“โอ๊ย คินณ์คะ แอนเจ็บ”
ร่างบางในชุดสีแดงสดล้มแหมะลงที่เก้าอี้ตรงหน้า ก่อนจะหันไปออเซาะอคินณ์ราวกับตัวเองถูกรังแกนักหนาทั้งที่เป็นคนเริ่มก่อน
เหมือนฝันมองสองคนนั้นด้วยสายตาสมเพชเวทนาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต
“ฉันจะกลับแล้ว” ไม่รอให้อีกคนต่อว่า ร่างเล็กกระชับกระเป๋าผ้าใบเก่งก่อนจะหันหลังเพื่อออกไปจากที่แห่งนี้ แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวขาออกไปแขนเรียวก็ถูกรั้งไว้ก่อน
“มีอะไร นี่ ! อย่ามองนะ”
เหมือนฝันถามเสียงห้วน ก่อนที่เธอจะรับรู้ถึงสายตาอีกคนที่ไล่มองตั้งแต่ใบหน้าก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าอกกลมกลึง และเพราะเมื่อครู่เธอเพิ่งถูกสาดน้ำใส่ทำให้เสื้อนักศึกษาสีขาวเปียกจนมองทะลุเข้าไปเห็นเสื้อชั้นใน !
สองแขนยกขึ้นปกปิดร่างกายจากสายตามีเลศนัยที่มองมา
“เก็บสายตาหน่อยโว้ย” และก็เป็นดินแดนที่เอ่ยปากขึ้นมาก่อนใคร จะให้ดินแดนอดพูดได้ยังไงในเมื่อสายตาที่อคินณ์ใช้มองเหมือนฝันนั้นราวกับจะจับเธอกินไปทั้งตัว
“คินณ์คะ” แอนนาเข้ามาขวางหน้าก่อนจะควงแขนแกร่งข้างที่ยังว่างราวกับต้องการแสดงความเป็นเจ้าของแต่นั่นไม่ได้ให้เหมือนฝันรู้สึกอะไรเลยสักนิด
“โอ๊ย ! มันเจ็บนะ” และไม่รู้ว่าว่าผีหมาบ้าอะไรเข้าอคินณ์เพราะจู่ ๆ เขาก็บีบแขนเธออย่างแรงจนดวงหน้าหวานเหยเก
และจะให้บอกได้ยังไงว่าอคินณ์นึกไม่ชอบใจสายตาเฉยเมยที่เจ้าตัวมองเขา...
“ขอโทษแอนนาซะ” อคินณ์คลายแรงเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ปล่อยเธอเป็นอิสระ ก่อนที่เสียงเข้มจะเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ
“ผู้หญิงของคุณมาหาเรื่องฉันก่อน” และเหมือนฝันที่ได้ยินอย่างนั้นก็เงยหน้ามองคนพูดอย่างไม่ชอบใจ
เรื่องทั้งหมดก็เพราะเขาพาเธอมาที่บ้า ๆ นี่ และก็เป็นเพราะผู้หญิงของเขาอีกเช่นกันมาเข้ามาระรานเธอก่อน ทั้งที่เหมือนฝันไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ
“ไม่รู้จักที่ต่ำสูงเลยนะ ต่อให้ฉันทำอะไร เธอก็ควรก้มหน้าก้มตายอมรับมันสิ”
“แล้วทำไมฉันต้องยอมให้คนนิสัยแย่อย่างพวกคุณมารังแกด้วยมิทราบ” เหมือนฝันเถียงคอเป็นเอ็น เธอลืมความเจ็บร้าวที่ต้นแขนไปเลยเพราะความโกรธและโมโหมันมีมากกว่า
“ปากดี”
“ก็ยังดีกว่าพวกคุณแล้วกัน นิสัยแย่ จิตใจก็แย่ อ๊ะ” และยิ่งเหมือนว่าเธอต่อว่าเท่าไหร่แรงบีบก็ยิ่งเพิ่มมากเท่านั้น และตอนนี้เหมือนฝันเจ็บไปจนเธอกระดูกแล้ว
เธอหันกลับมาจ้องมองอคินณ์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ พลางบิดแขนตัวเองให้หลุดจากพันธนาการ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจสู้แรงมหาศาลของเขาได้เลย
“ถึงฉันจะแย่แต่ก็มีจิตสำนึก ไม่คิดจะทำครอบครัวใครพังเหมือนแม่เธอ”
“พูดบ้าอะไร !” เหมือนฝันผลักอกอคินณ์อย่างแรงเมื่อเขาพาดพิงถึงแม่เธอ
เขาไม่รู้จักแม่เธอด้วยซ้ำ กล้าดีอย่างไรมาพาดพิงท่าน แม่ที่เลี้ยงเธอมาอย่างยากลำบาก คนอย่างอคินณ์มีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้ เหมือนฝันมองอีกคนอย่างขุ่นเคือง ขอบตาร้อนผ่าวเพราะตอนนี้เธอโกรธเขาจนอยากจะร้องไห้ระบายความอัดอั้น
“แค่พูดความจริงทำไมต้องโกรธด้วย”
“ยัยนี่นอกจากจะเป็นคนใช้แล้วยังเป็นลูกเมียน้อยอีกเหรอคะ” แม้เมื่อครู่อคินณ์จะโน้มตัวเข้ามากระซิบ แต่แอนนาที่เกาะติดอีกฝ่ายเป็นปลิงย่อมได้ยินเรื่องพวกนั้นทั้งหมด
“หรือต้องให้ฉันสาธยายความแพศยาของแม่เธอดี”
“คุณอคินณ์...”
“อีกอย่างทำชุดคนอื่นเลอะขนาดนี้ก็ควรรับผิดชอบหน่อยไหม หรือว่ามันไร้สำนึกจนเคยตัว” อคินณ์ไม่พูดเปล่า เขากระชากคอเสื้อเธออย่างแรงจนเหมือนฝันปลิวปะทะอกแกร่ง
“เล่นแรงไปแล้วไอ้คินณ์” ธนินที่ได้ยินเพื่อนสนิทพูดเรื่องไม่สมควรก็ปรามเสียงเข้ม ถึงเขาจะพอรู้เรื่องจากอคินณ์แต่เรื่องพวกนั้นมันไม่เกี่ยวกับเหมือนฝันเลยสักนิด
อีกอย่างมารดาของอคินณ์ที่เป่าหูลูกชายมาเป็นสิบปีเป็นคนอย่างไรใช่ว่าพวกเขาจะไม่รู้...
“ไม่ใช่เรื่องของมึง”
“ถ้างั้นกูจ่ายแทนน้องเขาเอง”
“มึง !”
“เอาไป” แบงก์สีเทาหลายใบถูกยัดใส่มือแอนนาซึ่งเจ้าหล่อนก็ยอมรับไว้แต่โดยดี แม้สีหน้าที่มองเหมือนฝันจะยังเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ส่วนเธอถ้าอยากกลับฉันจะไปส่ง”
“ฉันอยากกลับ”
“เด็กนี่มากับกู มึงไม่ต้องเสือก” อคินณ์ไม่พูดเปล่า เขาสะบัดแอนนาออกก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนเธอ และยิ่งเหมือนฝันดันตัวออกมือใหญ่ก็ยิ่งเพิ่มแรงจนเธอเจ็บร้าวไปถึงกระดูก
“ปล่อยนะ ฉันไม่อยากกลับกับคุณ”
“หุบปาก”
คนเจ้าอารมณ์กึ่งลากกึ่งจูงเธอออกจากคลับ โดยมีบรรดาพนักงานที่เตรียมจะเปิดร้านมองตาเป็นแถว แต่กลับไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเธอสักคน
เมื่อรถยนต์จอดในเขตรั้วบ้านเหมือนฝันก็ไม่รอช้า เธอลงจากรถและวิ่งเข้าห้องนอนทันที
ร่างเล็กทิ้งตัวลงเตียงนุ่มอย่างเหนื่อยอ่อน วันนี้เธอมีเรียนทั้งวันและตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว และคนที่ทำให้เธอเสียเวลาพักผ่อนก็คือคนนิสัยไม่ดีและใจดำอย่างอคินณ์
นึกถึงชายคนนั้นแล้วดวงหน้าสวยก็มุ่นทันที อคินณ์คือผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอเกลียดขี้หน้าเขามากที่สุด เพราะนอกจากปากที่เอาแต่พ่นคำพูดร้ายกาจไม่น่าฟังแล้ว การกระทำของเขายังแสดงออกชัดว่ารังเกียจและต้องการกลั่นแกล้งเธอมากแค่ไหน
เหมือนฝันต่อว่าคนใจร้ายในใจไปหมื่นล้านคำก่อนจะหลับลงไปทั้งที่ยังอยู่ในชุดเดิม...
อคินณ์มองประตูห้องที่เด็กปากดีอยู่ด้านใน นัยน์ตาคมคายฉายแววหลากหลายความรู้สึก และเขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนที่เห็นดวงตาคู่สวยนั้นคลอน้ำตาในใจมันกระตุกไปวูบหนึ่ง ก่อนที่อคินณ์จะสะบัดศีรษะเพื่อไล่ความรู้สึกไร้สาระพวกนั้นออกไป
มารดาที่เสียชีวิตไปแล้วพร่ำบอกอคินณ์อยู่เสมอว่าแม่ของเหมือนฝันคือผู้หญิงที่พ่อรักและทำให้ครอบครัวเราแตกแยก และมันก็เป็นจริงอย่างที่มารดาบอกเพราะเมื่อแม่เขาเสียชีวิตไปไม่ทันจะถึงหนึ่งปี พ่อก็เอาลูกของผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้าน
เมื่อคิดอย่างนั้นความรู้สึกมากมายก็ถูกกลบไว้ด้วยความเกลียดชังดังเดิม
อคินณ์ต้องเกลียดเหมือนฝันนั่นแหละ ถูกต้องแล้ว...