"นายท่าน กลับมาแล้วเหรอคะ เดี๋ยวป้ายกน้ำชาไปให้ เชิญนั่งพักก่อนนะคะ"
หลังจากส่งคุณนายออกไปพักใหญ่ ป้าลั่วก็ต้องรีบออกมาต้อนรับนายท่านของบ้านที่เพิ่งกลับจากต่างเมือง
"ขอบคุณครับป้า เฉิงอี้ ซือเฟิ่ง เดี๋ยวเก็บของเสร็จก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนได้เลย พรุ่งนี้ค่อยเริ่มงาน"
"ครับนายท่าน"
"ครับ"
เจียงสือเทียนในวัย 40 ปี เดินเข้าบ้านด้วยความเหนื่อยล้า ถึงจะอายุมากแล้วทว่ารูปร่างและใบหน้าของเขากลับล่ำสันไม่ต่างจากเด็กหนุ่มวัย 30 มีสาวน้อยสาวใหญ่มากมายที่เทียวส่งสายตาให้ท่าเขาอยู่เนือง ๆ
เก้าอี้นุ่มขอบไม้ลายสลักเสลาถูกใช้เป็นที่นั่งพักของเจ้าของบ้าน ก่อนที่ป้าลั่วจะนำน้ำชามาวางไว้บนโต๊ะเล็กตรงหน้า
"ตันหยงไปไหนครับป้า ทำไมบ้านเงียบจัง"
"คุณนายออกไปเดินเล่นข้างนอกกับฟางหนิงกับอาเคี้ยงค่ะนายท่าน ป้ามีเรื่องที่ต้องรายงานนายท่านด้วยนะคะ"
เป็นธรรมดาที่ป้าลั่วต้องรายงานเรื่องในบ้านทุกอย่างให้ผู้เป็นนายได้รับรู้ โดยเฉพาะเรื่องของคุณนาย
"มีเรื่องอะไรครับ ตันหยงทำเรื่องไร้สาระอะไรอีก ถ้าเป็นแบบนั้นป้าก็ทน ๆ เอาหน่อยแล้วกัน ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงกับเด็กไม่รู้จักโตซักที วัน ๆ เอาแต่ทำเรื่องไร้สาระเรียกร้องความสนใจ"
ในสายตาของเจียงสือเทียน สวี่ตันหยงเป็นเพียงเด็กน้อยที่ไม่รู้จักโต ยิ่งครอบครัวทะนุถนอมเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งทำตัวเป็นเด็กมากเท่านั้น ยิ่งสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องทำตัวให้เข้มแข็งเพื่อเป็นเสาหลักให้กับลูกน้องตาดำ ๆ ที่อยู่ข้างหลัง
มีอีกกี่สิบกี่ร้อยครอบครัวที่มองว่าเธอคือความหวังของพวกเขา แต่สิ่งที่เธอทำมีเพียงการวิ่งตามหาความรัก กับการกระทำเหมือนเด็กที่มันไร้สาระมากสำหรับคนที่งานรัดตัวจนล้นมืออย่างเขา
"ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะนายท่าน"
"..."
"ครั้งนี้คุณนายจับได้ว่าอาหารที่คุณโม่นำมาให้ถูกเจือปนด้วยยาพิษ หนำซ้ำคุณนายเธอยังจับอาหารพวกนั้นยัดปากคุณโม่ด้วยนะคะ คุณโม่นี่กรีดร้องเป็นเจ้าเข้าเลยค่ะ แถมคุณนายยังไล่ตะเพิดตัดขาดกับคุณโม่อีกด้วยนะคะ ป้าเห็นแล้วยังทึ่งไม่หายเลยค่ะ"
ไม่ใช่แค่ป้าลั่วคนเดียวหรอกที่ทึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่เจ้าของบ้านที่นั่งฟังอยู่ก็แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเช่นกัน
"ป้าแน่ใจเหรอว่านั่นคือสวี่ตันหยง หรือป้าแอบนอนกลางวันแล้วฝันไปเองรึเปล่า?"
"ไม่นะคะนายท่าน เรียกคนสวนกับคนรถมาถามก็ได้ค่ะ แต่เดี๋ยวนายท่านก็เห็นเองว่าคุณนายเปลี่ยนไปยังไงบ้าง"
"เอาเถอะครับ แล้วอาหารพวกนั้นตันหยงจัดการยังไง?"
"คุณนายขู่คุณโม่ว่าจะส่งอาหารไปตรวจ แล้วจะเอาผลตรวจไว้เป็นหลักฐานค่ะ แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้เอาไป"
"แล้วผมจะให้คนตามสืบเรื่องนี้เองครับ ผมขอขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนดีกว่า อย่าให้ใครขึ้นไปรบกวนผมนะ"
เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเจียงสือเทียนก็รู้สึกผิดต่อคนที่ล่วงลับไปแล้วไม่น้อย ขนาดให้ตันหยงเข้ามาอยู่ในบ้านแท้ ๆ แต่ใครจะไปคิดว่าโม่หนิงฮวาจะตามมาทำร้ายกันได้ถึงในบ้านแบบนี้ เห็นทีคงต้องตอบโต้สักหน่อย
"ไม่ทานอะไรสักหน่อยเหรอคะ?"
"ไม่ดีกว่าครับ ผมง่วงนอนมากกว่า"
ป้าลั่วยิ้มให้นายน้อยของตนที่เลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อย จนบัดนี้กลายเป็นนายท่านเจียงที่มีคุณสมบัติพรั่งพร้อมไปหมดทุกอย่าง
ในยามที่เจียงสือเทียนพูดคุยกับคนอื่นก็ยังพอมีรอยยิ้มให้เห็นอยู่บ้าง แต่พอพูดคุยกับภรรยาในนามของตนเองเท่านั้นแหละ ไม่ต่างจากแบกโลกไว้ทั้งใบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ในยามที่เห็นสวี่หลิวหยางพี่ชายร่วมสาบานยังมีชีวิตอยู่ เขาก็มักจะมีของติดไม้ติดมือไปให้หลานสาวคนนี้อยู่เสมอ
หลายชั่วโมงต่อมา
รถยนต์ที่อาเคี้ยงขับเลี้ยวเข้ามาจอดเทียบที่หน้าประตูตึกใหญ่ ตันหยงลงจากรถก็เห็นว่ามีรถอีกคันหนึ่งจอดอยู่ ดูก็รู้ว่าเป็นรถของสามีจอมเย็นชาของเธอนั่นเอง
"กลับมาแล้วเหรอคะคุณนาย"
"มาแล้วค่ะป้า คุณอากลับมาแล้วเหรอคะ?"
ตันหยงหันไปมองที่รถอีกคันที่จอดอยู่เพื่อให้ป้าลั่วรู้ว่าเธอหมายถึงใคร
"ใช่ค่ะ นายท่านกลับมาได้หลายชั่วโมงแล้ว ตอนนี้กำลังนอนพักอยู่ข้างบน กำชับไว้ว่าอย่าให้ใครไปรบกวนเด็ดขาด"
"ถ้าอย่างนั้นฉันไปที่ครัวดีกว่า อาเคี้ยง เดี๋ยวรบกวนเอาถุงเสื้อผ้าขึ้นไปเก็บให้หน่อยนะ ระวังด้วยล่ะ คนแก่ยิ่งหูดีซะด้วย ห้ามทำอะไรเสียงดังเด็ดขาด"
"ได้ครับคุณนาย"
ใบหน้าของตันหยงเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสะใจ ได้จิกกัดสักนิดก็ยังดี ต่างจากใบหน้าของอาเคี้ยงและฟางหนิงโดยสิ้นเชิง นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้ยินคุณนายเรียกนายท่านว่าคนแก่... หากเจ้าตัวมาได้ยินเข้าคงไม่ดีเท่าไหร่
"ส่วนเธอฟางหนิง รีบเอาข้าวของของตัวเองไปเก็บที่ห้อง เสร็จแล้วรีบตามมาที่ครัวนะ เดี๋ยวฉันจะพาทำหม้อไฟอร่อย ๆ กิน"
"ได้ค่ะคุณนาย"
ตันหยงเที่ยวเล่นทั้งวันจนเหนื่อย เธอเลยนึกอยากกินหม้อไฟเผ็ด ๆ จนต้องเดินไปทำทีซื้อหม้อใบใหม่แล้วหาจังหวะเอาหม้อไฟที่ใส่น้ำซุปได้ 4 ช่องออกมาถึง 2 ใบ ตามด้วยการไปเดินซื้อเนื้อสัตว์และอาหารทะเล บางอย่างเธอก็นำออกมาจากมิติ
กว่าจะได้ของมาครบเธอต้องสับขาหลอกฟางหนิงกับอาเคี้ยงจนตัวเป็นเกลียว แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเธอนึกอยากกิน อีกเรื่องที่ทุกคนต้องแปลกใจก็คือ เธอเป็นคนที่กินจุมาก ต่างจากเจ้าของร่างนี้อย่างสิ้นเชิง
"เดี๋ยวป้ากับคนงานจะช่วยกันขนของที่เหลือไปที่ครัวให้เองค่ะ คุณนายไปนั่งพักสักหน่อยไหมคะ?"
"ไม่ดีกว่าค่ะป้า ฉันเริ่มจะหิวแล้ว เข้าครัวเลยดีกว่า วันนี้ฉันจะทำเผื่อทุกคนเลย"
"ไปกันอาเจี้ยน รีบขนของไปไว้ในครัวให้คุณนาย"
"ครับป้า"
อาเจี้ยนซึ่งเป็นคนสวนของที่บ้านสกุลเจียง เขารีบเข้าไปช่วยป้าลั่วขนของไปที่ครัวอย่างรวดเร็ว
ระหว่างที่ตันหยงกำลังจัดแจงเสบียงอาหารที่เธอซื้อมา ฟางหนิงกับอาเคี้ยงก็ตามมาสมทบพอดี เธอจึงแบ่งหน้าที่ให้ทุกคนช่วยกันทำงานเพื่อจะได้ดื่มด่ำกับความอร่อยได้เร็วขึ้น
"ของน่าจะครบแล้ว งั้นเราแยกหน้าที่กันทำงานดีกว่า จะได้เสร็จเร็วขึ้น"
"..." "..." "..."
"อาเจี้ยนช่วยจัดโต๊ะทีนะ เตรียมเตาถ่านอันเล็กตั้งไว้ตรงกลางโต๊ะด้วย"
"ได้ครับ คุณนายจะให้ผมตั้งโต๊ะบนตึกใหญ่เลยใช่ไหมครับ"
"ไม่ ๆ จัดที่นี่แหละ ฉันจะกินที่นี่ ส่วนอาเคี้ยงช่วยสับกระเทียมกับพริกเตรียมไว้อย่างละ 1 ถ้วยข้าวนะ เราต้องใช้เติมในน้ำจิ้ม"
"ครับคุณนาย/ครับ"
ทั้งสองคนแยกกันไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ตอนนี้จึงเหลือเพียงป้าลั่วกับฟางหนิงเท่านั้น
"ฟางหนิงเธอไปล้างผักแล้วจัดใส่เป็น 2 ถาด ส่วนฉันจะหมักหมูกับป้าลั่วเอง"
"ได้เลยค่ะคุณนาย"
ระหว่างที่ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงาน แต่ป้าลั่วกลับจ้องมองสิ่งของที่ตันหยงซื้อมาด้วยความสงสัย
"มีอะไรรึเปล่าคะป้า?"
"ป้าแค่สงสัยค่ะ เดี๋ยวนี้ห้างสรรพสินค้ามีของแบบนี้ขายแล้วเหรอคะ ป้าไม่ยักจะรู้เลย"
"ฉันก็ไม่เห็นเหมือนกันแม่ ฉันไปเข้าห้องน้ำไม่นาน กลับมาคุณนายก็ไม่รู้ไปหาซื้อของพวกนี้มากจากไหนเต็มไปหมด พอฉันถามพี่เคี้ยง พี่เคียงก็ไม่ทันเห็นเพราะถูกคุณนายใช้ไปซื้อของ"
ตันหยงอดที่จะยกยิ้มอย่างพอใจในความช่างสังเกตของสองแม่ลูกไม่ได้ แน่นอนว่าของพวกนี้เธอต้องหาทางเอาออกมาจากมิติโดยไม่ให้ใครเห็น
"ไม่ต้องสงสัยหรอก ฉันเจอคนรู้จักเลยสั่งไว้ตั้งแต่ตอนที่เธอเลือกเสื้อผ้าแล้วฟางหนิง พอเค้าจัดของครบเค้าก็เอาตามมาส่งตอนที่เธอไปเข้าห้องน้ำพอดี ไป ๆ รีบลงมือได้แล้ว หิวจะแย่แล้วนะเนี่ย"
พอป้าลั่วกับฟางหนิงเห็นว่าคุณนายเริ่มหิวแล้วจึงแยกย้ายกันไปทำงานโดยไม่เร้าหรือถามอะไรต่อ อันที่จริงก่อนออกไปข้างนอกวันนี้ ตันหยงก็เพิ่งได้รู้ว่าเงินทองที่พ่อและพี่ชายของเธอทิ้งไว้ให้มีมากมายขนาดไหน ทั้งยังมีซองเงินเดือนที่เจียงสือเทียนมอบไว้ให้ใช้จ่ายส่วนตัวอีกนับพันหยวน
"คุณนายจะหมักหมูกี่แบบดีคะ ป้าเห็นมีเครื่องหมักมาหลายอย่างเลย?"
ป้าลั่วเอ่ยถามขณะที่กำลังหั่นเนื้อหมูตามที่คุณนายต้องการ
"3 แบบจ้ะป้า มีหมูพริกไทยดำ หมูนุ่ม แล้วก็หมูหมักงา ส่วนหมูพวกที่หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ มาแล้ว ไม่ต้องทำอะไรนะคะ ป้าจัดเรียงใส่จานแบ่งเป็น 2 ชุดได้เลย เดี๋ยวฉันจะไปทำพวกอาหารทะเลกับล้างไส้เป็ดต่อ"
"ค่ะคุณนาย"
กุ้ง ปลาหมึก ไส้เป็ด ผ้าขี้ริ้วและตับหมูถูกตันหยงหยิบใส่ถาดไปล้างที่อ่างล้างจาน ท่าทางการปอกเปลือกกุ้ง การถลกแขนเสื้อขึ้นแล้วหั่นปลาหมึก รวมไปถึงการใช้เกลือและน้ำส้มสายชูล้างทำความสะอาดไส้เป็นดูกี่ครั้งก็ไม่ต่างจากมืออาชีพ ป้าลั่วกับฟางหนิงที่อยู่ใกล้ ๆ เห็นแบบนั้นก็อดสงสัยไม่ได้
พอจัดเตรียมของทะเลเสร็จตันหยงก็ไปเตรียมน้ำซุปต่อ วันนี้เธอทำน้ำซุปเสฉวน 2 แบบ มีทั้งน้ำข้นและน้ำใส น้ำซุปใสกระดูกหมู น้ำซุปน้ำดำที่หวานชุ่มคอกำลังดี กว่าทุกอย่างจะเสร็จก็กินเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ประจวบกับมื้อค่ำพอดี
"ตั้งหม้อได้เลยนะอาเคี้ยง น้ำซุปพวกนี้ตักใส่ 4 ช่องให้ครบเลย ระหว่างนี้ก็ไปเรียกทุกคนมากินด้วยกัน"
"ได้ครับคุณนาย"
"คุณนายแน่ใจเหรอคะว่าจะไม่ขึ้นไปทานบนตึก วันนี้นายท่านอยู่บ้านนะคะ"
เป็นอีกครั้งที่ป้าลั่วเอ่ยถามด้วยความหวังดี นางรู้ว่าตันหยงพยายามใช้เวลาอยู่กับสามีให้ได้มากที่สุด ทุกครั้งที่มีโอกาส
"ป้าก็รู้ว่านายท่านของป้าไม่ชอบหน้าฉัน เอาเป็นว่าฉันจะกินที่นี่กับทุกคน ส่วนมื้อเย็นของคุณอา..ป้าก็ทำอาหารที่ท่านชอบแล้วตั้งโต๊ะบนตึกให้ท่านเถอะค่ะ"
"ได้ค่ะคุณนาย"