“เจ้าแต่งให้ข้าดีหรือไม่”
ลู่เสียนได้ยินประโยคนั้นได้แต่สงสัย การที่นางนอนกับพวกเขา มันจะทำให้เกิดความรักจนต้องแต่งงานได้ยังไง เป็นพวกเขาเองมากกว่าที่ลุ่มหลงในร่างกายนาง
“ข้าไม่คิดออกเรือน”
“แต่ข้าอยากแต่งเจ้า”
องค์ชายสี่ตอบเสียงแข็ง ก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่น ความรู้สึกเหมือนนางจะตีตัวออกห่าง
“องค์ชายสี่ ข้าขออะไรได้ไหมเพคะ”
ลู่เสียนมีน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะลุกนั่งมององค์ชายสี่ที่ตอนนี้ รอฟังคำขอของนางอยู่
“ข้าอยากให้ท่านเข้าใจ ระหว่างเรามันไม่ได้มีความรู้สึกมาเกี่ยวข้อง มีแค่ผลประโยชน์ ต่างคนต่างตอบแทนกัน ข้าให้ท่านเป็นอาเฉิงเพื่อตอบแทนข้าเลยรักษาท่าน ส่วนเรื่องนี้เป็นเพราะข้าเอง ข้าเลยอยากบอกว่าไม่อาจแต่งให้ท่านได้.....”
“แล้ว.....เมื่อครู่เจ้าไม่รู้สึกว่ามันดีหรือไง”
“สำหรับหม่อมฉันมันดีเพคะ แต่......”
“เพราะน้องห้าใช่ไหม.....เจ้าจะแต่งให้น้องห้าใช่ไหม....แต่เจ้าเป็นของข้าแล้ว..หรือว่าเพราะเจ้าเป็นของน้องห้าเลยคิดว่าข้าจะรังเกียจเจ้า...”
“องค์ชายเพคะ.......หม่อมฉันมิอาจมีแค่องค์ชายได้.....หม่อมฉันเป็นหญิงมักมากเพคะ...”
ลู่เสียนเลือกที่จะบอกออกไป เพราะในสมัยนี้ผู้หญิงเช่นนางที่นอนกับบุรุษหลายคน ไม่มีบุรุษใดหรอกที่อยากแต่งเข้าจวน องค์ชายสี่ที่ได้ฟัง ได้แต่มองนางนิ่ง
“ข้ารับได้...”
ลู่เสียนที่ได้ฟังคำตอบได้แต่นิ่ง นางไม่คิดว่าองค์ชายสี่จะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเช่นนี้
“องค์ชายสี่ หม่อมฉันยังยืนยันคำเดิมเพคะ”
“เจ้านี่หัวแข็งเช่นแม่ทัพจาง..... ในเมื่อไม่แต่งให้ข้าก็อย่าแต่งให้ใคร...”
“หม่อมฉันอยากให้องค์ชายแต่งชายาเอกเพคะ”
“ตัวเจ้าไม่แต่ง อยากให้ข้าแต่งหรือไง ไม่เกินไปหรือไงเห็นข้าเป็นอะไรจางลู่เสียน!!!!”
องค์ชายสี่รู้สึกอารมณ์เสียที่นางพูดเหมือนผลักให้เขาห่างจากนางแบบนี้ ไม่พอยังจะยกเขาให้คนอื่น
“อยากผลักข้าออกจากเจ้านักหรือไง”
“ทรงเข้าใจหม่อมฉันผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันแค่อยากให้พระองค์มีองค์ชายน้อย อย่างนี้ดีหรือไม่เพคะ หม่อมฉันจะหาสาวงามมาให้พระองค์ หากถูกใจก็ทรงบอกหม่อมฉัน”
“เจ้ากำลังจะไปสินะ”
“หากพระองค์ตกลง หม่อมฉันจะอนุญาตให้มาหาหม่อมฉันได้ตอนคิดถึงเพคะ”
ลู่เสียน กลับลงไปนอนกอดองค์ชายสี่ ก่อนจะซุกหน้าลงบนอกแกร่ง นางคงต้องรีบหาสตรีนางนั้นในเร็ววันแล้ว คู่ชะตาขององค์ชายสี่ ก่อนที่นางจะตกหลุมรักหรือรู้สึกอะไรกับองค์ชายสี่จริง ๆ
“นะเพคะ”
“ตามใจเจ้า”
วันต่อมา
“สรุปคือท่านมีนางในตำหนักอยู่แล้ว แต่ไม่เคยเรียกใช้พวกนางอุ่นเตียง เพราะอะไรเพคะ”
“เหอะ พวกนางในตอนนี้ลักลอบเสพสุ่มกับองครักษ์ในตำหนัก จะให้ข้าเรียกพวกนางมาหรือไง พวกผู้หญิงไร้ยางอายเช่นนั้น”
ลู่เสียนพลางรูปคางอย่างครุ่นคิด แต่นางเห็นด้ายแดงขององค์ชายสี่ อยู่ในตำหนักของพวกนางนะสิ
“หากคู่ชะตาท่านเป็นพวกนางเล่า”
“ข้าจะฆ่านางทิ้ง”
“เหอะ ไม่ใช่ว่าหลงนางจนลืมข้าหรอกหรอ”
ลู่เสียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
“ข้านะหรอจะลืมเจ้า ไม่มีทาง”
“ข้า คงต้องขอตัวไปสืบดู ส่วนท่านฝึกเดินต่อไป ข้าจะเรียกนางกำนัลให้”
“ข้าในตอนนี้แข็งแรงพอ ไม่อ่อนปวกเปียกให้เจ้าเหนื่อยคนเดียวเช่นเมื่อคืนแล้ว”
“ไว้คืนนี้ข้าจะพิสูจน์”
องค์ชายสี่ ยกยิ้มอย่างพอใจ ส่วนลู่เสียนเองในตอนนี้นางยังตามด้ายแดงที่นางเห็นไป อาจจะเป็นร่างกายนี้พิเศษ นางจึงสามารถมองเห็นด้ายแดงของคนอื่นได้ในบางที ลู่เสียนเดินตามได้แดงออกมาจนถึงสวน ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นองค์ชายห้ายืนกอดองค์มองนางอยู่
“ไม่คิดว่าอาจารย์จะตื่นเช้าเช่นนี้”
“เจ้ามาได้ไง”
“เมื่อคืนก่อนศิษย์กลับไปหาอาจารย์แต่ไม่คิดว่า ทั้งพี่สองและพี่สี่ จะหลงใหลในรูปโฉมนี้ขนาดนี้”
องค์ชายห้าเดินมาประชิดตัวลู่เสียนก่อนจะ ลูบไล้ไปทั่วใบหน้านาง
“ทำไมเป็นพี่สี่.....ถ้าเจ้าอยากสูบพลังวิญญาณก็ให้เป็นข้าสิ”
“เจ้ารู้เรื่องเมื่อคืน???”
“ข้าแค่ตามไปเพราะความเป็นห่วง ไม่คิดว่าเจ้ากับพี่สี่จะเสพสม จนทำให้พี่สี่พอใจถึงขนาดครางดังจนข้าสนใจ...”
องค์ชายห้า ใช้นิ้วมือลูบไล้ไปที่ริมฝีปากสวยอย่างหลงใหล
“ข้าเห็นเจ้าใช้ปากนี่กับพี่สี่....”
“องค์ชายห้า....”
“ข้าแค่จะชวนเจ้าออกนอกวัง ข้าคิดว่าปีศาจอย่างเจ้าคงจะชอบของสวยงาม ข้ามีสหายที่เปิดร้านเครื่องประดับ เจ้าจะไปไหม”
องค์ชายห้า ผละออกจากลู่เสียน ก่อนจะพูดเชิญชวน แต่ไม่สายตายังมองไปที่ริมฝีปากนาง ลู่เสียนเองที่ได้ยินว่าออกนอกวังก็ตาโต พลางคิดในใจว่าถึงเวลาที่นางจะสำรวจตลาดแล้ว
“ข้าอยากไปอีกที่มากกว่า”
“หากอาจารย์อยากไปไหนศิษย์จะพาไปเอง”
ลู่เสียนและองค์ชายห้าออกนอกวังโดยทางลับในตำหนักองค์ชายห้า เมื่อออกจากทางลับก็มีรถม้ามารอรับทั้งสอง
“ท่านหนีออกจากวังบ่อย???”
“ข้าแค่ไม่อยากอยู่ในกรง วังหลวงเป็นที่ที่เจ้าไม่ควรจะอยู่นาน ไปเถอะ”
ลู่เสียนและองค์ชายห้าขึ้นรถม้า ระหว่างทางก็พูดคุยเรื่องมากมาย ส่วนมากจะเป็นเรื่ององค์ชายที่ ไม่มีบุตร
“ว่าแต่ท่านเถอะ เมื่อไหร่จะแต่งชายา”
“บังคับพี่สี่กับพี่สองไม่พอ จะมาบังคับศิษย์อีกคนหรือท่านอาจารย์”
“เป้าหมายของข้าคือให้พวกท่าน มีเจ้าก้อนแป้งเล็ก ๆ ”
ลู่เสียนพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ถึงตอนนั้นนางเองก็คงได้ไปเกิดใหม่แล้ว
“งั้นเจ้าก็แต่งให้ข้าสิ”
“นี่หรือว่า.....”
ลู่เสียนลุกขึ้นไปนั่งบนตักขององค์ชายห้า ก่อนจะลูบที่กรอบหน้าขององค์ชายห้าไปมา
“เจ้าจะทำอะไร...”
“ท่านหลงข้าจนโง่งมแล้ว”
ลู่เสียนยิ้มออกมาอย่างล้อเลียน ยิ่งเห็นท่าทางตกใจเป็นไก่ตื่นขององค์ชายห้า นางยิ่งนึกสนุก
“ท่านว่าในนี้มันร้อนเกินไปหรือไม่”
ลู่เสียนพูดออกมา ก่อนจะขยับเสื้อไปมา แต่ต้องตกใจที่จู่ ๆ องค์ชายห้าจับนางให้เปลี่ยนมาเป็นนั่งคร่อมบนตัวเขาแทน
“อาจารย์ ศิษย์รู้สึกน้อยใจ......”
พูดจบก็ก้มลงไปนอนซุกที่อกของนาง
“น้อยใจอะไร ข้าทำอะไรให้น้อยใจ”
“ทั้งที่ข้าเจอท่านก่อน ทำไมท่านต้องเลือกพี่สี่ด้วย”
องค์ชายหน้าพูดออกมาด้วยความน้อยใจ แต่สองมือของเขาพยายามแหวกคอเสื้อลู่เสียนออกเมื่อเห็นเนินอกขาว องค์ชายห้ายิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา แต่จางลู่เสียนที่ได้ยินแค่น้ำเสียง ก็รู้สึกสงสาร ยังไงวันนี้ก็เป็นเขาที่พานางออกมาถ้าไม่ใช่เพราะเขานางคงหาทางเข้าวังได้ยาก
“ข้าน้อยใจที่อาจารย์ยอมให้พี่สี่บีบของท่านแบบนี้ แต่ข้าไม่เคยทำ”
พูดจบองค์ชายห้าก็บีบเคล้นหน้าอกของลู่เสียน
“เจ้าก็ได้ทำแล้วนี่ไง”
“แต่ข้าได้ทำหลังพี่สี่ รู้ไหมข้าชอบอกคู่นี้ของท่านยิ่งนัก”
“องค์ชายห้า.....”
“ข้ารู้ว่ามันผิด แต่ว่าข้าอยากทำกับท่านจริง ๆ ....”
องค์ชายห้าได้แต่เรียกสติตัวเองก่อนจะซุกหน้าลงที่อกของลู่เสียน อย่างรู้สึกผิด นั่นสิระหว่างเราไม่ควรมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่ลู่เสียนรู้สึกได้ถึงท่อนเอ็นที่กำลังดันก้นนางอยู่ นางลูบหัวองค์ชายห้าอย่างแผ่วเบา ก่อนจะถอนหายใจนางตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
“งั้นเจ้าก็ลงโทษอาจารย์ของเจ้าเถิด....ในเมื่อชอบหน้าอกอาจารย์ก็ใช้มันระบายท่อนเอ็นของเจ้าจนพอใจเถิด สิ่งนี้แม้แต่องค์ชายสี่ก็ไม่เคยทำ.....”