CHAPTER 1

1907 Words
CHAPTER 1 “ป้ากวาคะ...” เพราะเสียงตอบกลับมาคือความเงียบงันความระทึกกับหัวใจดวงน้อยๆ ที่อยู่หน้าอกข้างซ้ายก็ออกกำลังแรงเต้นรัวขึ้น ใจก็หวังให้ได้ยินเป็นเสียงตอบกลับแม้มันจะสวนทางกับความเป็นจริงเลยก็ตาม เมื่อเป็นแบบนั้นฉันจึงใช้เท้าตวัดขาตั้งจักรยานคันเก่งของตัวเองลงจากนั้นก็เดินเข้ามาในบริเวณบ้านทรงไทยที่ตั้งเด่นในพื้นที่มากกว่าร้อยไร่ในนาม ‘นาคนิล’ หรือว่าไร่นาคนิลที่ใครต่างเรียกจนชินปาก ไร่แห่งนี้ตั้งอยู่จังหวัดเหนือสุดของประเทศคือจังหวัดเชียงรายที่สำคัญไม่มีใครไม่รู้จัก ความเลื่องชื่อในด้านต่างๆ โดยเฉพาะความเป็นชาไร่แห่งนี้ตั้งอยู่บนที่สูงบรรยากาศจึงค่อนข้างเย็นปกคลุมตลอดทั้งปีและจะเย็นสุดในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงแต่ที่แน่ๆ นาคนิลมีจำนวนลูกจ้างเยอะเทียบเท่าโรงงานหนึ่งโรงเลยแหละ ที่การันตีได้เพราะแม่ฉันทำงานอยู่ไร่แห่งนี้ และฉันก็อยู่ที่นี้ตั้งแต่เกิดกระทั่งตอนนี้อายุ 13 แล้ว ฉันก้าวเดินเข้ามาในบริเวณบ้านเดินไปทั่วใต้ถุนแต่ก็ไม่พบกับป้ากวาเลยฉะนั้นความคิดหนึ่งเข้ามาแทรกพร้อมกับใบหน้าที่เงยขึ้นมองชั้นสองของบ้านนี้ ไม่คิดเปล่าแล้วเมื่อสองเท้าถอดรองเท้าหูคีบเอาไว้ใกล้ตุ่มดินเผาข้างกันนั้นมีต้นดอกแก้วต้นพอประมาณขึ้นอยู่ เท้าเปล่าที่ก้าวขึ้นเหยียบบันใดสะอาดที่ละขั้นกระทั่งมาอยู่บนชั้นสองได้สำเร็จ จากที่ยืนนั้นฉันเห็นวิวไร่ชาตอนเช้าที่โคตรสวยเพราะแสงแดดจากพระอาทิตย์ส่องสอดแทรกผ่านไอหมอกกระทบหักเหกันจนกลายเป็นลำแสงสวยงามการชื่นชมในบรรยากาศตรงหน้าเกิดขึ้นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเพราะตอนนี้ฉันได้ยินเสียงคนเดินมาทางด้านหลังพอหันไปก็เป็นคนที่อยากพบ ป้ากวาหรือเรียกอีกชื่อว่าแม่เลี้ยงกวา ป้ากวาอยู่ในชุดพื้นเมืองล้านนา เสื้อผ้าทอสีดำแขนยาวเข้ากับผ้าซิ่นตีนจกลวดลายสวยเด่นผมยาวสีดำสนิทถูกม้วนขึ้นปักด้วยปิ่นสีเงินมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ “ป้ากวา” “ก็ป้านะสิจะใครอีก” “ใจเดินหาทั่วบ้านเลย” ฉันพูดออกมาพร้อมเข้าไปช่วยป้ากวาที่ในมือถือถาดใหญ่มาด้วย “เดี๋ยวใจช่วยเองค่ะ” ฉันวางถาดลงกลางโต๊ะที่ตั้งออกไม่ไกลในถาดใบนี้มีขนมสองชนิดที่ถูกแบ่งเป็นฝั่งเอาไว้ ขนมสองชนิดนี้มีสีสันสวยแถมยังส่งกลิ่นหอมยั่วยวนจมูกยิ่งนัก “นั่งมองขนมไปก่อนนะใจเดี๋ยวป้ามา” “ค่ะป้ากวา” การนั่งเฝ้าขนมมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเมื่อทั้งสีสันกลิ่นส่งมาแตะจมูกแบบนี้แต่ฉันก็ต้องอดทนเป็นอย่างมาก ป้ากวาทำขนมอร่อยจะตายและเชื่อว่าที่อยู่ตรงหน้าจะมีรสชาติอร่อยกว่าทุกครั้งด้วยเนื่องจากไม่เคยเห็นและกินมาก่อน วันนี้เป็นเช้าวันเสาร์และเมื่อถึงเสาร์อาทิตย์ทีไรแม่จะให้ฉันมาช่วยป้ากวาทุกครั้ง ป้ากวามีบุญคุณมาก ฉันรู้จึงเข้าใจที่แม่สอนมาตลอด ผ่านไปสักพักเดียวป้ากวากลับมาอีกครั้งพร้อมกับโถลายไทใบพอประมาณส่วนอีกมือหนึ่งเป็นถ้วยสองใบซ้อนกันฉันรีบลุกขึ้นแล้วไปช่วยท่านโดยการถือถ้วยออกมาวางไว้ที่โต๊ะ “มีอะไรเรามาหาป้าแต่เช้าเลย” “แม่ค่ะ แม่ให้น้อย...” “มาช่วยป้าอีกแล้วสิเรา” “ช่วยได้ค่ะใจเต็มใจมากป้ากวามีขนมอร่อยให้ทาน” “เด็กหนอเด็ก” ป้ากวาส่ายหน้าประกอบและฉันก็รู้ดีว่าตอนนี้ควรทำอะไรจึงค่อยๆ เอาถ้วยออกมาวางเอาไว้ตามที่ป้ากวาเคยสอนทุกครั้งทว่าครั้งนี้ถ้วนกับมีสามใบ ป้ากวาหยิบมาเกินหรือว่า... “ป้ากวาคะคือ...” “แม่ครับเสื้อยืดตัวสีดำของกวางอยู่ไหน” และประโยคของฉันก็กลืนลงลำคอไปอย่างรวดเร็วเมื่อมีประโยคนี้เข้ามาพร้อมกับบุคคลหน้าใหม่ที่ตัวสูงโปร่งตอนนี้เดินเข้ามาทั้งชุดคลุมส่งกลิ่นมิ้นท์หอมอ่อนๆ โชยเข้ามาแตะจมูก เรือนผมสีดำสนิทไม่ได้เชตแต่เปียกลู่ไปด้วยน้ำอีกทั้งกรอบหน้าตามสันกรามยังเปียกชื้นอยู่นั้นเรียกสายตาฉันไปจับจ้องนี่ยังไม่รวมจมูกโด่งริมฝีปากสีชมพูสดบอกได้เลยว่าโคตรของโคตรหล่อ “ในตู้สิหาดีหรือยัง” “ก็…” “ไปลองหาอีกครั้ง” “ครับ” แค่เสี้ยวนาทีที่หางตาของเขาเหลือบมามองฉันก่อนย้ายเคลื่อนตัวออกไปความงงของตัวเองคงไปกระทบสายตาของป้ากวามั้งจึงทำให้ป้ากวายิ้มนิดๆ พลางตักข้าวต้มกุ้งในโถลายไทใส่ถ้วยที่ฉันเตรียมเอาไว้ “พี่เขาเป็นลูกชายป้าเองพึ่งขึ้นจากกรุงเทพ” “อ่อค่ะ” “จะมาอยู่ด้วย” รู้ไหมการนั่งทานข้าวตั้งแต่อายุ 13 มาไม่มีครั้งไหนที่จะเกร็งร่างกายได้เท่านี้อีกแล้วแหละไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนซ้ายหรือว่าขวาก็ตามจะมีหางตาหนึ่งจับจ้องมายังตัวฉันตลอดหรือว่าไปทำอะไรไม่เข้าตาไว้นะถึงได้โดนหมายด้วยสายตาขนาดนี้ นี่ขนาดมาล้างถ้วยในครัวก็ยังติดตาไม่หายเลย พอจัดการทุกอย่างเสร็จก็ออกไปเผชิญความเป็นจริงอีกครั้งหนึ่ง “ใจเราพับใบเตยเป็นดอกไม้ได้ใช่มั้ย” “ใช่ค่ะป้ากวา” ฉันนั่งลงในเก้าอี้ของตัวเองซึ่งตั้งอยู่หน้าของเขาผู้ชายใส่เสื้อยืดสีดำกางเกงวอร์มสีเทาคนเดิม “ป้ากวาอยากได้เหรอคะเดี๋ยวใจทำให้ค่ะ” “คนนี้ต่างหากที่เขาชอบ” “อ่า... เดี๋ยวใจทำให้คุณกวางเองค่ะ” เขาชื่อว่า ‘กวาง’ เขาเป็นรุ่นพี่ฉันเกือบ 5-6 ปีเลย และเขาอยู่ ม.6 จะย้ายเข้ามาเรียนในเทอมนี้ “ไม่เป็นไร... น้อยใจสอนพี่เลยดีกว่าครับ” “ค่ะ ” เพราะคำยืนยันที่หนักแน่นนั้นผูกมัดให้ฉันต้องทำตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเวลาต่อมาทั้งฉันแล้วก็คุณกวางมายืนอยู่หลังบ้านที่เยื้องไปข้างนั้นเป็นสระบัวกว้างพื้นที่ข้างกันกอใบเตยสิ่งที่เป็นที่ต้องการมากขึ้นอยู่เต็มรอบๆ “จะทำอะไร” ฉันจะก้าวเท้าเดินไปยังกอใบเตยเหล่านั้นก็ถูกมือใหญ่ยื่นมือใช้นิ้วชี้เกี่ยวคอเสื้อรั้งเอาไว้ให้หยุดเมื่อเป็นอย่างงั้นแล้วมีเหรอที่ฉันจะไม่หันไปมองอีกฝ่ายที่ยืนนิ่งด้านหลัง “ก็จะไปเอาใบเตยไงคะคุณกวาง” “ระวัง” ไม่แค่ว่าเปล่านิ้วที่รั้งคอเสื้อก็ถูกปล่อยออก “ตกลงสระจะซ้ำให้” “...” “พูดจริงนะใจ” ใจงั้นเหรอ ใจคือสรรพนามที่ฉันแทนตัวเองกับคนที่สนิทส่วนคนอื่นๆ ฉันมักแทนด้วยน้อยเสมอพอได้ยินคุณกวางเรียกแบบนี้มันก็อดยิ้มให้อีกฝ่ายไม่ได้ “สบายค่ะ ใจมาทุกวันเวลาที่จะเอาใบเตยไปทำขนม” “หัดระวังเอาไว้บ้าง” ทุกวันนี้ฉันก็ไม่ประมาทนะ ทุกวันนี้ฉันก็ระวังตัวอยู่นะ “ค่ะ” ใช้เวลาไม่นานในมือของฉันและของคุณกวางก็เต็มไปด้วยใบเตย คุณกวางให้ฉันยืนรอใต้ต้นมะม่วงที่ขึ้นข้างกันส่วนตัวเองกำลังนั่งลงมัดใบเตยให้รวมกันแต่มีเหรอที่คนอย่างฉันจะนิ่งเมื่อนึกว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่งจึงเลี่ยงไปหาวัตถุดิบที่จะทำมาไว้ในมือ ทั้งฉันและคุณกวางขึ้นมาบนบ้านโดยไร้เงาของป้ากวา ป้ากวาไม่อยู่บ้านแต่เลือกไปดูร้านกาแฟของไร่แทนฉะนั้นในนาทีนี้มีแค่ฉันกับคุณกวางที่อยู่ด้วยกัน “ทำใส่แจกันใบนี้นะข้างในพี่ใส่น้ำเอาแล้ว” “งั้นมาเริ่มกันเลยนะคะเริ่มจากเอาใบเตยมาทำแบบนี้ก่อน...” ฉันสอนอีกฝ่ายให้ทำเหมือนตัวเองมันอาจทุลักทุเลบ้างแต่ผลที่ออกมาก็อยู่ในระดับที่พอใจ คุณกวางหัวเร็วสามารถทำได้ตั้งแต่สองอันแรกฉะนั้นในตอนนี้เขาก็ยังตั้งใจทำอยู่ส่วนฉันหยุดตั้งแต่เมื่อกี้แล้วแหละ “ทำสวยนะคะเนี่ย” ฉันพักสิ่งที่ทำในมือที่ใกล้จะเสร็จลงวางบนตักเมื่อเห็นว่าดอกสุดท้ายในมือใหญ่ใกล้ประสบความสำเร็จแล้ว ดอกสุดท้ายที่ดูอีกฝ่ายตั้งใจทำกว่าดอกอื่นๆ ที่ผ่านมาเสียด้วย นึกไม่ถึงนะเอาจริงว่าผู้ชายอย่างคุณกวางจะมาทำอะไรแบบนี้ด้วยตัวเองคงเป็นเพราะท่าทางลักษณะมันไม่ให้มาทางนี้เลยมั้ง คุณกวางเป็นผู้ชายที่ดูแบดเอาการ นึกว่าจะชอบอะไรที่ตรงข้ามมากกว่า “ตั้งใจมากดอกนี้” “ค่ะ” เป็นแบบนี้ฉันจึงไม่กล้ากวนอีกต่อไปจะหันมาสนใจสิ่งที่ตัวเองทำเงียบๆ กระทั่งความเงียบเข้ามาปกคลุมได้ไม่ถึง 5 นาทีเสียงอีกคนก็ดังขึ้นพร้อมกับสิ่งที่ฉันกำลังทำมันก็เสร็จสมบูรณ์ลง “แล้วนี่คืออะไร?” “นี่เหรอคะ” ฉันยื่นสิ่งที่อยู่ในฝ่ามือออกไปให้อีกฝ่ายเห็นชัดๆ ในมือฉันนั้นเป็นดอกพุดที่ถูกทำเป็นตัวสัตว์บนก้านกิ่งก้านของดอกแก้วส่วนหางสัตว์นั้นเอาดอกบานไม่รู้โรยมาใช้ “กระแตพุดค่ะ” “น่ารักดีใช้ทำอะไรบ้าง” หลายอย่างเลยนะเท่าที่เห็นมาเมื่อนึกได้ฉันจึงรีบบอกคุณกวาง “ไว้บนหัวเตียงหรือไม่ก็ไหว้พระค่ะคุณกวาง” “งั้น...” คุณกวางยื่นมือมาคว้ากระแตพุดไปจากมือของฉันจากนั้นก็เอาดอกไม้ใบเตยที่เป็นฝีมือของตัวเองที่เป็นดอกสุดท้ายมาวางเอาไว้ทดแทนกันจะว่าแลกก็คือแลกนั่นแหละไม่แปลกอะไร “แลกกัน” อ่าแบบนี้เอง... ฉันกำดอกใบเตยมาวางไว้บนตักของตัวเองแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองคุณกวางที่ยังสนใจกระแตพุดในมือไม่หาย เขาพลิกไปมาแล้วสังเกตแบบนั้นเหมือนไม่เคยสัมผัสหรือว่าเห็นมาก่อน “อยากได้อีกหรือเปล่าคะ ใจจะได้ทำให้” “หื้ม?” “ก็คุณกวางจะเอาไปไหว้พระไงคะ ใช้หลายๆ ตัวก็ได้แทนดอกไม้อะไรแบบนี้” “ใครบอก” “อ้าว” ฉันร้องงงออกมาในทันทีเมื่อได้ยินแบบนี้ก็นึกว่าเขาจะเอาไปไหว้พระต่างหากถึงจะทำเอาไว้ให้อีกหลายๆ ตัวแต่นี่ไม่ใช่ “แล้วเอา...” “จะเอาไปไว้บนหมอน” “…” “ในห้องนอนต่างหากยัยเด๋อ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD