แสงแรกของวันสาดส่องเข้ามาผ่านกระจกบานใสภายในห้อง ปลุกผมให้ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างยากลำบาก
ผมเอามือทุบหัวตัวเองหนัก ๆ เมื่อรู้สึกปวดหนึบจนแทบจะระเบิดออกมา แถมยังปวดระบมที่ช่องทางด้านหลังอีกด้วย
“เชี่ยยย!!”
ผมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นคราบเลือดเปรอะเปื้อนเลอะที่นอน พร้อมกับสภาพตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำจนทั่วเรือนร่าง
ผมพยายามประมวลภาพเหตุการณ์เมื่อคืนช้า ๆ พลันภาพทุกอย่างก็ถูกฉายออกมาเป็นฉาก ๆ ตามลำดับราวกับฉากในละคร
เมื่อคืนผมเมายาดองหนักมากจึงมาหาที่ลง ผมมานอนรอเด็กที่ห้องนี้จากนั้นก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามา แล้วคนนั้นก็คือ…
“ฉิบหาย!!”
นี่ผมทำอะไรลงไปวะเนี่ย เมื่อคืนผมกับไอ้ศิวะ… แม่งเอ๊ย! ผมปล่อยให้เรื่องบ้า ๆ นี่เกิดขึ้นมาได้ยังไง ผมไม่น่าปล่อยให้ความเ****นครอบงำจิตใจขนาดนี้เลย เสียดายที่ตื่นมาไม่เจอมัน ไม่งั้นผมฆ่ามันแน่!
ก๊อก ก๊อก!!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นปลุกผมให้ตื่นจากอารมณ์ฉุนเฉียว
“ลูกพี่ ตื่นรึยัง”
เสียงไอ้บอมลอยมาจากด้านหน้าประตูห้อง
ซวยแล้วไง ผมจะให้ไอ้พวกนี้รู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นพวกมันคงได้หมดศรัทธาในตัวผมแน่ ผมรีบยกตัวออกจากที่นอนอย่างยากลำบาก บอกตามตรงจะต่อยตีกันเจ็บปางตายแค่ไหนผมก็ไม่เจ็บปวดเท่านี้ เมื่อคืนไอ้ศิวะมันไม่ปรานีผมเลย กว่าจะจบรอบได้ทำเอาผมแทบกระอักเลือด เห็นกูสันใหญ่หน่อยใส่กูไม่ยั้งเลยนะไอ้ฉิบหาย
ผมรีบคว้าเสื้อที่โยนลงพื้นเมื่อวานมาสวมใส่อย่างลวก ๆ ก่อนจะลนลานวิ่งไปสวมกางเกงที่ถอดไว้ในห้องน้ำ แม้มันจะเปียกชุ่มอยู่บ้าง แต่ก็พอใส่ได้ ผมรีบจัดแจงทุกอย่างในร่างกายให้เสร็จสรรพก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้พวกมันโดยเร็ว
ครืดดด!!
“ฮั่นแน~ คอดำคอแดงมาเลยนะลูกพี่”
ไอ้เข้มพูดแซวอย่างล้อ ๆ
“โห!! ห้องลูกพี่แม่งโคตรหรูเลยว่ะ”
ไอ้บอมผลักประตูเข้ามาอย่างถือวิสาสะ เป็นปกติอยู่แล้วที่พวกมันมักจะตื่นเต้นกับอะไรใหม่ ๆ เสมอ แต่สถานการณ์แบบนี้มันไม่ปกติยังไงล่ะครับ
“เชี่ยย!! ลูกพี่ เล่นกันเลือดสาดเลยหรอเนี่ย”
ไอ้เข้มกระชากผ้าห่มออกเผยให้เห็นคราบสงครามที่แสนดุเดือดเมื่อคืน
ผมลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เจ้าประคุ้ณณ~ ขออย่าให้ไอ้พวกนี้สงสัยอะไรเลยนะ
“เออ!! กลับได้ละ กูอยากพัก”
ผมว่าพร้อมกับเดินนำออกจากห้องกลัวว่าไอ้สองตัวนี้จะจับพิรุธได้
“ลูกพี่ ลืมตังค์บนหัวเตียงรึเปล่า”
ผมชะงักฝ่าเท้าที่กำลังก้าวเดินออกจากห้องก่อนจะหันไปดูตามที่ไอ้บอมชี้
“วอ-ไอ-ไว ไม้โท=ไว้ จอ-อะ=จะ”
“โอ๊ยย!! มานี่กูอ่านเอง!”
ไอ้บอมแย่งกระดาษโน้ตในมือไอ้เข้มมาอ่านหลังจากที่ไอ้เข้มอ่านตะกุกตะกักฟังแล้วเคืองหู
“ไว้จะแวะมาใช้บริการใหม่”
ผมกัดกรามแน่นด้วยความโมโห นี่มึงกล้าหยามกูขนาดนี้เลยหรอวะ ไอ้เวรเอ๊ย!!
“ลูกพี่ใจดีจัง ให้ทิปตั้ง 1,500 แหนะ”
“สงสัยจะค่ายาแก้อักเสบว่ะ เล่นเลือดสาดขนาดนี้ คงหนักหนาเอาการอยู่ ฮ่า ฮ่า”
“กลับ!!”
ผมตวาดเสียงดังลั่นจนพวกมันหยุดหัวเราะกะทันหันแล้ววิ่งแจ้นตามผมมา
“ลูกพี่ รอด้วยยยย”
“ลูกพี่เป็นอะไรวะ หรือว่าลูกพี่เขิน” เสียงพวกมันซุบซิบกันอยู่ด้านหลังยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
ไอ้ศิวะ! มึงไม่ตายดีแน่ กูจะจับมึงมาแร่เนื้อบดกระดูกคลุกข้าวให้หมาแดก
หลังจากกลับมาถึงบ้านผมก็นอนเอาเป็นเอาตาย เนื่องจากเมื่อคืนหลับไปได้แค่สองชั่วโมง เพราะไอ้เหี้ยศิวะแม่งล่อผมทั้งคืน ไม่รู้ไปคึกตัวไหนมา สรุปผมหรือมันกันแน่ที่เมายาดอง
ผมกลับมาบ้านตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนตอนนี้พระอาทิตย์ตกแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ยอมลุกไปไหน ไม่อยากเจอผู้คน ผมรู้สึกเหมือนโดนหยามศักดิ์ศรีจนไม่กล้าเอาหน้าไปสู้กับใคร ผมไม่อยากจะนึกภาพเมื่อคืนเลย แต่ภาพไอ้ศิวะก็ลอยเข้ามาในหัวตลอดเวลา จนทำให้ผมนอนกระสับกระส่ายจนต้องลุกขึ้นมา
ถ้าผมยิ่งปล่อยให้ตัวเองจมแบบนี้ มันก็จะยิ่งน่าสงสัยสินะ ผมจะให้ใครรู้ไม่ได้ ผมต้องทำตัวให้ปกติมากที่สุด
คิดได้ดังนั้นผมก็รีบสวมเสื้อแล้วออกมาด้านนอกทันที
“จริงหรอวะ!”
“ก็เออดิ กูเห็นมากับตา เลือดนี่นะท่วมที่นอนจนแทบจะหยดแหมะ ๆ ลงพื้นอยู่แล้ว”
“ลูกพี่แม่งโหดจริงวะ สงสัยกูต้องไปใช้บริการบ้างละ”
เสียงพูดคุยกันอย่างสนุกปากในวงเหล้า โดยมีไอ้เข้มกำลังเม้ามอยถึงเหตุการณ์เมื่อคืน แม้มันจะใส่ไฟเยอะไปหน่อยก็เถอะ
“ไอ้เข้ม ๆ ลูกพี่มา” ไอ้ปอนสะกิดบอกคนอยู่ด้านข้างจนวงแตกกระเจิงหลังจากที่ผมเดินเข้ามาใกล้
“พวกมึงมานี่! มาให้ครบทุกคน”
ผมตะคอกบอกเสียงดังจนพวกมันคอหดรีบเดินต้อย ๆ มายืนเรียงหน้ากระดาน
“ต่อไปนี้กูสั่งห้ามทุกคนไปที่ซ่องเจ้ดาวอีก”
“ห๊ะ! ทำไมอะลูกพี่”
“โห่!”
ทันทีที่จบประโยคไอ้พวกนี้ก็โอดครวญราวจะเป็นจะตาย
“อย่าถาม!! ใครขัดคำสั่งมึงเจอกูแน่!!”
ผมตะคอกเสียงดังลั่นจนพวกมันก้มหน้าเงียบกริบ คงกลัวผมจะอาละวาด พวกมันรู้ดีว่าเวลาผมโมโหผมบ้าดีเดือดได้ขนาดไหน
“ลูกพี่ ไอ้ศิวะมันส่งลูกน้องมาอีกแล้ว!”
ไอ้บอมตะโกนบอกพร้อมกับถีบชายชุดดำเข้ามานอนแผ่หลาตรงหน้าผม เหตุการณ์นี้เป็นเหมือนหนังเรื่องเดิมที่ฉายวนซ้ำ ๆ แต่มันก็ขยันส่งลูกน้องมาเจ็บตัวไม่เลิก
“คะ คุณศิวะ ให้มาส่งสารครับ”
ไอ้ลูกกระจ๊อกมันยื่นซองสีขาวมาตรงหน้าตามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
ผมมองกระดาษในมือมันแล้วชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงรีบเตะทิ้งอย่างไม่ไยดี แต่คราวนี้ผมกลับรู้สึกอยากจะรู้ว่ามันส่งอะไรมากันแน่
ผมตัดสินใจหยิบซองกระดาษสีขาวมาเปิดอ่านดู
ก่อนที่สีหน้าสงสัยจะเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดจนควันออกหู
‘อย่าลืมกินยาแก้อักเสบด้วยนะจ๊ะ เมียจ๋า’
ไอ้เดนนรก!!
ไหนมึงบอกจะเหยียบเรื่องนี้ให้จมดิน มึงมันสันดานหมาชาติชั่ว!!!
ผมกัดฟันกรอดพร้อมกับขยำกระดาษจนมันแทบแหลกคามือ
“ไอ้เหี้ยเอ๊ย!!
ตุ๊บ!!!
อั๊ก!!
คนสวมชุดสูทนอนเลือดสาดทันที เมื่อโดนผมเตะเสยคางมันเต็มแรง น่าจะกรามหักฟันแตกไปหลายซี่
“มันว่ายังไงบ้างลูกพี่”
ไอ้บอมมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของผม
ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่หยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดเผากระดาษนี้ทิ้งก่อนที่จะมีใครมาเห็นข้อความด้านใน
“มันจะขนย้ายอาวุธตอนไหน”
ผมไม่ได้ตอบคำถามไอ้บอม แต่ถามมันกลับคืนด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้อารมณ์พลุ่งพล่านไปมากกว่านี้
“อีกสองวันครับ” ไอ้บอมรีบรายงาน
“บอกทุกคนเตรียมตัว เราจะบุกพวกมันให้เละ!!”
“เฮ่ เฮ่ เฮ่!!!”
เสียงตะโกนอย่างบ้าพลังจากชายฉกรรจ์นับร้อยร้องอย่างออกมาพร้อมกันอย่างดุเดือดจนกระหึ่มอาคาร
หลังจากที่เตรียมตัวกันมานาน ได้เวลาคิดบัญชีกับมึงซักทีนะ ไอ้สวะ!