หอมหวน - 4 เด็กสาวคนนั้น.../1

1419 Words
เมื่อชายหนุ่มปีนข้ามไปยังห้องน้ำอีกห้อง ทุกอย่างก็กลับเข้าสู้โหมดความเงียบสงบ เด็กสาวกำผ้าอนามัยในมือแน่นมากกว่าเมื่อครู่ ความประหม่ากำลังทำให้เธอไม่กล้าทำธุระส่วนตัวในเวลานี้ แต่ถึงกระนั้น เธอก็ต้องกลั้นลมหายใจ ฉีกซองผ้าอนามัย พยายามลดเสียงให้น้อยที่สุด แต่เพราะความเงียบจนเกินไป ทุกอย่างจึงเกิดเสียงถึงแม้จะดังไม่มากนัก แต่ก็คงพอเดาออกได้ ว่าลูกตาลกำลังทำอะไรอยู่ สายตาของเธอยังคงจ้องมองไปด้านบนเพดานกลัวคนที่อยู่ห้องข้างๆ แอบมองการกระทำของตัวเอง มือไม้ที่กำลังสั่นเทา มันยิ่งลนลานเข้าไปใหญ่ ส่วนชายหนุ่มที่อยู่อีกห้อง เขากำลังยืนเอาหลังพิงบานประตูห้องน้ำ จิตใจก็นึกถึงใบหน้าของคนข้างๆ ห้องเช่นเดียวกัน แกร๊ก!! เสียงเปิดประตูห้องน้ำห้องข้างๆ ดังขึ้น พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เดินห่างออกไป ทำให้ทาเคชิพ้นลมหายใจหนักไปหนึ่งครั้ง เขาเปิดประตูออกจากห้องน้ำ ตรงมาที่อ่างล้างหน้า วักน้ำจากก๊อกตรงหน้าขึ้นล้างหน้าล้างตาให้ตัวเองฟื้นคืนสติที่กำลังคิดถึงแต่ใบหน้าที่ได้พบเจอเมื่อครู่ เขาพ้นลมหายใจออกมาอีกครั้งจ้องมองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ “อ้าวยังไม่กลับหรอ” ลัคกี้ที่เดินเข้ามาในห้องน้ำถามขึ้น “จะกลับแล้ว น้องไม่สบาย ขอบใจมากนะที่รับช่วงลูกค้าต่อ” ทาเคชิเอ่ยคำขอบคุณ “ไม่เป็นไร ลูกค้าคนนี้กูจะไปต่อด้วย” “แล้วแต่มึง” “มึงก็เหมือนเดิมนะไม่หวงลูกค้าตัวเอง ถ้าเป็นคนอื่น เขาไม่ปล่อยให้หลุดมือหรอก แต่ก็นะ..นี่มันเป็นมึงนิ..พรุ่งนี้เจอกันเพื่อน” เขาตบมือลงบนบ่าของทาเคชิ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยคำพูดใดออกมาอีก เขาก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำ เดินตรงลงมาที่ชั้นล่าง เพื่อบอกกล่าวหัวหน้างาน ที่นั่งอยู่หน้าบาร์ ทันทีที่กีวี่มองเห็นทาเคชิเขารีบวางไอแพดในมือลงที่เคาน์เตอร์บาร์ แล้วส่งยิ้มมาให้ในทันที “พี่กีวี่ วันนี้ผมขอลาสักวันนะครับ พอดีน้องไม่สบายครับ” “ได้สิ ว่าแต่..เราดูแลลูกค้าอยู่ไม่ใช่หรอ แล้วลูกค้าล่ะ??” “ให้ลัคกี้ดูแลต่อแล้วครับ ดริ้งวันนี้เอาให้เขาไปเลยนะครับ ถ้าไม่มีอะไรผมขอตัวก่อน” ทาเคชิเอ่ยคำลาอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่กีวี่จะพูดคำใด เขาก็เดินจากไป ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามอง อีกฝ่ายเป็นครั้งที่สอง ทาเคชิเดินตรงมายังรถยนต์สีดำของตัวเองที่จอดเอาไว้ที่หน้าบาร์ แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ก้าวขึ้นรถของตัวเอง สายตาก็พลันมองเห็น ใครคนหนึ่งที่เดินออกมาพร้อมผู้ชายที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี โดนัท ลูกปลา และเด็กสาวอีกคน ในใจของเขาเริ่มตั้งคำถาม ว่าเธอมีความสัมพันธ์อะไรกับทั้งสองคน “นายรีบพาน้องกลับไปพักผ่อนเลย เดี๋ยวงานที่นี่ฉันจัดการเอง” ลูกปลาหันหน้ามาพูดกับโดนัท ที่ยืนอยู่ข้างๆ น้ำเสียงของเธอเร่งเร้าให้อีกฝ่ายทำตามที่ตัวเองบอก “อย่าดื่มน้ำเย็นนะ เดี๋ยวปวดท้องหนักกว่าเดิม ถ้ามีอะไรโทรหาพี่ได้เลยนะจ๊ะน้องรัก” หญิงสาวสวมกอดเด็กสาวตรงหน้าด้วยความรักและเอ็นดู ลูกปลามองหน้าของลูกตาลเล็กน้อย เธอใช้ปลายนิ้วแตะลงที่ปลายจมูกนั้นอย่างรักใคร่ “กลับเข้าไปทำงานได้แล้ว อย่างอู้งานล่ะ” โดนัทพูดทิ้งท้าย ทำให้ลูกปลาหันมาถลึงตาใส่เพราะไม่ชอบน้ำเสียงที่อีกฝ่ายส่งมาให้ แต่เขากลับหัวเราะขำขัน เหมือนเป็นเรื่องตลก ก่อนที่เธอจะเดินเข้าบาร์ไป “พี่นัทหาอะไรคะ” ลูกตาลถามขึ้น เมื่อโดนัทเอามือล้วงกระเป๋าทุกซอกทุกมุม ก็ไม่เจอสิ่งของที่ตัวเองต้องการ “พี่ลืมกระเป๋าตังค์ เอานี่กุญแจรถไปรอพี่บนรถก่อน เดี๋ยวพี่มา” โดนัทยื่นกุญแจรถมาให้น้องสาว มือเล็กรีบรับของสิ่งนั้นมาอยู่ในมือทันที แล้วเดินแยกกันไป เธอเดินตรงมาที่รถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่ไม่ห่างมากนัก “อ้าว…ทำไม่ซุ่มซ่ามแบบนี้นะ” ลูกตาลบ่นให้กลับตัวเอง เมื่อทำกระเป๋าผ้าใบเล็กหลุดมือ ทำให้ข้าวของด้านในกระจัดกระจายไปทั่วพื้นปูน ทาเคชิที่นั่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ภายในรถ มองความซุ่มซ่ามของเด็กสาวแล้วนึกขำเพียงลำพัง ประตูรถถูกเปิดออกสองเท้ารีบเร่งเดินลงไปหาลูกตาล ก่อนที่เขาจะช่วยก้มลงเก็บของที่กระจายอยู่เต็มพื้น ด้วยเพราะความมืด ทำให้มือของเขาและเธอจับโดนสิ่งของชิ้นเดียวกัน ลูกตาลรีบชักมือกลับคล้ายมือกำลังจับโดนของร้อน ก่อนที่ดวงตาโตจะเบิกกว้าง เมื่อมองเห็นชายหนุ่มตรงหน้า “เดี๋ยวผมช่วยเก็บครับ เรื่องในห้องน้ำขอโทษอีกครั้งนะครับ” เขายังเอ่ยคำขอโทษเช่นเดิม ก่อนที่จะรีบเก็บของส่งให้กลับลูกตาล “ขะ ขอบคุณค่ะ” เด็กสาวมีอาการลนลาน สบสายตาของเขาเพียงชั่วครู่ เร่งรีบเดินไปที่รถที่จอดอยู่ตรงหน้า การกระทำของเธอยิ่งทำให้ทาเคชิยิ้มมุมปาก พึงพอใจไม่น้อยกับอาการเขินอายของคนตรงหน้า ไม่นานผู้ชายที่เขาคุ้นตาก็เดินตรงมาที่รถแล้วขับออกไป ชายหนุ่มเพ่งพินิจของที่ตกอยู่บนพื้นอีกครั้ง เมื่อกำลังจะก้าวเดินมาที่รถของตัวเอง โทรศัพท์มือถือแบรนด์ดัง ตกอยู่ที่พื้น แต่ดูท่าเหมือนเครื่องจะปิดอยู่ แต่เขากดปุ่มเปิดเครื่องยังไง โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ไม่ยอมเปิดขึ้นมา เขาจึงเก็บโทรศัพท์ลงถุงกางเกง เร่งรีบเดินทางกลับ เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าน้องชายกำลังป่วย รถยนต์ของทาเคชิขับเข้ามาจอดหน้าอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง แต่เวลานี้ร้านปิดทำการเป็นที่เรียบร้อย เขาเปิดประตูรถยนต์ เดินลงไปเปิดประตูเหล็กเลื่อนบานใหญ่ ก่อนที่จะขับเคลื่อนรถยนต์เข้ามาด้านใน เก็บรถยนต์ส่วนตัวไว้ที่โรงจอดรถที่ประจำของตัวเอง “อ้าวเฮียวันนี้ทำไมกลับเร็วจัง” เด็กหนุ่มตะวันถามขึ้น “ไอ้เจเป็นไง” “อ้อ ที่แท้เฮียเพชรก็โทรบอกเฮีย ว่าไอ้เจไม่สบายนี่เองถึงรีบกลับ รายนั้นนอนหมดสภาพอยู่ในห้องแล้วครับ ผมเอายาให้ทานไปแล้ว ไม่รู้ไปกินอะไรมา ท้องเสีย ผมจะพาไปโรงพยาบาลก็ไม่ไป” ตะวันส่ายหน้า ให้กับความดื้นรั้นของญาติสนิท ที่อายุอานามเท่ากัน และยังเป็นเพื่อนสนิทของตนเอง “อืม เดี๋ยวไปดูหน่อย ถ้าไม่ไหวก็ต้องไปหาหมอ แล้วไอ้เพชรมันไปไหน หลายวันแล้วอยู่ไม่ติดบ้าน” เขาถามขึ้น สองเท้าก็ออกก้าวเดินเข้ามาในบ้าน ที่ถูกสร้างเอาไว้ที่หลังอู่ซ่อมรถ ในบ้านหลังนี้ อาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมดสี่ชีวิตของชายโสด “เพชรกล้า” ที่เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา “ดีเจ” ที่เป็นน้องแท้ๆ ของเพชรกล้า และ “ตะวัน” ที่เป็นญาติสนิทของทั้งสองคน ทุกคนในบ้านหลังนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนไร้ญาติขาดมิตร ทาเคชิเติบโตที่ญี่ปุ่น พ่อของเขาเป็นเชฟทำของหวาน แม่ของเขาก็เป็นคนญี่ปุ่น แต่ทั้งสองแยกทางกันตอนที่เขาอายุเพียงสามขวบ และยังมีน้องสาวที่พึ่งคลอดได้เพียงไม่กี่เดือน เหตุผลที่ทั้งสองเลิกรากัน พ่อไม่เคยบอกสาเหตุนั้น และชายหนุ่มก็ไม่เคยถามถึงเรื่องนั้น มีเพียงรูปถ่ายครอบครัวใบเดียวที่พ่อยื่นมาตรงหน้าให้เขาเก็บเอาไว้ “แม่รักลูกมากนะเคชิ ถ้าจะให้ผิดคงผิดที่พ่อเอง อย่าโทษแม่เลยนะ พ่อขอโทษที่ทำให้ลูกต้องแยกจากแม่” นี่คือคำพูดสุดท้ายที่ทั้งสองได้คุยกันถึงเรื่องของแม่ ทาเคชิไม่รู้เรื่องของแม่มากนัก ความจำในวัยเด็กมันหายเลือนรางไปตามกาลเวลาที่เดินไปข้างหน้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD