากนะคะ ฮือ..." 'นารา'ร่ำไห้ออกมาอย่างไม่อาย แม้สถานะของเธอกับพ่อเลี้ยงสิงห์จะไม่เคยชัดเจน แต่ทว่าทุกคนในเชียงใหม่ต่างรู้ดีว่าตนและชายหนุ่มคือคู่ควงที่เหมาะสมกันมากที่สุด "เธอจะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา ในเมื่อฉันก็แต่งงานแล้วก็จดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว" ความรู้สึกเสียใจยิ่งประดังประเดเมื่อถูกกระตุ้นด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ นาราสะอื้นไห้อย่างคนไร้สติเมื่อพ่อเลี้ยงสิงห์พูดราวกับไม่ไยดีความรู้สึกของเธอแม้แต่น้อย "สิงห์จะต้องหย่ากับผู้หญิงคนนั้นให้เร็วที่สุดนะคะ สิงห์แค่ทำตามความต้องการของคุณแม่ใช่ไหมคะ หลังจากนั้นสิงห์จะรีบหย่ากับผู้หญิงคนนั้นใช่ไหมคะ?" หล่อนเสียงสั่น ความเงียบจากอีกฝ่ายเป็นคำตอบที่ดีที่สุด มือเล็กคว้าแก้วเหล้าขึ้นมากระดกเข้าปากอึกเดียวรวดราวกับเป็นน้ำปราศจากรสชาติ "เลิกพูดเรื่องน่าปวดหัวซะที!" สิงห์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขากระดกบรั่นดีสีเข้มราคาแพงเข้าปาก รสชาติบาดคอและอาการมึนเมาไม่ได้ช่วยบรรเทาความเครียดได้ในวินาทีนี้ "งั้นคืนนี้คุณนอนกับนานะคะ" หล่อนเอี้ยวกายเข้ามาใกล้ ใบหน้าสวยซบแนบอกแกร่ง ริมฝีปากอวบขยับย้ายขึ้นมาบรรจงจูบลำคออีกฝ่ายเพื่อทิ้งรอยลิปสติกไว้ "ฉันไม่มีอารมณ์!" เสียงปฏิเสธนั้นแข็งกระด้างบ่งบอกถึงอารมณ์ไร้ความปรารถนา "นาไม่อยากให้คุณกลับไปนอนกับผู้หญิงคนนั้นนี่ค่ะ" "ฉันจะไปนอนกับผู้หญิงคนนั้นทำไม เขาเป็นเมียที่น่ารังเกียจ ฉันไม่อยากจะแตะต้องตัวผู้หญิงคนนั้นแม้แต่ปลายเล็บ ไม่อยากเห็นหน้าซะด้วยซ้ำ ไม่งั้นฉันจะหนีออกมาดื่มหรอ" พ่อเลี้ยงหนุ่มพรั่งพรูความรู้สึกอัดอั้นตันใจออกมา แม้ลึกๆความปรารถนาต่อภรรยาตีทะเบียนอาจห่างไกลความชัดเจน แต่ห้วงเวลานี้เป็นต้นไปตนไม่ใช่ชายหนุ่มที่คลองสถานะโสด เพราะฉะนั้นการเพลิดเพลินเริงรมย์ผิวกายของสตรีอื่นย่อมเป็นเรื่องน่าอาย ไร่พ่อเลี้ยงสิงห์ ดวงตากลมโตยังคงประกายวาววับท่ามกลางแสงไฟสลัว รสาชำเลืองมองนาฬิกาปลุกเรือนเล็กตั้งอยู่ใต้โคมไฟหัวเตียงแล้วจึงถอนหายใจแผ่วเบา "ตีหนึ่งแล้ว...รสาควรจะทำยังไงถึงจะข่มตาหลับลงคะ" หญิงสาวพึมพำกับตนเอง เธอปิดเปลือกตาลงเพื่อข่มความรู้สึกเจ็บปวดที่กำลังถาโถมเข้าหาจากหลายเรื่องราวในขณะนี้ 'แก๊ก' ทันใดนั้นบานประตูห้องหอถูกเปิดออกโดยเจ้าของห้อง ร่างสูงกำยำเดินเซซ้ายเซขวาราวกับคนไร้จุดมุ่งหมาย กลิ่นบรั่นดีฝรั่งคลุ้งผสมน้ำหอมกลิ่นแปลกใหม่ รสาบรรจงปลายเท้าแนบลงกับพื้นพรมนุ่มและเอื้อมมือไปกดเปิดสวิตช์ไฟ "คุณสิงห์คะ..." ร่างบางเดินเข้ามาหาสามีหนุ่มที่กำลังทิ้งตัวนอนลงบนโซฟา เขาหลับตาพลางทิ้งศีรษะบนพนักวางแขน คนตัวโตยังคงอยู่ในชุดทักซิโดที่เพิ่งผ่านพ้นพิธีวิวาห์มาไม่กี่ชั่วโมงก่อน "รอยลิปสติก..." รสากะพริบตาถี่และถอยออกห่างจากร่างสูงกำยำไร้สติ เสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในแปดเปื้อนไปด้วยรอยลิปสติกสีแดงสด "คุณสิงห์..." หญิงสาวไม่ได้กำลังมีความรู้สึกเสียอกเสียใจ แต่เธอกลับรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีมากยิ่งขึ้นอีกเป็นร้อยเท่า "ศักดิ์ศรีของฉันไม่เคยหายไปไหน คุณจะต้องชดเชยกับสิ่งที่คุณเหยียดหยามฉัน" รสาเปล่งวาจาเสียงหนักแน่น 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD