ตอนที่4 Stalker

1934 Words
“หมายความว่าไงนะคะ” “ครูพายถูกพักงานสองอาทิตย์ ครูน้ำรินก็มาดูแลห้องทานตะวันแทนก็แล้วกันนะ” “แต่ว่า...” คำตัดสินคงชัดเจนแล้วว่าใครกันแน่ที่ถูกใส่ความ น้ำรินมาทำงานตามปกติแต่ทว่าครูประจำชั้นห้องทานตะวันถูกพักงานเสียเอง “พ่อน้องแสนดีเขาจะโอเคเหรอคะ” ไอ้ยอดลูกตาแย้นี่แหละที่มากล่าวหาเธอว่าไปหยิกก้นลูกสาวจนเขียวช้ำ น้ำรินเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่นะ พวกเขาย่อมรักและหวงลูกดั่งไข่ในหิน “น้องแสนดีเขายืนยันกับคุณพ่อและคุณยายแล้วว่าครูน้ำรินไม่ได้ทำ” “แล้วเขาเชื่อมั้ยล่ะคะ” “ไม่เชื่อเราก็ไม่แปลก แต่เด็กมันไม่โกหกหรอก ถ้าเขาจะไม่เชื่อลูกเขาก็ตามใจ” น้องแสนดีเป็นเด็กน่ารัก คุยเก่งตามประสาและก็ติดครูน้ำรินแจ ยัยหนูตัวเล็กดีใจออกนอกหน้าเลยตอนที่รู้ว่าน้ำรินจะเข้ามาดูแลห้องทานตะวันแทนคุณครูพาย “ริน...” คนเป็นพ่อตั้งตารอเวลาเลิกเรียนของลูกสาวอย่างใจจดใจจ่อ ยอดไม่ได้มารอรับแสนดีอย่างเดียวแต่ตั้งใจมาเจอครูน้ำรินต่างหาก “แสนดีค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะ” น้ำรินแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินที่ยอดทัก เธอมองเลยหัวผู้ชายตัวโตคนบ้านเดียวกันเสียด้วยซ้ำไป “ริน...คือเราขอโทษ” “ผู้ปกครองน้องแสนดียังไม่กลับอีกเหรอคะ ตอนเย็นๆ แถวนี้รถติดนะ” “ริน! เราอยากขอโทษที่กล่าวหารินวันนั้น” “ถ้ายังไม่กลับดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” “ริน!” ยอดคว้าแขนของน้ำรินไว้เพราะเธอเอาแต่จะหนีและเมินหน้าเขา “ที่นี่มันเขตโรงเรียนนะคะ จะทำอะไรช่วยดูหน่อย มันเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี เด็กๆ อาจจะจำแล้วไปทำตามได้นะคะ” “ริน! งั้นคืนนี้ออกมาเจอเราหน่อยได้มั้ย” “ไม่ได้หรอกค่ะ ไม่มีความจำเป็นที่เราต้องพบกันนอกเขตโรงเรียน” น้ำรินสะบัดแขนออกจากมือของยอด ไอ้คนขี้โกหกแล้วยังหาเรื่องใส่ความเธออีกต่างหาก กุกๆ กักๆ “ว๊ายย...!” หลังโรงเรียนเลิกและผู้ปกครองมาบุตรหลานของตัวเองกลับบ้านแล้วเสร็จ คุณครูน้ำรินเตรียมสื่อการเรียนของวันต่อไปเรียบร้อยแล้วเธอก็กำลังเดินทางกลับบ้าน บ้านพักอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนอนุบาลหมีขั้วโลกเหนือนัก เพียงแค่นั่งวินก็เป็นอันถึงจุดหมาย เธอไม่ชอบรถติด ไม่ชอบอยู่ในที่คนไปมาพลุกพล่าน สิ่งอำนวยความสะดวกสบายแลกมาด้วยความจอแจวุ่นวาย น้ำรินชอบบ้านพักครูที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมไว้ แต่ไม่ครูคนอื่นอาศัยอยู่ด้วยเลยสักคน “รินพักที่นี่เหรอ” ยอดถือวิสาสะแอบตามคุณครูของแสนดี เขามีเรื่องอยากเคลียร์ใจกับน้ำรินเพื่อไม่ให้ค้างคากันต่อไปอีกในฐานะคนบ้านเดียวกัน เรายังต้องเจอกันอีกไม่ว่าฐานะอะไรก็ตาม ฉะนั้นจึงอยากให้มันจบ “ยอด! แอบสะกดรอยตามรินมาเหรอ” “เราอยากคุยกับรินดีๆ นี้หน่า” “ก็เลยต้องแอบตามมา” “รินไม่เปิดโอกาสให้เราพูดเลย” ยอดมองสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว บ้านพักครูโรงเรียนอนุบาลชื่อดังแต่สภาพแวดล้อมไม่น่าอภิรมย์ มันดูปีกวิเวกวังเวงชอบกล คล้ายหอพักผีสิงในภาพยนตร์ที่เคยดู “รินอยู่ในที่แบบนี้เหรอ” “ทำไม” “เปล่าๆ เราขอคุยกับรินสักประเดี๋ยวได้มั้ย” ยอดเข้าเรื่องที่ต้องการ ในฐานะพ่อที่ต้องฝากลูกสาวให้ครูน้ำรินดูแลเขาเกรงว่าลูกจะไม่ได้รับการเอาใส่ใจเท่าที่ควร และในฐานะคนบ้านเดียวกันที่เห็นหน้าค่าตามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย พึ่งพาอาศัยกันอยู่ตลอด เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ไม่ควรปล่อยให้ค้างคาใจ “มาถึงขั้นนี้แล้วก็ว่ามาสิ” “จะยืนคุยกันตรงนี้เหรอ” “เอ๊ะ! เราต้องเชิญยอดขึ้นห้องด้วยเหรอ” “แหม...เราไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่อย่างน้อยๆ ก็ควรหาที่คุยกันดีๆ หน่อยไม่ได้เหรอ” ยืนคุยกันหน้าบ้านพักครูใต้ต้นมะม่วงในเวลาโพล้เพล้ ยุงก็เริ่มตอมขาแล้ว “เห้อ...งั้นรอแปบหนึ่ง” น้ำรินถอนลมหายใจใส่ เธอกลับหลังหันไขกุญแจเข้าบ้าน ใช้เวลาไม่เกินสิบนาทีก็เดินออกมาใหม่ในชุดเดรสกระโปรงสั้นสบายๆ แต่ก็ยังดูดี “ยืนทำอะไรอยู่” “ไปไหน” “ก็ไปหาที่คุยไง เร็วๆ” น้ำรินเดินไปยังรถของยอดที่เขาแอบจอดไว้ไม่ไกลนัก ถนนเปลี่ยวไม่ค่อยมีใครสัญจรผ่านเธอจึงเดาได้ไม่ยากว่าคันนี้ต้องของยอดแน่นอน ❱❱❱‐‐𝕆‐𝕚‐𝕟‐𝕣‐𝕠‐𝕒‐‐➤ อึ้ก... คนขับเหลือบมาขาขาวๆ ที่พ้นจากชายกระโปรงออกมา น้ำรินนั่งไขว่ห้างแกว่งขา เธอดูแสบซ่า ก๋ากั่นและซุกซน “จะพาไปที่ไหน” “เราไม่ค่อยรู้จักร้านอาหารในกรุงเทพฯเท่าไร รินมีแนะนำมั้ย” “รินรู้จักแต่ร้านเหล้า” คุณครูคนสวยตอบแบบไม่ใส่ใจนัก ชีวิตวัยทำงานตอนต้นคาบเอี่ยวกับวัยรุ่นตอนปลายของเธอก็เที่ยวแต่สถานที่แบบนี้ “งั้นไปร้านเหล้าก็ได้” “พอเหล้าเข้าปากแล้วจะคุยกันรู้เรื่องมั้ย” “รินอยากไปที่ไหน” ระหว่างติดไฟแดง มือหนาต้องเอื้อมมากุมกระปุกเกียร์ มันห่างต้นขาขาวๆ ของน้ำรินเพียงคืบ “ร้านเหล้าก็ได้ แต่ไม่ดึกนะ พรุ่งนี้รินมีเวรหน้าประตู” “ได้! โอเค” ยอดขับรถตามเส้นทางที่น้ำรินเป็นคนบอก ช่วงหัวค่ำแบบนี้ยังไม่มีลูกค้ามาจับจองโต๊ะ ดีเจเปิดเพลงคลอเบาๆ ไม่หนวกหู “เบียร์หนึ่งทาวจ้ะ” คุณครูสาวสั่งเครื่องดื่มตามใจชอบ สั่งทีละขวดทีละเหยือกมันขัดมูส สู้สั่งมาทีเดียวหนึ่งทาวเวอร์ หมดไม่หมดก็ค่อยว่ากัน “เราต้องขับรถนะริน” “รินสั่งมากินเอง” “โอ้โห...” ผู้ชายอกสามศอกลอบกลืนน้ำลาย ถ้ารินกินโหดขนาดนี้แสดงว่าคอแข็งน่าดู “ไอ้ผู้ชายตอแหลม!!” พอน้ำเมาเข้าปากคุณครูสาวที่แสนสุภาพรักเด็กรักต้นไม้รักน้ำรักปลารักซากุระก็เริ่มเปรี้ยวจี๊ด น้ำรินกระดกแก้วเบียร์หมดเกลี้ยงแล้ววางแก้วกระแทกโต๊ะดังปึ้ง! ชี้หน้า “รินเบาๆ หน่อย” “อายเหรอ อายทำไม” “คนมองหมดแล้ว” “แกรู้จักเหรอไอ้ยอด ถ้าไม่รู้จักก็ไม่เห็นต้องอาย” ครูน้ำรินเมา เธอเริ่มโวยวายตีโพยตีพายยกใหญ่ “นี้ทุกคน ไอ้บ้านี้มันหลอกฉันว่าโสด ไม่มีลูก ไม่มีเมีย” “เฮ้ยริน!” ยอดกระโดดไปนั่งโซฟาตัวเดียวกันแล้วปิดปากคนเมา ไม่น่าปล่อยให้รินกินเบียร์ครึ่งทาวคนเดียวแบบนี้เลย แต่เขาต้องขับรถก็ไม่สามารถดื่มเป็นเพื่อนเธอได้ “ตัวเองอยู่บ้านนอกแต่หมกลูกหมกเมียที่กรุงเทพฯ” “รินพอได้แล้ว กลับเถอะ” “ไม่กลับเว้ย เพิ่งสามทุ่มเองจะรีบกลับทำไม” ครูน้ำรินลืมไปหมดแล้วว่าพรุ่งนี้เช้าตัวเองมีเวรหน้าประตู ทำหน้าที่เปรียบเสมือนพนักงานต้อนรับ คอยต้อนรับผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียน “ถ้าไม่กลับก็กินกันเงียบๆ ได้มั้ย” “แบบที่แกกับฉันแอบกินกันเงียบๆ น่ะเหรอ แหมไอ้เวร...ปากบอกว่าเป็นห่วงความรู้สึกผู้ใหญ่ ไม่อยากให้พ่อกับแม่ของฉันรู้ แต่ที่แท้แกนั่นแหละที่ไม่อยากบอกคนอื่น” “โธ่ริน...” ยอดถอนใจ เขาไม่ได้บอกใครทั้งนั้นเรื่องแอบมีอะไรกับน้ำรินตั้งแต่สมัยเรียนที่สกลฯ ตอนนั้นพวกยังเด็กและไม่ได้คบหากันแบบระบุสถานะ เรียกว่าเป็นเพื่อนกินลับๆ เท่านั้น “ไอ้ผู้ชายขี้โกหกเอ๊ย” “รินก็ไม่ได้อยากคบกับเราสักหน่อย ถูกมั้ย” “แกก็พลอยได้ประโยชน์ไปด้วยไง” “เออ! แล้วรินมาโกรธอะไรเรา” ยอดตั้งคำถามกับคนเมา น้ำรินเป็นพูดเองว่าระหว่างเราสองคนไม่มีอะไรมากไปกว่าหาความสนุกใส่ตัวเอง “แกก็เห็นว่าพ่อแม่จับคู่พวกเรา” “แต่รินก็ปฏิเสธไปแล้วนี้” ยอดรู้อยู่แล้วข้อนี้ เพราะเธอไม่อยากกลับไปแต่งงานกับชาวไร่อย่างเขาแล้วมีชีวิตอับเฉาที่บ้านนอก เธออยากอยู่ในเมืองกรุง ทำงานแต่งตัวสวยๆ แบบที่เห็นอยู่นี้ “หรือจริงๆ แล้วรินไม่ได้ปฏิเสธ รินแค่บอกพ่อกับแม่ไปแบบนั้นใช่มั้ย” ชายหนุ่มตาโตลุกวาว ยอดพร้อมจะเปิดใจลองศึกษาน้ำรินจริงๆ หากทุกด้านเราเข้ากันได้ดีเหมือนเรื่องเพศ การแต่งงานก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัว “แกกับเมียมีลูกด้วยกันจนสี่ห้าขวบแล้วยังจะให้พ่อกำนันจับคู่กับฉันอีก แกต้องเป็นผู้ชายแบบไหนฮะไอ้ยอด หน็อย...คิดจะมีเมียที่กรุงเทพฯคนหนึ่ง ที่บ้านนอกอีกคนหนึ่งรึไงฮะ” น้ำรินเสียงเขียว ผู้ชายสมัยนี้มันไว้ใจไม่ได้จริงๆ เชียว ยกเว้นผอ.หลุยส์ อังเดรไว้หนึ่งคนที่โง่ที่สุด ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย “เราเลิกกับแม่แสนดีแล้ว” “ฮะ” “เราทำแม่แสนดีตั้งท้องตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เขาไม่อยากแต่งงานกับคนบ้านนอกอย่างเรา ก็เลยตกลงกันว่าช่วยกันดูแลลูก ทำหน้าที่พ่อแม่ของแสนดีก็พอ” “ตอแหล! อีกรึเปล่า...” คนเมากำลังประมวลผล จะว่าไปเธอก็ไม่เคยเห็นหน้าคุณแม่แสนดีเลยสักครั้ง เคยแต่คุณตาคุณยายมารับมาส่งเท่านั้นหรือวันที่แม่แสนดีมาส่งลูกสาว น้ำรินอาจจะไม่ทันเห็นเองก็ได้ “จริงๆ จำได้มั้ยที่เราเข้าเรียนมหา’ลัยช้ากว่ารินแล้วก็คนอื่นไปหนึ่งปี ก็เพราะติดต้องมาเคลียร์เรื่องแสนดีนี้ไง” “ตอนนั้นที่แกโกหกว่าจะมาเข้ามหา’ลัยที่กรุงเทพฯน่ะเหรอ” “ใช่” เด็กหนุ่มวัยคะนองพลาดทำผู้หญิงท้องแล้วก็เกือบทำลายอนาคตตัวเองกับผู้หญิงคนนั้น แต่ปัญหาทุกอย่างก็เคลียร์ลงตัวได้อย่างดีเยี่ยม “เรากับแม่แสนดีเลิกกันแล้วจริงๆ อืม...จริงๆ แล้วไม่ได้เรียกว่าคบกันถึงจะถูก เขาแค่พลาดที่ท้องกับเรา” “ทำไมไม่รู้จักป้องกันล่ะ” “ก็เอาสดมันเสียวกว่านี้หน่า” “ไอ้ยอด...” คำว่าสดกับคำว่าเสียวจากยอดมันกระตุ้นต่อมกระสันให้ตื่นขึ้น ไม่กี่วันก่อนเพิ่งมีอะไรกับผอ.หลุยส์ไปเอง วันนี้น้ำรินรู้สึกเสียววาบในช่องท้องอีกแล้ว “เราไม่มีใครจริงๆ นะริน” “ฉันจะเชื่อแกได้ไง” “ลองจับดูสิ” ยอดดึงมือคุณครูน้ำรินไปวางลงกล่องดวงใจใต้กางเกงยีนสีเข้ม มีแท่งแข็งๆ ดันซิปจนปูดโปน หญิงสาวกลืนน้ำลายอย่างช่วยไม่ได้ “คอแข็งแล้วมันเกี่ยวกันยังไงฮะ” “ก็มันไม่มีคนให้ระบายออกไง” “จะบอกว่าอดอยากปากแห้งว่างั้นสิ” น้ำรินเผลอลูบๆ คลำๆ แท่งแข็งๆ ที่มันพยายามดันซิปกางเกง ต้องเป็นเพราะยังไม่ได้กินมื้อเย็นแน่ๆ เวลาสามทุ่มแบบนี้เธอถึงได้รู้สึกหิวจนอยากจะควักเอ็นเนื้อออกมากินสักคำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD