ทรมานใจ…2/2

1571 Words
“นินทร์!” หญิงสาวหันขวับกลับมาเมื่อถูกเรียก สีหน้าของอธินินทร์ดูไม่ได้ตกใจอะไรที่เห็นสามี เพียงแค่เลิกคิ้วมอง ท่าทางเฉยเมยจนเขางุนงงว่า เมื่อตอนเย็นยังร้องไห้คร่ำครวญ ตอนนี้ออกมากับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ มันจะง่ายไวไฟอะไรเบอร์นั้น อธินินทร์หันไปสบตากับชายหนุ่มหุ่นล่ำที่เธอเดินออกมาด้วย สายตาผู้ชายคนนั้นดูขรึมเช่นเดียวกับใบหน้า ต่างจากผู้ชายอีกคนที่ดวงตาแทบจะลุกเป็นไฟ “มีอะไร” “เธอจะไปกับใคร” “เกี่ยวอะไรกับคุณ” “หึ ถามมาได้ว่าเกี่ยวอะไร” “นั่นสิ เกี่ยวอะไรยังไง ฉันเป็นอะไรกับคุณ ถึงได้เข้ามาขวางฉันไม่ให้ไปกับคนอื่น” อธินินทร์ยิ้มมุมปาก น้ำเสียงท้าทาย “ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นอะไรกับเธอ แต่ตอนนี้มันยังเป็นอยู่ไง” “อ้อ... ก็รู้นี่ว่าตอนนี้ยังเป็นอยู่” ทีตัวเองทำได้แต่คนอื่นทำบ้างกลับมาทำท่าไม่พอใจ “ถ้าไม่อยากเป็นก็ทำให้เรื่องมันจบ ๆ เธอจะได้ไป...” เหลือบตามองไปที่ผู้ชายอีกคนที่กำลังยืนมองเขาอยู่เช่นกัน “ทำอะไรที่เธออยากทำ” “ฝันไปเถอะ ถ้าฉันไม่ได้ตามที่ฉันต้องการ ฉันก็ไม่มีทางส่งใบมอบอิสรภาพให้คุณ” เธอหันไปยิ้มและยกมือขึ้นเกาะแขนชายหนุ่มที่ยืนข้างกัน พูดเสียงหวาน "เราไปต่อกันที่อื่นเถอะค่ะ หาที่เงียบ ๆ คุยกัน” แต่เพียงจะหมุนตัวเดินออก ต้นแขนข้างหนึ่งก็ถูกดึงกระชากให้กลับคืนมา “โอ๊ย” อธินินทร์เจ็บแปลบที่ต้นแขนซึ่งถูกกระชากอย่างแรง “อย่าทำรุนแรงกับนินทร์ ไม่งั้นผมแจ้งความแน่” ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นเสียงดุ แต่ปรศุก็ไม่มีท่าทีเกรงกลัวเหมือนกัน “หึ อย่าเสือกเรื่องของผัวเมีย...กลับบ้าน!” ออกแรงเพิ่มอีกนิดเดียวร่างบอบบางก็ปลิวติดมือเขามา เพราะชายอีกคนไม่กล้ายื้อเธอไว้เกรงว่าหญิงสาวจะเจ็บ เพียงแต่ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย “น้องนินทร์โอเคมั้ยครับ” “ค่ะ พี่วิทย์ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราค่อยนัดเจอกันใหม่นะคะ” ได้ยินเท่านั้นปรศุก็เหมือนมีไฟลุกขึ้นมาบนศีรษะ จ้องตาผู้ชายที่เธอเรียกชื่ออย่างสนิทสนมเหมือนจะจดจำใบหน้ามันไว้ ก่อนจะกระชากเธอไปขึ้นรถ จัดการโทร. บอกเพื่อนว่าจะไม่กลับเข้าไปแล้วให้มันหาคนมานั่งดื่มด้วย พอขับออกมาโดยมีอธินินทร์นั่งข้าง ๆ ปากเขาก็พ่นคำผรุสวาทออกมา “ร่านนะ” “ใครร่าน” หันมาถามหน้างง “ยังมีหน้ามาถาม” “ถ้าคุณจะหมายถึงฉันล่ะก็ มันไม่ใช่ เพราะฉันกับพี่วิทย์เรารู้จักกันมานานแล้ว” คำนี้คงต้องเก็บไว้ใช้กับเลขาของเขาถึงจะตรงตามความหมายของคำกระมัง แต่ก็นั่นล่ะ เธอไม่ได้มีความดีงามอะไรในใจเขาอยู่แล้ว “นานกว่าฉันอีกเหรอ” “ก็น่าจะได้” “แล้วทำไมไม่แต่งงานกับมันไปเสียเลยล่ะ หย่ากับฉันสิจะได้ไปหามันอย่างที่ใจเธอต้องการ” “ก็เอามาสิร้อยล้าน” “ให้แค่สิบ” เขาบอกเสียงเรียบ “งั้นก็ไม่ต้องพูด” “ตราบใดที่เธอยังเป็นเมียในทะเบียนสมรสกับฉันอยู่ ฉันขอสั่งห้ามไม่ให้เธอไปยุ่งกับผู้ชายคนไหน” “เหอะ ย้อนแย้งในตัวนะคะ พูดแบบนี้เหมือนกั๊ก หรือต้องบอกว่าหวงก้าง ในเมื่อคุณเองก็มีเลขาใกล้ตัวไว้บำเรอความสุขในที่ทำงาน ทำไมฉันจะออกมาหาความสุขบ้างไม่ได้” “พูดไม่รู้เรื่องใช่มั้ย” เขาหมายถึงเรื่องลีลาวดี ที่เคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าไม่มีอะไรกัน แต่เธอยังเอาเรื่องนี้มาพูดอีกจนเขารำคาญเต็มที “หึ ฉันคงฟังที่คุณสั่งหรอก ถ้าไม่ได้ร้อยล้านก็อย่าหวังจะได้ใบหย่า” “งั้นก็กอดมันไว้ให้แน่นแล้วกัน ไอ้ใบนั่นน่ะ” “ฉันไม่กอดไว้อย่างเดียวหรอก ฉันใช้ประโยชน์จากมันได้ด้วย คอยดูแล้วกัน” ทั้งคู่เงียบ ปล่อยให้ความอึมครึมปกคลุมจนกระทั่งขับรถมาถึงบ้าน คราแรกอธินินทร์คิดว่าต่างคนก็ต่างแยกห้องนอนเหมือนทุกครั้ง ปรศุไปนอนอีกห้องปล่อยให้อธินินทร์นอนห้องที่เคยเป็นห้องหอของพวกเขาเพียงลำพัง โดยไม่รับรู้เลยว่าแต่ละคืนกว่าที่เธอจะหลับได้มันทรมานแค่ไหน บางคืนต้องพึ่งยานอนหลับก็ยังหลับไม่ลง แต่เขาคงไม่สนหรอก ทว่าคืนนี้เขากลับเดินตามเธอเข้ามาถึงหน้าห้องด้วย พอหญิงสาวจะหันไปถามร่างสูงก็ดันตัวเธอเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูพร้อมกับกดล็อก “อะไร” “ทำไมต้องถามเหมือนสาวใสซื่อบริสุทธิ์” “หึ อย่าบอกนะว่าดื่มแล้วเกิดอารมณ์” “ไม่ได้เหรอ ก็มันเป็นเรื่องปกติ จะมาทำสะดีดสะดิ้งทำไม” ก่อนที่เขาจะย้ายออกไปนอนห้องอื่น เขาก็บอกกับเธอแล้วว่าวันไหนที่เขาเข้ามาเหยียบในห้องนี้นั่นหมายความว่ามีสิ่งเดียวเท่านั้นที่เขาจะทำ สิ่งนั้นก็คือ วงแขนแกร่งรัดร่างบางเข้ามาระดมจูบ แรก ๆ มันเหมือนจะรุนแรงแต่พอผ่านไปก็เริ่มอ่อนเบาลงเมื่อหญิงสาวไม่ดื้อรั้นขัดขืนจนเขารำคาญ ริมฝีปากหยักบดจูบลงมาที่กลีบปากนุ่มละมุนพร้อมกับแทรกปลายลิ้นอุ่นเข้ามาเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นเล็กที่กึ่งสู้กึ่งถอย มือเรียวที่วางอยู่แผ่นอกแน่นตึงทำท่าจะผลักเขาออกในตอนแรกค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปกอดลำคอที่โน้มศีรษะลงมาซุกอยู่กับซอกคอเธอ เดรสคล้องคอถูกเขาดึงปมเชือกด้านหลังออกและหลุดร่วงลงไปกองอยู่ปลายเท้าในพริบตา เหลือไว้แต่บราปีกนกที่แนบปิดทรวงอกกับแพนตี้ตัวจิ๋ว เสียงหอบหายใจรุนแรงขึ้นเมื่อมือหนาลากไล้ผ่านเคล้นคลึงอยู่ที่ก้นเด้ง ก่อนจะตวัดเรียวขางามข้างหนึ่งขึ้นมาเกาะไว้ตรงสะโพกสอบของเขา ลำกายแข็งขึงดุนเป้าออกมาจนเสียดสีกับส่วนอ่อนไหวกลางกายของเธอ อธินินทร์แหงนหน้าเปิดเปลือยลำคอให้เขาซุกไซ้ตามใจอยาก พร้อมกับการที่เขาแกะบราปีกนกออกจากทรวงอกของเธออย่างผู้เชี่ยวชาญจนหญิงสาวแทบไม่รู้สึก มารู้สึกอีกทีก็เมื่อถูกอุ้งปากร้อนครอบครองลงมาดูดดึง “อื้อ อย่าแรง เจะ เจ็บ อ๊ะ” “เจ็บหรือเสียว บอกมาดี ๆ ถ้าเจ็บจริง ๆ จะไปดูดจุดอื่น” สามีใจร้ายเล่นบทโหดและห่ามเสมอเวลาเขาพาเธอขึ้นมาอยู่บนเตียง ปรศุเคยบอกเธอในครั้งแรกที่มีอะไรกันว่า ไม่ต้องทำอาย รู้สึกอย่างไรก็ขอให้พูดออกมา จะได้ทำถูกจุด มัวแต่ทำตัวเขินอายสนิมสร้อยเขาไม่ชอบ และเขาชอบทำแรง ๆ nc เต็ม ๆ cut ก่อนนะคะ เดี๋ยวถูกอันดับอีก อีกสองวันต่อมาทั้งสองคนได้รับเชิญไปงานเลี้ยงฉลองให้กับผู้บริหารคนใหม่ของห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงสังคมด้วยกัน ภายนอกพวกเขายังต้องรักษาหน้าตาของวงศ์ตระกูลไว้ทั้งสองฝ่าย อธินินทร์จึงโทร. ถามสามีว่าเขาจะสวมชุดสูทสีอะไรเธอจะได้แต่งตัวให้เข้ากับเขา ทว่าคำตอบที่ได้ยินกลับทำให้หญิงสาวนิ่งไปชั่วขณะ กลืนก้อนขม ๆ ลงคอ “เธอจะไปทั้งที่สภาพมีรอยเต็มคอแบบนั้นเหรอ รอยที่ฉันสร้างให้มันเข้มมากนะ อีกกี่วันกว่าจะหาย ไม่ต้องไปฉันไปคนเดียว” อ๋อ ที่เขาเข้ามาร่วมหลับนอนกับเธอคืนนั้นเพราะแค่จุดประสงค์ที่จะไม่ให้เธอควงคู่ไปงานสังคมกับเขาแค่นั้นเหรอ “แล้วคุณจะไปกับใคร” “...ก็เลขาผมไง เขาต้องไปด้วยอยู่แล้ว” “หึ ฉันจะไปกับคุณ เจอกันเย็นนี้ที่งานนะคะคุณสามี” “เธอไม่อะ...” คำว่าอายยังพูดออกมาไม่เต็มคำ อธินินทร์ก็กดวางสายไม่รอฟังคำพูดทิ่มแทงของเขาให้เสียเวลาและกระทบความรู้สึกมากไปกว่านี้ ปรศุคงหัวเสียไม่เบาที่แผนสกัดกั้นไม่ให้เธอไปงานเลี้ยงกับเขาไม่สำเร็จ เรื่องอะไรเธอจะยอมให้เขาไปงานกับผู้หญิงคนอื่น ถึงจะไปในฐานะเลขาก็เถอะ ถึงยังไงเธอก็ยังได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา คิดจะมาใช้วิธีนี้ทำให้เธอออกงานคู่กับเขาไม่ได้น่ะเหรอ หญิงสาวเหยียดยิ้ม “ดูถูกคนอย่างอธินินทร์เกินไปแล้ว” ^ ^ ^ ***อยากอ่านต่อวันละสองตอน ส่งใจ กดเม้นมาเยอะๆนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD