อธินินทร์เรียกให้ช่างแต่งหน้าทำผมมาแต่งตัวให้เธอที่บ้านพร้อมทั้งเลือกชุดที่คิดว่าสามารถเข้าได้กับทุกลุคของสามี วันนี้หญิงสาวสวมชุดราตรียาวสีแชมเปญเงินผ้าปักเพชรเป็นแบบเข้ารูปเผยสัดส่วนและโชว์แผ่นหลังขาวเนียนดูสวยสง่าและมีความเซ็กซี่อย่างน่ามอง ก่อนออกจากบ้านหญิงสาวก็หมุนตัวอยู่หน้ากระจกสำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอธินินทร์สวยเหลือเกิน เธอไม่ใช่คนหลงตัวเองแต่พอมองผู้หญิงที่สะท้อนอยู่ในกระจกนั้นก็ต้องยอมรับว่าตัวเองสวย สวยแบบที่ผู้ชายหลายคนใฝ่ฝันถึง ก่อนที่แววตาเธอจะแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าเมื่อคิดถึงผู้ชายอีกคนที่ได้ครอบครองและเสพสุขกับร่างกายของเธอแต่เมื่อถามหาความรักกลับไม่หลงเหลือแม้แต่น้อย หรือว่า...
มันอาจไม่มีมาแต่แรกแล้ว
‘ถ้าฉันไม่รักคุณมากขนาดนี้ ฉันคงไปจากคุณนานแล้ว’
อธินินทร์ต้องนั่งรถตู้ไปที่งานเพียงลำพังแล้วไปเจอกับสามีที่นั่น ก่อนลงจากรถหญิงสาวพยายามปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้มเพื่อมารยาททางสังคมที่ต้องพร้อมสำหรับพบปะพูดคุยกับแขกคนอื่น ๆ ที่มาร่วมงาน แม้ในใจจะขมฝาดเพียงใดก็ตาม บางคนก็เป็นคนที่เธอรู้จัก บางคนก็เป็นเพื่อนบิดาและมารดาที่เข้ามาทักทายเธอก่อนที่สามีจะมาถึง และแน่นอนหนึ่งในคำถามที่รู้ว่าต้องเจอแน่นอนคือ
“คุณรามล่ะ ไม่ได้มาพร้อมกันหรือหนูนินทร์”
“อ๋อ ติดประชุมค่ะ เลยนัดมาเจอกันที่งานเลยค่ะ คุณลุง” หญิงสาวปั้นยิ้มได้อย่างแนบเนียน
ปรศุตามมาที่งานพร้อมกับเลขาในเวลาต่อมา ดูเหมือนสายตาของชายหนุ่มจะตรึงไว้ที่ใบหน้าของภรรยาในวันนี้ได้นิ่งนานทีเดียว จะบอกว่าเธอแต่งหน้าแต่งตัวสวยมากเหรอ ก็ไม่ ความสวยของอธินินทร์เขาเห็นจนชินตาแล้ว แต่ที่แปลกใจก็คือร่องรอยที่เขาจงใจสร้างมันไว้เพื่อไม่ให้เธอมาที่งานวันนี้มันหายไปไหนหมด
รอยยิ้มหวานจุดขึ้นเมื่อหญิงสาวได้พบหน้าสามีที่มากับ...เลขา ร่างโปร่งบางที่มีสัดส่วนเย้ายวนภายใต้ชุดราตรีตัวงามเดินเข้าไปควงแขนคนที่เป็นสามี กระซิบถาม
“มาช้านะคะ มัวทำอะไรอยู่”
เขาไม่ตอบ เพราะเข้าใจว่าในคำถามนั้นเธอต้องการจะยั่วยุอารมณ์ให้เขาโกรธ
“ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร เราเข้าไปในงานกันเถอะค่ะ”
อธินินทร์หันไปส่งยิ้มให้กับเลขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง ลีลาวดีแต่งตัวมาอย่างจัดเต็มเสมือนว่าตัวเองเป็นคู่ควงของเขา รอยยิ้มน้อย ๆ กับสายตาที่มองมาแบบไม่ใส่ใจทำให้คนที่ตั้งใจแต่งตัวมาเต็มที่รู้สึกสูญเสียความมั่นใจไปไม่น้อย เพราะจากที่ส่องกระจกก็มั่นใจว่าตัวเองมีความสวยไม่น้อยกว่าใครในงานนี้อย่างแน่นอน
ความสวยน่ะใครก็สร้างได้ แต่สิ่งที่มันสร้างกันยากและแทบจะไม่ได้เลยก็คือออร่าที่ออกมาจากข้างใน
ต่อบทที่สามค่ะ เพราะเนื้อหาตัดตอนน้อยไป :D
3
ไม่คิดอยากมีลูกกับเธอ
มีแขกผู้ใหญ่ถามสองสามีภรรยาในวันนี้ว่า แต่งงานกันมาสองปีแล้วเมื่อไหร่จะมีทายาท อธินินทร์ก็แกล้งตอบไปว่า
“นินทร์กับคุณรามยังอยากใช้ชีวิตด้วยกันสองคนก่อนน่ะค่ะคุณหญิงป้า ไม่ได้รีบ แล้วถ้าพร้อมมีก็อยากให้เป็นไปตามธรรมชาติค่ะ”
ปรศุได้ฟังก็เออออตามเธอไปก่อน แม้ในใจจะคิดต่างกันลิบลับ
กับผู้หญิงคนนี้ มีแต่ธรรมชาติลงโทษเท่านั้น เรื่องมีลูกกับเธอทั้งชาตินี้ชาติหน้าก็อย่าได้คิด เขาไม่มีทางหาบ่วงมาผูกคอโดยเฉพาะบ่วงที่เกิดจากเธอ เขาจะไม่ทำเด็ดขาด เรื่องทายาทอย่างไรเสียก็ต้องมี แต่ถ้าจะมีก็ต้องหาแม่ที่ดีกว่านี้!
ระหว่างอยู่ในงานก็มีช่วงที่อธินินทร์แยกตัวกับสามีเพื่อไปเข้าห้องน้ำบ้าง ไม่คิดว่าลีลาวดีจะออกมาเข้าห้องน้ำแล้วเจอกันเข้าพอดี อธินินทร์มองสีหน้าสายตาที่อวดดีของอีกฝ่ายที่มองเธอ แต่ไม่ได้คิดจะสนใจแต่เลขาสาวก็เอ่ยขึ้นมา
“ไม่อยากรู้เหรอคะ ว่าที่คุณรามมาช้าเพราะอะไร”
ลีลาวดีใช้น้ำเสียงยั่วเย้าทำให้ร่างบางที่กำลังเดินผ่านชะงัก หันมาปั้นยิ้มจอมปลอมให้เหมือนกัน
“จะมาไซโคอะไรฉันอีกล่ะ อย่ามาทำให้ฉันเสียเวลา อย่างเธอมันก็เป็นได้แค่”
อธินินทร์ก้าวเข้ามาใกล้อีกก้าว เหยียดปากเยาะก่อนจะเอ่ยเน้น ๆ ออกมา
‘ช็อกกะรีในที่มืด’ แค่นั้น เท่านั้น! อย่าคิดฝันไปไกลกว่านี้เลยว่าคนอย่างคุณรามจะยกย่องเธอ ถึงเขาจะเลิกกับฉันแต่ฉันก็มั่นใจว่าเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นที่เขาจะไม่เลือกเธอ อีกหนึ่งเปอร์เซ็นเผื่อไว้เป็นมารยาท”
ไม่ต้องเสวนาพาเพลินกันเยอะ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะให้เธออาละวาดควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ในงานนี้เพื่อให้ภาพลักษณ์ของเธอดูแย่ เธอก็ไม่บ้าจี้ตามเกมไปด้วยหรอก อธินินทร์จุดรอยยิ้มหวานที่เคลือบยาพิษบนเรียวปาก ยักคิ้วกับอีกฝ่ายที่ยืนกำมือแทบเต้นเร่า ๆ ทำท่าจะกรี๊ด
“จุ๊จุ๊” อธินินทร์ยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปาก “กรี๊ดไป จะเสียหน้าถึงเจ้านายนะจ๊ะ อุตส่าห์สร้างภาพเลขาผู้ใสซื่อไว้เสียดิบดี” ก่อนจะเดินจากด้วยไปท่วงท่าสง่างาม
ลีลาวดีได้แต่ถลึงตา พยายามสะกดกลั้นความอยากกรี๊ดไว้สุดฤทธิ์
“ฝากไว้ก่อนเถอะแก เมื่อไหร่ที่คุณรามหย่ากับแก หน้าหยิ่งยโสของแกได้ลิ้มรสฝ่ามือฉันแน่”
^
^
^
***โปรดติดตามตอนต่อไป คราวนี้ไม่ขอแล้วนะหัวใจ แต่จะปล้น ใครยังเหลือหัวใจ กดส่งมาให้หมดค่า จะมาอัปวันละสองให้อ่านจนความดันขึ้นไปลุย อิอิ