“หมายความว่าไงนะคะ”
“ครูพายถูกพักงานสองอาทิตย์ ครูน้ำรินก็มาดูแลห้องทานตะวันแทนก็แล้วกันนะ”
“แต่ว่า...” คำตัดสินคงชัดเจนแล้วว่าใครกันแน่ที่ถูกใส่ความ
น้ำรินมาทำงานตามปกติแต่ทว่าครูประจำชั้นห้องทานตะวันถูกพักงานเสียเอง
“พ่อน้องแสนดีเขาจะโอเคเหรอคะ” ไอ้ยอดลูกตาแย้นี่แหละที่มากล่าวหาเธอว่าไปหยิกก้นลูกสาวจนเขียวช้ำ
น้ำรินเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่นะ พวกเขาย่อมรักและหวงลูกดั่งไข่ในหิน
“น้องแสนดีเขายืนยันกับคุณพ่อและคุณยายแล้วว่าครูน้ำรินไม่ได้ทำ”
“แล้วเขาเชื่อมั้ยล่ะคะ”
“ไม่เชื่อเราก็ไม่แปลก แต่เด็กมันไม่โกหกหรอก ถ้าเขาจะไม่เชื่อลูกเขาก็ตามใจ”
น้องแสนดีเป็นเด็กน่ารัก คุยเก่งตามประสาและก็ติดครูน้ำรินแจ ยัยหนูตัวเล็กดีใจออกนอกหน้าเลยตอนที่รู้ว่าน้ำรินจะเข้ามาดูแลห้องทานตะวันแทนคุณครูพาย
“ริน...” คนเป็นพ่อตั้งตารอเวลาเลิกเรียนของลูกสาวอย่างใจจดใจจ่อ
ยอดไม่ได้มารอรับแสนดีอย่างเดียวแต่ตั้งใจมาเจอครูน้ำรินต่างหาก
“แสนดีค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะ” น้ำรินแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินที่ยอดทัก
เธอมองเลยหัวผู้ชายตัวโตคนบ้านเดียวกันเสียด้วยซ้ำไป
“ริน...คือเราขอโทษ”
“ผู้ปกครองน้องแสนดียังไม่กลับอีกเหรอคะ ตอนเย็นๆ แถวนี้รถติดนะ”
“ริน! เราอยากขอโทษที่กล่าวหารินวันนั้น”
“ถ้ายังไม่กลับดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“ริน!” ยอดคว้าแขนของน้ำรินไว้เพราะเธอเอาแต่จะหนีและเมินหน้าเขา
“ที่นี่มันเขตโรงเรียนนะคะ จะทำอะไรช่วยดูหน่อย มันเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี เด็กๆ อาจจะจำแล้วไปทำตามได้นะคะ”
“ริน! งั้นคืนนี้ออกมาเจอเราหน่อยได้มั้ย”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ไม่มีความจำเป็นที่เราต้องพบกันนอกเขตโรงเรียน” น้ำรินสะบัดแขนออกจากมือของยอด
ไอ้คนขี้โกหกแล้วยังหาเรื่องใส่ความเธออีกต่างหาก
กุกๆ กักๆ
“ว๊ายย...!” หลังโรงเรียนเลิกและผู้ปกครองมาบุตรหลานของตัวเองกลับบ้านแล้วเสร็จ คุณครูน้ำรินเตรียมสื่อการเรียนของวันต่อไปเรียบร้อยแล้วเธอก็กำลังเดินทางกลับบ้าน
บ้านพักอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนอนุบาลหมีขั้วโลกเหนือนัก เพียงแค่นั่งวินก็เป็นอันถึงจุดหมาย
เธอไม่ชอบรถติด ไม่ชอบอยู่ในที่คนไปมาพลุกพล่าน สิ่งอำนวยความสะดวกสบายแลกมาด้วยความจอแจวุ่นวาย น้ำรินชอบบ้านพักครูที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมไว้ แต่ไม่ครูคนอื่นอาศัยอยู่ด้วยเลยสักคน
“รินพักที่นี่เหรอ” ยอดถือวิสาสะแอบตามคุณครูของแสนดี
เขามีเรื่องอยากเคลียร์ใจกับน้ำรินเพื่อไม่ให้ค้างคากันต่อไปอีกในฐานะคนบ้านเดียวกัน เรายังต้องเจอกันอีกไม่ว่าฐานะอะไรก็ตาม ฉะนั้นจึงอยากให้มันจบ
“ยอด! แอบสะกดรอยตามรินมาเหรอ”
“เราอยากคุยกับรินดีๆ นี้หน่า”
“ก็เลยต้องแอบตามมา”
“รินไม่เปิดโอกาสให้เราพูดเลย” ยอดมองสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว
บ้านพักครูโรงเรียนอนุบาลชื่อดังแต่สภาพแวดล้อมไม่น่าอภิรมย์ มันดูปีกวิเวกวังเวงชอบกล คล้ายหอพักผีสิงในภาพยนตร์ที่เคยดู
“รินอยู่ในที่แบบนี้เหรอ”
“ทำไม”
“เปล่าๆ เราขอคุยกับรินสักประเดี๋ยวได้มั้ย” ยอดเข้าเรื่องที่ต้องการ
ในฐานะพ่อที่ต้องฝากลูกสาวให้ครูน้ำรินดูแลเขาเกรงว่าลูกจะไม่ได้รับการเอาใส่ใจเท่าที่ควร และในฐานะคนบ้านเดียวกันที่เห็นหน้าค่าตามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย พึ่งพาอาศัยกันอยู่ตลอด เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ไม่ควรปล่อยให้ค้างคาใจ
“มาถึงขั้นนี้แล้วก็ว่ามาสิ”
“จะยืนคุยกันตรงนี้เหรอ”
“เอ๊ะ! เราต้องเชิญยอดขึ้นห้องด้วยเหรอ”
“แหม...เราไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่อย่างน้อยๆ ก็ควรหาที่คุยกันดีๆ หน่อยไม่ได้เหรอ” ยืนคุยกันหน้าบ้านพักครูใต้ต้นมะม่วงในเวลาโพล้เพล้ ยุงก็เริ่มตอมขาแล้ว
“เห้อ...งั้นรอแปบหนึ่ง” น้ำรินถอนลมหายใจใส่
เธอกลับหลังหันไขกุญแจเข้าบ้าน ใช้เวลาไม่เกินสิบนาทีก็เดินออกมาใหม่ในชุดเดรสกระโปรงสั้นสบายๆ แต่ก็ยังดูดี
“ยืนทำอะไรอยู่”
“ไปไหน”
“ก็ไปหาที่คุยไง เร็วๆ” น้ำรินเดินไปยังรถของยอดที่เขาแอบจอดไว้ไม่ไกลนัก
ถนนเปลี่ยวไม่ค่อยมีใครสัญจรผ่านเธอจึงเดาได้ไม่ยากว่าคันนี้ต้องของยอดแน่นอน
❱❱❱‐‐𝕆‐𝕚‐𝕟‐𝕣‐𝕠‐𝕒‐‐➤
อึ้ก...
คนขับเหลือบมาขาขาวๆ ที่พ้นจากชายกระโปรงออกมา น้ำรินนั่งไขว่ห้างแกว่งขา เธอดูแสบซ่า ก๋ากั่นและซุกซน
“จะพาไปที่ไหน”
“เราไม่ค่อยรู้จักร้านอาหารในกรุงเทพฯเท่าไร รินมีแนะนำมั้ย”
“รินรู้จักแต่ร้านเหล้า” คุณครูคนสวยตอบแบบไม่ใส่ใจนัก
ชีวิตวัยทำงานตอนต้นคาบเอี่ยวกับวัยรุ่นตอนปลายของเธอก็เที่ยวแต่สถานที่แบบนี้
“งั้นไปร้านเหล้าก็ได้”
“พอเหล้าเข้าปากแล้วจะคุยกันรู้เรื่องมั้ย”
“รินอยากไปที่ไหน” ระหว่างติดไฟแดง มือหนาต้องเอื้อมมากุมกระปุกเกียร์ มันห่างต้นขาขาวๆ ของน้ำรินเพียงคืบ
“ร้านเหล้าก็ได้ แต่ไม่ดึกนะ พรุ่งนี้รินมีเวรหน้าประตู”
“ได้! โอเค” ยอดขับรถตามเส้นทางที่น้ำรินเป็นคนบอก
ช่วงหัวค่ำแบบนี้ยังไม่มีลูกค้ามาจับจองโต๊ะ ดีเจเปิดเพลงคลอเบาๆ ไม่หนวกหู
“เบียร์หนึ่งทาวจ้ะ” คุณครูสาวสั่งเครื่องดื่มตามใจชอบ
สั่งทีละขวดทีละเหยือกมันขัดมูส สู้สั่งมาทีเดียวหนึ่งทาวเวอร์ หมดไม่หมดก็ค่อยว่ากัน
“เราต้องขับรถนะริน”
“รินสั่งมากินเอง”
“โอ้โห...” ผู้ชายอกสามศอกลอบกลืนน้ำลาย
ถ้ารินกินโหดขนาดนี้แสดงว่าคอแข็งน่าดู
“ไอ้ผู้ชายตอแหลม!!” พอน้ำเมาเข้าปากคุณครูสาวที่แสนสุภาพรักเด็กรักต้นไม้รักน้ำรักปลารักซากุระก็เริ่มเปรี้ยวจี๊ด
น้ำรินกระดกแก้วเบียร์หมดเกลี้ยงแล้ววางแก้วกระแทกโต๊ะดังปึ้ง! ชี้หน้า
“รินเบาๆ หน่อย”
“อายเหรอ อายทำไม”
“คนมองหมดแล้ว”
“แกรู้จักเหรอไอ้ยอด ถ้าไม่รู้จักก็ไม่เห็นต้องอาย” ครูน้ำรินเมา เธอเริ่มโวยวายตีโพยตีพายยกใหญ่
“นี้ทุกคน ไอ้บ้านี้มันหลอกฉันว่าโสด ไม่มีลูก ไม่มีเมีย”
“เฮ้ยริน!” ยอดกระโดดไปนั่งโซฟาตัวเดียวกันแล้วปิดปากคนเมา
ไม่น่าปล่อยให้รินกินเบียร์ครึ่งทาวคนเดียวแบบนี้เลย แต่เขาต้องขับรถก็ไม่สามารถดื่มเป็นเพื่อนเธอได้
“ตัวเองอยู่บ้านนอกแต่หมกลูกหมกเมียที่กรุงเทพฯ”
“รินพอได้แล้ว กลับเถอะ”
“ไม่กลับเว้ย เพิ่งสามทุ่มเองจะรีบกลับทำไม” ครูน้ำรินลืมไปหมดแล้วว่าพรุ่งนี้เช้าตัวเองมีเวรหน้าประตู ทำหน้าที่เปรียบเสมือนพนักงานต้อนรับ คอยต้อนรับผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียน
“ถ้าไม่กลับก็กินกันเงียบๆ ได้มั้ย”
“แบบที่แกกับฉันแอบกินกันเงียบๆ น่ะเหรอ แหมไอ้เวร...ปากบอกว่าเป็นห่วงความรู้สึกผู้ใหญ่ ไม่อยากให้พ่อกับแม่ของฉันรู้ แต่ที่แท้แกนั่นแหละที่ไม่อยากบอกคนอื่น”
“โธ่ริน...” ยอดถอนใจ
เขาไม่ได้บอกใครทั้งนั้นเรื่องแอบมีอะไรกับน้ำรินตั้งแต่สมัยเรียนที่สกลฯ ตอนนั้นพวกยังเด็กและไม่ได้คบหากันแบบระบุสถานะ เรียกว่าเป็นเพื่อนกินลับๆ เท่านั้น
“ไอ้ผู้ชายขี้โกหกเอ๊ย”
“รินก็ไม่ได้อยากคบกับเราสักหน่อย ถูกมั้ย”
“แกก็พลอยได้ประโยชน์ไปด้วยไง”
“เออ! แล้วรินมาโกรธอะไรเรา” ยอดตั้งคำถามกับคนเมา
น้ำรินเป็นพูดเองว่าระหว่างเราสองคนไม่มีอะไรมากไปกว่าหาความสนุกใส่ตัวเอง
“แกก็เห็นว่าพ่อแม่จับคู่พวกเรา”
“แต่รินก็ปฏิเสธไปแล้วนี้” ยอดรู้อยู่แล้วข้อนี้
เพราะเธอไม่อยากกลับไปแต่งงานกับชาวไร่อย่างเขาแล้วมีชีวิตอับเฉาที่บ้านนอก เธออยากอยู่ในเมืองกรุง ทำงานแต่งตัวสวยๆ แบบที่เห็นอยู่นี้
“หรือจริงๆ แล้วรินไม่ได้ปฏิเสธ รินแค่บอกพ่อกับแม่ไปแบบนั้นใช่มั้ย” ชายหนุ่มตาโตลุกวาว ยอดพร้อมจะเปิดใจลองศึกษาน้ำรินจริงๆ หากทุกด้านเราเข้ากันได้ดีเหมือนเรื่องเพศ การแต่งงานก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
“แกกับเมียมีลูกด้วยกันจนสี่ห้าขวบแล้วยังจะให้พ่อกำนันจับคู่กับฉันอีก แกต้องเป็นผู้ชายแบบไหนฮะไอ้ยอด หน็อย...คิดจะมีเมียที่กรุงเทพฯคนหนึ่ง ที่บ้านนอกอีกคนหนึ่งรึไงฮะ” น้ำรินเสียงเขียว
ผู้ชายสมัยนี้มันไว้ใจไม่ได้จริงๆ เชียว ยกเว้นผอ.หลุยส์ อังเดรไว้หนึ่งคนที่โง่ที่สุด ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
“เราเลิกกับแม่แสนดีแล้ว”
“ฮะ”
“เราทำแม่แสนดีตั้งท้องตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เขาไม่อยากแต่งงานกับคนบ้านนอกอย่างเรา ก็เลยตกลงกันว่าช่วยกันดูแลลูก ทำหน้าที่พ่อแม่ของแสนดีก็พอ”
“ตอแหล! อีกรึเปล่า...” คนเมากำลังประมวลผล
จะว่าไปเธอก็ไม่เคยเห็นหน้าคุณแม่แสนดีเลยสักครั้ง เคยแต่คุณตาคุณยายมารับมาส่งเท่านั้นหรือวันที่แม่แสนดีมาส่งลูกสาว น้ำรินอาจจะไม่ทันเห็นเองก็ได้
“จริงๆ จำได้มั้ยที่เราเข้าเรียนมหา’ลัยช้ากว่ารินแล้วก็คนอื่นไปหนึ่งปี ก็เพราะติดต้องมาเคลียร์เรื่องแสนดีนี้ไง”
“ตอนนั้นที่แกโกหกว่าจะมาเข้ามหา’ลัยที่กรุงเทพฯน่ะเหรอ”
“ใช่” เด็กหนุ่มวัยคะนองพลาดทำผู้หญิงท้องแล้วก็เกือบทำลายอนาคตตัวเองกับผู้หญิงคนนั้น แต่ปัญหาทุกอย่างก็เคลียร์ลงตัวได้อย่างดีเยี่ยม
“เรากับแม่แสนดีเลิกกันแล้วจริงๆ อืม...จริงๆ แล้วไม่ได้เรียกว่าคบกันถึงจะถูก เขาแค่พลาดที่ท้องกับเรา”
“ทำไมไม่รู้จักป้องกันล่ะ”
“ก็เอาสดมันเสียวกว่านี้หน่า”
“ไอ้ยอด...” คำว่าสดกับคำว่าเสียวจากยอดมันกระตุ้นต่อมกระสันให้ตื่นขึ้น
ไม่กี่วันก่อนเพิ่งมีอะไรกับผอ.หลุยส์ไปเอง วันนี้น้ำรินรู้สึกเสียววาบในช่องท้องอีกแล้ว
“เราไม่มีใครจริงๆ นะริน”
“ฉันจะเชื่อแกได้ไง”
“ลองจับดูสิ” ยอดดึงมือคุณครูน้ำรินไปวางลงกล่องดวงใจใต้กางเกงยีนสีเข้ม มีแท่งแข็งๆ ดันซิปจนปูดโปน หญิงสาวกลืนน้ำลายอย่างช่วยไม่ได้
“คอแข็งแล้วมันเกี่ยวกันยังไงฮะ”
“ก็มันไม่มีคนให้ระบายออกไง”
“จะบอกว่าอดอยากปากแห้งว่างั้นสิ” น้ำรินเผลอลูบๆ คลำๆ แท่งแข็งๆ ที่มันพยายามดันซิปกางเกง ต้องเป็นเพราะยังไม่ได้กินมื้อเย็นแน่ๆ เวลาสามทุ่มแบบนี้เธอถึงได้รู้สึกหิวจนอยากจะควักเอ็นเนื้อออกมากินสักคำ