[9] -ศึกชิงนาง-

1536 Words
กรงสวาทมาเฟีย Ep.9 ________________________________________ @ลานจอดรถ "ปล่อยฉันนะไอ้พวกชั่ว! ปล่อยสิ! ปล่อย!!" เอสเธอร์พยายามดิ้นขณะที่ถูกนำตัวมายังลานจอดรถวีไอพีของโรงแรมแห่งนี้ โดยที่เธอถูกผ้าสีดำปิดดวงตาทั้งสองข้างเอาไว้อยู่ "นายครับ พาตัวเธอมาได้แล้วครับ" โนอาร์เอ่ยบอกกับมาเฟียหนุ่มที่ยืนรออยู่ที่อีกมุมของลานจอดรถอย่างใจจดใจจ่อ "ไอ้มาเฟียบ้า แกปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งความ!" ดาราสาวตะโกนด่าท่ออย่างไร้ซึ่งความหวาดกลัว ยังไงเธอก็ตกอยู่ในอันตรายอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพูดดีหรือไหว้วอนขอความเห็นใจ "ใจเย็นๆ สิคนสวย ฉันไม่ได้มาเพื่อทำร้ายเธอนะ" รามิลเดินก้าวขาเข้ามายืนตรงหน้าของดาราสาวพลางใช้มือหนาเชิดปลายคางของเธอขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกระตุกผ้าสีดำที่ปิดตาของเธออยู่ออกแล้วโยนทิ้งลงพื้นไป "...." ดวงตากลมเบิกโพลงโตเมื่อได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของมาเฟียหนุ่มหลังจากได้รับอิสระ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน กับเส้นผมสีดำขลับ ปลายจมูกเชิดรั้นรับกับริมฝีปากหยักได้รูป ทำเอาเธอหลงใหลในรูปลักษณ์ของเขาไปชั่วขณะ ไม่ใช่แค่เอสเธอร์ที่เผลอหลงไหลในรูปลักษณ์ของเขา แต่รามิลเองก็อึ้งในความสวยงามของเธอเช่นกัน เพียงแค่เขาไม่ได้แสดงอาการออกมาชัดเจนเหมือนกับเธอ "ฉันคงหล่อถูกใจเธอมากเลยใช่ไหม" "ปะ..เปล่านะ" "เอาล่ะเข้าเรื่องเลยนะ เธอน่ะคงหมดเงินมาใช้หนี้ฉันแล้วใช่ไหม ถึงได้ต้องคอยหนี" "อืม ฉันหมดเงินแล้ว" เอสเธอร์ยอมรับออกไปตรงๆ เพราะไม่มีประโยชน์ที่เธอจะต้องโกหก เพราะคนอย่างรามิลสืบแค่ไม่กี่นาทีก็คงจะได้รู้ความจริงอยู่ดี "งั้นเธอก็มาอยู่เป็นนางบำเรอฉันสิ" "เห็นทีคงจะไม่ได้" เสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความเย็นชาโพล่งขึ้นในตอนที่รามิลกำลังจะโน้มใบหน้าคมคายลงไปใช้ริมฝีปากสัมผัสกับพวงแก้มนวล ทำให้เขาต้องชะงักการกระทำนั้นแล้วแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างนึกสนุก เมื่อจำได้ว่าอีกฝ่ายคือใคร "เพราะผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นของกูคนเดียว!" คาลไลน์ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับใช้ท่อนแขนแกร่งกระชากตัวเธอให้เข้าไปแนบชิดกับตัวเขาโดยไร้ซึ่งความอ่อนโยน "อย่า" รามิลยกมือขึ้นห้ามในตอนที่ลูกน้องของตัวเองชักปืนออกมาจ้องจะยิงไปที่ลูกน้องของอีกฝ่าย เขาไม่ชอบใช้ความรุนแรงสักเท่าไหร่นัก ยิ่งในที่สาธารณะแบบนี้ยิ่งไม่สมควร "นี่นาย! ใครเป็นผู้หญิงของนายไม่ทราบ!" เอสเธอร์หันไปแหวใส่มาเฟียหนุ่มที่ยังยืนกอดเอวเธอเอาไว้แน่น หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นจังหวะในตอนที่เขาหันหน้ามาสบตากับเธอ "ลืมไปแล้วเหรอว่าเธอเป็นลูกหนี้ฉัน เพราะฉะนั้นถ้าเธอไม่มีเงินจ่ายก็เอาตัวเข้ามาแลกกับลมหายใจซะ" คาลไลน์โน้มใบหน้าลงมาพูดกระซิบที่ข้างหูของเธอ แต่ก็ดังพอที่จะทำให้อีกฝ่ายได้ยินและจับใจความได้ "ถ้าอย่างงั้นเธอคงเป็นผู้หญิงคนมึงคนเดียวไม่ได้ เพราะเธอก็เป็นลูกหนี้กูเหมือนกัน" เมื่อสิ้นเสียงของรามิล คาลไลน์ก็ใช้ความว่องไวของตัวเองล้วงมือหยิบปืนกระบอกขึ้นมาจ่อที่ใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่าย ทำให้ลูกน้องของรามิลต้องยกปืนจ่อไปทางคาลไลน์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าทางลูกน้องฝั่งของคาลไลน์ก็ชักปืนออกมาเตรียมสาดกระสุนใส่อีกฝ่ายเช่นกัน "ยะ..อย่ายิงนะคาลไลน์" เอสเธอร์กระตุกแขนเสื้อของมาเฟียหนุ่มเบาๆ เธอไม่อยากเป็นสาเหตุในการบาดเจ็บหรือการตายของใคร "เอสเธอร์เป็นผู้หญิงของกู" คาลไลน์กล่าวย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงกดต่ำที่ฟังดูน่าขนลุก "เป็นผู้หญิงของกูเช่นกัน" มุมปากหนาของรามิลกระตุกยิ้มร้ายก่อนจะพูดตอบกลับอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ เขาไม่มีวันยอมให้ฝั่งของคาลไลน์ได้ตัวเธอไปฝ่ายเดียวแน่ "กูบอกว่าของกูไง!" "กูก็บอกว่าของกูด้วยไง!" "มึงคงไม่อยากหายใจอยู่บนโลกนี้แล้วงั้นสินะ" "มึงเองก็คงอยากที่จะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน" รามิลล้วงมือชักปืนออกมาจ่อที่หน้าของคาลไลน์ เมื่อถูกอีกฝ่ายยั่วยุจนเริ่มทนไม่ไหว ปัง! "กรี๊ดดดดด!!!" เอสเธอร์กรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นพร้อมกับซุกใบหน้าลงบนท่อนแขนแกร่งด้วยความหวาดกลัว ในตอนที่คาลไลน์ยกปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการข่มขู่อีกฝ่ายให้รู้สึกหวาดกลัว "มึงมีปัญญาทำได้แค่นี้รึไง" น้ำเสียงของรามิลในตอนนี้เปลี่ยนไปจากตอนแรก จนฟังดูน่าหวาดกลัวเสียยิ่งกว่าน้ำเสียงของคาลไลน์ "มึงอยากลองดีกับกูจริงๆ ว่างั้น?" "โอ๊ยยย!!! หยุดเถียงกันสักทีได้ไหม รำคาญ!!" เอสเธอร์ที่ทนฟังอยู่นานโวยวายขึ้นเสียงดังลั่น เมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายเถียงกันเรื่องแย่งตัวเธอไม่เลิก แต่พอได้เห็นสีหน้าที่จริงจังกับด้ามปืนในมือของอีกฝ่ายก็รีบก้มหน้าหลุบตาลงเหมือนเดิม "งั้นเธอก็เลือกมาว่าจะอยู่กับฉันหรือกับมัน" เป็นคาลไลน์ที่เอ่ยถาม พร้อมกับย้ายกระบอกปืนที่จ่อใบหน้าของรามิลอยู่ มาจ่อที่ใบหน้าของเธอแทน สร้างความตกใจกลัวให้เธอไม่น้อย "ฉะ..ฉันเป็นหนี้ทั้งสองคนจริงๆ ขอเลือกอยู่กับนายคนนี้วันคู่.." "ฉันชื่อรามิล" มาเฟียหนุ่มแทรกขึ้นในตอนที่เธอกำลังพูดอย่างคนไร้มารยาท เขาจะไม่ยอมให้ดาราสาวเรียกแค่ชื่อของคาลไลน์คนเดียว เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับว่าตัวเองเป็นฝ่ายแพ้ "อะ..เอ่อ..เอาใหม่นะงั้น..ฉะ..ฉันจะอยู่กับรามิลวันคู่ส่วนคาลไลน์ฉันจะอยู่กับนายวันคี่..อะ..โอเคไหม" เธอเหลือบมองใบหน้าของทั้งสองฝ่ายเพียงนิด ก่อนจะรีบก้มหน้าหลบตาลง "ฉันโอเค ยุติธรรมดี" รามิลกระตุกยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบของหญิงสาวไม่น้อย ทำแบบนี้เขาก็จะได้เท่าเทียมกับคาลไลน์ "แต่ฉันไม่โอเค" คนอย่างคาลไลน์ไม่ชอบใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร โดยเฉพาะหากจะต้องมาใช้ร่วมกับศัตรูคู่แข่งอย่างรามิล "ถ้านายไม่โอเคก็เรื่องของนาย แต่ฉันจะเอาตามนี้ โอเคนะ!" "วันนี้วันคู่เป็นวันของฉัน ไปก่อนนะ" รามิลดึงตัวดาราสาวมายืนข้างกายของตัวเองพร้อมกับพาเธอขึ้นไปนั่งในรถตู้ ก่อนจะหันไปกล่าวคำลาอย่างยียวนกับคาลไลน์อย่างคนเป็นผู้ชนะ "รามิลฉันคงไปกับนายวันนี้ไม่ได้หรอก ฉันยังทำงานไม่เสร็จ" ดาราสาวพูดบอกในตอนที่มาเฟียหนุ่มกำลังจะเดินขึ้นมานั่งข้างๆ เธอ "งานสำหรับเธอในวันนี้จบแล้ว ต่อจากนี้คือการใช้เวลาร่วมกับฉันตามข้อตกลง ถึงฉันไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอย่างไอ้คาลไลน์ก็จริง แต่ก็ไม่ชอบให้ใครมาขัดใจ" "ขะ..เข้าใจแล้ว" แม้รามิลจะดูน่ากลัวน้อยกว่าคาลไลน์ แต่ยังไงเขาก็คือมาเฟีย เธอไม่อยากจะไว้ใจพวกคนที่อยู่เหนือกฏหมายนัก แต่สถานการณ์แบบนี้เธอคงต้องจำใจยอมทำตามเขาไปก่อน "ไอ้เฟร็ดออกรถสิวะ" รามิลตะโกนใส่ลูกน้องคนสนิทอย่างไม่พอใจ "ครับนาย" เมื่อได้รับคำสั่งเฟร็ดก็รีบขับเคลื่อนรถตู้คันหรูออกไปจากลานจอดรถแห่งนี้ทันทีิ "ให้ตามไปไหมครับนาย" อีธานเอ่ยถามเมื่อเห็นคาลไลน์ยอมปล่อยเธอไปกับรามิลง่ายๆ "ไม่ต้อง" มาเฟียหนุ่มเอ่ยตอบมือขวาคนสนิทสั้นๆ พร้อมกับยื่นปืนในมือให้อีธานเอาไปเก็บ "กูอยากจะรู้ว่าเธอคนนั้นจะรักกูหรือรักมันก่อนกัน" นี่คือสาเหตุที่เขายอมปล่อยเธอไป ในเมื่อเอาเธอมาเป็นของตัวเองตอนนี้ไม่ได้ เขาก็จะทำให้เธอหลงรักเขาจนต้องยอมทิ้งอีกฝ่ายมาเป็นของของเขาแค่คนเดียว ________________________________________ To be continued ให้ทายว่าน้องจะเสร็จพี่มิลไหม555555555
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD