“พี่นัท เห็นโทรศัพท์ตาลไหมคะ หาที่รถแล้วไม่เจอเลยค่ะ เมื่อคืนกลับมาเหนื่อยๆ หนูก็ไม่ได้สนใจ พอตอนเช้าหาดูในกระเป๋าก็ไม่เจอแล้วค่ะ” เด็กสาวเดินเข้ามาในบ้านถามพี่ชายที่พึ่งตื่นนอน สองเท้าของเขาหยุดชะงักหันมาสนใจน้องสาว ที่ยืนทำหน้ามุ่ยอยู่ไม่ห่าง
“ไม่เห็นนะ หาดีหรือยัง ลองเอาโทรศัพท์พี่โทรหาสิ เผื่อวางทิ้งเอาไว้ในห้อง” โดนัทยื่นโทรศัพท์มือถือส่งให้น้อง ก่อนที่ตัวเองจะเดินเลี่ยงหายเข้าไปในห้องครัว
ลูกตาลเดินเข้ามาในห้องนอนที่ถูกจัดแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวแซมสีชมพู เตียงนอนที่เหมือนกับของเจ้าหญิงในการ์ตูนเทพนิยายของเด็กสาวหลายๆ คน ถูกตั้งตระหง่านเอาไว้อย่างสวยงามที่กลางห้อง พร้อมกวาดตามองหาโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง แต่ก็ไร้วี่แววของสิ่งนั้น เธอจึงกดโทรเข้าหาเบอร์มือถือของตัวเอง รอสายไม่นานมากนัก
(สวัสดีครับ)
“เอ่อ..คือ..”
(ผมเก็บโทรศัพท์ได้ครับ สะดวกมารับคืนไหมครับ) น้ำเสียงของชายหนุ่มดังขึ้นมา
“ค่ะ ไม่ทราบว่า วันนี้คุณว่างไหมคะ”
(วันนี้ผมว่างตอนเย็นครับ สะดวกรับคืนที่ไหนดีครับ)
“ตอนเย็นหนู...เอ่อ ฉันไม่ว่างเลยค่ะ” เด็กสาวพูดจาตะกุกตะกักน้ำเสียงฟังดูตื่นเต้น จนปลายสายหัวเราะในลำคอ “เอาเป็นพรุ่งนี้ได้ไหม ตอนบ่ายโมง ที่ห้างเซ็นทรัลใกล้ๆ นี้ค่ะ”
(ได้ครับ ผมขอเบอร์โทรคุณเอาไว้ได้ไหมครับ เผื่อมีเหตุอะไรจะได้โทรบอกได้ครับ)
“เอาเป็นไลน์ได้ไหมคะ พอดีโทรศัพท์ฉันอยู่กับคุณ ส่วนเบอร์นี้ก็ไม่ใช่เบอร์ของฉัน จดไอดีได้ไหมคะ” ลูกตาลตั้งใจบอกไอดีไลน์ของตัวเองให้อีกฝ่ายเพิ่มเพื่อนมา เพียงไม่กี่นาที ไลน์ของเธอก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น “เพิ่มเพื่อนไปแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่เก็บโทรศัพท์เอาไว้ให้ค่ะ”
(ไม่เป็นไรครับ เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้ครับ)
ลูกตาลมองหน้าจอโทรศัพท์ของพี่ชาย เมื่อสายถูกตัดไป เธอมึนงงเล็กน้อย กับคำพูดเมื่อครู่ของผู้ชายคนนั้น เขาพูดเหมือนรู้จักหรือสนิทกันมานาน
“ไง!! เจอไหม” โดนัทที่เดินเข้ามาในห้องนอนของน้องสาวถามขึ้น
“ไม่เจอค่ะ เมื่อคืนหนูทำหล่น มีคนเก็บเอาไว้ให้ พรุ่งนี้เดี๋ยวหนูไปเอาโทรศัพท์ที่ห้างใกล้ๆ นี่แล้วจะกลับหอพักเลย พรุ่งนี้พี่ไม่ต้องไปส่งก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูนั่งแท็กซี่ไปเอง จะไปเดินเล่นก่อนกลับหอด้วยค่ะ” เด็กสาวยื่นโทรศัพท์ส่งคืนให้พี่ชาย โดนัทรับมาแล้วหย่อนมันลงไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง
“ไม่ให้ไปส่งหรอ แล้วจะไปเดินเล่นคนเดียวมันอันตราย โทรหาเพื่อนไปเป็นเพื่อนดีไหม หรือจะให้ไปด้วย”
“ไม่ดีกว่าค่ะ หนูนัดเขาที่ห้างใกล้ๆ นี่เองค่ะ คนพลุ่งพล่าน ไม่ต้องห่วงค่ะ อีกอย่างหนูมีของใช้อยากซื้อด้วย พี่นัทต้องทำงานหนูไม่อยากรบกวน”
“วันนี้เป็นอะไรพูดง่ายกว่าปกติ อยากได้อะไรหรือเปล่า” โดนัทขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย น้องสาวส่ายหน้าไปมา ก่อนที่เธอจะยิ้มแป้นออกมา
“ไม่ค่ะ วันนี้หนูมีทำรายงาน จะรีบทำให้เสร็จเพราะนิยายเล่มใหม่กำลังรอหนูอยู่นะคะ” ลูกตาลยิ้มหน้าบาน ก่อนเอี้ยวตัวกลับไปที่โต๊ะอ่านหนังสือของตัวเอง พี่ชายมองเห็นการกระทำของน้องสาวก็ได้แต่ถอนหายใจ เขาไม่เข้าใจมากนัก กะอีแค่นิยายเล่มหนึ่งทำไมต้องดีใจมากมายขนาดนั้น เสียงประตูห้องถูกปิดลง มีเพียงความเงียบสงบ เธอหยิบหูฟังขึ้นมาสวมใส่ก่อนเปิดเพลงฟังเบาๆ ทำรายงานจนถึงตอนเย็น
@ วันต่อมา
“ไม่ลืมของนะ ขี้เกียจเอาไปส่งให้ ดูดีๆ” โดนัทพูดขึ้นเมื่อน้องเดินลงมาจากห้องนอนตั้งท่าจะเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่หน้าบ้าน
“ไม่มีอะไรแล้วค่ะ มีอยู่อย่างเดียว ตังค์ค่าขนมหนูไงคะ” ลูกตาลแบมือไปด้านหน้า พร้อมยิ้มหวานให้พี่ชาย โดนัทเหมือนรู้หน้าที่ เขาหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมาก่อนยื่นแบงก์สีเทาหลายใบวางลงบนฝ่ามือเล็ก “ขอบคุณค่ะ” เด็กสาวยกมือไว้ ก่อนทั้งสองจะสวมกอดกัน
“ตั้งใจเรียนนะ เงินที่ให้พอไหม ถ้าไม่พอเดี๋ยวพี่โอนเข้าบัญชีให้เผื่อเอาไว้ ใช้ประหยัดๆ หน่อย กว่าพ่อกับแม่จะมา พี่คงกลายเป็นบุคคลล้มละลายแน่นอน”
“น้องสาวคนเดียวก็ยังเลี้ยงไม่ไหว แล้วจะไปทำอะไรกิน!!” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังของทั้งสองคน
“พี่เค้ก มาตั้งแต่ตอนไหนคะ ไหนบอกว่าอาทิตย์นี้ไม่กลับค่ะ” ลูกตาลทำเสียงตื่นเต้นเมื่อมองเห็นผู้เป็นพี่สาว ก่อนที่ทั้งสองจะกอดกันกลม เหมือนไม่ได้เจอกันมานานหลายปี
“พอแล้วน้องจะกลับหอ แท็กซี่รอนานแล้ว” โดนัทพูดขึ้น
“กลับเร็วจังนี่แค่เที่ยงเอง?”
“หนูต้องไปเอาโทรศัพท์ค่ะ เอาไว้หนูโทรหานะคะ ไปล่ะ บายจ้าาา” เด็กสาวรีบเร่งฝีเท้าเดินตรงไปที่หน้าบ้าน เพื่อขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่ เธอบอกจุดหมายปลายทางให้คนขับรถทราบในทันที การเดินทางมาที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่สุดในย่านนี้ ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที ถึงจะเป็นวันหยุด บนท้องถนนก็ไม่ขาดแคลนรถลดน้อยลงไปเลย
ลูกตาลเดินตรงมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เธอได้นัดแนะกับผู้ชายอีกคน เธอมาก่อนเวลานัดสามสิบนาที เมื่อได้ที่นั่งเรียบร้อยมือเล็กจึงหยิบไอแพดในกระเป๋าออกมาขอเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟในร้านอาหาร เธอแชทหาชายคนนั้นอีกครั้ง บอกว่าตัวเองได้มารอที่ร้านตามที่นัดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
“ขอโทษนะครับ” เสียงของชายหนุ่มทำให้ลูกตาลละสายตาจากหน้าจอไอแพดขึ้นมามอง ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเปิดกว้าง เอามือขึ้นป้องริมฝีปากที่เปิดอ้าออกด้วยความตกใจ
“คุณ!!”
“ครับ ผมชื่อทาเคชิ หรือจะเรียกเคชิก็ได้ครับ” ชายหนุ่มแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเด็กสาว เขาไม่ลืมที่จะเอาโทรศัพท์ส่งคืนให้กลับเธอ
“ขอบคุณมากค่ะ” เธอยกมือไหว้ก่อนจะยิ้มเจือจางส่งมาให้กลับเขา “ไม่คิดว่าโลกจะกลมถึงขนาดนี้นะคะ”
“ในทฤษฎี โลกของเราก็กลมนะครับ ว่าไหม?”
“ค่ะ” เธอยิ้มรับคำพูดของเขา “หนูชื่อลูกตาลค่ะ วันนั้นคือ….”
“ไม่ต้องพูดถึงหรอกครับ เรื่องที่มันผ่านไปก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะครับ ว่าแต่...หายปวดท้องหรือยังครับ” ทาเคชิถามเด็กสาวขึ้น เหมือนวันนั้นถ้าเขาจำไม่ผิด เธอคงปวดท้องด้วย จึงได้ถามหายาแก้ปวดกับหญิงสาวอีกคน แต่หารู้ไม่ว่า เรื่องที่เขาถามมันกลับไปสะกิดเรื่องน่าอายที่ผู้หญิงอย่างเธอไม่อยากให้ผู้ชายรู้
“ค่ะ...คือ..หนูขอเลี้ยงข้าวตอบแทนได้ไหมคะ”
“......” ไร้เสียงตอบรับจากทาเคชิ เขาจ้องมองเด็กสาวนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนสีหน้าของเธอจะดูไม่ดีกว่าเมื่อครู่
“หนูแค่..”
“ได้ครับ จะกินร้านนี้หรือจะเปลี่ยนร้านครับ”
“พี่ชอบอาหารแบบไหนคะ หนูตามใจพี่…” เหมือนว่าเธอจะรู้ตัว ว่าความหมายของคำพูด...มันมีความนัยแฝงเอาไว้
“อะไรก็ได้ครับ”
“งั้นทานร้านนี้ก็ได้ค่ะ พี่สั่งได้เลยนะคะ” ลูกตาลวางไอแพดในมือลง ก่อนที่จะเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร ร้านอาหารที่เลือกทานเป็นอาหารไทยทั่วๆ ไป เธอสั่งอาหารไม่เก่งมานัก ได้แต่นั่งขมวดคิ้วเป็นปมมองเมนูในมือ เหมือนคนตรงหน้าจะเดาออก เขาจึงเลือกสั่งอาหารมาเพียงไม่กี่อย่าง
“ไม่เคยทานอาหารนอกบ้าน หรือครับ”
“นานๆ ทีค่ะ ปกติจะไปกับครอบครัวไม่ก็เพื่อน หนูจะเป็นคนกินอย่างเดียวค่ะ..” เด็กสาวหัวเราะกลบเกลื่อนความน่าอายของตัวเอง ทำให้ทาเคชิยิ้มตามกับท่าทีน่ารักที่ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ “พี่ไม่ได้พักผ่อนหรอคะ หนูรบกวนเวลาพี่ไหมคะ”
“ไม่ครับ ปกติก็ตื่นเช้า เว้นแต่วันไหนดื่มหนัก ก็จะตื่นประมาณเที่ยงๆ” ทาเคชิก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองจะต้องบอกเรื่องส่วนตัวให้กับคนตรงหน้าได้รับรู้ “ว่าแต่น้องเรียนโรงเรียนXXX หรือครับ พี่เห็นอักษรปักที่เสื้อวันนั้น” ทาเคชิถามขึ้น เธอขมวดคิ้วเข้าหากันอีกครั้งเป็นคำถาม “พี่เป็นคนชนน้องที่ร้านเค้กเองครับ”